อาทิตย์สาดส่อง..ความจริงจักปรากฎทั่วปฐพี!!!
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
20 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
พล.ต.อ.ประมาณ ถึงแก่อนิจกรรม วัย97ปี


20 สค. 2553 18:09 น.



นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าหน่วยไอซียู รพ.วิชัยยุทธ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 17.00 น.(วันที่ 20 ส.ค.) พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร อดีตผู้ร่วมก่อตั้งพรรคชาติไทย และอดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย เสียชีวิตด้วยภาวะติดเชื้อ มีภาวะไตวาย ทำให้ระบบการหายใจล้มเหลว ถึงแก่อนิจกรรมลงอย่างสงบ ด้วยอายุ 97 ปี ทั้งนี้ พล.ต.อ.ประมาณ ได้เข้ารับการรักษาตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีภาวะโรคประจำตัวเรื้อรังหลายโรคด้วยกัน ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ให้การรักษาอย่างเต็มที่แล้ว

นายปองพล อดิเรกสารเผยINN ว่าเมื่อช่วง 4 โมงเย็น ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้ถึงแก่อนิจกรรม ด้วยอาการไตวาย และหัวใจล้มเหลว รวมทั้งมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดแล้ว ที่ ร.พ.วิชัยยุทธ ซึ่งจะนำศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเบญจมบพิตร ในวันพรุ่งนี้(21ส.ค.53)

พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร เกิดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2456 ที่จังหวัดสระบุรี เป็นบุตรของนายเน้ย และนางจี้ อดิเรกสาร จบการศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รับราชการเป็นนายทหารปืนใหญ่ กองทัพบก ลพบุรี

เคยเป็นสมาชิกพรรคเสรีมนังคศิลา เมื่อพ.ศ. 2500 เป็นผู้ก่อตั้งพรรคชาติไทยร่วมกับพลตรีศิริ สิริโยธิน และพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เมื่อปี 2517 เคยดำรงตำแหน่งผุ้อำนวยการองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ระหว่าง พ.ศ.2494-2500 ในคณะรัฐมนตรีซึ่งมีจอมพลแปลก พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่งจากการรัฐประหาร 16 กันยายน พ.ศ. 2500 นำโดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์

พลตรีประมาณ ได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศเป็น พลตำรวจเอก เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2531 ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นอกจากนี้เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ชีวิตครอบครัวสมรสกับท่านผู้หญิงเจริญ อดิเรกสาร (ชุณหะวัณ) พี่สาวของพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ มีบุตรคือ นายปองพล อดิเรกสาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้า เมื่อวานนี้(19ส.ค.)นายเดช บุญหลง อดีตรองนายกฯ และ รมต.กระทรวงแรงงานได้ อดีตแกนนำพรรคชาติไทยอีกท่านหนึ่ง เพิ่งเสียชีวิตด้วยโรคเส้นโลหิตสมองตีบตันอย่างสงบด้วยวัย 80 ปี โดยในวันนี้(20 ส.ค.)จะมีพิธีอาบน้ำศพที่วัดเทพศิรินทราวาส ด้วย.
--------
เรื่องประกอบ
แซยิดใหญ่ พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร และ คู่ชีวิต เผยเคล็ดลับดูแลสุขภาพ..24ม.ค.53

นับเป็นคู่ชีวิตที่มีอายุยืนยาวมากที่สุดคู่หนึ่งของเมืองไทย "พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร" เพิ่งจัดงานฉลองแซยิดใหญ่ อายุครบ 8 รอบ 96 ปี พร้อมกับ "ท่านผู้หญิงเจริญ อดิเรกสาร" อายุครบ 92 ปี ณ ห้องแอทธินี คริสตัลฮอลล์ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน เมื่อเที่ยงวันอาทิตย์ (24 ม.ค.) ท่ามกลางความยินดีของแขกเหรื่อผู้มีชื่อเสียงจากหลากหลายวงการ ทั้งนักการเมือง นักธุรกิจ ตลอดจนลูกหลานและญาติมิตร ต่างตบเท้ากันมาร่วมอวยพรวันเกิดอย่างอบอุ่นล้นหลาม

