|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
สารนารถ เมืองแห่งปัญญา
ช่วงนี้ติดตามดูสารคดี ตามรอยพระพุทธเจ้า ด้วยความชื่นชม รู้สึกนับถือคนเขียนที่ช่างวิเคราะห์เจาะลึก
เมื่อคืนอังคารที่ 27 มิ.ย. ฉายถึงเมืองสารนารถ ดินแดนที่พระพุทธองค์ทรงประกาศธรรมครั้งแรกแก่ปัญจวัคคีย์ ทำให้เกิดคำว่ากงล้อแห่งธรรมเคลื่อนไปข้างหน้าแล้ว ธรรมจักรกัปปะวัตนสูตร และพระอัญญาโกณทัญญะ เกิดดวงตาเห็นธรรม พระรัตนตรัยจึงครบองค์สามบริบูรณ์ คือมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
อินเดียในวันนี้ ยังไม่ต่างจากสมัยพุทธกาลมากนัก ความลำบากยากจน และธรรมชาติอันทารุณ ยังคงกัดเซาะจิตใจชาวชมพูทวีป ให้มีผู้ออกแสวงหาความหลุดพ้นอย่างเอาจริงเอาจัง แต่ความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์ฮินดู ยังคงฝังรากลึก ทั้งที่การสวดอ้อนวอนเทพเจ้าเพื่อให้ท่านลงมาช่วย มันไม่ได้ทำให้จิตใครเป็นอิสระออกมาได้เลย ดีไม่ดี มีแต่จะยิ่งชักเนื้อ สูญเสียทรัพย์และแรงไปกับการบูชา เป็นทาสความคิดความเชื่อต่างๆ จนไม่สามารถค้นพบความยิ่งใหญ่ในจิตตัวเอง
ที่น่าเศร้าก็คือ พุทธศาสนาซึ่งอุบัติขึ้นในชมพูทวีปและเคยมีความยิ่งใหญ่จนแตกสาขาออกไปทั่วเอเชีย ทำให้อินเดียครั้งหนึ่ง เคยรุ่งเรืองไปด้วยปัญญาแห่งสัจจะวิมุตติ กลับเหลืออนุสรณ์สถานให้ระลึกถึงน้อยมาก จนอาจกล่าวได้ว่าจิตวิญญาณความเป็นพุทธได้เลือนหายไปจากอินเดียแล้วก็ว่าได้ หรือว่ารากลึกของคนจริงๆ เป็นเพียงฮินดู ผู้ชอบการวิงวอน มากกว่าความอิสระแห่งจิต นิพพานอาจน่ากลัวที่จะค้นพบจริงๆ ก็ได้
แต่กระนั้น ก็ยังได้เห็นพุทธบริษัทสี่ มีความเพียรพยายามจะฟื้นฟู ปัญญาแห่งวิถีพุทธขึ้นมายัง ณ สารนารถอีกครั้ง ที่นั่นมีสถูปขนาดใหญ่ (สร้างครอบของเดิม โดยพระเจ้าอโศกมหาราช ผู้ให้ความสำคัญต่อการบำรุงพุทธศาสนา และบูรณะสถานที่ทรง ประสูติ ตรัสรู้ ประกาศธรรม และปรินิพาน) มีพระสงฆ์จากนิกายต่างๆ ทั่วโลก เดินทางกลับไปศึกษาพุทธศาสตร์ ที่สารนารถ เพื่อกลับมาสอนสัจธรรมแท้ซึ่งผู้เป็นเอกของโลกค้นพบ ในประเทศตัวเอง
ประทับใจมากๆ ตอนที่พระผู้ใหญ่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธองค์มาครอบศีรษะ เพื่อให้เป็นพุทธศิริมงคลแก่ภิกษุ และญาติโยมทั้งชายหญิง อดคิดถึงล้านนาในไทยไม่ได้ ที่ไม่ให้ผู้หญิงเข้าไปในพระธาตุเจดีย์ โดยอ้างว่า ฝังพระสารีริกธาตุอยู่ใต้ดิน ถ้าฝังจริง ทั้งหญิงชาย ก็ไม่ควรเข้าไปเหยียบทั้งนั้น ไม่ใช่ชายเข้าได้ หญิงเข้าไม่ได้ พูดถึงล้านนาทีไรก็เซ็งทุกที ไม่รู้นับถือพุทธกันอย่างไร แบ่งชนชั้นกันขนาดนั้น แต่ก็ยังดี ที่น้อยกว่าอินเดีย ที่กว่าพระพุทธเจ้า จะช่วยให้ผู้หญิงขึ้นมามีสิทธิ์ในการเข้าถึงศาสนา ก็ต้องฝ่าด่านอรหันต์เทียมกันแทบเลือดตากระเด็น จงจำคำพระศาสดา ตามหัวใจแห่งปรัชญาปารมิตาสูตรให้ดีเถิด พระองค์ทรงสอนว่า ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน หญิงชาย
พุทธประวัติโดยสังเขป สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติ ณ สวนลุมพินี ในปี 623 ก่อนคริสตศักราช (80 ปี ก่อนพุทธศักราช) พระองค์ทรงเป็นเจ้าชายในวรรณะกษัตริย์ ผู้ครองกรุงกบิลพัสดุ์ ณ สวนลุมพินีนี้ พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงสร้างเสาหิน เพื่อเป็นเครื่องหมายว่า เป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าที่เสาหินนี้มีอักษรจารึกว่า "เมื่อพระเจ้าปิยทัสสี ทรงครองราชย์ได้ 20 ปี พระองค์ได้เสด็จ มานมัสการสถานที่นี้
