“สุชาติ สวัสดิ์ศรี” นำทัพนักเขียน ไล่ “แม้ว” พ้นนายกฯ สุชาติ สวัสดิ์ศรี โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 กุมภาพันธ์ 2549 18:07 น. “สุชาติ สวัสดิ์ศรี” ออกแถลงการณ์ ประกาศนำทัพเครือข่ายนักเขียนแห่งประเทศไทย เรียกร้องให้ “ทักษิณ” ลาออก ระบุชัด หมดความชอบธรรม บริหารประเทศด้วยความไม่สุจริต และทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง วันนี้ (20 ก.พ.) เครือข่ายนักเขียนแห่งประเทศไทย ที่มีตัวแทนประกอบด้วย เรืองกิตติ์ รักกาญจนันท์, ศิริวร แก้วกาญจน์, สร้อยแก้ว คำมาลา, นกป่า อุษาคเนย์, ชาติวุฒิ บุณยรักษ์ โดยมี สุชาติ สวัสดิ์ศรี เป็นประธานที่ปรึกษาได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง โดยในจดหมายแถลงการณ์ระบุความไม่ชอบธรรมในการบริหารประเทศเอาไว้ว่า ...เครือข่ายนักเขียนแห่งประเทศไทย ได้เกาะติดอุณหภูมิทางความคิดและอารมณ์ของชาติบ้านเมือง ภายใต้การบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ด้วยความห่วงใยมาโดยตลอด ดังที่ประชาชนทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า องคาพยพของสังคมไทยหลายส่วนกำลังตั้งคำถามถึงความชอบธรรมในการเป็นผู้นำประเทศของนายกรัฐมนตรีอย่างเข้มข้น เนื่องด้วยตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความไม่ปรารถนาดีต่อส่วนรวมของนายกรัฐมนตรี ด้วยการบริหารปกครองประเทศอย่างไม่สุจริต คิดกระทำการสิ่งใดล้วนแต่เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน และพวกพ้อง หาใช่เพื่อมวลชนและประเทศชาติไม่ ตราบจนบัดนี้ ความเชื่อมั่นจากแทบทุกภาคส่วนในสังคม ที่มีต่อผู้นำรัฐบาลได้หมดสิ้นลงแล้ว เพราะเหตุว่า นายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้นำประเทศที่ดี พฤติกรรมของเขาห่างไกลจากการเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชนพลเมืองไทยในระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่า ในด้านคุณธรรม ศีลธรรม หรือจริยธรรมขั้นพื้นฐาน ยังไม่นับรวมถึงการขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ อันนำไปสู่ความแตกแยกของชนในชาติ หรือของความสัมพันธ์ในสังคมโลก กล่าวได้ว่า นายกรัฐมนตรีไม่เป็นมิตรต่อกระบวนการและระบอบประชาธิปไตย ทั้งการบิดเบือนและการละเมิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้งการแทรกแซง ครอบงำ และคุกคามการปฏิบัติงาน ไม่ว่าฝ่ายบริหาร หรือฝ่ายนิติบัญญัติ รวมถึงการแทรกแซงสื่อและองค์กรอิสระอื่น ๆ เช่น กรณีถอดถอนรายการโทรทัศน์หลายรายการที่วิพากษ์การบริหารงานของรัฐบาล อีกทั้งยังมีการปิดเว็บไซต์ ปิดวิทยุชุมชน ปิดกั้นการชุมนุม ฯลฯ ทั้งหมดล้วนเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนพลเมืองตามรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น ทั้งนี้ ยังไม่ต้องกล่าวถึงนโยบายปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจและการเมือง โดยการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ แปรรูปทรัพยากรสาธารณะ แก้กฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มทุนธุรกิจของวงศ์ตระกูล รวมถึงพวกพ้องเครือญาติ ทั้งในและนอกประเทศ หรือที่เรียกกันว่า คอร์รัปชันเชิงนโยบายและผลประโยชน์ทับซ้อน หรือเรียกอีกอย่าง ว่า โกงโดยถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะกรณีล่าสุด คือ การขายหุ้นในกลุ่มชินวัตรมูลค่ากว่า 73,000 ล้านบาทให้ต่างชาติ โดยปิดซ่อนเงื่อนงำเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี อันเห็นได้ถึงความจงใจใช้ระบอบประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือในการสถาปนาอำนาจและความร่ำรวยให้กับตนและกลุ่มพวกพ้องของนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร อีกกรณีที่สำคัญไม่น้อยกว่ากัน คือ ความล้มเหลวในการแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาลทักษิณ ซึ่งส่งผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ประเพณีวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนในสามจังหวัด อันนำไปสู่เหตุการณ์เลวร้ายที่ยากต่อการควบคุมในปัจจุบัน ณ วันนี้ กล่าวได้ว่า นายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร หมดความชอบธรรมในการเป็นผู้บริหารประเทศแทบทุกด้าน ฉะนั้น การกล่าวอ้างถึง 19 ล้านเสียงของประชาชนที่เลือกเข้ามาบริหารประเทศ ที่นายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ได้กระทำมาโดยตลอด จึงไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป เพราะประชาธิปไตยไม่ได้หมายถึงการถ่ายโอนอำนาจจากประชาชนให้แก่รัฐบาลแค่การเลือกตั้งเพียงวันเดียว ที่สำคัญ นายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ได้ทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจที่ประชาชนพลเมืองมอบให้ทั้ง 19 ล้านเสียงไปหมดสิ้นแล้ว ด้วยการนำความไว้เนื้อเชื่อใจจำนวนนั้นไปรับใช้เป้าหมายทางการเมืองส่วนตนดังกล่าว แทนที่จะใช้ความไว้เนื้อเชื่อใจเหล่านั้นทำคุณประโยชน์เพื่อส่วนรวม นำพาประเทศไปสู่ทิศทางที่ถูกต้องชอบธรรม และแน่นอนว่าพฤติกรรมทั้งหมดทั้งปวงที่กล่าวมานั้น ล้วนส่งผลเกี่ยวเนื่องต่อความมั่นคงของชาติอย่างไม่อาจปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงได้ ด้วยเหตุนี้ เครือข่ายนักเขียนแห่งประเทศไทย อันเกิดจากการรวมตัวของกลุ่มนักคิดนักเขียนทั่วทุกภาคของประเทศ จึงขอเรียกร้องให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งหมดความชอบธรรมในการเป็นผู้บริหารประเทศ ได้แสดงความรับผิดชอบ โดยการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อความผาสุกร่วมกันของคนในชาติ มา ณ โอกาสนี้ ......................... ถ้าถามว่ามีใครอยากไล่ใครไหม...คงไม่มี ใครๆ ก็อยากให้บ้านเมืองสงบ มีผู้นำที่ทำเพื่อประเทศจริงๆ แบบนั้น ใครๆ ก็พร้อมจะสนับสนุนให้ปกครองชาติกันแบบชั่วกาลนาน..(เหมือนพ่อหลวงของเรา)   Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2549 17 comments Last Update : 20 กรกฎาคม 2551 12:49:15 น. Counter : 932 Pageviews. Share Tweet