ในฐานะเจ้าของวันเกิด "พล.ต.อ.ประมาณ" ลุกขึ้นกล่าวแสดงความรู้สึก ก่อนจะเป่าเค้กวันเกิดโชว์ความฟิตปั๋งเกินร้อยว่า..."วันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขมากเป็นพิเศษ ด้วยเหตุผลหลายประการ ประการแรกคือ ผมได้ผ่านชีวิตมาแล้วถึง 96 ปี (เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2552) และท่านผู้หญิงเจริญ คู่ชีวิตของผมก็มี อายุ 92 ปี (เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2553) ซึ่งเราสองคนน่าจะเป็นคู่ที่มีอายุยืนมากที่สุดคู่หนึ่งในขณะนี้ และได้ใช้ชีวิตร่วมกันมายาวนานอย่างมีความสุขถึง 69 ปี ประการที่สอง ผมกับท่านผู้หญิงยังมีสุขภาพที่แข็งแรง สำหรับคนอายุ 96 ปี และ 92 ปี สามารถมาร่วมงานในวันนี้ได้ และยังเป็นบุญของเราทั้ง 2 คน ที่ไม่มีโรคประจำตัว หรือโรคร้ายแรง ซึ่งจะก่อภาระให้กับลูกๆหลานๆ

ประการที่สาม ผมมีครอบครัวที่ดีและอบอุ่น โดยมีลูก 3 คน หลาน 8 คน และเหลนขณะนี้ 10 คน กำลังจะมีคนที่ 11 ในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ประการที่สี่ ผมมีญาติมิตรเพื่อนฝูงมากมาย ที่มีจิตใจเอื้ออาทรต่อกัน หลายคนก็ไปมาหาสู่กันเป็นประจำ หลายคนก็ไม่ได้พบกันมาเป็นเวลานาน เนื่องจากต่างคนต่างมีภารกิจของตน แต่วันนี้ท่านเหล่านั้นได้สละเวลามาร่วมงานของผมกับท่านผู้หญิง ผมดีใจจริงๆที่ได้พบปะพวกเรากันอีก ทำให้นึกถึงวันเก่าๆ ที่หลายท่านเคยร่วมงานกันมา และหวังอย่างยิ่งว่า ผมคงมีบุญ ที่จะได้พบท่านทั้งหลายในอีก 4 ปี ข้างหน้า เมื่อผมมีอายุครบ 100 ปี และท่านผู้หญิงมีอายุครบ 8 รอบ หรือ 96 ปี"

ในฐานะลูกชายคนโตที่เป็นโต้โผใหญ่จัดงานแซยิดครั้งนี้ "คุณปองพล อดิเรกสาร" พูดถึงความเป็นแบบอย่างอันดีงามของคุณพ่อว่า ท่านทำคุณประโยชน์เพื่อประเทศชาติมากมาย ท่านเป็นแบบอย่างของนักการเมืองที่ดี ที่ควรค่าแก่การเอาเยี่ยงอย่าง เป็นนักการเมืองที่เสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง เป็นคนโอบอ้อมอารี มีเมตตาเผื่อแผ่ ขยันขันแข็ง คำสอนที่พวกเราจำได้ขึ้นใจก็คือ ท่านมักสอนเรื่องการทำความดี ซื่อสัตย์สุจริตและความสามัคคี ท่านมักสอนลูกๆเสมอว่า คนเรามีทั้งข้อดีและข้อเสีย เราควรมองคนในแง่ดีและพูดถึงแต่ด้านดีของคนอื่น เพื่อให้คนฟังเกิดความสบายใจและมีแต่มิตรปราศจากศัตรู

เมื่อถามถึงเคล็ดลับการดูแลสุขภาพให้อายุยืนยาวของ "พล.ต.อ.ประมาณ" ได้รับคำตอบว่า คุณพ่อไม่ดื่มเหล้าไม่สูบบุหรี่เลย ท่านดูแลสุขภาพดีมาก และยังมีสมองเฉียบคมมากๆ เพราะท่านมักใช้เวลาว่างในการเขียนหนังสือ สมัยก่อนท่านชอบเล่นกอล์ฟและเดินเร็ว แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมาเดินแกว่งแขนแทน และคอยระวังเรื่องอาหารการกินทุกอย่าง ท่านจะทานกล้วยน้ำว้าเป็นประจำทุกวัน เพราะดีต่อสุขภาพ ช่วยลดคอเลสเตอรอล ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายและทำให้นอนหลับสบาย.
--------
วันที่ 27 มกราคม 2553 12:4396 ปีพล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร
โดย : ธันยวัฒน์ เชื้อช้าง

