อาทิตย์สาดส่อง..ความจริงจักปรากฎทั่วปฐพี!!!
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2555
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
16 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 
ลุงยุ้ย ลุยสวน เสียชีวิตแล้วด้วยมะเร็ง

เศร้า! ลุงยุ้ย ลุยสวน เสียชีวิตแล้วด้วยมะเร็ง ญาติตั้งศพวัดไร่ขิง

อดีตศิลปินตลกชื่อดัง ลุงยุ้ย ยิ้มสยาม หรือ ยุ้ย ลุยสวน เสียชีวิตแล้ว เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลบ้านโป่ง ด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง โดยญาติจะนำศพ ลุงยุ้ย ลุยสวน ตั้งบำเพ็บกุศลที่วัดไร่ขิง จ.นครปฐม และจัดพิธีรดน้ำศพในเวลา 16.00 น.

ลุงยุ้ย ลุยสวน เป็นที่รู้จักในวงการบันเทิงจากการเป็นศิลปินตลก และพิธีกรรายการ ฟ้าสว่างที่บางเกษตร ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ และรายการ ลุงยุ้ย ลุยสวน ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ซึ่ง ลุงยุ้ย ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่คอ มาตั้งแต่ปี 2552 และเข้ารับการรักษาที่ศูนย์มหาวชิราลงกรณธัญบุรี คลองสิบ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี อย่างต่อเนื่องจนอาการดีขึ้น จึงกลับไปรักษาตัวที่บ้าน และสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ จนล่าสุดอาการได้ทรุดลงอีกครั้ง เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และเสียชีวิตลงเมื่อกลางดึกเวลาประมาณ 23.15 น. ของคืนวันที่ 14 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา

เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (15 ต.ค.) ที่วัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม นางคินตามณี ศรีเสนาะเมธีกุล  หรือมุข ภรรยาพร้อมบุตรสาว2 คนและเพื่อนๆในวงการบันเทิง ได้นำร่างนายพงศ์กรณ์ พิบูลย์วรภัทร อายุ 55 ปี อดีตตลกดังและพิธีกรหลายรายการ เจ้าของฉายา ลุงยุ้ยลุยสวน เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งที่รพ.บ้านโป่ง  เมื่อกลางดึกวันที่ 14 ต.ค. โดยมี กรุง ศรีวิไล เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ รวมทั้งนักการเมือง คนในวงการบันเทิง และคนสนิทอีกมากมาย 

นางคินตามณี กล่าวว่า ลุงยุ้ย เริ่มป่วยมาตั้งแต่ปี 52 เข้าออกรพ.หลายครั้ง ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 16 ก.ย.55 อาการทรุดหนักต้องรีบนำเข้ารักษาตัวที่ รพ.บ้านโป่ง จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต ก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็ดูเหมือนจะดีขึ้น อาจเพราะใจสู้ แต่สุดท้ายก็ไม่ไหวจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เหลือแต่ลูกสาวคนโต ที่จะเป็นเสาหลักของครอบครัว มีผู้ใหญ่ใจดีคอยหยิบยื่นงานมาให้ มีรายได้เล็กๆน้อยๆ เลี้ยงครอบครัว

ตอนนี้ตนยังคิดอะไรไม่ออก ว่าจะเอายังไงต่อดี รอปรึกษากับนายกสมาคมตลกอีกครั้ง อาจจะจัดให้คอนเสิร์ตหารายได้เก็บไว้ให้เป็นทุนการศึกษาและเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงาน เบื้องต้นอาจจะสวดพระอภิธรรม 7 วันก่อนโดยเริ่มคืนวันที่ 16 ต.ค.เวลา 19.00 น. 
 https://www.youtube.com/watch?v=KS7_jZQRCZw&feature=share&list=ULKS7_jZQRCZw
-----------
 (ย้อนข่าว)
 กรรม "ลุงยุ้ย ลุยสวน'' มะเร็งต่อมน้ำเหลืองขั้น 2 
24 สิงหาคม 2553 2:14 น.
View : 1,622  Post : 6

