BlogGang.com : : suparatta : ...D r e a m...

...D r e a m...

...D r e a m... ...D r e a m...

ใครเคยอ่าน “ความฝันที่ไม่มีใครนึก!”
ของ ท่านพุทธทาส มาก่อน คงพอจำได้ในเรื่องพูดถึง เมื่อตื่นขึ้นมา หากฝันดีก็จักเสียดายตัวเองในฝันนั้น เสียดายความยินดีในฝันนั้น หากฝันร้ายก็ดีใจนักที่เหมือนได้เกิดใหม่ คือตื่นมาจากฝันร้ายนั้น ใครที่เชื่อหรือยึดถือฝันนั้น ก็จะถูกหัวเราะเยาะว่าเป็นเด็กๆ ความฝันเป็นเรื่องเหลวใหล เอาจริงอันใดไม่ได้

แต่ตัวเราในชีวิตจริง กลับไม่มีใครคิด ว่าก็เป็นเพียง “เรา” ในอีกฝันนึง คนรักหรือสิ่งรอบตัวเรา ลูกเมีย เงินทอง ทรัพย์สิน สิ่งที่เรารักทั้งหลาย จะต่างอะไรกับความฝัน ทำให้เราเศร้าโศกดีใจมานับต่อนับเท่าใดแล้ว เราทั้งหลายนอนหลับตลอดสังสารวัฏ หลับด้วยอวิชชา ความฝันเกิดขึ้นมามากมาย นับชาติไม่ถ้วน เราจะรู้ตัวเมื่อตื่นจากชาติหนึ่งๆ เมื่อนั้นหละ จึงรู้ว่าฝันไป และไม่ถือความถึงชาติก่อน เพราะมันเพียงความฝันของชาติใหม่ แล้วเราก็หลับใหลโดยไม่รู้สึกตัวและฝันใหม่ โดยทำนองนี้อยู่ร่ำไป

โลก และทุกอย่างในโลกนี้ เป็นเพียงวัตถุแห่งความฝัน ชาติหนึ่งคือความฝันคราวหนึ่ง ชาติต่อไปก็อย่างเดียวกัน เราจะตื่นขึ้นจริงๆ เมื่อใด ก็คงต่อเมื่อ อรหันตมรรคญาณเกิดขึ้น

Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2548

Last Update : 16 มีนาคม 2548 13:56:41 น.

3 comments

Counter : 1111 Pageviews.

ชีวิตเป็นแค่ฝัน
ฝันแล้วฝันอีก

โดย: ปลง IP: 202.5.86.34 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:9:11:18 น.

บางครั้งคนเรารู้อยู่ว่า หนทางสู่อรหันต์ คืออะไร ต้องทำอย่างไร
แต่กิเลสในตัวมันหนักหนาเหลือเกิน
ลำบากยากเย็น ในการแกะมันออกเหลือเกิน

ไม่ยอมแพ้ต่อการพากเพียรพยายาม แม้บางครั้งใจจะแพ้ต่อกิเลสบ้าง ก็เพียงล้มแล้วลุกขึ้นมาสู้ใหม่..สักวันคงได้ตื่นอย่างแท้จริง

โดย: เกือกซ่าสีชมพู

วันที่: 16 มีนาคม 2548 เวลา:18:52:17 น.

สาธุ

โดย: สุภารัตถะ IP: 202.57.159.199 วันที่: 26 มีนาคม 2548 เวลา:17:58:28 น.