SuNiPa'S BloG
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
11 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 

เหนื่อยจังเหนื่อยใจ



เหนื่อยจังงงง ทำมายวันนี้มันเหนื่อยแท้น้อออ ใจจริงอยากมุดตัวลงใต้ผ้าห่ม แล้วนอนหลับให้ร่างกายรักษาตัวของมันเองโดยธรรมชาติ แต่วันนี้มีหลายอย่างกระแทกใจจนทำให้ได้ฉุกคิดหลายๆเรื่อง เลยอยากเขียนบันทึกเอาไว้ให้เป็นอนุสรณ์ชีวิตของตัวเอง

วันนี้มีแค่ประชุมเช้า จากนั้นก็นั่งแปลเอกสารจนตาแทบปลิ้น

ประมาณสิบเอ็ดโมงเช้า ติ๊ด สัญญาณเรียกเข้าที่เราตั้งไว้ให้ดังแค่ครั้งเดียวส่งเสียงบอกว่ามีสายเข้า ในใจไม่อยากรับสายเพราะเป็นเวลางานแต่พอเหลือบดูชื่อ ปรากฏว่าเป็นเพื่อนเก่าสมัยเด็กๆ เราเลยตัดสินใจคว้าโทรศัพท์แล้วรีบเดินไปเข้าห้องน้ำ เพื่อนบอกว่าหมุนเงินไม่ทันพอจะมีให้ยืมไหม เราถามเพื่อนว่าเท่าไหร่

"หมื่นนึง"
อืมมมม น้อยซะที่ไหน เราอ้ำๆอึ้งๆเล็กน้อย เพื่อนเลยบอกว่าไม่เป็นไร ไม่มีก้อไม่เป็นไรนะ เราเลยถามว่าจะเอาเมื่อไหร่
"วันนี้"
อืมมมม วินาทีนั้น เราหายใจเข้าปอดลึกๆ และนึกย้อนถึงครั้งหนึ่งในอดีต เพื่อนคนนี้เคยให้เรายืมตังค์ตอนที่เราเดือดร้อน แม้ตัวเลขจะแค่หลักพัน น้อยกว่านี้ครึ่งกว่าๆ แต่
ความรู้สึกของเพื่อนที่ต้องการช่วยเหลือเพื่อนคงตีค่าเป็นตัวเลขไม่ได้ ไม่ว่าจะหมื่น หรือแสน มันไม่สามารถหักลบบุญคุณที่มีต่อกัน ความรู้สึกของผู้หยิบยื่นให้แม้จะแค่บาทสองบาทแต่มันก็ไม่ได้สูงส่งน้อยกว่าความรู้สึกของผู้ให้ที่กำลังหยิบยื่นเงินแสนให้ผู้อื่น ที่สำคัญเพื่อนไม่ได้มีไว้ให้รู้จักเฉพาะเมื่อสุข แต่เมื่อทุกข์คนที่อยู่เคียงข้างก็ควรเป็นเพื่อนอีกเช่นเดียวกัน

"ได้ เย็นนี้หลังเลิกงานนะเราจะไปโอนตังค์ให้"

ห้าโมง เสียงสํญญาณดังบอกว่าได้เวลาเลิกงานแล้ว แต่เรายังกลับบ้านไม่ได้เพราะมีชั่วโมงสอนภาษาญี่ปุ่นให้สต๊าฟในโรงงาน

พอสอนเสร็จเรารีบวิ่งไปหน้าโรงงานและมองหาพี่วิน(มอไซค์รับจ้าง) บอกพี่วินว่าไปโลตัส พอไปถึงรีบดิ่งไปธนาคารเพื่อถอนเงินจากบัญชีเงินออมของตัวเองและโอนเงินให้เพื่อนทันที

จัดการธุระเรียบร้อยเลยเดินเล่นดูของเลื่อยเปื่อยในโลตัส อาจเป็นเพราะยังคงมึนงงด้วยอะไรหลายๆอย่าง เดินเหมือนคนใจลอยเล็กๆ ตาเหลือบไปเห็นร้านอาหารฟูจิ ฮึ่มมมม ซื้อของเสร็จแกเสร็จฉันแน่เจ้าอาหารญี่ปุ่น