โดย: interbizz 21 กุมภาพันธ์ 2549 11:55:49 น.

จริงครับ เห็นด้วย เจ็ดหมื่นล้านเปอร์เซ็นต์   โดย: Johann sebastian Bach 21 กุมภาพันธ์ 2549 12:20:22 น.

ไม่ชอบนายกฯคนนี้เลยค่ะ   โดย: กระจ้อน 21 กุมภาพันธ์ 2549 13:41:53 น.

อ่านแล้วก็อ่ะนะค่ะ ใครจะไล่ถ้าหากว่าจริงใจกว่านี้น๊อ ทักทายคุณสุภาค่ะ   โดย: JewNid 21 กุมภาพันธ์ 2549 14:05:38 น.

สวัสดีค่ะคุณสุภา ไม่ได้เข้ามาทักทายนานมากเลย สบายดีนะคะ เห็นด้วยค่ะ...ถ้าผู้นำที่พัฒนาและทำเพื่อประเทศจริงๆ ใครอยากจะไล่   โดย: jan_tanoshii 21 กุมภาพันธ์ 2549 17:06:31 น.

แถลงการณ์จากสมาพันธ์นักเขียนภาคใต้เพื่อประชาชน ฉบับที่ 1/2549 “ไม่ขอร้อง แต่ขอขับไล่ ผู้นำที่ทำลายสังคม” เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่าการบริหารประเทศชาติภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นำความเสียหายมาสู่สังคมอย่างใหญ่หลวงในหลายๆด้าน เนื่องจากผู้นำคนนี้ขาดความชอบธรรมทางจริยธรรมเป็นอย่างสูง ดังสามารถแยกแยะเป็นรายละเอียดได้ดังนี้ 1. หลบเลี่ยงภาษีในกรณีขายหุ้นบริษัทชินฯให้แก่กองทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ 2. มีเงื่อนงำในการจัดตั้งบริษัทแอมเพิลริช ที่เกาะบริติช เวอร์จิ้น ซึ่งเป็นสวรรค์ของนักฟอกเงิน นักค้ายาเสพติด นักคอร์รัปชั่น จึงน่าเชื่อได้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่โปร่งใสและเข้าข่าย “ซุกหุ้นภาค 2” 3. รักษาผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติ เคยกล่าวว่าพวกที่ตั้งบริษัทที่เกาะบริติช เวอร์จิ้น เป็นพวกไม่รักชาติ แต่ตัวเองกลับไปตั้งบริษัทเสียเองโดยอ้างว่าต้องการทำธุรกิจกับต่างประเทศ ทั้งที่ไม่มีหลักฐานใดๆบ่งชี้ถึงการทำธุกิจดังกล่าว นอกจากสร้างความเคลือบแคลงให้แก่สังคม 4. ใช้อำนาจปิดกั้นสื่อ ทำให้สังคมหูตามืดบอด 5. ใช้อำนาจแทรกแซงองค์กรอิสระแทบทุกองค์กร รวมไปถึงวุฒิสภา 6. เอื้อประโยชน์ให้แก่ตัวเอง ญาติพี่น้อง พวกพ้อง บริวาร โดยไม่คำนึงถึงประเทศชาติ 7. คอร์รัปชั่นทางนโยบายเพื่อประโยชน์ของตัวเองในหลายกรณี เช่น ให้เงินกู้แก่ประเทศพม่าเพื้อเอื้อธุรกิจดาวเทียมของกลุ่มชินวัตร และลดหย่อนภาษีในธุรกิจของเครือญาติตัวเอง เป็นต้น 8. เปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามามีอำนาจในธุรกิจที่เป็นหัวใจหลักของการพัฒนาประเทศ เช่น โทรคมนาคม สื่อสารมวลชน และสายการบิน โดยถึงกับแก้กฏหมายเพื่อให้ต่างชาติเข้ามาครอบงำโดยสะดวก 9. ร่ำรวยผิดปกติ จากที่มีทรัพย์สินประมาณ 20,000 ล้านบาท ใน พ.ศ.2544 เป็นมากกว่า 100,000 ล้านบาทในปัจจุบัน โดยเฉพาะการขายหุ้นบริษัทชินฯก็ได้เงินมากกว่า 70,000ล้านบาทแล้ว จนน่าสงสัยถึงที่มาของเงินดังกล่าว 10. เป็นคนหยาบคาย ใช้วาจาไม่สุภาพ แสดงให้เห็นถึงจิตใจที่หยาบกร้าน ไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำประเทศในระบอบประชาธิปไตยและสังคมที่ต้องมีศาสนาเป็นเครื่องค้ำจุน 11.ไม่ฟังเสียงประชาชน ดูถูกเหยียดหยามผู้ที่มีความเห็นต่างจากตัวเองในหลายกรณี 12. ขาดจิตวิญญาณประชาธิปไตย ไม่เคารพการแสดงออกตามแนวทางประชาธิปไตย ใช้วิสัยนักธุรกิจที่เห็นแก่ตัวมาเป็นหลักในการปกครองประเทศ ถึงขนาดกล่าวว่าจังหวัดที่เลือกไทยรักไทยจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ส่วนจังหวัดที่ไม่เลือกต้องรอไปก่อน 13. ใช้นโยบายเบี่ยงเบนประเด็นทางการเมือง เช่น เชิญอธิการบดีมหาวิทยาลัยต่างๆมาปรึกษาเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ปัญหาอยู่ที่ตัวผู้นำเอง เป็นต้น จากเหตุผลต่างๆที่กล่าวมา สมาพันธ์นักเขียนภาคใต้เพื่อประชาชน จึงมีความเห็นว่า หากปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้นำในการบริหารประเทศต่อไป ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงทั้งต่อระบอบประชาธิปไตย การพัฒนาประเทศ ค่านิยม และจริยธรรมที่ดีงาม เราจึงขอประกาศ “ขับไล่” พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากการ “ขอร้อง” ให้ลาออกแทบจะเป็นไปไม่ได้ หากผู้นำผู้นี้ยังดื้อดึง สมาพันธ์นักเขียนภาคใต้เพื่อประชาชนจะใช้แนวทางวรรณกรรมและอื่นๆ เป็น “เครื่องมือ” ในการต่อสู้จนกว่าประสบความสำเร็จ สมาพันธ์นักเขียนภาคใต้เพื่อประชาชน   โดย: สุภาฯ IP: 210.246.64.199 21 กุมภาพันธ์ 2549 17:36:51 น.