ผมและท่านผู้หญิงมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวหรือโรคร้ายแรงอะไร ทำให้ไม่เป็นภาระแก่ลูกหลาน

เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา มีงานการแสดงมุทิตาจิต ฉลองครบรอบ 96 ปี พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร และครบรอบ 92 ปีของท่านผู้หญิงเจริญ อดิเรกสาร ณ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน โดยภายในงานมีแขกแวดวงนักการเมืองและนักธุรกิจมากมาย อาทิ จาตุรนต์ ฉายแสง พันเอกณรงค์ กิตติขจร และเสนาะ เทียนทอง ฯลฯ

บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างชื่นมื่น ประกอบกับการแสดงมากมาย เช่น การแสดงรำอวยพรและการรำบายศรีสู่ขวัญแบบอีสานจากกรมศิลปากร การแสดงการร้องเพลงจากคณะลูกเสือขั้น BTC รุ่นพิเศษ ที่ช่วยกันขับร้องในเพลงสดุดีลูกเสือ วันนี้ยินดี(ซึ่งเป็นเพลงที่ท่านประมาณชอบมาก)และเพลงสระบุรี ก่อนจะปิดท้ายด้วยกลอนมุทิตาจิตจากเหล่าคณะลูกเสือ BTC รุ่นพิเศษ รวมทั้งฉายวีดิทัศน์ชุด “กว่า 8 ทศวรรษของพล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร”

พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร เผยความรู้สึกว่า "วันนี้เป็นวันที่มีความสุขมากเป็นพิเศษด้วยเหตุผลหลายประการ ระการแรกคือ ผ่านชีวิตมาแล้วถึง 96 ปีและท่านผู้หญิงเจริญ คู่ชีวิตของผมก็มีอายุ 92 ปี ซึ่งเราทั้งสองน่าจะเป็นคู่ชีวิตที่มีอายุยืนมากคู่หนึ่งในขณะนี้ และได้ใช้ชีวิตร่วมกันมายาวนานอย่างมีความสุขถึง 69 ปี ”

“ประการที่ 2 คือผมและท่านผู้หญิงมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวหรือโรคร้ายแรงอะไร ทำให้ไม่เป็นภาระแก่ลูกหลาน สามารถมาร่วมงานนี้ได้ แม้จะมีอายุขนาดนี้ก็ตาม ประการต่อมาผมมีครอบครัวที่ดีและอบอุ่น ตอนนี้มีลูก 3 คน หลาน 8 คนและเหลนอีก 10 คนและกำลังจะมีคนที่ 11 ในเดือนมีนาคมนี้

ประการสุดท้าย ผมมีญาติมิตรเพื่อนฝูงมากมาย ที่มีจิตใจเอื้ออาทรต่อกัน หลายๆ คนก็ไปมาหาสู่กันเป็นประจำ และหลายคนไม่ได้พบกันนาน เพราะมีภารกิจของตน แต่วันนี้ท่านเหล่านั้นได้สละเวลา มาร่วมงานผมกับท่านผู้หญิง ผมดีใจจริงๆ ที่เราได้กลับมาพบปะกันอีก ทำให้นึกถึงวันเก่าๆ ที่หลายท่านเคยร่วมงานกันมา ”

พล.ต.อ.ประมาณ ยังได้กล่าวขอบคุณ ท่านองคมนตรีสิทธิ เศวตศิลา ,คุณเจริญและคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานในวันนั้น

"ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้พบกับท่านในอีก 4 ปีข้างหน้า เมื่อผมอายุครบ 100 ปีและท่านผู้หญิงครบ 8 ครบ หรือ 96 ปี"

นอกจากนี้ ปองพล อดิเรกสาร ตัวแทนนำญาติพี่น้องตระกูลอดิเรกสาร กล่าวว่า “รู้สึกดีใจมากที่มีงานนี้ ปัญหาใหญ่ของงานนี้คงเป็นเรื่องของแขกรับเชิญ โดยเฉพาะคนที่ท่านประมาณเรียกว่า 'พี่' ไม่เหลือเลยสักราย