โรคมะเร็งนับว่า เป็นโรคร้ายคร่าชีวิตคนอันดับต้นๆ ของโลก และบ้านเรา มีน้อยคนที่ป่วยจากโรคนี้แล้วรักษาหายขาดได้ 
มิหนำซ้ำบางรายรู้ว่าตัวเองป่วยโรคนี้ ก็เข้าขั้นสุดท้ายมองไม่เห็นหนทางรักษา นอกจากทำใจนั่งรอวันสุดท้ายบนโลกใบนี้ ในขณะที่บางร้ายก็สามารถขวนขวายหนทางรักษาตัวเองต่อสู้จนเอาชนะ
โรคร้ายนี้ได้ก็มี 
''พงศ์กรณ์ พิบูลย์วรภัทร'' หรือที่ชาวบ้านแฟนรายการเกษตรรู้จักกันเป็นอย่างดีในนาม ''ลุงยุ้ย ลุยสวน'' ในวัย 53 ปี เป็นอีกคนหนึ่งที่โชคร้ายป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 2 บริเวณคอปูด
บวมเห็นได้ชัดเจน
อ่านแล้วทำเอาหลายคนคงตกใจ โดยเฉพาะคนที่รู้จักมักคุ้นกับลุงยุ้ยเป็นอย่างดี เพราะโรคนี้ไม่ค่อยปรานีใคร แต่สำหรับลุงยุ้ยแล้วส่วนตัวไม่ได้แสดงอาการตกใจหรือวิตกกังวลกับเจ้าเนื้อร้ายนี้แต่
อย่างใด
''รู้ว่าเป็นมะเร็ง ตอนกรกฎาคม ปี 52 ช่วงนั้นยังทำรายการฟ้าสว่างที่บางเกษตร ช่องสทท. 11 ออกงานหนักมาก มันเกิดบวมขึ้นมาเหมือนอักเสบ ก็ไปฉีดยาแก้อักเสบ ไปแล้วก็ไม่ยุบ หมอประจำก็
เลยให้ไปที่โรงพยาบาลพญาไท 3 เพื่อไปเช็กรายละเอียด ก็ไปตรวจเอกซเรย์ พอไปรับผลก็รู้ว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ขั้นที่ 2  ก็รักษามาโดยตลอด ไปรักษากับ หมอวันเพ็ญ บัวทอง แพทย์แผน
ไทยซึ่งมียาดีอยู่ในอำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี หลังจากกินยาหม้อไปแล้วก็พบว่ามีอาการดีขึ้น ยาที่เรากินก็คือยาต้ม หรือยาทางไทย ไม่เลือกทางคีโม หรือทางฝรั่ง เราเลือกเพราะ
สมุนไพรไทยมีประสิทธิภาพ แล้วยาของหมอนี้ดีจริงๆ กินแล้วก็อยู่มาได้ 1 ปีเต็ม''
แม้สรรพคุณยาแผนไทยดี ดูแลตัวดี ด้วยการงดอาหาร 26 อย่าง อาทิ อาหารทะเล หมักดอง ชา กาแฟ เนื้อสัตว์ เครื่องดื่มบำรุงกำลัง ยกเว้นเนื้อปลา แต่อาการก็ยังไม่ทุเลาลงเท่าไหร่ ส่วนหนึ่งลุงยุ้ย
ยอมรับว่า เพราะตนยังต้องฝืนทำงาน เนื่องจากมารายจ่าบครอบครัวที่ต้องดูแล โดยเฉพาะลูก หลังจากภรรยาทอดทิ้งไปเมื่อรู้ว่าตนป่วยเป็นโรคร้าย
''ผมค่อนข้างจะใส่ใจกับเรื่องสุขภาพ ต้องรักษาให้ดีที่สุด คิดว่าไม่ตายแน่ๆ ทั้งๆ ที่ตอนตรวจเจอโรคมะเร็งครั้งแรกคิดในใจว่าเราคงต้องตายแน่ๆ ตายตาม ยอดรัก สลักใจไปแน่ๆ เลย เชื่อหมอใน