จากความตั้งใจเดิม กะจะแค่ดูเอาไปเอามาเราก็กลายเป็นเหยื่อของลัทธิบริโภคนิยม ซื้ออะไรก็ไม่รู้ เห็นอะไรก็ไม่รู้ กลายเป็นคนสิ้นสติชั่วขณะ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ต้องจ่ายตังค์พันกว่าบาท พอดีตอนนี้มีรายการชิงโชครถยนต์ ถ้าซื้อครบสามร้อยบาทจะได้รับคูปองหนึ่งใบ คนบ้าๆอย่างเราเลยได้ตั้งหกใบ

รับคูปองจากพี่สาวพนักงานของโลตัสแล้วก็นั่งกรอกชื่อที่อยู่ลงในคูปองเพื่อเอาไปหย่อนลงในกล่องชิงโชค ระหว่างที่กำลังก้มหน้าก้มตากรอก ตาเหลือบไปเห็นมือใครคนหนึ่งกำลังค่อยๆบรรจงเขียนอย่างช้าๆ เราชะงักพิจารณาดูมือที่กำลังเขียนตัวอักษรงกๆเงิ่นๆ มือใหญ่กว้าง ผิวคล้ำแดด กลำงานหนัก เล็บสั้นกุด ดำ ดำ ตามซอกเล็บเต็มไปด้วยดิน

"พ่อพ่อ ใบนึงเขียนชื่อพ่อนะ อีกใบใส่ชื่อลูก"

สิ้นเสียง เราหันไปมอง เห็นผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณสามสิบกว่าๆ แต่ใบหน้ามีร่องรอยของการตรากตรำทำงานหนัก

พี่ทั้งสองคนคงซื้อของประมาณหกร้อยกว่าบาท ถึงได้รับคูปองสองใบ

น้ำลายจุกคอ แทบกลืนน้ำลายไม่ได้ เราก้มหน้าและรีบกรอกคูปองของตัวเองให้เสร็จ แล้วเอาไอ้คูปองเวรนี่ไปหย่อนกล่องชิงโชค และเดินออกมาจากสถานที่นั้นอย่างรวดเร็วด้วยความรู้สึกที่อยากหนีให้ไกลจากบรรยากาศอึดอัดที่อาจมีเพียงเราที่สัมผัสได้

พอเดินมาถึงหน้าร้านฟูจิ หยุดมองเล็กน้อย แล้วในใจก็บอกว่ากลับบ้านไปกินแจ่วพันปีในตู้เย็นดีกว่า แกงหน่อไม้ที่ซื้อจากตลาดนัดเมื่อวานยังเหลือ ผักลวกที่มีมากพอกินได้ถึงสองวันก็ยังมีอยู่

ของที่ซื้อมาพันกว่าบาทแบบไร้จุดหมาย เพียงเพราะคิดอยากเดินเล่นเรื่อยเปื่อย กับของมูลค่าหกร้อยบาทที่พี่ทั้งสองซื้อมันคงเป็นสิ่งจำเป็น มันช่างบัดซบสิ้นดี เงินหกร้อยที่พี่ต้องทำงานอย่างหนักกว่าจะได้มา แต่เรากลับผลาญเงินเหมือนลอยอยู่ฟ้า ถ้าเราตัดสินใจเดินเข้าร้านฟูจิ มื้อนั้นคงมีค่าพอๆกับหลายๆ มื้อของพี่ทั้งสอง

เราเดินออกมาอย่างซังกะตาย รู้สึกเกลียดชังตัวเองจริงๆ นึกถึงพ่อที่เคยบอกลูกหลานในวันรวมญาติเมื่อปีก่อน ด้วยความที่ครอบครัวเราอยู่บ้านนอกอิสาน วัฒนธรรมการกินยังเป็นแบบปูเสื่อ นั่งเปิบข้าวเหนียว ญาติพี่น้องล้อมวงกันกินข้าวพร้อมหน้าสิบกว่าคน อยู่ๆ พ่อก็โพล่งขึ้นมาว่า

