A thounsand miles trips begin a first step
|
||||
ตะวันออก สุดสยาม ที่ผาชะนะได วันพรุ่งนี้ พระอาทิตย์ขึ้นที่ ผาชะนะได อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี เวลา... ประโยคนี้ได้ยินบ่อยๆตอนเปิดวิทยุฟังเวลาขับรถ จนคุ้นชินหูไปแล้ว ชื่อ ผาชะนะได ที่ได้ยินนี้ แต่กลับยังไม่เคยไปมาก่อน ข้อมูลทั้งการเดินทาง และ ข้อมูลท่องเที่ยวก้ไม่มี ...คิดแล้วก้แปลก ที่ๆเหมือนอยู่แสนใกล้ แต่จริงๆแล้ว ห่างกันแสนไกล แสนไกล .... จะใช้คำนี้ก้ไม่ผิดนัก เพราะ ระยะทาง เชียงใหม่ ไป ถีงอุบลราชธานี เรื่อยไปถึงอ.โขงเจียม อช.ผาแต้ม ผาชะนะได ประมาณ 1,050 กิโลเมตร ... ไม่มีเครื่องบินตรง นั่งรถทัวร์ 17 ชม. สำหรับผม ระยะทาง ความยากลำบาก กลับไม่ใช่อุปสรรค จนไม่อยากไป หรือ ไปไม่ได้ ... หากแต่จุดหมายปลายทางนั้นต่างหาก ที่กลับเป็นตัวเร่งผลักดันความคิดในใจผม ที่จะไปให้ถึง ทริปนี้จึงเริ่มต้นจาก ประโยครายงานสภาพอากาศทางวิทยุนั่นเอง ... ที่ทำให้ผมออกเดินทาง เช้าตรู่ของวันเสาร์ ต้นเดือนกันยายน ก่อนจะมาเมื่อคืนนอนหลับไปแค่3ชม. ต้องลุ้นอยู่หลายอย่าง ทั้งติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางขึ้นผาชะนะไดไม่ได้จนนาทีสุดท้าย เช็ดอินขึ้นเครื่องก้ผิดช่อง โดนตรวจยึดของที่จุดขาออก แม้แต่ สายฝนก้พร้อมที่จะโปรยปรายลงตลอดเวลา ... ทว่าผมก้ยังมาถึงจนได้ ที่.... อุบลราชธานี จากสนามบินขับเข้าเมือง ข้ามแม่น้ำมูลไปฝั่งวารินชำราบ พิบูลมังสาหาร โขงเจียม ผ่านทีทำการอุทยานผาแต้ม เลี้ยวขวาเข้าทางน้ำตกแสงจันทร์ ไปจอดรถที่ หน่วยห้วยทราย ใกล้อบต.นาโพธิ์ ทางไปวัดถ้ำปาฎิหารย์ เพื่อรอขึ้นผาชะนะได ที่หน่วยห้วยทราย ผมได้พบกับพี่ธิ คนที่จะนำทางผมขึ้นสู่ผาชะนะไดนั่งรออยู่ "สวัสดีครับ ทานข้าวมารึยังครับ" พี่ธิ ทักผมอย่างสุภาพ .... พลันเสียงสตาร์ทรถมอร์เตอร์ไซด์ก้ดังขึ้นทันที ที่ได้ยินเสียงผมตอบกลับว่า "ทานมาเรียบร้อยแล้ว" ... ถ้าอย่างนั้นไปกันเลยนะครับ จากหน่วย จะมีทางราดยางต่อไปถึง ปากทางเข้าวัดถ้ำปาฎิหารย์แล้ว ถนนจะเปลี่ยนเป็นทางหินสลับทราย 12กม.เพื่อขึ้นสู่ผาชะนะได นั่งมอร์เตอร์ไซด์กระเด้งกระดอน มือต้องเกาะให้แน่นๆ เพราะทางช่วงแรกที่ผ่าน ผลาญหินที่เปียกไปด้วยน้ำนี่โหดเอาเรื่อง จะมีรถกระบะยกสูง 4wd ก้มาได้แต่ต้องดูระยะห่างให้ดีๆเพราะมีบางช่วงเป็นช่องทางหินบีบแคบๆ ส่วนรถเก๋ง พี่ธิ บอกว่าไปไม่ได้ เคยมีคนลองขับขึ้นไปก้ต้องย้อนกลับมาทุกราย จุดแวะแรก ที่หินเต่าชมจันทร์ ลักษณะหินซ้อนกันเป็นรูปเต่าที่ชูคอ คล้ายมองอะไรบางอย่างบนท้องฟ้า สัญญาณโทรศัพท์มีบ้างระหว่างทาง แต่ต้องโทรเฉพาะจุด ตามป้ายบอกเท่านั้น เท่าที่เห็นมีอยู่ 2-3จุด เข้าเขตป่าดงนาทามแล้ว... อีกครึ่งทาง เสาเฉลียงคู่ ก่อนถึง ผาชะนะได แท่งหินคู่ซ้อนกันอย่างน่าอัศจรรย์ หากมาในช่างปลายฝนต้นหนาวจะมีดอกไม้ขึ้นอยู่เต็มทุ่งหญ้าสีเขียวในรูป และจุดนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามอีกด้วย ไม่นานนักผมก้มาถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบนผาชะนะได ที่นี่จะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ ให้ข้อมูลและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ... จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เดินเลียบผา มาก้จะมาสุดขอบ ที่ผาชะนะได ตะวันออกสุดในสยาม ที่ๆได้ยินแต่เพียงในวิทยุตอนเย็น ตอนนี้ผมได้มายืนอยู่ตรงนี้แล้ว ... "ถึงแล้วนะครับ" พี่ธิ บอกกับผม หลังจากนำทางผมมาตั้งแต่ หน่วยห้วยทรายมาถึงที่นี่ราว 1ชม.