เรื่องคุมอาหาร เรื่องกิยาแต่เราทำไม่ได้คือการโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ต้องพักผ่อนทั้งกลางวันกลางคืน นอนให้ตรงเวลา กินให้ตรงเวลา แต่ชีวิต 30 ปีที่อยู่กับวงการบันเทิงเนี่ย ถามว่านอนหัวค่ำเนี่ย

ยากนะครับ มันฝืนมานานมาก แล้วอีกอยากงานที่รออยู่กับรายจ่ายที่ต้องจ่าย ทั้งค่าเล่าเรียนลูก มีชีวิตต้องรับผิดชอบอยู่ เราคงต้องหยุดในสภาพแบบนี้ ไม่ไหว เรายังทำเพื่อคนข้างหลังเพราะเราไม่รู้ว่าเราจะรอดไหม ลูกสองคนที่เรียน คือลูกสาวสองคนคือแม่เขาเสียไปแล้ว  เมียคนใหม่ลูกเล็ก 6ขวบ ยังเล็กอยู่เลย ผู้หญิงเหมือนกันแต่มันเหมือนมีวิบากกรรม พอเราป่วยก็เกิดการหย่าร้าง  โรคนี้ต้องไม่เครียด แต่มันมีสิ่งก็ต้องให้เครียด ทุกวันนี้ก็อยู่กับลูก ลูกจากภรรยาคนเก่าสองคน ยังเลี้ยงเค้าอยู่ เพราะเขาไม่มีแม่ คนใหม่ก็หย่ากันแล้ว เขาขอหย่า ส่งเขาเรียนก็ตอนนี้ก็จะจบแล้วล่ะ แล้วมันทำให้เราต้องดิ้นรน ออกไปรับงาน เป็นพิธีกรยังใช้เสียงอยู่ ฝืนเขาตรงนี้ ตอนแรกบวมขนาดหัวแม่โป้ง ตอนนี้มันโตขึ้น มันเหมือนกับดื้อ แล้วมันกำลังบวมขึ้นอีกข้างนี้  เป็นผลของการดื้อ ข้างที่โตมัน
กำลังทับเส้นเลือด ทำให้ปวดหัวมาก ก็ต้องเริ่มรู้ตัวว่าต้องพักแล้วล่ะ ไม่พักไม่รอดแน่''  
แม้ตอนนี้ปรับตัวปรับใจรับโรคร้ายที่รุมเร้า ตั้งหน้าตั้งตาต่อสู้กับมันได้ทุกวันนี้ ก่อนหน้านี้ ลุงยุ้ยยอมรับว่ารู้สึกท้อแท้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเช่นเดียวกัน แต่ได้เป็นเพราะกำลังใจดีๆ ที่เพื่อนพ้องยื่นมือ
เข้ามาช่วยเหลือทำให้ยืนหยัดอยู่ได้ 
''ทีแรกก็นึกท้อเหมือนกัน ไม่มีใครดูแล แต่ปรากฏว่าผู้ที่ดูเราในขณะนี้สังคมส่วนหนึ่งนะครับ แต่ยังไม่ทั้งหมด สมาคมาพระเครื่องที่ ป๋าพยัพ (พยัพ คำพันธุ์)  ที่อยู่กับท่านมานานมาก ได้เป็นโฆษก

ประจำท่าน โฆษกสมาคมฯ ตอบแทนดี คือทุกคนห่วงใยผม ส.ส.พิมพา ที่ผมอยู่มาเกือบ 20 ปี ท่านก็ดูแลลูก ดูแลอะไรให้ ค่าเรียนบ้าง อะไรบ้างคณะตลกที่เราเคยอยู่ ถั่วแระ เชิญยิ้ม ก็ให้ส่วนหนึ่ง 
แต่ก็ไม่ได้มาก เพราะสมาคมตลกฯ ไม่ค่อยมีตังค์ หม่ำ เท่ง โหน่ง มาให้คนละหมื่น ก็ค่อยทยอยมา ทุกวันนี้ก็คิดว่า ถ้าเราไปแล้วลูกอีกสองคนใครจะเลี้ยงกับเรื่องราวของชีวิตจะมาแลกกับสิ่งที่จาก
ไป หลวงพ่อวัดประดู่ อัมพวา แม่กลอง บอกว่า สิ่งที่มันเป็นเจ้ากรรมนายเวน มันไปหมดแล้วใจก็ใจชื่น ไม่ต้องมาเลี้ยงเขา ไม่ต้องมาดูเค้า อาจจะเป็นสิ่งที่ดีก็ได้ อะไรใหม่จะได้เข้ามาในชีวิต ท่านพูด
เลยว่ายังตายไม่ได้นะ สังคมยังต้องการอยู่ พวกเค้าก็ยังให้กำลังใจผมดี โรคนี้ถ้า 50% ถ้าใจสู้ มีโอกาสรอด แต่เนี่ยจากผมไม่ได้พักอย่างที่บอก อาชีพผมเป็นปรปักษ์ต่อโลก ต้องใช้เสียง ต้องอดนอน 

แต่ด้วยหัวใจสู้ๆ แล้วได้รับกำลังใจจากเพื่อนพ้องน้องพี่ จากสมาคมพระเครื่องแห่งประเทศไทย จากท่าน ส.ส.พิมพา จันทร์ประสงค์ นนทบุรี พี่สาวที่ดูแลผมอยู่ ก็คือสังคมยังดูแล สังคมยังตอบแทน
ผมอยู่ครับ ตอนนี้ยังสู้ ต้องมาวัดว่าก้อนเนื้อ มันจะหลุดออกมาเมื่อไร มะเร็งจะไปเมื่อไร'' 
ชีวิตทุกวันนี้ส่วนใหญ่ลุงยุ้ยอาศัยอยู่ตามอัตภาพที่บ้าน ในอ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี มีขับรถเข้ากรุงเทพฯ มาหาลูกสาวที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัยบ้างเป็นครั้งคราวเพราะความเป็นห่วง 
''กลับไปอยู่ที่บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ส.ส., ส.จ., นายก กำนัน, นายก อบต. คือทุกห่วง เขาก็ช่วยกันตามอัตภาพ แต่ว่าไม่ต้องเอาเงินมาให้เราหรอก มาถาม มาดูแล มาเยี่ยมก็ถือว่าสังคม ตอบแทน
ชีวิตประจำวันที่อยู่บ้านราชบุรี เลี้ยงนก เลี้ยงปลา รดน้ำต้นไม้ แต่ผมไม่เชื่อหมออยู่ เพราะผมไม่ชอบนอน ไม่ชอบอยู่เฉย เราไม่ใช่คนป่วยนะ  คิดเสมอว่าเราไม่ใช้คนป่วย สมมุติจะออกไปนั้นออกไปนี้ 