"พ่อภูมิใจมากที่ได้เห็นลูกเห็นหลานประสบความสำเร็จในการเรียน หน้าที่การงานกันอย่างทุกวันนี้ แต่อยากขอบอกไว้อย่างหนึ่งว่า อย่าได้ลืมตัว ครอบครัวเราเกิดมาจากดิน ทุกคนที่นี่เกิดมาจากดิน จงอย่าได้ลืมดินที่ให้ชีวิตเรามา"

เราเดินน้ำตาคลอออกมาจากโลตัส ขึ้นพี่วินกลับหอพัก อาจเป็นเพราะสภาพจิตใจไม่ปกตินัก พอเห็นอะไรก็สามารถทำให้เราคิดและจมลึกกับมันได้อย่างรวดเร็ว

พี่วินขี่รถเร็วมากจนเรากลัว นั่งตัวเกร็งไปตลอดทาง ในใจก็พลันคิดฟุ้งซ่านโน่นนี่ไปทั่ว

"ทำไมวะ มอเตอร์ไซค์รับจ้างเป็นพาหนะที่คนใช้กันอย่างแพร่หลายและใช้กันเป็นปรกติในชีวิตประจำวันไม่ต่างกับรถเมล์ รถสองแถว แต่ไม่มีอะไรรับประกันความปลอดภัยของผู้ใช้บริการรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเลย หน่วยงานของรัฐเพียงแค่สักจะเก็บค่าวิน แค่คิดไปถึงการควบคุมดูและวางมาตรฐานความปลอดภัย ในโรงงานอุตสาหกรรมเราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง อาจด้วยเหตุผลด้านการค้า หรือเหตุผลเฮงซวยอะไรก็ช่าง แต่อย่างน้อยความปลอดภัยที่ว่าก็ตกอยู่ที่พนักงานในโรงงาน เมื่อก้าวเข้ามาในโรงงานด้วยอวัยวะครบสามสิบสอง เมื่อเดินออกไปก็ต้องครบทุกส่วนพร้อมมีชีวิตกลับไปหาครอบครัว ถ้าเปรียบเทียบประเทศไทยเป็นโรงงาน เราอยากให้รัฐบาลคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตของพนักงานทุกคน ไม่ว่าเค้าจะอยู่ที่ส่วนไหนของโรงงาน"

การเรียกร้องนี้มันอาจเป็นไปได้ยาก แต่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าคนไทยมีจิตสำนึกต่อความปลอดภัยมากกว่านี้ ยอมรับและเชื่อว่าเราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะรับการดูแลสวัสดิภาพและชีวิต เราคงไม่ปล่อยให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัวมันผ่านเลยไป เราคงไม่รู้สึกว่าเฉยชาและเมินเชยต่อสิ่งที่ไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของเราแบบนี้ อย่าว่าแต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ แบบมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แม้แต่เรื่องใหญ่ๆที่เกิดขึ้นมันขยายใหญ่จนแทบจะแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปเพราะประชาชนที่มีจิตสำนึกที่เข้มแข็งจะเป็นฝ่ายรุกให้รัฐบาลทำงานรับใช้ประชาชนให้ดีที่สุดไม่ใช่เป็นแค่ฝ่ายรอรับเศษอาหารจากรัฐบาลอีกต่อไป

ไปนอนล่ะ

อินุ




 

Create Date : 11 กรกฎาคม 2550
0 comments
Last Update : 11 กรกฎาคม 2550 23:16:47 น.
Counter : 508 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


srikoson
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีคร้าบ
ดูจากชื่อblogคงรู้ว่าเราชื่อจริงว่าอะไร
แต่เพื่อนๆชอบเรียกว่า "อินุ" ขอย้ำว่า "อิ" ไม่ใช่ "อี"
คนที่ทำงานเรียก "โอ๋"
เพื่อนญี่ปุ่นบางคนเรียก "สุนิจัง" บางคนเรียก "สุนิปะ"
อยากเรียกอะไรก็สุดแล้วแต่จะสะดวก
ขออย่างเดียวเวลาด่า กรุณาด่าในใจนะคร้าบบบ

Thank You - By: ALANIS MORISSETTE
Like this music? Grab 'em at MP3-Codes.com!
Google
Friends' blogs
[Add srikoson's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.