อาทิตย์สาดส่อง..ความจริงจักปรากฎทั่วปฐพี!!!
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
8 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
ปฏิวัติ หรือ ยุบสภา ?

Sunday, 30 August 2009 21:18

ผ่านไปอย่างไม่มีอะไร..อย่างที่หลายฝ่าย(โดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคงบางฝ่ายที่มีอยู่หลายฝ่ายภายใต้อำนาจรัฐ)ที่ดูเหมือนจะทราบล่วงหน้าแล้วว่า เอาเข้าจริง ๓๐ ส.ค. ๒๕๕๒ ที่ว่าจะ "แดงเดือด..เลือดพล่านแผ่นดิน"นั้น..มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่เห็น..

และก็ดูเหมือนว่างานนี้..ก็กลายเป็นคะแนน "ติดลบ" อีกครั้งสำหรับบทบาทการทำหน้าที่ "ผู้นำประเทศ" ผู้นำรัฐบาล "นายกฯอภิสิทธิ์" ผู้ที่ตัดสินใจให้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง โดยมอบหมายให้รองนายกฯ "สุเทพ เทือกสุบรรณ" สั่งการให้ ผบ.ตร.ที่เพิ่งกลับมาจากการ "ให้ลาไปทำงานภาคใต้" อย่าง "พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ" รับผิดชอบดูแลการชุมนุมของม็อบเสื้อแดง..

แน่นอน คงไม่ใช่แต่เพียงคำเยาะเย้ยถากถางของ "สามเกลอ" ที่จะ"ขยายภาพ"ความน่าเชื่อถือและภาวะ"ผู้นำ"ของ"นายกอภิสิทธิ์"ได้ดีไปกว่า"ปรากฎการณ์จริง"อันบั่นทอนสภาวะ"ผู้นำ"ดังกล่าว ที่เกิดขึ้นหลายละลอกกับเขา..ที่มีทั้งจากฝีมือของ"คนใน"และ"คนนอก"...ที่ทำให้ ณ เวลานี้ ของ"นายกอภิสิทธิ์"แทบจะไม่กล้าที่จะไว้ใจใครนอกจาก"คนใกล้ชิด"ไม่กี่คนอย่าง"สาธิต วงศ์หนองเตย"รมต.ประจำสำนักนายกฯ หรือ วอล์เปเปอร์ อย่าง "ศิริโชค โสภา" ที่ขอให้สังเกตว่าทั้งสองท่านเวลานี้ก็ "งานเข้า" หลายเรื่องหลายประการ(อาทิ ของ"รมต.สื่อ"ปฏิบัติการจัดการ ผอ.ช่อง ๑๑ การจัดการกับวิทยุชุมชน การสนับสนุนรายการฮาร์ดคอร์ถล่มเสื้อแดงและฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล

ส่วน วอร์เปเปอร์ หลักๆ จะเป็น กรณีการปูดข้อมูลมีการซื้อขายตำแหน่งใน สตช. กรณี"อีจ๋อย" และกรณี มีข่าวการไปพัวพันกับการถูกอ้างฝากตำรวจ ) จนแทบแยกไม่ออกว่าเรื่องที่ตัวเองต้องเข้าไปจัดการหน้างาน ที่มีตัวเองเข้าไปเป็น"ตัวละคร"หลักของเรื่องนั้น ไปๆมาๆทำท่าว่าจะมาเป็นเรื่องเดียวกันกับเรื่องของ"นายกอภิสิทธิ์" ..


โดยที่ก็ยังไม่แน่ชัดว่า"จุดจบ"ของสองคนใกล้ชิด"นายกอภิสิทธิ์"จะเป็นแบบรายของ"กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ"รองนายกฯ ที่เข้ามานำทีมเศรษฐกิจ และพยายามเดินหน้ารักษาผลประโยชน์ให้รัฐบาลด้วยการ"ตรวจสอบ"โครงการของเพื่อน อันไปกระทบกระทั่งกับรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาล จนที่สุดก็ต้องเป็นอันเจอเข้ากับตัวเองด้วยเรื่องโครงการชุมชนพอเพียง ต้อง"ลาออก"จากความเปี่ยวข้องในโครงการเพื่อแสดงสปิริตพร้อมน้องชาย

ที่น่าสนใจ สนสภาวะการกัดเซาะทำลาย"นายกอภิสิทธิ์"ในทุกวินาที แบบทุกเมื่อเชื่อวัน ก็คือร่องรอยมากมายจากฝ่ายต่างๆที่พยายามกดดันเขา โดยเฉพาะ"ร่องรอยจากภายใน"แห่งรัฐบาลนี้เอง ที่อย่าลืมว่า ภายใต้ปีกของรัฐบาล"นายกอภิสิทธิ์"นั้นมี"ลมใต้ปีก"ที่ผสมผสานระหว่างกลุ่มอำนาจทางการเมืองหลายฝ่าย ที่หากแยกแยะเป็นสี โดยยังไม่นับรวม"อำนาจเหนืออำนาจ" ก็ต้องบอกว่ามีทั้ง"เหลือง","เขียว"และน้ำเงิน

และโดยปัจจัยเหตุแห่งการเคลื่อนไหวของ"สีแดง"และ"ทักษิณ"ที่เป็น"ศัตรูหมายเลข๑"มาตลอดนั้น ดูเหมือนว่า เชิงยุทธ์ในท่วงทำนอง"เอ็งมาข้ามุดเอ็งหยุดข้าแหย่"ตั้งแต่ประเด็นการชุมนุมใหญ่ยื่นถวายฎีกา(๑๗ ส.ค.) การชุมนุมวันเกิดป๋าเปรม(๒๖ ส.ค.) ไล่เรียงมาจนถึงการชุมนุม"ทวงถาม"และ"ขับไล่รัฐบาล"(๓๐ส.ค.) จะเป็นที่ทราบกันดีอยู่ในหน่วยงานความมั่นคงของรัฐบาล

ทว่า"การยุทธ์"อย่างนี้คงถูกอ่านขาดและมีการ"จัดการ"ไปได้แบบเหมาะสมของบรรดา"เสธฯ"ที่เชี่ยวกรำศึกสัปยุทธ์การเมือง-มวลชน ทั้งหลาย หากท่วงทำนองการเคลื่อนไหวเหล่านี้ไม่ได้ถูกมองแบบ"แฝงเร้น"ด้วยการนำไป"ใช้เป็นประโยชน์"จากฝ่ายเดียวกันเองภายในรัฐบาล กับการสบโอกาสปะเหมาะในการนำมาใช้เป็น"เงื่อนไข"เพื่อการต่อรอง หรือมาใช้เพื่อการส่ง"สัญญาณ"การ"รุก"กันเองภายใน...

ที่ถึงวันนี้แต่ละคนแต่ละฝ่ายยังคงเพลิดเพลินไปกับการ"แบ่งสรร"ผลประโยชน์ต่างๆและบางท่านก็เผลอแสดงอาการออกมาในหลายๆหนที่ไม่ได้ดั่งใจ กับการบริหารจัดการภายใต้"นายกอภิสิทธิ์"แห่ง ปชป.ที่เป็นแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล (ดังร่องรอยที่เกิดขึ้นตรงๆ(โดยเฉพาะจากการตัดสินใจของ"ชัย ชิดชอบ"ตั้งแต่ การเลื่อนประชุมสภา(๒๑ส.ค.)ที่ทำให้เกือบบรรจุวาระไม่ทัน-ไปจนถึงการจงใจเปรยออกมาดังๆผ่านสื่อมวลชน ว่าจะมีการยุบสภาหลังงบประมาณผ่าน)ผ่านการต่อรองทั้งก่อนและระหว่าง การประชุม วาระ ๒ และ ๓ ของ พรบ.งบประมาณ ๒๕๕๓ ที่ผ่านไปอย่าง มราธอนหลายสิบชั่วโมง ถึงขนาด"นายกอภิสิทธิ์"ไม่ยอมนอน ๒๐ ชั่วโมงเพราะไม่ไว้ใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีกจากฝีมือคนกันเอง..)

"การยุทธ์"ที่ดำเนินของ"คนเสื้อแดง"แบบนี้นี่เอง ที่ทำให้เกิด"ช่องว่าง"แห่งการนำไปสู่ อาการที่เรียกได้ว่า"ผลประโยชน์ร่วม"ระหว่างฝ่ายอำนาจบางขั้วในรัฐบาล กับ ฝ่ายเสื้อแดง ดังร่องรอยการเจรจากับ"เสื้อแดง"ที่เกิดขึ้นโดย"หน้าที่"ของ"สุเทพ เทือกสุบรรณ"กับ"พล.ต.อ.พัชรวาท" ที่ไม่มีใครแม้กระทั่ง"นายกอภิสิทธิ์"จะทราบได้ว่า"เงื่อนไข"ของการเจรจานั้น มีอะไรที่ลึกลับซับซ้อนทำนองลับลวงพรางไปกว่าที่ทั้ง ๒ นำมาบอกกล่าวรายงานหรือไม่(เพราะนายกฯเองนอกจาก"วอล์เปเปอร์"ศิริโชค"และ"สาธิต" ก็ไม่ไว้ใจใครโดยเฉพาะ"สุเทพ"อยู่แล้ว ยิ่ง"พล.ต.อ.พัชรวาท"ยิ่งไม่ต้องพูดถึง)

และโดยผลที่ออกมา อันทำให้เกิดอาการ"เซอร์ไพร์ซ"ของ"นายกอภิสิทธิ์"ที่คนเสื้อแดงประกาศเลื่อนการชุมนุม วันที่ ๓๐ส.ค.นี้ ไปเป็นวันที่ ๕ ก.ย. อ้างรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร ในพื้นที่เขตดุสิต ระหว่างวันที่ ๒๙ ส.ค. - ๑ ก.ย. สร้างสถานการณ์เกินจริง ว่า รู้สึกแปลกใจ เพราะรัฐบาลประกาศใช้กฎหมายความมั่นคง เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจอาวุธ ป้องกันเหตุรุนแรง เพราะคนมาชุมนุมมาก จะได้ไม่มีอะไรแทรกซ้อน ไม่ได้ห้ามการชุมนุม “เมื่อวานนี้ (๒๘ ส.ค.) ผู้เกี่ยวข้องได้คุยกับคนเสื้อแดง หารือได้ระดับหนึ่งว่า การชุมนุมจะใช้เส้นทางอย่างไรบ้าง อยากให้การชุมนุมเรียบร้อย แต่ถ้าเลื่อนการชุมนุมออกไป ก็ไม่เป็นอะไร

แต่การชุมนุมครั้งต่อๆ ไป ต้องไม่ทำให้เกิดความเดือดร้อน หรือวุ่นวาย” (นายกฯสัมภาษณ์สื่อ ๒๙ส.ค.)ที่น่าสนใจคืออาการ "เซอร์ไพร์ซ" ของ "นายกอภิสิทธิ์" นั้นไม่มีใครบอกว่าหมายถึงประหลาดใจกับประเด็น การตัดสินใจ"เลื่อนชุมนุม"ของ"คนเสื้อแดง"หรือ ประหลาดใจใน"ข้อมูลใหม่"ที่น่าหวาดระแวง อันหมายไปถึง"สาเหตุ"ว่า"ทำไม"เสื้อแดงถึงเลื่อนการชุมนุมใหญ่ ต่างหาก เพราะ "สาเหตุ"และ"ทำไม"นี้ มีคำตอบ จาก ภาพการที่มีรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่รับผิดชอบงานนี้ไปเจรจากับแกนนำม็อบแล้วได้ข้อสรุปนี้ และ รัฐมนตรีที่ว่าก็คือ"สุเทพ"ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับสูงก็คือ "พล.ต.อ.พัชรวาท" ดังการตอบคำถามของ"นายกอภิสิทธิ์"ต่อข่าวแกนนำคนเสื้อแดงเลื่อนการชุมนุม เป็นเพราะ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ไปเจรจา ว่า(๒๙ ส.ค.) "ไม่ทราบ เพราะไม่ได้รับรายงานเช่นนั้น" และว่า "ที่ได้รับรายงานคือ จะใช้เส้นทางใด จึงจะเปิดให้คนเข้าไปในทำงานในทำเนียบฯ ได้ ไม่ได้พูดเรื่องการเลื่อนการชุมนุม"

ชัดๆจะๆว่า ข้อมูลที่"นายกอภิสิทธิ์"ได้รับนั้นเพียงแค่การเตรียมรับมือกับ"เสื้อแดง"ดังที่ก่อนหน้าไม่กี่ชั่วโมง"วีระ มุกสิกพงศ์"แกนนำเสื้อแดง หนึ่งใน"สามเกลอ"ยังแสดงอาการกระเหี้ยนกระหือรือว่าจะยกพลชุมนุมใหญ่แน่นอนในวันที่ ๓๐ ส.ค. และด้วย"ข้อมูล"ที่มาจากฝ่ายความมั่นคงดังกล่าวนี่เอง ที่ทำให้"นายกอภิสิทธิ์"ยังมีกำหนดที่จะสแตนบายด์ดูสถานการณ์ที่ทำเนียบในเช้าวันที่ ๓๐ ส.ค.
ดังนั้นการยุทธ์ของ"เสื้อแดง"โดยการสนับสนุนที่สอดรับในช่องโหว่"ผลประโยชน์ร่วม"กับ"คนในรัฐบาล"จึงยังคงดำเนินต่อไป ดังที่"แกนนำสามเกลอ"ว่าไว้..ภายใต้ร่องรอยและ"สัญญาณ"มากมายที่"นายกอภิสิทธิ์"เองก็ควรยอมรับว่ายากที่จะไว้ใจใครหน้าไหนเวลานี้

แต่นั่นส่วนหนึ่ง ก็น่าจะทำให้"นายกอภิสิทธิ์"พอรู้แล้วว่านาทีนี้"เสื้อแดง"และ"ทักษิณ"อาจเป็นประเด็นที่น่าจะลองลงไปจาก"ความขัดแย้งภายใน"ที่เกิดขึ้นระหว่างขั้วอำนาจต่างๆในรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น"สีเขียว""สีฟ้า""สีเหลือง"หรือ"สีน้ำเงิน"

โดยเฉพาะต้องไม่ลืมว่า ในระหว่างกำหนดการเคลื่อนไหวของ "เสื้อแดง" หลายละลอกในรอบ ๒ เดือนที่ผ่านมานี้ ที่รับรู้กันแล้วว่าถึงที่สุดแล้ว "เป้าหมาย" ที่แท้จริงจะนำไปสู่ การสร้าง "เงื่อนไข" ของบางขั้วอำนาจภายใน"อำนาจรัฐ"หาใช่ การสร้างเงื่อนไขที่มาจาก"เสื้อแดง"หรือ"ทักษิณ"ดังที่ปรากฎในฉากหน้าของข่าวกระแสใน"ทางเปิด" ทว่า ใน"ทางปิด"กับร่องรอยและสัญญาณที่เกิดขึ้นมากมาย..ที่แสดงถึงนัยยะแห่ง"ปฏิปักษ์"อันโฟกัสเฉพาะ"นายก"และ"ผู้ใกล้ชิด"ที่พร้อมโรมรันด้วยความขัดข้องจิตของบางขั้วอำนาจในรัฐบาล ..(โดยเฉพาะกรณีล่าสุดกับ คลิปลับ ที่บันทึกเสียง ที่อ้างว่าเป็นเสียงเหมือนนายกฯสั่งการสลายชุมนุมของเสื้อแดงเดือนเม.ย.๒๕๕๒ ที่ไปๆมาๆต้นตออาจมาจากภายในของรัฐบาลเอง)

