ตำนานเริ่มด้วยเรื่องสิงหนวัติกุมาร อพยพครัวเรือนแสนหนึ่งจากไทยเทศ ในยุนนาน มาสร้างเมืองนาคพันธุ์สิงหนวัติขึ้นในเขตแดนเมืองสุวรรณโคมคำเก่าตรงใต้น้ำแม่สาย 2 กม.และห่างจากแม่น้ำโขงราว 14 กม. จากนั้นก็เริ่มปราบชนพื้นเมืองคือ ละว้า( มิลักยู)และจากนั้นก็ปราบเมืองอุมงคเสลานคร อันเป็นที่อยู่แห่งชาวขอมทั้งหลายทั้งหลายแล พวกขอมเมืองอุมงคเสนาซึ่งมีวงศ์พระยาขอมดำปกครองได้ต่อสู้แต่พ่ายแพ้ ตกเป็นเมืองส่วยของโยนกนาคนครมาแต่บัดนั้น ตราบจนถึงสมัยองค์พังขึ้นครองราชเมื่อ พศ.1458 ครั้งนั้นพระยาขอมดำรวมกำลังเป็นขบถชิงเอาเมืองโยนกนาคนครได้ ขับองค์พังไปเป็นนายแก่บ้าน (นายบ้าน )อยู่ที่เวียงสีทองริมแม่น้ำสาย และต้องส่งส่วยทองคำให้แก่พระยาขอมดำทุกปี ตำนานเขียนบรรยายความขมขื่นทุกข์ยากของคนไทในตกเป็นไพร่ส่วยของขอมไว้ด้วยคำสั้นๆแต่ทว่าจับใจว่า-แต่นั้นมาไทยเราเป็นทุกข์ทั้งเจ้าและไพร่ แลเหตุว่าขอมได้เป็นเจ้าก็เป็นทุกข์ ได้หาคำ ท้าวคำ( เสาะหาร่อนทองคำ ),มาส่วยขอมแล... วรณคดีของชาวเงินยางเชียงแสนและล้านช้าง เรื่องท้าวฮุ่ง มีพูดถึงเขมขอม อยู่แห่งหนึ่งในตอนพรรณนาถึงอำนาจของขุนเจืองกษัตริย์นครเงินยาง พ.ศ (1665-1735)คังนี้-เบื้องฝ่ายใต้เชียงเทศ จีนจามก็เถิง ภายกลางเถิงย่ายยอง ฝูงแง้ว นามกรก้ำเขมขอม เมืองม่านก็เถิง ท้อไป่น้าวนอกฟ้ามาส้อง ส่วยทอง.. ราชวงศ์ไทยต้องส่งส่วยขอมอยู่สิบหกปี องค์พรหมกุมารโอรศขององค์พังแข็งข้อไม่ยอมส่งส่วยขอม ขอมทวงอยู่สามปีก็เหลืออดยกทัพมาปราบปราม องค์พรหมกุมารยกทัพไทยออกตั้งรับที่ตำบลทุ่งสันทราย สกัดตีทัพขอมแตกพ่ายและรุกไล่ติดตามไปจนถึงเมืองโยนกนาคนครที่ขอมยึดครองอยู่ เข้าล้อมเมืองเอาไว้ เอาช้างพังทลายประตูเมืองเข้าไปไล่ฆ่าพวกขอมเหมือนผักปลา,ผู้คนบ่าวไพร่แห่งพระยาขอมดำก็ฉิบหายตายมากนักแล พระยาขอมดำก็พาไพร่พลหนีล่องลงใต้ องค์พรหมกุมารยกพลตามไล่ฆ่าพวกขอมลงไปไม่ลดละ..พ้นจากเขตแดนแห่งพ่อตนไปใด้เดือนหนึ่ง ถึงแดนเมืองลวรัฐเก่ามาต่อกัน ซึ่งในตำนานว่าคือเมืองกำแพงเพชร
