The Hunger Games เปิดตัววันแรกสูงสุดตลอดกาลสำหรับหนังภาคแรก
The Hunger Games หนังที่นาทีนี้คงไม่ต้องแนะนำให้ยืดยาว ที่ด้วยยอดขายหนังสือต้นฉบับ และฐานแฟนๆ นับล้านทั่วโลก รวมถึงเนื้อเรื่องที่เข้าถึงผู้ชมได้กว้างกว่า Twilight ทำให้ซึ่งก่อนหน้านี้คาดการณ์กันว่าหนังเรื่องนี้จะสามารถสร้างสถิติใหม่ๆ ได้ไม่ยาก และก่อนที่เราจะรู้ตัวเลขรายได้สุดสัปดาห์เปิดตัวว่าจะทำได้ถึง 140-150 ล้านดอลลาร์หรือไม่ อย่างน้อยวันนี้เราก็มีตัวเลขของวันเปิดตัววันแรกมาแล้วครับ ซึ่งสร้างสถิติใหม่ไปแล้วตามคาด
รายได้วันเปิดตัวในวันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2012 ในสหรัฐ The Hunger Games กวาดไปทั้งหมด 68.3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งยอดรวมนี้ถือเป็นรายได้เปิดตัววันแรกสูงที่สุดอันดับ 5 ตลอดกาล โดยอันดับ 1-4 นั้นล้วนแต่เป็นหนังภาคต่อทั้งสิ้น
อันดับ 1 – Harry Potter and the Deathly Hallows – Part 3 เปิดตัววันแรกที่ 91.1 ล้านดอลลาร์
อันดับ 2 – The Twilight Saga: New Moon 72.7 ล้านดอลลาร์
อันดับ 3 – The Twilight Saga: Breaking Dawn – Part 1 71.6 ล้านดอลลาร์
และอันดับ 4 – The Twilight Saga: Eclipse 68.5 ล้านดอลลาร์
จึงทำให้ The Hunger Games ได้อันดับ 5 และยังครองอันดับ 1 สำหรับหนังที่เป็นภาคแรกอีกด้วย
ในส่วนของกระแสตอบรับของหนัง CinemaScore แสดงให้เห็นว่าผู้ชมอายุต่ำกว่า 25 ให้คะแนน A+ ส่วนผู้ชมอายุ 25 ขึ้นไปให้คะแนน A-
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น จุดแข็งของหนังเรื่องนี้ที่ทำให้กวาดรายได้วันเปิดตัวสูงขนาดนี้และเทียบชั้นกับหนังที่เป็นภาคต่อของแฟรนไชส์ดังๆ ได้ก็คือเนื้อหาของหนังที่เข้าถึงผู้ชายได้พอๆ กับผู้หญิง ต่างกับ Twilight ที่เป็นหนังรักหวานๆ สำหรับผู้ชมเพศหญิงเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจากสถิติของวันเปิดตัว มีผู้ชมชายทั้งหมด 39% และหญิง 61%
ณ จุดนี้การทำรายได้ในวันเสาร์และอาทิตย์รวมให้ถึงยอด 140-150 ล้าน นับว่าไม่ใช่เรื่องยากหรือเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว และก่อให้เกิดคำถามที่น่าสนใจว่า หากภาคแรกของ The Hunger Games สามารถทำได้ขนาดนี้ แล้วภาคสอง Catching Fire หรือภาคสาม Mocking Jay (หมายเหตุ: หนังสือมี 3 เล่มแต่มีการประกาศจะสร้างหนัง 4 ภาคโดยยังไม่ยืนยันว่าจะแบ่งเล่ม 2 หรือ 3 เป็นสองภาค) จะทำรายได้มากขนาดไหน?
Catching Fire หนังภาคสองกำลังจะเริ่มถ่ายทำในเดือนกันยายน โดยแกรี่ รอสส์ ผู้กำกับ The Hunger Games จะกลับมากำกับพร้อมทั้งยังได้ ไซม่อน โบฟอย ผู้เขียนบทของ Slumdog Millionaire และ 127 Hours มาเขียนบทให้ด้วย ซึ่งยิ่งทำให้หนังภาคสองน่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก
ขอบคุณข้อมูลและอ่านข้อมูล & ตัวอย่างหนังได้ที่ The Hunger Games