แถลงการณ์ในนามเครือข่ายนักเขียนแห่งประเทศไทย เครือข่ายนักเขียนแห่งประเทศไทย ได้เกาะติดอุณหภูมิทางความคิดและอารมณ์ของชาติบ้านเมือง ภายใต้การบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ด้วยความห่วงใยมาโดยตลอด ดังที่ประชาชนทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า องคาพยพของสังคมไทยหลายส่วนกำลังตั้งคำถามถึงความชอบธรรมในการเป็นผู้นำประเทศของนายกรัฐมนตรีอย่างเข้มข้น เนื่องด้วยตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความไม่ปรารถนาดีต่อส่วนรวมของนายกรัฐมนตรี ด้วยการบริหารปกครองประเทศอย่างไม่สุจริต คิดกระทำการสิ่งใดล้วนแต่เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง หาใช่เพื่อมวลชนและประเทศชาติไม่ ตราบจนบัดนี้ ความเชื่อมั่นจากแทบทุกภาคส่วนในสังคม ที่มีต่อผู้นำรัฐบาลได้หมดสิ้นลงแล้ว เพราะเหตุว่านายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้นำประเทศที่ดี พฤติกรรมของเขาห่างไกลจากการเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชนพลเมืองไทยในระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าในด้านคุณธรรม ศีลธรรม หรือจริยธรรมขั้นพื้นฐาน ยังไม่นับรวมถึงการขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ อันนำไปสู่ความแตกแยกของชนในชาติ หรือของความสัมพันธ์ในสังคมโลก กล่าวได้ว่านายกรัฐมนตรีไม่เป็นมิตรต่อกระบวนการและระบอบประชาธิปไตย ทั้งการบิดเบือนและการละเมิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้งการแทรกแซง ครอบงำ และคุกคามการปฏิบัติงาน ไม่ว่าฝ่ายบริหารหรือฝ่ายนิติบัญญัติ รวมถึงการแทรกแซงสื่อและองค์กรอิสระอื่น ๆ เช่น กรณีถอดถอนรายการโทรทัศน์หลายรายการที่วิพากษ์การบริหารงานของรัฐบาล อีกทั้งยังมีการปิดเว็บไซต์ ปิดวิทยุชุมชน ปิดกั้นการชุมนุม ฯลฯ ทั้งหมดล้วนเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนพลเมืองตามรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น ทั้งนี้ยังไม่ต้องกล่าวถึงนโยบายปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจและการเมือง โดยการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ แปรรูปทรัพยากรสาธารณะ แก้กฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มทุนธุรกิจของวงศ์ตระกูล รวมถึงพวกพ้องเครือญาติ ทั้งในและนอกประเทศ หรือที่เรียกกันว่า คอรัปชั่นเชิงนโยบายและผลประโยชน์ทับซ้อน หรือเรียกอีกอย่างว่า โกงโดยถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะกรณีล่าสุด คือการขายหุ้นในกลุ่มชินวัตรมูลค่ากว่า 70,000 ล้านบาทให้ต่างชาติ โดยปิดซ่อนเงื่อนงำเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี อันเห็นได้ถึงความจงใจใช้ระบอบประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือในการสถาปนาอำนาจและความร่ำรวยให้กับตนและกลุ่มพวกพ้องของนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร อีกกรณีที่สำคัญไม่น้อยกว่ากัน คือความล้มเหลวในการแก้ปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาลทักษิณ ซึ่งส่งผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ประเพณีวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนในสามจังหวัด อันนำไปสู่เหตุการณ์เลวร้ายที่ยากต่อการควบคุมในปัจจุบัน ณ วันนี้ กล่าวได้ว่า นายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร หมดความชอบธรรมในการเป็นผู้บริหารประเทศแทบทุกด้าน ฉะนั้น การกล่าวอ้างถึง19 ล้านเสียงของประชาชนที่เลือกเข้ามาบริหารประเทศ ที่นายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ได้กระทำมาโดยตลอด จึงไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป เพราะประชาธิปไตยไม่ได้หมายถึงการถ่ายโอนอำนาจจากประชาชนให้แก่รัฐบาลแค่การเลือกตั้งเพียงวันเดียว ที่สำคัญ นายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ได้ทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจที่ประชาชนพลเมืองมอบให้ทั้ง 19 ล้านเสียงไปหมดสิ้นแล้ว ด้วยการนำความไว้เนื้อเชื่อใจจำนวนนั้นไปรับใช้เป้าหมายทางการเมืองส่วนตนดังกล่าว แทนที่จะใช้ความไว้เนื้อเชื่อใจเหล่านั้นทำคุณประโยชน์เพื่อส่วนรวม นำพาประเทศไปสู่ทิศทางที่ถูกต้องชอบธรรม และแน่นอนว่าพฤติกรรมทั้งหมดทั้งปวงที่กล่าวมานั้น ล้วนส่งผลเกี่ยวเนื่องต่อความมั่นคงของชาติอย่างไม่อาจปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงได้ ด้วยเหตุนี้ เครือข่ายนักเขียนแห่งประเทศไทย อันเกิดจากการรวมตัวของกลุ่มนักคิดนักเขียนทั่วทุกภาคของประเทศ จึงขอเรียกร้องให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งหมดความชอบธรรมในการเป็นผู้บริหารประเทศ ได้แสดงความรับผิดชอบ โดยการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อความผาสุกร่วมกันของคนในชาติ มา ณ โอกาสนี้. ด้วยความสมานฉันท์ เครือข่ายนักเขียนแห่งประเทศไทย   โดย: สุภาฯ IP: 210.246.64.199 21 กุมภาพันธ์ 2549 17:39:59 น.

มายาภาพของท่านนายกฯ มายาภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กรณีการขายหุ้นชินคอร์ป   โดย: สุภาฯ IP: 210.246.64.199 21 กุมภาพันธ์ 2549 17:56:36 น.

เห็นด้วยค่ะ   โดย: rebel 21 กุมภาพันธ์ 2549 21:07:02 น.

ทักษิณหมดความชอบธรรมในการเป็นนายกฯนับตั้งแต่วันที่ขายหุ้นฯ(ขายชาติ)แล้ว เพราะคลื่นดาวเทียมเป็นของชาติ ทักษิณและขี้ข้าบริวารได้แก้กฎหมายให้ต่างชาติถือครองหุ้นจาก 25 %เป็น 49 % โดยอ้าง 19 ล้านเสียงมอบความไว้วางใจให้ทำอะไรก็ได้ในชาตินี้ แม้แต่แด่งตั้งพระสังฆราชซ้อนยังบังอาจ ยังถือดีว่าในหลวงกระซิบจะกราบพระบาทออก ผมคนไทยขอบอกว่ารับไม่ได้กับการกระทำโอหังเช่นนี้ คิดว่าถึงเวลาแล้วที่คนไทยทุกคนต้องยอมเจ็บปวดอีกครั้งเพื่อเริ่มต้นใหม่   โดย: Paisal IP: 203.188.32.193 21 กุมภาพันธ์ 2549 22:46:50 น.