ฯพณฯองคมนตรีพลอากาศเอกเอกสิทธิ เศวตศิลา ได้เล่าประวัติคร่าวๆ ของท่านประมาณ อดิเรกสาร ว่าท่านเป็นคนเดียวในประเทศไทยที่มียศตำรวจเป็นพลตำรวจเอก แล้วยังได้รับโปรดเกล้าฯให้ได้ยศทางทหารเป็นพลเอกเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว

ส่วนการทำงานในส่วนราชการที่สำคัญๆ ท่านเคยรับราชการเป็น นายทหารปืนใหญ่ กองทัพบก ลพบุรี , รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พ.ศ.2500 , รองนายกรัฐมนตรี พ.ศ.2518 และสมัยปี พ.ศ.2523-2526 , รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ.2519 , รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พ.ศ.2531, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พ.ศ.2533-2534 ฯลฯ

"ท่านประมาณเป็นคนที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอและกินผลไม้เป็นประจำ "

เคล็ดลับที่ท่านประมาณสามารถใช้ชีวิตคู่กับท่านผู้หญิงเจริญ อดิเรกสาร ยาวนานถึง 69 ปี นอกจากการดูแลรักษาสุขภาพที่ดีของท่านทั้ง 2 แล้ว ส่วนหนึ่งอาจมาจากคติพจน์บทๆ หนึ่งที่ท่านเคยกล่าวไว้ ซึ่งหลายคนคงเคยได้ยินมาบ้างแล้ว คือ

"รักเมียต้องอดทน ต้องการเป็นคนเคารพเมีย
รักเมียต้องรักเดียว อย่าได้เที่ยวไปรักใคร
รักเมียต้องทำใจ ไม่มีใครใหญ่กว่าเมีย"

พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร
24ม.ค.53

-----------------------------
ไอเอ็นเอ็น.เอ็กคลูซีฟนิวส์ ปีที่ ๑ ฉบับที่ ๗ ๑๕ - ๒๑ กันยายน ๒๕๔๙
เส้นทางและน้ำยา"จิ๋ว"
กับความหลังฝั่งใจ"ป๋า"

ศักยภาพของ "บิ๊กจิ๋ว" กว่าจะได้มาซึ่งสมญา "ขงเบ้ง" และถูกเรียกใช้บริการเป็นเนืองๆ ทั้งงานราษฎร์งานหลวง จาก "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ หลายต่อหลาย "ภารกิจ" ที่มัก "สำเร็จ"มากกว่า "ล้ม
เหลว" แม้กระทั่งทุกวันนี้ที่เป็นอยู่ ย่อม "ไม่ธรรมดา"

เป็นความไม่ธรรมดาที่น่าสนใจ โดยนอกจาก "ยโยบาย ๖๖/๒๓" ปราบ "คอมมิวนิสต์" อันเป็น "โลโก้ผลงาน" ของ "พล.อ.เปรม" ที่ "ขงเบ้ง" ท่านนี้มีส่วนสำคัญแล้ว อีกหลายเรื่องในทางการเมืองในสภา เขาก็มีส่วนสำคัญในการช่วยด้านยุทธศาสตร์และยุทธวิธีให้

ที่น่าสนใจคือใน "สมการ" ความสัมพันธ์ระหว่าง "ตัวละคร" ในสถานการณ์ปัจจุบันอยู่หลายตัว เฉพาะยิ่ง "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" รักษาการนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน

บันทึกการเมืองบางหน้าอาจจะไม่ได้จดจารไว้ละเอียดนักในเหตุการณ์ก่อนการ "ยุบสภา" ครั้งหนึ่งของปลายรัฐบาล "เปรม ๔" ราวปี ๒๕๒๙
สถานการณ์เวลานั้นทางด้านกองทัพ "พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก" ผบ.ทบ. และ ผบ.สส. เริ่มออกอาการปีนเกลียวกับ "พล.อ.เปรม" อย่างรุนแรงนับตั้งแต่การออกมาคัดค้าน "พล.อ.เปรม" เรื่องการลดค่าเงินบาท ๑๗ พ.ย.๒๕๒๗ สถานการณ์ต่อสู้ทางการเมืองช่วงนั้นเร้าใจยิ่ง