กว่าๆ ยืนรับสายลมเย็นบนผา สายตามองไปยัง วิวส์แม่น้ำโขงและ ประเทศลาว เบื้องล่าง ระยะห่างของ2ประเทศคั่นกลางด้วยแม่น้ำ แต่วิถีชีวิตที่นี่ยังข้ามไปมา หากันได้อย่างไม่มีพรมแดนขวางกั้น คนทั้ง2ฝั่งยังเป็น พี่น้อง เป็นญาติ และเพื่อนกันอยู่ แสงแดดแรงขึ้นทุกขณะ ผมขยับหมวกบังแสงแดดที่ส่องกระทบใบหน้า เก็บขาตั้งกล้อง สะพายกระเป๋า .... แล้วบอกกับพี่ธิ คนนำทางว่า 'ได้เวลากลับกันแล้ว" ขากลับเจอรถอีแต๋นของชาวบ้านที่มาหาของป่าด้านบนกำลังสวนขึ้นไปพอดี พี่ธิ บอกว่า ชาวบ้านมาหา เห็ด หญ้าทำไม้กวาด แล้วก้ล่าสัตว์ จะมาค้างในป่า 2-3 คืนแล้วก้ลงไปข้างล่าง รอจังหวะสักช่วงก้กลับขึ้นมาใหม่เป็นวิถีชีวิตของคนที่นี่ เกือบบ่าย 4โมง ลงมาถึง หน่วยห้วยทราย จุดเริ่มต้นเดินทางเมื่อเช้าที่ผ่านมา บอกลากับพี่ธิ คนนำทาง .... เวลายังพอมีเหลือแวะไปเที่ยวน้ำตกแสงจันทร์ต่อ น้ำตกแห่งนี้ ถือเป็น UNSEEN Thailand เลย เพราะลักษณะของตัวน้ำตกต่างจากที่อื่นๆมาก โดยเฉพาะสายน้ำที่ไหลลงผ่านรูหินด้านบน ตกลงมาเป็นสายด้านล่าง ถ้าในคืนพระจันทรืเต็มดวง แสงจันทร์จะส่องลอดรูลงมา ยิ่งสวยงามมากขึ้นไปอีก เปิดดูไฟล์ภาพย้อนหลังๆ กลายเป็นว่า เมื่อวันนี้ของ 6ปีที่แล้ว ปี 2550 ก้ได้มาที่น้ำตกแห่งนี้ ตรงกันอย่างไม่น่าเชื่่อ จากน้ำตกแสงจันทร์ วิ่งย้อนกลับเส้นทางเดิม เลี้ยวซ้ายเข้าไปใน อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ชมพระอาทิตย์ตกดินที่นี่เสียหน่อย จุดชมวิวส์ ถ้ำนางลี้ ... ข้างหน้า สายฝนกำลังไล่มาลิบๆแล้ว รีบวิ่งขึ้นมาก่อนที่สายฝนจะกระหน่ำลงมา ถ่ายภาพจุดชมวิวส์ผาแต้ม ... ภาพแม่น้ำโขงยังคงสวยงามไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อ 6ปีที่แล้ว ตะวันลับขอบฟ้าที่ ผาแต้ม ... 7/9/56 พระอาทิตย์เริ่มแสงอ่อน ผมยืนอยู่บนผาแต้ม มองวิวส์แม่น้ำโขง ในใจครุ่นคิดถึงการเดินทางที่ผ่านมา ตอนนี้ความตั้งใจผมลุล่วงโดยสมบูรณ์แล้วตั้งแต่ครั้งที่ฟังเสียงพยากรณ์อากาศ ในวิทยุ จนได้มาถึงที่ผาชะนะได และ ผาแต้ม ทุกอย่างคือ ความทรงจำน่าประทับใจ เป็นดั่งแบตเตอรี่ชาร์จไฟเข้าไปเต็มเปี่ยม เป็นอีกครั้งที่ผมนึกไปถึงถ้อยคำในหนังสือของ เสกสรร ประเสริฐกุล ที่ว่า "หากชีวิตคือการเดินทาง ใยต้องยึดมั่นว่าที่พักต้องถาวร" ... จากกันวันนี้ จนกว่าจะพบกันใหม่ กับ การเดินทางครั้งต่อไป แวะมาเยี่ยม blog ค่ะ ภาพสวย ชอบคำคม ของคุณ เสกสรร ค่ะ เห็นด้วยเลย
โดย: ข้าวหมก วันที่: 16 กันยายน 2556 เวลา:8:11:55 น.
|
-*-Superbaker
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?] My Face ...
Group Blog All Blog
|
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |