อาทิตย์สาดส่อง..ความจริงจักปรากฎทั่วปฐพี!!!
Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
6 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
แกนนำแดงประกาศเคลื่อน 11 ถนนที่สั่งห้าม ไม่ปิดกั้นการจราจร

Mon, 2010-04-05 18:51

ณัฐวุฒิ แถลงพรุ่งนี้ 11 โมงเช้า เคลื่อนขบวนถนน 11 สายที่สั่งห้ามต่อต้านอำนาจเผด็จการไม่ชอบธรรม ยันประชาชนเป็นเจ้าของถนน เคลื่อนสันติ ไม่ปิดกั้นการจราจร ส่วนหมายจับแกนนำยังไม่ออก, ซัดหอการค้าเด็กปชป. ถาม กกร.จะเล่นการเมืองใช่ไหม จตุพร จี้ ‘อนุพงษ์’ ไล่นักการเมือง ปชป.รุกที่แสนไร่ของกองทัพแทนไล่ประชาชน

5 เม.ย.53 เวลาประมาณ 17.30 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีตัวแทนรัฐบาลยื่นฟ้องขอให้คนเสื้อแดงยุติการชุมนุมว่า ทางนปช.ได้ยื่นคัดค้านไปแล้ว และจนถึงเวลานี้ยังไม่มีข้อสรุปจากศาล นปช.จะยังเดินหน้าชุมนุมกันต่อไป จนเมื่อได้รับข้อมูลจากศาลจะได้หารือและประกาศท่าทีอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ท่าทีเบื้องต้น ขอยืนยันเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบสันติปราศจากอาวุธตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับ

ประการต่อมา การที่มีข่าวว่า รัฐบาลจะขออนุมัติออกหมายจับแกนนำ 5 คน จากการตรวจสอบยังไม่พบว่ารัฐบาลไปยื่นเรื่งอแต่อย่างใด แต่หากมีการอนุมัติหมายจับเราคงให้ทีมทนายความต่อสู้ต่อไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตาม การออกหมายจับได้เกิดมตรฐานใหม่แล้ว ดังคดีของสนธิ ลิ้มทองกุล ที่เมื่อตำรวจบรรทุกสำนวนไปถึงศาลอาญา ถูกผู้บังคังบัญชาเรียกกลับ มาตรฐานแบบนี้ก็น่าจะเกิดกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองเช่นเดียวกัน

ประการต่อมา คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้ออกมาเรียกร้องให้ยุติการชุมนุมเป็นขบวนการจัดการของรัฐบาลที่จะสลับหน้าให้คนกลุ่มต่างๆ ออกมาแสดงบทบาทคัดค้าน พฤติการณ์ที่ผ่านมา กกร.ไม่มีความชอบธรรมที่จะออกแถลงการณ์เรียกร้องคนเสื้อแดง เพราะวันที่ 2 ธ.ค.51 ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคพลังประชาชน กกร.ได้ออกแถลงการณ์ทางการระบุให้พรรคร่วมสลับขั้วทางการเมือง แล้วจึงเรีกยร้องให้พันธมิตรฯ ถอนตัวจากการยึดสนามบิน ต่างจากกรณีคนเสื้อแดงที่เรียกร้องให้ถอนจากราชประสงค์โดยไม่มีข้อเรีกยร้องไปยังรัฐบาล นอกจากนี้ขอถามว่าสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม สมาคมธนาคารไทย จะเคลื่อนไหวทางการเมืองแล้วใช่หรือไม่ จะได้สืบสาวราวเรื่องว่าใครเคยสนับสนุนพันธมิตร ใครเสียภาษีไม่ถูกต้องบ้าง

“ผมขอเตือนว่า ทางที่ดีถอยไปไกลๆ ธาตุแท้ของพวกท่านปรากฏแล้ว กกร.ลงทุนซื้อสื่อโฆษณาทางนสพ.เป็นเรื่องเป็นราว อย่าคิดว่าปชช.รู้ไม่ทัน ขาดสติปัญญา ที่พูดนี่ไม่ได้หมายความว่าการเคลื่อนไหวของเราจะแตะต้องไม่ได้ เรายินดีรับฟังเสมอ แต่ต้องมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่องค์กรแอบแฝงแบบนี้”นายณัฐวุฒิกล่าว

ประการต่อมา หากวันนี้รัฐบาลยังไม่มีท่าทีสนองตอบข้อเรียกร้อง นปช.จะมีมติในการยกระดับความเข้มข้นของการต่อสู้ขึ้นไปอีก และยืนยันว่าจะปักหลักสู้ต่อไป ไม่กลับบ้านแม้ช่วงเทศกาลสงกรานต์

ประการต่อมา ได้รับแจ้งจากนายทหารแตงโมว่า วันนี้ที่จะประชุม ศอ.รส. แนวคิดให้ไอซีทีไปยุติสถานพีเพิลชาแนล โดยกดดันไปที่ดาวเทียมไทยคมซึ่งให้บริการหลายช่อง หากปิดพีเพิลชาแนล ก็ต้องปิดเอเอสทีวีด้วย เพราะเป็นช่องที่เคลื่อนไหวทางการเมืองมาโดยตลอด หากปิดช่องใดช่องหนึ่ง คนเสื้อแดงก็ต้องประกาศมาตรการขั้นสูงสุดกับรัฐบาล

“ขอแจ้งไปยังคนเสื้อแดงทั่วประเทศว่าจอดับเมื่อไร ให้ออกมาชุมนุมในแต่ละจังหวัดเพื่อกำหนดมาตรการร่วมกันและตอบโต้ทันที ถ้าจะสู้กันทุกเม็ด เราก็พร้อมรับมือทุกเม็ด มาถึงยกนี้ไม่มีใครถอยให้ใคร เราก็ไม่มีอะไรต้องอ่อนข้อให้กันอีกต่อไป” ณัฐวุฒิกล่าว

จตุพร พรหมพันธ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า คาดว่าวันนี้จะยังไม่มีหมายจับ จากการสอบถามตำรวจพบว่าไม่มีเหตุคนเสื้อแดงข่มขู่กับสถานที่ ร้านค้าใด และไม่มีใครแจ้งความเรื่องปิดทางจราจร ส่วนกรณีของ กกร. คนที่มีบทบาทคนหนึ่งคือ นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล ซึ่งเป็นรองเลขาธิการหอการค้าและออกมาประเมินความเสียหายเป็นรายวัน แต่มีพฤติกรรมทุจริต และเป็นจำเลยในสำนวนคดีกรณีการทุจริตรถและเรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร ในฐานะเป็นผู้ดำเนินการบริษัทลูกของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ทำนิติกรรมอำพราง ไม่ได้ขายสินค้าจริงให้ประเทศออสเตรเลียตามที่ครม.มีมติให้ซื้อสินค้าต่างตอบแทน แต่เอาบิลมาขายเท่านั้น

ประเด็นต่อมา เมื่อพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รองผอ.กอ.รมน. เป็นโจทก์ฟ้องขับไล่ประชาชนออกจากถนนหลวง หน้าที่พล.อ.อนุพงษ์จริงๆ ต้องไปฟ้องขับไล่นักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มทุนเครือข่ายประชาธิปัตย์ที่ไป
บุกรุกที่ราชพัสดุที่สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมอบให้กองทัพบกเป็นผุ้ดูแลพื้นที่ 5 แสนไร่ และเป็นรอยต่อชายแดนไทย-พม่า ส่วนกรณีประธาน กกต. ทำผิดกฎหมาย และเทียบกันไม่ติดกับกรณีที่อดีต กกต.ชุดที่แล้วถูกดำเนินคดี ตนจะพูดตอนปราศรัย

ด้านนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง กล่าวว่าในเรื่องการออกหมายจับ ศาลเห็นว่าคนเสื้อแดงมีจำนวนมากและเกรงว่าจะไปปิดล้อมศาล ศาลพิเคราะห์แล้วว่าจะเลื่อนไปพิจารณาวันที่ 3 พ.ค. โดยพนักงานสอบสวนไม่มีการคัดค้านใดๆ
ทั้งสิ้น

ขณะที่ณัฐวุฒิ ได้ประกาศปิดท้ายว่า ขอประกาศการยกระดับในตอนนี้เลยว่า พรุ่งนี้เวลาประมาณ 11.00 น. เราจะเคลื่อนขบวนไปยังถนนทั้ง 11 สายที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ระบุว่าไม่ให้คนเสื้อแดงเดินทางไป เป็นการเคลื่อนขบวนอย่างสงบสันติ ไม่มีการปิดกั้นการจราจร ให้ไหลไปเรื่อยๆ อย่างเป็นระเบียบ เมื่อครบ 11 สายจะกลับเข้าที่ตั้งการชุมนุมต่อไป การเคลื่อนครั้งนี้มุ่งหวังให้รับาลเกิดจิตสำนึกว่าคำสั่งที่ประกาศมาเป็นคำสั่งเผด็จการที่กดขี่ย่ำยีสิทธิของประชาชนโดยมิชอบ ในเมื่อคนเสื้อแดงเป็นประชาชนของประเทศนี้ เป็นคนเสียภาษี เป็นพลเมืองเท่ากับคนอื่นๆ เราจึงมีสิทธิเสรีภาพในการเดินทาง และจะขอปฏิเสธคำสั่งอันไม่ชอบธรรมอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา ขบวนจะเริ่มที่ผ่านฟ้าจะไม่มีการจอดแวะ และพยายามไม่สกัดขัดขวางการเดินทางของประชาชนโดยทั่วไป โดยให้ทีมงานซูเปอร์สันติ ได้แก่ นายพายัพ ปั้นเกตุ, แรมโบ้อีสาน, อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง, ขวัญชัย ไพรพนา ซึ่งมีผลงานแล้วที่ กกต.ในวันนี้

สำหรับ 11 เส้นทาง ตามประกาศฉบับที่ 6 ของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ที่สั่งห้ามชุมนุมและเคลื่อนไหว มีดังนี้

ก. ถ.พระราม 4 แยกตัดกับถ.สาทร ถึงแยกสามย่าน
ข. ถ.สาทร ตั้งแต่แยกตัดกับ ถ.พระรามที่ 4 ถึงแยกตัดกับ ถ.เจริญกรุง
ค. ถ.สีลม ตั้งแต่แยกตัดกับ ถ.พระรามที่ 4 ถึงแยกตัดกับ ถ.เจริญกรุง
ง. ถ.สุรวงศ์ ตั้งแต่ แยกตัดกับ ถ.พระรามที่ 4 ถึงแยกตัดกับ ถ.เจริญกรุง
จ. ถ.เจริญกรุง ตั้งแต่แยกตัดกับ ถ.สุรวงศ์ ถึงแยกตัดกับ ถ.สาทร
ฉ. ถ.ราชดำริ ตั้งแต่ สถานีรถไฟฟ้าราชดำริ ถึงแยกตัดกับ ถ.พระรามที่ 4
ช. ถ.พญาไท ตั้งแต่แยกสามย่าน ถึงแยกราชเทวี
ซ. ถ.รัชดาภิเษก ตั้งแต่แยกตัดกับ ถ.สุขุมวิท ถึงแยกตัดกับ ถ.พระรามที่ 4
ฌ. ถ.ดินแดง ตั้งแต่แยกตัดกับ ถ.รัชดาภิเษก ถึงแยกตัดกับ ถ.ทวีมิตร
ญ. ถ.ทวีมิตร
ฎ. ถ.รัชดาภิเษก ตั้งแต่แยกตัดกับ ถ.ดินแดง ถึงแยกตัดกับรัชดาภิเษก ซอย 8
----------------------
ศาลยกคำร้องกรณีให้เสื้อแดงยุติชุมนุม ชี้ กอ.รมน.มีอำนาจจัดการอยู่แล้ว
Mon, 2010-04-05 18:40

ศาลแพ่งมีคำสั่งยกคำร้องที่อัยการฟ้องเสื้อแดงหยุดชุมนุมแยกราชประสงค์ ระบุ กอ.รมน. มีอำนาจหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องมาขอให้ศาลมีคำสั่ง

(5 เม.ย. 53) ศาลแพ่ง มีคำสั่งยกคำร้อง ที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.รมน. ซึ่งมีอำนาจตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ที่ร้องขอให้ศาลมีคำบังคับ ให้ 5 แกนนำเสื้อแดง และกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนออกจากสี่แยกราชประสงค์ ซึ่ง ศอ.รส.ได้ประกาศกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวห้ามชุมนุม

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การออกประกาศห้ามชุมนุมในพื้นที่ดังกล่าว ได้อาศัยอำนาจตาม มาตรา 16 และ 18 ของ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ซึ่งมีผลบังคับได้โดยทันทีอยู่แล้ว ผอ.รมน.ในฐานะผู้มีอำนาจตาม พ.ร.บ.ไม่จำเป็นต้องมายื่นคำขอให้ศาลมีคำบังคับเรื่องดังกล่าวอีก และหากไม่สามารถดำเนินการได้ตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว ก็ให้อำนาจ ผอ.รมน.ในการป้องกันปราบปรามและยับยั้ง รวมทั้งแก้ไขที่กระทบต่อความมั่นคงคืนสู่สภาวะปกติได้

รายงานข่าวแจ้งว่า เวลาประมาณ 18.30 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. ขึ้นเวที่ที่แยกราชประสงค์ โดยระบุว่าศาลแพ่งได้ยกคำร้องแล้ว ทำให้ผู้ชุมนุมส่งเสียงเฮดังลั่น พร้อมระบุว่านี่เป็นชัยชนะของคนเสื้อแดง และแสงแห่งความยุติธรรมได้ปรากฏมาบ้างแล้ว สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่านายอภิสิทธิ์ ไม่สามารถทำอะไรได้ทุกอย่าง
-------------------------------
ศอ.รส.แจง6ประเด็นศาลเปิดไฟเขียวจัดการเสื้อแดง
Mon, 2010-04-05 22:58

ศอ.รส. แจง 6 ประเด็นศาลเปิดไฟเขียวจัดการ นปช.ชุมนุมผิดกฎหมาย หมดสิทธิอุทธรณ์ เหตุแกนนำคัดค้านชั้นศาลแล้ว เตรียมใช้อำนาจตามกฎหมายจับกุมซึ่งหน้าพรุ่งนี้(6เม.ย.) ชี้ผู้ร่วมน้อยลงหวั่นติดคุกหลังเข้าใจ คำสั่งศอรส. ด้านดีเอสไอ แถลงย้ำศาลชี้ นปช.ชุมนุมผิดกฎหมาย

5 เม.ย.53 เมื่อเวลา 20.50 น. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ร่วมกันแถลงภายหลังกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง นำคำพิพากษาศาลแพ่งให้อำนาจรัฐบาลสลายการชุมนุมได้ตามพ.ร.บ.มั่นคง แต่กลับไปบิดเบือนบนเวทีปราศรัย สร้างความเข้าใจผิดให้ผู้ชุมนุม

พ.อ.สรรเสริญ แถลงว่า ที่ประชุมวันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีการรายงานว่าการชุมนุมพื้นที่แยกราชประสงค์มีจำนวนผู้ชุมนุมลดน้อยลงกว่าเมื่อวันที่ 4 เม.ย. โดยลดเหลือ 16,500 คน -17,500 คน

สาเหตุยอดผู้ชุมนุมลดลง ส่วนหนึ่งใกล้เทศกาลสงกรานต์ และคำพูดแกนนำยั่วยุส่อความรุนแรง เมื่อพิจารณาจากการที่ศอ.รส.แจกเอกสารข้อห้ามการชุมนุม ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มเข้าใจสถานการณ์และสภาพโดยรวม ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งเดินทางกลับบ้าน ทั้งนี้ ศอ.รส.เน้นย้ำ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย อดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุของแกนนำ

ด้าน รมต.ประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า จากคำพิพากษาศาลแพ่งยกคำร้องสำนักนายกฯที่เป็นผู้ร้อง อาจเกิดข้อความสื่อสารในกลุ่มผู้ชุมนุมเกิดความสับสน และมีคำถามโดยทั่วไปยกคำร้องมีผลอย่างไร โดยผู้ชุมนุมนำไปบิดเบือนว่าการยกคำร้องแล้ว ทำให้การชุมนุมเป็นการชุมนุมโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งอาจบิดเบือนได้

“วันนี้อัยการสูงสุดได้ชี้แจงใน ศอรส.ให้ทราบว่า 1.กรณีศาลได้พิเคราะห์มิใช่แต่คำร้องสำนักนายกฯ เท่านั้นแต่มีคำร้องผู้คัดค้านด้วยคือนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นคำวินิจฉัยที่มีคำโต้แย้งแล้วจากแกนนำผู้ชุมนุม อัยการชี้ให้เห็นว่าเป็นคำวินิจฉัยมีคำโต้แย้งแล้ว และ 2.ศาลได้วินิจฉัยได้ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนฟังได้ว่า ความหมายการไต่สวนของศาลกลั่นกรองแล้วสรุปว่าการกระทำของบุคคลทั้ง 5 คน ผู้ร่วมชุมนุม กีดขวางเส้นทางคมนาคม ยานพาหนะ ส่งผลกระทบธุรกิจสำคัญ ส่งผลต่อความเสียหายต่อการประกอบอาชีพ จำกัดสิทธิเสรีภาพ การเดินทางทางสร้างความเดือดร้อน กระทบต่อความมั่นคงในราชอาณาจักร” นายสาทิตย์ กล่าว

นายสาทิตย์ กล่าวว่า ประเด็นที่ 3 จึงเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเกินขอบเขตรัฐธรรมนูญมาตรา มาตรา 34 และ 63 อันเป็นกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย แปลว่า การชุมนุมนี้ ไม่ได้รับการคุ้มครองตามบทบัญบัติรัฐธรรมนูญผิดกฎหมาย พร้อมกันนี้ 4.ศาลวินิจัฉัยต่อว่า กอ.รมน.มีอำนาจทั้งหลายทั้งปวงเพื่อป้องกันแก้ไขฟื้นฟู เหตุที่เป็นภัย และอาจเป็นภัยต่อกลุ่มบุคคล หมายความว่า ต่อไปนี้ กอ.รมน. มีอำนาจทั้งหลายทั้งปวงป้องกันควบคุมแก้ไขให้สถานการณ์ให้กลับสู่สภาวะปกติ

รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า 5.ศาลวินิจฉัยต่อไปว่า เมื่อมีข้อกำหนด และประกาศแล้ว ข้อกำหนดและประกาศ จึงมีสภาพบังคับ ย่อมมีผลบังคับใช้ทันที และข้อต่อไป กอ.รมน.ย่อมมีอำนาจทั้งหลายทั้งปวงตามเห็นสมควรและความจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดและประกาศ มีอำนาจป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับบั้ แก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์

“6 ข้อนี้ ยืนยันถึงสภาพการชุมนุม และอำนาจของกอ.รมน.ที่จะดำเนินการต่อจากนี้ โดยการดำเนินการต่อไป มีความเห็นอัยการสูงสุดคือ เมื่อการชุมนุม เป็นการชุมนุมผิดกฎหมายไม่ได้รับการคุ้มคอรงตามรัฐธรรมนูญ กอรมน.มีอำนาจดำเนินการ ไม่ว่าผู้จัดให้ชุมนุม หรือผู้ชุมนุมยังอยู่ในที่ชุมนุม เป็นความผิดซึ่งหน้าสามารถดำเนินการได้ อยู่ที่อำนาจเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการได้ สภาพที่ทำให้เกิดสภาพบังคับใช้ตามกฎหมาย จะดำเนินกาต่อไปโดยคำนึงถึงความเหมาะะสมและตามหลักสากลทั่วไป ส่วนผู้ชุมนุมที่มีความผิดตามหลักฐานชัดเจน หากออกจากที่ชุมนุมไป แต่ปรากฎหลักฐานอยู่ในที่ชุมนุม รับทราบแล้วว่าผิดกฎหมาย พนักงานสามารถออกหมายเรียกหรือออกหมายจับตาม

ความผิดได้ ทั้งนี้ ศอ.รส.จะประเมินเหตุการณ์จะดำเนินการต่อไป” รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าว

นายสาทิตย์ กล่าวว่า เป้ามหมายการบังคับมใช้กฎหมายเป็นขั้นตอน เช่นเดียวกับวันพรุ่งนี้ที่ นปช.จะเคลื่อนขบวนไปตามเส้นทาง 11 เส้น ซึ่งศอ.รส.มีอำนาจสกัดกั้น ระงับยับยั้ง ไม่ให้กระทำผิดเพราะกระทำการขัดต่อกฎหมาย ซึ่งศอ.รส.ประชุมและซักซ้อม เพื่อไม่ให้นปช.กระทำผิดกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะดำเนินการอย่างไรหมายถึงว่าจะจับแกนนำในวันพรุ่งนี้ใช่หรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ต้องดูตามความเหมาะสมของสถานการณ์ ถ้าสามารถที่จะจับกุมซึ่งหน้าได้แล้วไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นอาจจะด้วยผู้ชุมนุมน้อยลง เจ้าหน้าที่จำนวนมากพอที่จะบังคับใช้กฎหมายได้ก็จะดำเนินการ แต่ถ้าหากสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะหรือมีเหตุที่จะลุกลามบานก็อาจะต้องออกหมายเรียกหรือขอศาลออกหมายจับในโอกาสต่อไป เมื่อมีพยานหลักฐานเรียบร้อยแล้ว

ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจะเดินสายไปตามเส้นทางต่างๆ นั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า ในเมื่อเป็นการชุมนุมที่ขัดต่อกฎหมายและมีการประกาศในสิ่งที่ขัดต่อกฎหมายนั้น ฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็จะมีอำนาจในการสกัดกั้นตามหลักสากล ซึ่งเจ้าหน้าที่ตั้งใจที่จะไม่ให้มีการเผชิญหน้าหรือขัดแย้ง แต่เป็นการใช้อำนาจหน้าที่ในการระงับยับยั้ง เพราะอย่างที่ทราบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมพยายามยั่วยุเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้ใช้กำลังก่อนเพื่อที่จะสร้างเงือ่นไขในการชุมนุมที่รุนแรงต่อไป
----------

ดีเอสไอแถลงย้ำศาลชี้นปช.แดงป่วนเมืองผิดกม.

ต่อมาเวลา 21.30 น.นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และโฆษกระทรวงยุติธรรม เปิดแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ว่า คำสั่งศาลแพ่ง นั้นมีข้อชี้แจง 7 ประเด็น 1.คำร้องของสำนักนายกรัฐมนตรี ครั้งนี้ไม่ใช่ร้องฝ่ายเดียว แต่มีผู้คัดค้านด้วยคือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) การมีผู้ร้องและผู้รับคัดค้าน ถือว่าเป็นการพิจารณาไม่ใช่ฝ่ายเดียว แต่เป็นคู่ความสองฝ่าย

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ประเด็น 2.ศาลแพ่งสั่งคำร้องครั้งนี้โดย พิเคราะห์จากพนักงานอัยการ พิเคราะห์จากคำคัดค้านแกนนำนปช. 2 คน และพิเคราะห์จากหลักฐานที่ได้ไต่สวนตลอดทั้งวัน พิเคราะห์ทั้งหมดแล้ว รับฟังได้ว่า การวินิจฉัยศาลไม่ใช่พิเคราะห์จากคำร้องผู้ร้องสำนักนายกฯฝ่ายเดียว แต่พิเคราะห์จากหลายฝ่าย และสืบพยานหลักฐานต่างๆด้วย

นายธาริต กล่าวว่า ข้อสังเกตประการที่ 3.ศาลพิเคราะห์ว่า จากข้อเท็จจริงจากการนำสืบทั้งหมด ศาลรับฟังได้ว่า เป็นการรับฟังจากข้อเท็จจริง ไม่ใช่รับฟังข้อกฎหมายเท่านั้น ประการถัดมา ศาลพิเคราะห์ส่วนสำคัญอย่างยิ่ง การชุมนุมนปช. หรือเสื้อแดงขณะนี้ โดยเฉพาะปิดกั้นเส้นทางสาธารณะ เส้นทางกทม. พิเคราะห์เป็นการกระทำมิชอบด้วยกฎหมาย

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ประการถัดไป ศาลพิเคราะห์ว่า กอ.รมน.จึงมีอำนาจทั้งหลายทั้งปวง เพื่อป้องกันควบคุมแก้ไข ฟื้นฟู จากเหตุการณ์ไม่สงบสุขนี้ได้ เป็นการยืนยันอำนาจหน้าที่กอ.รมน.ที่ดำเนินการขณะนิ้ ว่าสามราถควบคุมแก้ไขและฟื้นฟูสถานการณ์ได้

นายธาริต แถลงว่า ประการถัดไป ข้อกำหนดและประกาศต่างๆที่ กอ.รมน.ประกาศใช้ มีสภาพบังคับอยู่ในตัว และประกาศแล้วย่อมมีผลทันที รองรับว่าบรรดาข้อกำหนด ประกาศ ที่วันก่อนห้ามชุมนุมสาธารณะ แยกราชประสงค์
และห้ามไปชุมนุม 11 เส้นทาง ศาลวินิจฉัยข้อกำหนด ประกาศต่างๆ มีสภาพบังคับ เมื่อประกาศใช้ย่อมีผลบังคับใช้

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ศาลพิเคาราะห์ว่าผู้ฝ่าฝืน ข้อกำหนดประกาศ มีโทษตามมาตรา 24 จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท ศาลรองรับการบบังคับโทษนี้เช่นเดียวกัน และประการสุดท้าย จากที่ศาลพิเคราะห์มาตามลำดับ ศาลมีคำสั่งว่า ผู้ร้องเองหรือกอ.รมน. สามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว ไม่ต้องขอสิทธิทางศาล สามารถดำเนินการทั้งปวง เพื่อแก้ไขสถานการณ์ไม่จำเป็นต้อมมาขอสิทธิทางศาล จึงมีการยกคำร้อง

“การทื่ศาลยกคำต้อง ไม่ได้หมายถึง การชุมนุมเสื้อแดงกระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย ตรงกันข้ามศาลพิเคราะห์ชัดเจน การดำเนิการของนปช.เป็นการกระทำผิดต่อกฎหมาย และมีโทษทางอาญา นอกจากนั้น กอ.รมน.สามารถแก้ไขสถานการณ์ทั้งหายทั้งปวงด้วย” นายธาริต กล่าว
----------------------------------
ศอ.รส.ออกประกาศฉบับที่ 6 สกัดเสื้อแดงขยายจุดชุมนุม
Sun, 2010-04-04 16:40

เวลา 16.00 น. วันนี้ (4 เม.ย.) ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจว่า ตามที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ได้ออกประกาศฉบับที่ 5 เมื่อวันที่ 3 เมษายน พุทธศักราช 2553 เรื่องให้บุคคลออกจากพื้นที่ หรืออาคาร หรือสถานที่ที่กำหนด เป็นการให้ผู้ร่วมชุมนุมทางการเมืองออกจากบริเวณพื้นที่แยกราชประสงค์ไปแล้ว นั้น ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย จำเป็นต้องออกประกาศ ฉบับที่ 6 เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนไปในพื้นที่อันเป็นสาธารณะ สถานที่สำคัญ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตตามปกติของพี่น้องประชาชนในพื้นที่แห่งอื่นๆ อีก ซึ่งประกาศฉบับที่ 6 มีรายละเอียดดังนี้

ตามที่ประกาศห้ามบุคคลเข้าหรือให้ออกจากบริเวณพื้นที่อาคาร หรือสถานที่ที่กำหนด รวมถึงการห้ามการใช้เส้นทางคมนาคม หรือการใช้ยานพาหนะ เพื่อประโยชน์ในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไข หรือบรรเทา
เหตุการณ์ในพื้นที่ รวมทั้งเพื่อให้เกิดการบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเพื่อให้การดำรงชีวิตของประชาชนโดยทั่วไป เป็นไปโดยปกติสุขแล้วนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้บุคคล หรือกลุ่มบุคคล เข้ากระทำ

การใดๆ โดยปิดกั้นและกีดขวางพื้นที่เส้นทางสาธารณะ ที่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่สำคัญ และเกิดความเดือดร้อนเสียหายต่อการประกอบสัมมาอาชีพ และการดำรงชีวิตโดยปกติสุขของประชาชน ซึ่งมิใช่การชุมนุมโดยสงบตามรัฐธรรมนูญ อาศัยอำนาจตามความในข้อ 2 และวรรคท้ายของข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญํติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พุทธศักราช 2551 ให้ออกประกาศกำหนดเพิ่มเติมดังนี้

ข้อ 1 ห้ามบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ อันอาจก่อให้เกิดความไม่สงบ ทำลาย หรือทำความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของประชาชน หรือของรัฐ อาทิ การปลุกระดม การยุยง ปลุกปั่น การสร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดความรุนแรง หรือเป็นอันตรายต่อความสงบสุขของประชาชนและความมั่นคงของรัฐ เข้าหรือออกจากพื้นที่ เว้นแต่เป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

ก. ถนนพระรามที่ 4 แยกตัดกับถนนสาทร ถึงแยกสามย่าน

ข. ถนนสาธร ตั้งแต่แยกตัดกับถนนพระรามที่ 4 ถึงแยกตัดกับถนนเจริญกรุง

ค. ถนนสีลม ตั้งแต่แยกตัดกับถนนพระรามที่ 4 ถึงแยกตัดกับถนนเจริญกรุง

ง. ถนนสุรวงศ์ ตั้งแต่แยกตัดกับถนนพระรามที่ 4 ถึงแยกตัดกับถนนเจริญกรุง

จ. ถนนเจริญกรุง ตั้งแต่แยกตัดกับถนนสุรวงศ์ ถึงแยกตัดกับถนนสาทร

ฉ. ถนนราชดำริ ตั้งแต่สถานีรถไฟฟ้าราชดำริ ถึงแยกตัดกับถนนพระรามที่ 4

ช. ถนนพญาไท ตั้งแต่แยกสามย่าน ถึงแยกราชเทวี

ซ. ถนนรัชดาภิเษก ตั้งแต่แยกตัดกับถนนสุขุมวิท ถึงแยกตัดกับถนนพระรามที่ 4

ฌ. ถนนดินแดง ตั้งแต่แยกตัดกับถนนรัชดาภิเษก ถึงแยกตัดกับถนนทวีมิตร

ญ. ถนนทวีมิตร

ฎ. ถนนรัชดาภิเษก ตั้งแต่แยกตัดกับถนนดินแดง ถึงแยกตัดกับถนนรัชดาภิเษก ซอย 8

ข้อ 2 ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พุทธศักราช 2551

ข้อ 3 ให้ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือผู้ที่ได้รับมอบ ซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ชั้นสัญญาบัตร หรือเทียบเท่า เป็นผู้ดำเนินการตามประกาศนี้

ข้อ 4 ประกาศกำหนดนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ลงนามโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.สอ.รส.

ขณะที่เป็นการป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนตัวไปยังธนาคารกรุงเทพฯถนนสีลม หรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวยอมรับว่า เป็นส่วนหนึ่ง เมื่อถามว่าประกาศฉบับที่ 6 หวังผลอย่างไร เพราะประกาศฉบับที่ 5 กลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่สนใจ

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ประกาศฉบับที่ 5 เป็นการประกาศหลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าไปในพื้นที่แล้ว ฉะนั้นผลบังคับใช้คงต้องอยู่ที่เงื่อนเวลา ต้องพิจารณาและช่างน้ำหนักกันในเรื่องการเผชิญหน้าและการบังคับใช้กฎหมายให้ พอหมาะพอสม ซึ่งการดำเนินการไม่ใช่ของง่าย ส่วนประกาศฉบับที่ 6 เป็นการประกาศล่วงหน้าไม่ให้เข้าไป ในถนนเส้นทางตามที่ห้าม เชื่อว่าน่าจะสามารถดำเนินการได้ดีมีประสิทธิภาพมากกว่าการแก้ไข อย่างที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะผอ.ศอ.รส.ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตั้งจุดสกัดไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนไปในที่ต่างๆ ได้ตามอำเภอใจอีกแล้ว และวันนี้จากการตรวจสอบข้อมูลกลุ่มผู้ชุมนุมในพื้นที่สี่แยกราชประสงค์มี ประมาณ 1 หมื่น ส่วนที่สะพานผ่านฟ้า มีประมาณหมื่นกว่าๆ เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ สามารถจะดูแลได้

“วันนี้การคืนพื้นผิวจราจรอย่างเดียวไม่เพียงพอแล้วเพราะเรามองว่า ปัญหาเรื่องการจราจรเป็นความเร่งด่วน ลำดับ 2 แต่ความเร่งด่วนลำดับแรกคือการทำธุรกิจ การใช้ชีวิตโดยปกติ ความมั่นใจของนักลงทุนและผู้ประกอบการทั้ง
หลายและขณะนี้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ ชุมนุมมีความผิดแล้ว”พ.อ.สรรเสริญ กล่าว
-----------------

ผู้ว่า กทม.เสริมรถสุขาเคลื่อนที่แยกราชประสงค์ เล็งเจรจาห้างขอใช้ห้องน้ำเพิ่ม


เรืออากาศโท อิราวัสส์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. เปิดเผยว่า วันนี้( 4 เม.ย.) กรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้เสริมรถสุขาเคลื่อนที่เข้าไปบริการกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์เพิ่มเติมอีก 2 คัน ตั้งอยู่ที่หน้าโรงแรมอินทราฯ และโรงพยาบาลตำรวจ หลังจากที่วานนี้( 3 เม.ย.) ได้จัดรถสุขาเคลื่อนไว้บริการ จำนวน 4 คัน รวมทั้งสิ้น 6 คัน โดยบางส่วนได้ถอนมาจากบริเวณแยกผ่านฟ้าลีลาศ และจัดมาจากที่อื่นๆ ทั้งนี้ยอมรับว่าจำนวนดังกล่าวไม่อาจเพียงพอต่อกลุ่มผู้ชุมนุม แต่เนื่องจาก กทม.ไม่ได้มีรถสุขาเคลื่อนที่มากพอ สามารถหมุนเวียนมาได้เท่านี้ เพราะต้องไว้บริการที่แยกผ่านฟ้าฯ และเจ้าหน้าที่ทหาร ที่จะตั้งได้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวไม่สะดวกเหมือนที่แยกผ่านฟ้าฯ ทั้งเรื่องการนำรถเข้าไปเก็บขนสิ่งปฏิกูล ชะล้าง และเติมน้ำ อย่างไรก็ดี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ได้ประสานทางห้างสรรพสินค้า โรงแรม รวมทั้งผู้ประกอบกิจการในพื้นที่ดังกล่าวให้เปิดให้ผู้ชุมนุมได้ใช้ห้องน้ำได้ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเพียงพอ



Create Date : 06 เมษายน 2553
Last Update : 6 เมษายน 2553 0:58:56 น. 7 comments
Counter : 666 Pageviews.

 
น่าสงสารมวลชนที่ไปร่วมชุมนุม แกนนำต้องการให้มีการ
สลายม็อบแน่ๆ จะได้อ้างว่ารัฐบาลทำร้ายประชาชน
ผู้ที่จะบาดเจ็บหรือเสียชีวิตก็มวลชนนั่นแหละ ส่วนแกนนำ
อย่างดีก็ถูกจับแล้วก็ได้รับประกันตัว


โดย: ประชาชน (Ni.Somsak ) วันที่: 6 เมษายน 2553 เวลา:7:37:19 น.  

 
ถ้าไม่ปล่อยให้เหลืองทำได้แล้วไม่ต้องรับโทษก่อน
วันนี้ก็ไม่มีแดงออกมาเคลื่อนไหวบ้างหรอก
อย่าไปโทษใครเลย คุณทำได้เขาก็ทำได้


โดย: หอมกร วันที่: 6 เมษายน 2553 เวลา:8:53:40 น.  

 
เห็นด้วยกับ คุณหอมกร 100% ค่ะ


โดย: AsWeChange วันที่: 6 เมษายน 2553 เวลา:9:35:37 น.  

 
การปกครองประชาชนด้วย***กฎหมาย***
กฎหมายนั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของความ***ยุติธรรม***


โดย: ใบเลี้ยงเดี่ยว วันที่: 6 เมษายน 2553 เวลา:10:04:10 น.  

 
ขอถาม แกนนำเสื้อแดงทำเพื่อใคร พันธมิตรทำเพื่อใคร ถามใจตัวเองดีๆ ตอบแบบไม่ลำเอียงนะ


โดย: ขนมหอม IP: 124.121.171.192 วันที่: 6 เมษายน 2553 เวลา:15:46:52 น.  

 
เบื่อจังพวกเด็กไม่รู้จักโต ทําไมเราจะต้องทําตัวเลวเหมือนคนอื่น ด่าว่าพวกเหลืองมันเลว แล้วทําตามเขาทําไม ไม่รักบ้านเกิดเมืองนอนเลยใช่ไหม พวกคุณน่ะ


โดย: เมลดา IP: 94.120.107.31 วันที่: 6 เมษายน 2553 เวลา:17:21:21 น.  

 


โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 15 เมษายน 2553 เวลา:6:01:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สุริยาอัสดง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เปิดโลกด้วยแสงแห่งปัญญา
Thaiflood
Friends' blogs
[Add สุริยาอัสดง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.