ตอนกลางวัน ขับรถก็มีส่วนทำให้มันสะเทือนได้  แต่เราก็ขับรถไปโน่นไปนี่ มาหาลูกที่กรุงเทพฯ บ้าง ถ้าคิดถึงลูก เสาร์-อาทิตย์ ลูกก็จะไปอยู่กับเรา บางทีลูกเรียน ลูกสอบ เราก็มาหาลูกที่กรุงเทพ  
อะไรประมาณนี้
มีความสุขเพราะลูกครับ มีสองคน โบ เบียร์ครับ ส่วนลูกแบม เขามีแม่ เขาก็ไม่อดตายหรอก 
ถ้าวันข้างหน้าเกิดอะไรขึ้นก็บอกลูกไว้แล้วว่า มันเป็นกรรม ทุกคนมีกรรมหมด มะเร็งนี้มันเป็นกรรม แล้วแต่ใครจะเกิดขึ้นมา แต่เราบอกลูกว่าถ้าวันที่ไม่มีพ่อ ไม่ว่าจะตายวันนี้ พรุ่งนี้ อีก 20 ปี อีก 
100 ปี สิ่งที่ต้องทำคือความดี  มันตอบแทนให้เห็น ตั้งแต่งานศพของแม่เขาแล้ว เพราะงานศพแม่ของเขายิ่งใหญ่มาก เพราะความดีของพ่อ ทุกคนมาร่วม คนมาเยอะมาก ทุกค่ายเพลง ทุกค่ายตลก 
งานใหญ่มาก แล้วทุกวันนี้ลูกเข้าเรียนได้ เพราะบารมีของเราที่เราสร้างสมมา โรงเรียนสตรีวิทย์ เนี่ยเข้ายาก เราก็ได้นักการเมืองใหญ่ช่วย ทุกวันนี้เดินหน้าไปทางไหน นี่ลุงนุ้ย ทุกคนก็อ้าแขนรับ นี่
คือความดีที่พ่อสร้างไว้ เพราะฉะนั้นคือทุกวันนี้จากเด็กจนโต คืออยู่ที่ไหน สิบนิ้วไหวไว้ สร้างความดีไว้''
สำหรับภรรยาที่หย่าร้างไป ลุงยุ้ยบอกว่า มีติดต่อกลับมาหาบ้างเหมือนกัน แต่ไม่ได้ติดต่อมาเพื่อถามไถ่อาการหรือกำลังใจ หากแต่โทร.มาสอบถามว่ามีค่านมให้ลูกไหม
''เขาก็มีโทร.ครับ แต่ไม่เคยมาถามอาการ แต่โทร.มาถามว่ามีเงินค่านมให้ลูกไหม ลูกจะเรียนพิเศษมีไหม คือบางอย่างเราต้องส่งให้ลูกเดือนละหมื่น แต่ตอนนี้ขึ้นศาลไหม เขาก็คงไม่บังคับผมหรอก 
เพราะหนึ่งผมไม่มีรายได้ ผมป่วยศาลไหนก็คงไม่มาบังคับให้ผมส่งหรอก ผมก็ให้เท่าที่มีบ้าง ไม่มีก็ไม่ให้แค่นั้นครับ'' 
ส่วนรายการเกษตรที่เป็นพิธีกรมานานหลายสิบปี ลุงยุ้ยบอกว่าเวลานี้ได้ปล่อยเวลาของสถานีให้ผู้จัดรายอื่นทำรายการไปแล้ว เพราะสังขารไม่เอื้ออำนวย กับการทำงานให้ได้คุณภาพต่อพี่น้อง
เกษตรกร
''ตอนนี้รายการฟ้าสว่างที่บางเกษตร ลุงนุ้ย ลุยสวยต้องหยุด สภาพแบบนี้เป็นพิธีกรคนก็จะดูไม่ดีให้คนอื่นทำแทน ทางช่องสทท. 11 แต่เราจะกลับไปทำอีกเมื่อพร้อม แล้วทำมาตั้งแต่ปี 41 ได้รางวัล

เมขลา ได้รางวัลรายการเกษตรดีเด่น สองปีซ้อน แล้วก็มาได้เทพทองพระราชทาน จากช่อง 5 ก็ข้ามมาช่องโมเดิร์นไนน์ จากช่องโมเดิร์นไนน์ก็มาช่องสทท. 11 ตี 5 ครึ่งของวันเสาร์เนี่ยยังเป็นเวลา

ของเราอยู่ แต่เราก็ให้คนอื่นทำแล้ว ถ้าเราพร้อมเมื่อไรก็กลับไปทำได้'' งานสังคมยังแอบๆ อยู่ บางทีเราปฏิเสธไม่ได้ งานเล็ก พวกแต่งงาน ทำบุญบ้านใหม่ ซึ่งงานพิธีกรมันเป็รงานไม่หนัก แต่เค้ายัง
ต้องการเรา ต้องการความสนุกสนานเฮฮา 
ตลอดระยะหลายปีที่ผ่านมา ลุงยุ้ยมอบสิ่งดีๆ ให้กับพี่น้องเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่อง สร้างคุณค่ากับแผ่นดิน  ยังมีคุณค่าต่อสังคม ยังทำงานให้สังคมได้อีกมากมาย
ช่วยกันเป็นกำลังใจให้ลุงยุ้ยต่อสู้เอาชนะโรคร้ายได้เยอะๆ นะครับ
//////////
อดีตตลก-พิธีกร"ลุงยุ้ยลุยสวน"อาการทรุดมะเร็งระยะสุดท้าย
อัพเดท : 17-01-2554 เวลา 12:41 น. เปิดดู : 1041 ความคิดเห็น : 2 แสดงความคิดเห็น  

จากกรณีที่ นายพงศ์กรณ์ พิบูลย์วรภัทร หรือที่รู้จักกันในนาม "ลุงยุ้ย ลุยสวน" วัย 53 ปี อดีตศิลปินตลก และพิธีกรรายการ "ฟ้าสว่างที่บางเกษตร"ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ ช่อง 11  กรมประชาสัมพันธ์ 

และรายการ "ลุงยุ้ย ลุยสวน" ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ล้มป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่คอมาตั้งแต่ปี 2552 ต้องเข้ารับการรักษาที่ ศูนย์มหาวชิราลงกรณ (รพ.สำหรับรักษาผู้ป่วย

มะเร็งระยะสุดท้าย) คลอง 10 อ.ธัญยบุรี จ.ปทุมธานี มาอย่างต่อเนื่องนั้น
ความมคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 ม.ค. ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ ศูนย์มหาวชิราลงกรณ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปเยี่ยมอาการของ ลุงยุ้ย ลุยสวน หรือนายพงศ์กรณ์ ที่เข้ารักษาอาการโรคมะเร็งต่อม

น้ำเหลืองมาตั้งแต่ พ.ย.ปีที่ผ่านมา พบว่า "ลุงยุ้ย" มีสภาพร่างกายผ่ายผอมซูบลงผิดหูผิดตา และไม่สามารถพูดคุยได้

โดยนางคินตามณี ศรีเสนาะเมธีกุล หรือมุก ภรรยาที่เฝ้าดูแล กล่าวแทนว่า หมอบอกว่า อาการมะเร็งของลุงยุ้ยขณะนี้อยู่ในขั้นที่ 4 บี คือระยะสุดท้าย แต่ยังโชคดีที่มะเร็งยังไม่กระจายไปยังอวัยวะ

ส่วนอื่น แต่ไม่มีโอกาสหายขาด จากที่ลุงยุ้ยเคยหนัก 75 กิโลกรัม ตอนนี้เหลือแค่ 44 กิโลกรัมเท่านั้น ต้องให้อาหารทางสายยาง
ส่วนการรักษาหมอหมอต้องฉายรังสีให้ 25 ครั้ง เวลานี้ฉายไป 20 ครั้งแล้ว พร้อมกับให้คีโมควบกันไป ตนจึงได้แต่ภาวนาให้เขาอาการดีขึ้น เพราะลุงยุ้ยเป็นห่วงลูกมาก ไม่อยากให้ลูก ๆ ลำบาก เขา

เป็นคนรักครอบครัว ไม่เคยให้ลูกเมียต้องลำบาก ตนถึงรักและศรัทธาเขา ขอยืนยันว่าตนจะไม่ทอดทิ้งสามีไปไหน ก่อนหน้านี้ ชูศรี เชิญยิ้ม มาเยี่ยมพร้อมกับมอบเงินช่วยเหลือ 10,000 บาท ลุงยุ้ย ยัง

พูดคุยได้ พอคนเยี่ยมกลับไปก็พูดไม่ได้แล้ว แต่เขาบอกเสมอว่าจะสู้เต็มร้อยไม่ท้อถอยตอนนี้กำลังใจคือสิ่งสำคัญที่สุด สำหรับลุงยุ้ย.




Create Date : 16 ตุลาคม 2555
Last Update : 16 ตุลาคม 2555 0:13:15 น. 0 comments
Counter : 16721 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สุริยาอัสดง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เปิดโลกด้วยแสงแห่งปัญญา
Thaiflood
Friends' blogs
[Add สุริยาอัสดง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.