หลักฐานจากต่างประเทศ : ราชวงศ์สุย หรือซุย มีอายุอยู่ระหว่าง พ.ศ. ๑๑๒๔-๑๑๖๑ ราชวงศ์ถังมีอายุระหว่าง พ.ศ. ๑๑๖๑-๕๐ เจ้ากรมพิธีการทูตรายงานว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้ตรวจดูเรื่อง เสียม หลัว กั่ว หรือเสียมหลอก๊กแล้ว เห็นมีต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ครั้งราชวงศ์สุย ราชวงศ์ถัง สมัยโน้นเรียกว่า ประเทศ ซื่อ-ถู-กั่ว (หรือ เซี้ยะโทว้ หรือ เฉตู)
ในสมัยของพระเจ้าภววรมันมีจารึกของกษัตริย์ภววรมันที่ ๒ ตรงกับ พ.ศ. ๑๑๘๒ ในจารึกนี้ มีตอนหนึ่งกล่าวถึงการอุทิศที่นา ถวายเป็นกัลปนาแก่วัดพุทธศาสนา แต่ระบุชื่อผู้ถวายว่า ชื่อ โปญ สยำ โปญ นั้นเป็นยศตำแหน่งของเขมรสมัยก่อนนครธม สยำ เป็นชื่อคน จึงเชื่อว่า สยำ ในจารึก พ.ศ. ๑๑๘๒ นั้นก็คือ เสียม ที่หมายถึงคนไทยนั่นเอง เมื่อปรากฏชื่อคนไทย-ไต ตั้งแต่ พ.ศ. ๑๑๘๒
จารึกจามที่วิหารโปนาการ์ ลงศักราชตรงกับ พ.ศ. ๑๕๙๓ ในสมัยกษัตริย์จามปา พระนามพระเจ้าชัยปรเมศวรวรมะเทวะ กล่าวถึงกษัตริย์องค์นี้บูระพระรูปปฏิมาเจ้าแม่ภควดีที่เทวสถานนั้น และอุทิศทาสถวายไว้รับใช้พระจำนวน ๕๕ คน ในจำนวนนี้มีทาส ชาวจาม พม่า จีน พุกาม และชาวสยาม
ภาพสลักนูนต่ำทีปราสาทนครวัด พ.ศ. ๑๖๕๕ สลักว่า “เนะ สยำ กุก” คู่กับนักรบชาวละโว้ มีอักษรจารึกไว้ชัดเจนว่า “พลละโว้"
ทำไมเหล่าคนไทจึงอพยพมาชุมนุมกันมากแถบเชียงราย-ถืงจำปาศักดิ์ ถ้าดูแผนทีเหมืองทองคำในปัจจุบันจะพบว่าดินแดนเหล่านี้อุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ทองคำ เงิน ทองแดง ไม้หอม และของป่านานาชนิดที่มีมากมายจนกระทั่งปัจจุบัน
แหล่งทองคำในลาว
ภาพจาก marinerthai.com
สุวรรณเขตนั้นแปลว่าเขตแดนแห่งทองคำ กล่าวได้ว่าดินแดนลาวนั้นมีแร่ธาตุต่างๆและทองคำมากเป็นสายยาวต่อเนื่องผ่านจังหวัดเลย เพชรบูรณ์ ถึงอาณาจักรศรีเทพและเมืองศรีมโหสถ ที่มีร่องรอยหลักฐานโบราณวัตถุเก่าถึง พ.ศ 1200 จึงเป็นที่ชุมนุมของเผ่าต่างๆเช่น ไท ลาว มอญ เมง ขอม จามปา ไดเวียต.
เห็นว่าสร้างในสมัย ราชวงศ์สิงหนวัติ แห่งโยนกนาคพันธุ์
แต่พ.ศ. 296 ก็ พุทธศตวรรษที่ 3
ก็ก่อนราชวงศ์นี้อีก ก็น่าจะเป็นอาณาจักร สุวรรณโคมคำ
กำลังงงเต็กค่ะ ต่อเรื่องไม่ติด