ทั้งนี้ทั้งนั้นด้วยเหตุแห่งความพยายามแสดงบทบาทของ"นายกฯอภิสิทธิ์"กับ"ข้อมูล"ที่เขาได้รับ ประกอบกับมีคำร้องขอมาจาก"มวลชน"เสื้อเหลืองที่สนับสนุนเขาอย่าง "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" ที่ยังคงคบหา (โดยเมื่อเร็วๆนี้นายกอภิสิทธิ์ พร้อม รมต.สาธิต ยังไปงานเปิดตัวทีวีข่าวภาษาอังกฤษของค่า ASTV-ซึ่งภาพที่ปรากฎทำให้เสื้อแดงเอามาต่อยอดโจมตีนายกฯถึงความสัมพันธ์กับASTVที่ทำให้เขาต้องกลายเป็นผู้นำสองมาตรฐาน)และ ชูบทบาทของเขาแกมยุเล็กๆ โดยพยายามกัน"สุเทพ"ออกไปจากสถานะ"กุนซือ"ที่ใกล้ชิด หรือสถานะ"ผู้เชิดหุ่น"...ที่ทำให้หลายต่อหลายครั้งหลายข้อมูลที่ได้รับจากค่ายพันธมิตร ส่งตรงบ้าง(ดังมีรายงานวงในว่านายกฯมักเช็คข่าวเคลื่อนไหวต่างๆจาก"สุริยะใส กตะศิลา") ผ่านมาทางผู้ใกล้ชิดบ้าง บทสรุปตอนท้าย "นายกอภิสิทธิ์"มักต้องเผชิญกับ"เอฟเฟค"ที่ส่งผลต่อภาวะ"ผู้นำ"ของเขาโดยลำพัง

ไม่ว่าจะเป็นเคตใหญ่อย่างกรณี"พักร้อน"ของ"พล.ต.อ.พัชรวาท"ที่หะแรก มีข้อมูลให้นายกฯว่า ผบ.ตร.ท่านนี้เป็น"ตอ"แต่ผลที่สุด ก็ต้องบอกว่า"ไม่ใช่"และผลที่สุด ก็กลายเป็นเรื่องของการ"กัน"ให้"พล.ต.อ.พัชรวาท"ออกไปจาก"วง"ในการพิจารณาโผแต่งตั้งตำรวจ ซึ่งก็หมายความว่า"พล.ต.อ.พัชรวาท"เอาเข้าจริงก็คือ"ตอ"ในการขวางการเข้าไปจัดการโผตำรวจของนายกฯ หรือจะเป็นร้อนๆหนักๆ กับการหักหน้ากลางวงประชุม กตช.ในการเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ ที่ที่ประชุม ไม่เอาด้วยกับความเห็นของนายกฯที่เสนอชื่อ"พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ" จเรตำรวจแห่งชาติ(จตช.)(๒๐ส.ค.) ที่ว่ากันว่า ในวันนั้น มีการเคลื่อนไหวของทหารป่าหวาย ๑ กองพันในกรุงเทพฯ อันตอบกับ"ข่าวลือ"ก่อนหน้านั้น ซึ่งกลายเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้"นายกฯอภิสิทธิ์"เก็บตัวอย่างเงียบเชียบไม่ออกงานในที่สาธารณะ ๒ งานในช่วงค่ำวันเดียวกัน

ซึ่งร่องรอยเหล่านี้นี่เอง ที่มีผู้นำไปเชื่อมโยงต่อกับร่องรอยของการเลื่อนคดีสำคัญทางการเมือง ๒-๓ คดี ที่คดีหนึ่งเกี่ยวกับคนในพรรคร่วมรัฐบาล คดีหนึ่งเกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ และคดีหนึ่งเกี่ยวกับ"เนวิน ชิดชอบ"ออกไปหลายละลอก และประเด็นเหล่านี้ถูกเชื่อมเข้ากับ"ข้อต่อรอง"ของพรรคภูมิใจไทย ที่ จู่ๆก็มีการ ยื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องในการชุมนุมทางการเมืองของประชาชนระหว่างวันที่ ๒๖ พฤษภาคม-๓ ธันวาคม ๒๕๕๑ และระหว่างวันที่ ๒๖ มีนาคม-๑๔ เมษายน ๒๕๕๒ แต่จะไม่ครอบคลุมนักการเมืองที่ถูกยุบพรรค รวมทั้งการหมิ่นสถาบันและความผิดต่อความมั่นคง โดยอ้างว่าเพื่อยุติความแตกแยก ทั้งที่ก่อหน้าไม่กี่วัน รัฐมนตรีพวกเขาเพิ่งจะเป็นตัวตั้งตัวตี ในการล่ารายชื่อคัดค้านการถวายฎีกาของคนเสื้อแดง และยังประกาศจะต่อต้านการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงทุกรูปแบบ

ขณะเดียวกันก็มีผู้ต่อเชื่อมอาการ "ไม่พอใจ" ของ "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" รมว.กลาโหม จากการเป็นฝ่ายถูกกระทำจาก"อำนาจรัฐ"ที่หวาดระแวงเขาผ่าน "น้องชาย" ของเขา "พล.ต.อ.พัชรวาท"หลายครั้งหลายหน กระทั่งที่หนักสุดๆก็คือข่าว การที่รัฐบาลเตรียมเปลี่ยนตัว รมว.กลาโหม จาก"พล.อ.ประวิตร" เป็น "พล.อ.สพรั่ง กัลญานมิตร" ซึ่งข่าวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เกิดสภาพแรงกระเพื่อมในกองทัพจากโผการแต่งตั้งโยกย้าย ที่ได้รับอิทธิพลมาจากโผตำรวจ

โดยเฉพาะข่าวการเปลี่ยนโผของ "พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา" ผบ.ทบ.หลังจากที่เขาเผชิญกับแรงกดดันมาจากค่ายสีเหลืองที่ ยุให้"นายกฯอภิสิทธิ์"จัดการกับเขาในฐานะที่เพิกเฉยต่อการออกมายื่นถวายฎีกาแดง(จนมีข่าวว่าจะมีการย้ายเขาไปเป็น ผบ.สส.) ที่งานนี้ออดทำให้เขารู้สึกระแวง"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา"ทหารเสือราชินี"น้องเลิฟ"ของตัวเองไม่ได้

เพราะทางหนึ่ง"พล.อ.ประยุทธ์"ถูกวางตัวเป็นว่าที่"ผบ.ทบ."คนต่อไปจาก"พล.อ.อนุพงษ์"และหลายฝ่ายก็วิ่งเข้าหา"พล.อ.ประยุทธ์"โดยเฉพาะ"เสื้อเหลือง"พันธมิตรที่สนิทสนมอย่างมากกับแกนนำพันธมิตร รวมถึง"นายกอภิสิทธิ์"เพราะทางหนึ่ง"พล.อ.ประยุทธ์"เป็น เสนาธิการทหารบก ที่รับรู้ทุกเรื่องและทำงานมากมาย พอๆกับ ผบ.ทบ.เพราะเป็นเหมือนเลขาฯที่เข้าถึงทุกข้อมูลทั้งกำลังพล งบประมาณ และข่าวสารทหารหรือข่าวกรองความมั่นคงในฐานะเลขา กอ.รมน.โดยตำแหน่ง เรียกได้ว่ามี"อำนาจ"อย่างมากในกองทัพ..

ด้วยบทบาทและความสัมพันธ์ และประกอบกับ ด้วยเพราะ "งานเข้า" ตัว "พล.อ.อนุพงษ์" ดังกล่าว ทำให้ จากโผทหารที่ "พล.อ.ประยุทธ์" เป็น เสนาธิการทหารบก ตามเดิมรอปี ๒๕๕๓ "พล.อ.อนุพงษ์" เกษียณแล้วเป็น ผบ.ทบ.ต่อ ก็กลับกลายเป็นว่า โผเปลี่ยน ให้ "พล.อ.ประยุทธ์" เป็น รอง ผบ.ทบ. ท่ามกลางกระแสข่าวความไม่พอใจของ "พล.อ.ประยุทธ์" และหลายฝ่ายที่สนับสนุน เพราะอาจเป็น "สัญญาณ" ที่กระทบไปถึง "อนาคต" ของ "พล.อ.ประยุทธ์" และอนาคตของเหล่าบรรดาที่ถือหางเขา

นี่เองจึงเป็นความต่อเนื่องเชื่อมโยงมาถึงข่าว "การปฏิวัติ" ที่ดังแปร่งๆขึ้นในห้วงเวลาก่อนหน้านี้(ก่อนและหลังฎีกาแดง)พร้อมๆกับการเคลื่อนไหวของทหารแบบผิดปกติ..และหลัง ๑๗ ส.ค.หลังจากไม่มี "น้ำเงิน" ไปปะทะกับ "แดง" ที่สนามหลวงตามที่ใครคาดการณ์ว่าจะมีความวุ่นวายและทหารจะออกมา ก็ถูกนำมาเชื่อมโยงกับ กำหนดการแดง ๓๐ ส.ค. ว่าจะมีการปะทะกันอย่างรุนแรง ที่ทำให้ "นายกฯอภิสิทธิ์" เชื่อใน "การข่าว" นั้น และให้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่ เขตดุสิต กรุงเทพฯ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่า โดยน้ำหนักเหตุผลแล้ว สถานการณ์วันที่ ๑๗ หรือ ๒๕ ส.ค.กลับดูจะมี "สัญญาน" ที่รุนแรงมากและบานปลายในลักษณะจาบจ้วงลามปามกว่าและสมเหตุสมผลที่จะใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง มากกว่าวันที่ ๓๐ ส.ค.

ร่องรอยแบบนี้เองที่ทำให้กองทัพ และฝ่ายความมั่นคงอยู่ในสภาพ "หวาดระแวง" กันและกัน ดังนั้น การที่ "ข้อมูลใหม่" ที่ "นายกฯอภิสิทธิ์" ได้รับทั้งเรื่อง ทหาร-ตำรวจ หรือแม้กระทั่ง "การข่าว" เกี่ยวกับม็อบแดง จึงมี "ปัญหา" ที่สำคัญคือด้วยสภาพ "จิตตก" และด้วยสภาพของ "ผลประโยชน์-อำนาจ" การเงิน ยศ ตำแหน่ง ไม่เข้าใครออกใครทั้งในพรรคร่วมรัฐบาล "ภูมิใจไทย" ทั้งกลุ่มอำนาจใหม่ "สายสีเขียว-สีกากี" กรณี "การล้วงลูกโผตำรวจ" และ ปมขัดแย้ง ๕ เสือ ทบ.ในกองทัพ ที่เกิดจาก "พันธมิตร" และการเข้าจัดการกับ "ข้าราชการ" ส่วนต่างๆ ของ "คนใกล้ชิดนายกฯ" ทำให้ส่งผลต่อ "เสถียรภาพ" ของรัฐบาลอยู่ในสภาพง่อนแง่นไปโดยอัตโนมัติ

น่าสนใจและควรติดตามตอนต่อไป ว่าการขยายต่อของ "ข้อมูลใหม่" ในสภาพจิตตก เมาหมัด-เท้า ที่ทำร้ายตัวเอง(ขั้วอำนาจภายในรัฐบาล) ของ "นายกฯอภิสิทธิ์" ข้างต้น กับ ข่าวร่ำลือเกี่ยวกับการพยายามเคลื่อนไหวของ "เนวิน ชิดชอบ" ที่พอจะมองทางการเมืองในอนาคตออก และเลือกที่จะแทงหวยใหม่ ด้วยการส่ง "สัญญาณปรองดอง" ไปถึง "ทักษิณ" อีกครั้ง (โดยยังไม่มีผลว่าโอเคกันหรือไม่) โดยมีเป้าหมายการจับมือกันหลังการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ และร่องรอยแรงกระเพื่อมในกองทัพกับข่าวปฏิวัติ จะทำให้ข้อสรุปทั้งคดีที่ค้างคาระหว่างกันหลายเรื่องในขั้วอำนาจรัฐบาลจะ จบแบบหักมุมหรือไม่อย่างไรในที่สุด !

โดย...อาทิตย์





Create Date : 08 ตุลาคม 2552
Last Update : 8 ตุลาคม 2552 21:32:51 น. 0 comments
Counter : 403 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สุริยาอัสดง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เปิดโลกด้วยแสงแห่งปัญญา
Thaiflood
Friends' blogs
[Add สุริยาอัสดง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.