ระหว่างบรรทัดประวัติศาสตร์ "ป๋าเปรม" มี "บิ๊กจิ๋ว" ที่ขณะนั้นดำรงตำแหน่ง "เสนาธิการทหารบก" เป็น "กุนซือ" คนสำคัญ ว่ากันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากที่ "ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช" ผู้อุ้ม "พล.อ.เปรม" ในทางการเมือง ต่อจาก "กลุ่มทหารยังเติร์ก จปร.๗" ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค (๒๘ ธ.ค.๒๕๒๘) เพราะพ่ายต่อ "ยุทธการล้ม "พล.อ.เปรม" เพราะความน้อยใจที่ไม่ฟังความเห็นกันบ้าง นั่นคือ ปฏิบัติการลับพิเศษยึดพรรคจากกลุ่มของ "ม.ร.ว.คึกฤทธิ์" มาไว้ในมือของ "พล.อ.อ.สิทธิ เศวตศิลา" เพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้ของ "พล.อ.เปรม" ว่ากันว่าปฏิบัติการครั้งนั้นเป็นฝีมือของ "บิ๊กจิ๋ว" ซึ่งเหตุการณ์นี้มีการชำระแค้นคืนกันในเวลาต่อมา

โดยในการพิจารณาประชุมสภาพิจารณาผ่านพระราชกำหนดแก้ไข พ.ร.บ. ขนส่งทางบก (๑ พ.ค. ๒๕๒๙) ที่รัฐบาล "เปรม" เป็นฝ่ายพ่ายแพ้จนต้อง "ยุบสภา" ก็เพราะปฏิบัติการ "เอาคืน" ของ "กลุ่มกบฎพรรคกิจสังคมที่นำโดย บุญเท่ง ทองสวัสดิ์" ว่ากันว่าเหตุการณ์ในวันนั้นมีตัวแทนจาก "พล.อ.อาทิตย์" เข้าร่วมปฏิบัติการในสภาด้วย ว่ากันว่ามีเงินปลิวว่อนนับร้อยล้านบาทสำหรับการยกมือโหวตเสียง และก็ว่ากันว่าผู้ที่ถือกระเป๋าเจมบอนส์ใบเขื่องบรรจุเงินไปแจกวันนั้นเป็นนายตำรวจติดตามรัฐมนตรีรายหนึ่งของพรรคกิจสังคม ที่ถามใครในสภาวันนั้นก็จำกันได้ทุกคน! และว่ากันว่าเหตุการณ์นี้เป็นความหลังฝังใจ "พล.อ.เปรม" อย่างมาก

เกมยังไม่จบ หลังยุบสภาต้องมีการเลือกตั้งใหม่ที่ถูกกำหนดไว้ในวันที่ ๒๗ ก.ค.๒๕๒๙ การเลือกตั้งหนนั้นมีความหมายทางการเมืองสำหรับ "พล.อ.อาทิตย์" ที่เป็นทั้ง ผบ.ทบ.และ ผบ.สส. นาทีนั้น คู่ชิง "นายกรัฐมนตรี" มีเพียง ๒ คน คือ "พล.อ.เปรม" และ "พล.อ.อาทิตย์"..."พรรคสหประชาธิปไตย" ถูกตั้งขึ้นโดยมี "บุญเท่ง" เป็นหัวหน้าพรรค "ตามใจ ขำภโต" เป็นเลขาธิการพรรค รวบรวม "กบฏกิจสังคม" และ ส.ส. ที่มีศักยภาพเข้ามามากมาย ว่ากันว่า "พล.อ.อาทิตย์" อยู่เบื้องหลัง