เมื่อพระพุทธเจ้าบรรลุธรรม จิตหลุดจากอาสวะกิเลสทั้งปวง พระองค์ก็ทรงทราบว่า การเกิดใหม่ (ชาติต่อไป) ย่อมไม่มีอีก กิจที่ต้องทำ ได้กระทำเสร็จสมบูรณ์แล้ว การแสวงหาสัจจธรรม อันนานถึง 6 ปี ได้ยุติแล้วด้วยประการฉะนี้
หลังจากตรัสรู้แล้ว ท้าวสหัมปติพรหมได้ทราบถึงพระทัยของพระองค์ที่จะไม่ทรงสั่งสอนพระธรรมที่ทรงบรรลุให้กับเวไนยสัตว์ จึงเสด็จมาอาราธนาให้พระองค์ได้โปรดเมตตาสั่งสอนพระธรรมให้แก่เวไนยสัตว์ ให้พ้นจากความทุกข์ด้วย พระองค์ทรงเห็นอุปมานิมิตรถึงภูมิปัญญาของมนุษย์เปรียบเหมือน ดอกบัวสี่เหล่าอันได้แก่ อุคคติตัญญู วิปจิตัญญู เนยยะ ปทะปรมะ พระองค์จึงได้ตัดสินพระหฤทัย ที่จะสั่งสอนพระธรรมที่ทรงเข้าถึงแล้ว
หลังจากนั้น จึงทรงเสด็จจากตำบลอุรุเวลาไปยังสวนกวาง (สารนารถ) ใกล้เมืองพาราณสี เพื่อพบภิกษุปัญจวัคคีย์ ทรงแสดงปฐมเทศนา ซึ่งว่าด้วย มัชฌิมาปฏิปทา คือทางสายกลาง ซึ่งอยู่ระหว่างการทรมานตน (Self-Mortification) และการมัวเมาในกาม (Sexual Indulgence) พระองค์ทรงประกาศให้ทราบว่า เพราะหลีกเลี่ยงส่วนสุดโต่งทั้ง 2 ทาง (คือ อัตตกิลมถานุโยค และกามสุขัลลิกานุโยค) พระองค์จึงได้ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณ ทรงตรัสสอนอริยสัจ 4 (Noble Truths) คือ ทุกข์ (Suffering) สมุทัย (Cause of Suffering) นิโรธ (Cessation of Suffering) และมรรค (the way leading to the cessation of suffering)
ปฐมเทศนานี้ ถือได้ว่าเป็นการหมุนล้อแห่งธรรม (ธรรมจักร) หรือการประกาศธรรมได้เริ่มขึ้นแล้ว ทำให้ต่อมา มีผู้เข้าถึงนิพพานเป็นจำนวนมหาศาล พระสาวกในครั้งพุทธกาล พระองค์ทรงส่งไปประกาศพระศาสนา โดยตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย จงไปประกาศธรรม อันงามในเบื้องต้น ในท่ามกลาง และในที่สุด เพื่อประโยชน์แก่มหาชน ผู้มีธุลีในดวงตา จะเสียประโยชน์หากเขาเหล่านั้นไม่ได้ฟัง ธรรมฯ พระองค์ได้ใช้เวลาประกาศสัจจธรรมเป็นเวลาถึง 45 ปีหลังตรัสรู้ จึงได้เสด็จดับขันธปรินิพพานเมื่อพระองค์มีพระชนม์มายุได้ 80 ปี
Create Date : 02 กรกฎาคม 2548 |
|
16 comments |
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2550 11:20:06 น. |
Counter : 914 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: สงสัย (rebel ) 2 กรกฎาคม 2548 19:05:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: Bluejade 2 กรกฎาคม 2548 19:11:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป่ามืด 3 กรกฎาคม 2548 15:14:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: เพิ่มเติม IP: 202.57.166.242 4 กรกฎาคม 2548 9:42:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลูกป้ามล 9 กรกฎาคม 2548 10:50:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: สุภาฯ IP: 202.57.158.153 10 กรกฎาคม 2548 0:14:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป่ามืด 21 กรกฎาคม 2548 13:56:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: Bluejade 21 กรกฎาคม 2548 19:24:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: รักดี 21 กรกฎาคม 2548 19:40:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้ามด 22 กรกฎาคม 2548 19:33:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: สิน (yyswim ) 22 กรกฎาคม 2548 23:04:37 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
วันมาฆบูชา วันแห่งรักแท้
วันวิสาขบูชา (อยู่ในกระทู้ ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ที่ล็อกระเบียงหน้าบ้าน)
แล้วก็ วันอาสาฬหบูชา ก็คือกระทู้นี้ สารนารถ เมืองแห่งปัญญา...