กราบสวัสดีท่านพี่สุภาฯ.. ชาติไม่สิ้นคนดีค่ะ ถึงเวลาการจัดสรรเรียบเรียงใหม่ ชาวไทยนั้นรักสงบ แต่ไม่ใช่ผู้ที่นิ่งเฉยกับความไม่ชอบธรรม .... รักษาสุขภาพมากๆนะคะ..   โดย: ป่ามืด 22 กุมภาพันธ์ 2549 11:41:11 น.

สวัสดค่ะคุณสุภาฯ ไม่ได้แวะมาซะนานคิดถึงค่ะ อ่านบล็อกแล้วอึ้ง...ประทับใจค่ะ...ที่จัดให้... เห็นด้วยทุกๆ ประการกับบทความที่นำมาลงค่ะ คนโกงชาติรีบไปๆ ซะ... ก่อนไปก็ขอให้คืนสมบัติของชาติและของประชาชนด้วยนะ...ถึงแม้จะถูกกฎหมาย...แต่ผิดศีลธรรมและจริยธรรมอันดี...จำไว้... ทำไปได้ไง...โกงชาติบ้านเมืองได้ร้ายกาจขนาดนี้...เงินทองจะเอาไปทำอะไรกันหนักหนา...ว่าเค้าคนเดียวไม่ได้ค่ะ...ต้องจัดการกับพวกร่วมเสพสุขบนความทุกข์ของชาติ...พวกลิ่วล้อ...พวกคอยเสี้ยมสอนและยุยง...พวกหนักแผ่นดินทั้งนั้น...รีบออกไปจากประเทศนี้ซะ...ไปก็ไปแต่ตัวนะ...สมบัติของชาติบ้านเมืองและของปวงชนชาวไทยที่ไปโกงมา...วางไว้ที่เมืองไทยนั่นล่ะ...ไปแต่ตัวนะ...หาแผ่นดินใหม่อยู่ให้ดีล่ะ...แล้วอย่าไปสร้างความวุ่นวายอีก...จำไว้... กูจะสู้แม้รู้ว่าพวกกูน้อย สู้ไม่ถอยแม้รู้ว่าจะดับสลาย แผ่นดินนี้พ่อกูอยู่ปู่กูตาย กูสุดอายหากเสียทีไพรีครอง ใครบ้างเหวยจะร่วมสู้กับกูบ้าง ใครบ้างเหวยจะอยู่ข้างไทยใจหาญ ใครบ้างเหวยจะละสุขสนุกสำราญ ใครบ้างเหวยยอมวายปรานเพื่อไทยคง ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั่วสากลโลกได้โปรด...คุ้มครองอภิบาลผู้ชุมนุมวันที่ 26 ...และขอให้ช่วยกระซิบบอกคนขายชาติให้ออกไปและคืนสมบัติชาติด้วยนะคะ...ขอให้เค้าจากไปอย่างสงบ...คืนสมบัติที่โกงครบทุกบาท...เราจะอโหสิกรรมให้คุณและพรรคพวก ที่ร่วมเสพสุข บนความทุกข์ของชาติบ้านเมือง   โดย: pataree 22 กุมภาพันธ์ 2549 12:42:55 น.

คนเราถ้ากินไม่รู้จักอิ่ม โกงไม่รู้จักพอ แถมได้ใจว่าตามไม่ทัน ผลก็ออกมาแบบนี้ล่ะค่ะ เก่งอย่างไรก็เถอะ แต่ถ้าโกงชาติ กินแผ่นดิน ก็คงรับกันไม่ไหวนะคะ เมืองไทย ไม่เคยสิ้นคนดีนะคะ   โดย: ป้าแจ๋วแหวว 23 กุมภาพันธ์ 2549 21:38:20 น.

เย้ๆๆ..ยุบแล้วๆๆๆ....   โดย: ป่ามืด 24 กุมภาพันธ์ 2549 19:06:26 น.

ยุบสภาแล้วค่ะ   โดย: rebel 24 กุมภาพันธ์ 2549 19:08:54 น.

เมื่อไหร่คนเราจะรู้สึกตัว รู้จักพอนะ   โดย: p_tham 25 กุมภาพันธ์ 2549 3:11:31 น.

เลือกคนเดียวกันค่ะ   โดย: rebel 19 เมษายน 2549 17:50:54 น.