ปรากฎว่า ก่อนการเลือกตั้ง ๖๐ วัน (๒๔ พ.ค.๒๕๒๙) "พล.อ.เปรม" ปฏิบัติการสายฟ้าแล่บปลด "พล.อ.อาทิตย์" จาก ผบ.ทบ.โดยให้ "พล.อ.ชวลิต" ขึ้นเป็นแทน ผลคือ "พรรคสหประชาธิปไตย" เฉาลงทุนตา "พล.อ.เปรม" ดำรงตำแหน่งนายกฯ อีกสมัยหลังเลือกตั้งทั่วไป โดยการสนับสนุนของพรรคประชาธิปัตย์ และมี "บิ๊กจิ๋ว" เป็นผู้สนับสนุนทางทหารและผู้จัดตั้งรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม ระหว่างบรรทัดการเมืองที่เกี่ยวข้องกับ "บิ๊กจิ๋ว" นั้น "พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร" เขียนเล่าไว้ในหนังสือครบรอบ ๘๔ ปีของเขาว่า ทางฝ่าย" พล.อ.เปรม" ได้ตั้งเงื่อนไขว่า ถ้าต้องการเป็นฝ่ายรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะต้องปรับปรุงองคาพยพพรรคใหม่ คือต้องเปลี่ยนหัวหน้าพรรค และก็จะช่วยในการเลือกตั้งเป็นเงิน ๓๐ ล้านบาท พล.อ.ชาติชาย กับ "นายบรรหาร" ได้มาพูดกับผม ขอให้ผมยอมรับในการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค ...ผมได้รอมาจนกระทั่งลูกพรรคได้เข้าสมัครเรียบร้อยแล้วจึงได้เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคและยื่นใบลาออก คุณบรรหารก็เซ็นเช็คส่วนตัวแทน "พล.อ.เปรม" เป็นการช่วยเหลือเลือกตั้ง ผมได้รับเช็คนั้น ก็ส่งต่อให้นายเดช บุญหลง เหรัญญิกของพรรคเข้าบัญชีพรรคต่อไป เช็คนั้นมีมูลค่า ๓๐ ล้านบาท ทราบในภายหลังว่าเช็คนั้นใช้ไม่ได้"

"พล.ต.อ.ประมาณ" เล่าว่าเขาเชื่อว่าการที่ "พล.อ.เปรม" ตั้งเงื่อนไขนี้เพราะผูกใจเจ็บที่พรรคชาติไทยโจมตีรัฐบาลและยังวอล์คเอาท์จากห้องประชุมแถมประณามรัฐบาลว่าเป็น "รัฐบาลเผด็จการ" บริหารประเทศโดยไม่ฟังใคร

"อย่างไรก็ตามผมรู้สึกสังหรณ์ใจว่าจะต้องมีผู้อยู่เบื้องหลัง จัดการให้ผมต้องลาออกจากหัวหน้าพรรค และผมก็ได้เพ่งเล็งไปที่บุคคลหนึ่งที่ชอบวิ่งเต้นจัดการเรื่องการเมืองตลอดเวลา และก็เป็นจริงดังนั้น โดยการที่คนผู้นั้นได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์หลายฉบับในเวลาต่อมา"

คนที่ "พล.ต.อ.ประมาณ" พูดถึงคือ "บิ๊กจิ๋ว" โดย "พล.ต.อ.ประมาณ" ได้นำข่าวที่ตีพิมพ์ใน นสพ.แนวหน้า (๕ พ.ย.๒๕๓๙) ซึ่งพาดหัวว่า "จิ๋วกระอักทวงบุญคุณน้าชาติ" โดยระบุเนื้อหาที่ "บิ๊กจิ๋ว" ปราศรัย ว่า รัฐบาลที่ผ่านมาตนเป็นคนช่วยเหลือมาทุกพรรค ช่วยให้คนเป็นนายกฯ มาแล้วหลายคน ไม่ว่าจะเป็น "นายชวน หลีกภัย" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่ ปชป.กลับมาด่าตน หรือ "พล.อ.ชาติชาย" หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ตนก็เคยผลักดันให้เป็นหัวหน้าพรรคชาติไทย แล้วยังสนับสนุนให้เป็นนายกฯ โดยไปวิ่งเต้นกับ "พล.อ.เปรม" รวมทั้งช่วยให้เลื่อนยศจากพล.ต.มาเป็นพล.อ.ด้วย


Create Date : 20 สิงหาคม 2553
Last Update : 20 สิงหาคม 2553 19:01:43 น. 1 comments
Counter : 3341 Pageviews.

 
ท่านก็เป็นคนดีคนนึงนะ ไว้อาลัยแด่ท่าน ประมาณ ด้วยครับ


โดย: billabong11 วันที่: 25 สิงหาคม 2553 เวลา:11:53:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สุริยาอัสดง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เปิดโลกด้วยแสงแห่งปัญญา
Thaiflood
Friends' blogs
[Add สุริยาอัสดง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.