|
ซาตานรักบัลลังก์ทราย ตอนที่ 5
โดย แก้วอินทนิล
เหตุใดป่านนี้ยังไม่กลับกันมาอีก...
ท่านวิเซียร์อซิเซห์เดินงุ่นง่าน ชะเง้อชะแง้เป็นเสือติดจั่น บ่นพร่ำไม่ขาดปาก
...หรือว่าจะเกิดเหตุร้ายกับท่านอัซเซมาน
สายตาเรียวเล็กของไกฟาร์ทอดยาวนิ่งไปท่ามกลางทะเลทรายมีแววกังวลเมื่อนึกถึงชี้คหนุ่มที่ห้อม้าฝ่าทะเลทรายกลางดึก แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่ากำลังจะเกิดพายุใหญ่ตามมาในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า เพียงเพื่อติดตามนางเชลย !
ข้าจะออกติดตามเอง... ท่านพ่อ น้ำเสียงไกฟาร์อาสาหนักแน่นทำให้ผู้เป็นบิดาค่อยคลายใจ ไกฟาร์เป็นคนจริงจังตั้งแต่เด็ก ด้วยเหตุนี้วิเซียร์เฒ่าจึงวางใจให้บุตรชายเป็นราชองครักษ์อารักขาใกล้ชิดและเป็นที่ปรึกษาภารกิจใหญ่...
การกอบกู้ราชบัลลังก์เมดินาจากกษัตริย์เจ้าเล่ห์อย่างฟาลุค!
อซิเซห์พยักหน้าเล็กน้อย แม้จะเบาใจแต่สีหน้าก็ยังมิคลายริ้วรอยความกังวลเสียทีเดียว
อย่าลืม นำองค์หญิงดุลยาเสด็จกลับมาด้วย
ไกฟาร์ค้อมศีรษะรับบัญชาผู้เป็นทั้งบิดา และที่ปรึกษาอาวุโสของชี้คหนุ่มผู้ไร้บัลลังก์
องครักษ์หนุ่มกระโดดขึ้นหลังม้าสีขาว อซิเซห์มองบุตรชายคนเดียวอย่างพินิจ ยิ่งนับวันไกฟาร์ก็ยิ่งดูองอาจ สง่างาม อีกทั้งสติปัญญาก็เฉลียวฉลาด ดวงตาเรียวเล็กเป็นประกายรับกับแผงคิ้วดำขลับยิ่งทำให้ดวงหน้าสะอางใสของชายหนุ่มดูโดดเด่นยิ่งขึ้น
รีบไปเถอะ
ไกฟาร์ค้อมศีรษะเล็กน้อย ก่อนขยับสายบังเหียนในมือ ม้าสีขาวพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
วิเซียร์อซิเซห์มองบุตรชายจนกระทั่งหายลับไปยังทะเลทรายที่ตัดกับเส้นขอบฟ้าอันไกลโพ้น
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
แสงอาทิตย์แดงฉานสาดเข้าตาเขา...
เสียงครางเบาๆหลุดรอดจากริมฝีปากที่แห้งแตก เมื่อการขยับเขยื้อนทำให้เขาปวดแสบปวดร้อนตามผิวแตก และเปลือกตาก็ระบมจนไม่อยากขยับ
อัซเซมานพยายามจะหันหน้า ความรู้สึกปวดจี๊ดก็แล่นวาบไปทั่วศีรษะทันที ทำให้เขาครางแหบแห้งออกมาแล้วทิ้งศีรษะซบลงบนท่อนแขนตามเดิม
ความทรงจำแล่นวาบเข้ามาในสมองดั่งกระแสน้ำ
เขาควบม้าตามหานางเชลยจนกระทั่งพบ แล้วพายุงวงช้างจะพัดโหมกระหน่ำ หอบร่างเขาและเธอที่กอดสนิทแนบแน่น ลอยละลิ่วเคว้งคว้างกลางอากาศ ก่อนที่จะสิ้นสติสัมปชัญญะ
ดุลยา...
เขาครางแหบแผ่วในลำคอได้เพียงคำเดียว ก่อนขยับศีรษะที่ปวดแปลบโงหัวขึ้น คอแห้งผากกระหายน้ำ พยายามข่มอาการปวดตุบๆแล้วลุกขึ้นนั่ง ดูเหมือนว่าทะเลทรายจะหมุนติ้วๆรอบตัว
อัซเซมานเหลียวมองรอบตัว ไม่พบแม้วี่แววขององค์หญิงผู้สูงศักดิ์
ดุลยา... เธออยู่ที่ไหน
เขาตะโกนกู่ก้องกลางทะเลทราย วิ่งกระเซอะกระเซิงตามหาหญิงสาวคล้ายคนบ้า
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาจึงรู้สึกเป็นห่วงดุลยาจับหัวใจ ทั้งๆที่ความจริงแล้วเขาอยากจะให้เธอตายเสียตรงหน้าให้รู้แล้วรู้รอด ไม่สิ... ความตายอาจจะง่ายเกินไปสำหรับดุลยาเมื่อเทียบกับความแค้นที่พ่อของเธอได้ก่อไว้กับเขาและพ่อ ไฟแค้นที่สุมอยู่ในอกจะยังมอดดับลงง่ายๆไม่ได้ นางเชลยต้องชดใช้อย่างสาสม !
แต่ตอนนี้ เธออยู่ที่ไหนกันนะ ดุลยา ???
อัซเซมานรู้สึกสับสนบอกไม่ถูก ความรู้สึกที่เกิดขึ้นระคนความเกลียดนั้นเรียกว่าอะไรกันแน่
ชีคหนุ่มรีบสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัว
จะเป็นอะไรก็ช่าง... แต่ต่อนนี้ต้องหาเธอให้เจอก่อน ! อัซเซมานวิ่งวุ่นตามหาไปทั่วท้องทะเลทราย ท่ามกลางแสงแดดที่แผดเปรี้ยงจากดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน ผิวที่กร้านแดดของเขาเมื่อต้องหยาดเหงื่อก็ยิ่งเรื่อแดงเป็นมันปลาบ ดูกายเขาช่างแกร่งคล้ายนักรบหนุ่มที่เจนสมรภูมิ
ทันใดนั้น ! เขาก็เห็นชายผ้าสีขาวล้วนที่โผล่พ้นจากผืนทรายร้อนฉ่า
อัซเซมานจำได้ติดตา นั่นคือพัสตราภรณ์ของดุลยา !
พระเป็นเจ้าช่วย ! ร่างของเธอกำลังถูกฝังอยู่ใต้พื้นทรายอันระอุอุ่น
เป็นหรือตายยากที่จะรู้!
เขารีบใช้มือตะกุยพื้นทรายบริเวณนั้นให้แหวกเป็นวงกว้าง และลึกลงไป หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ รู้สึกถึงความกลัวที่เกาะกุมขึ้นภายใน หลังจากหัวใจที่เย็นชาของเขาปราศจากความรู้สึกเช่นนี้มานานแล้ว
ท่อนแขนเรียวเล็กของดุลยาโผล่พื้นทราย เขาฉุดร่างของเธอขึ้นมาประคองไว้ในอ้อมแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามลำโต
ดุลยา เธอจะเป็นอะไรไม่ได้นะ
เขาเขย่าร่างที่ไม่รู้สติของหญิงสาว
ใบหน้าของดุลยาเวลานี้ซีดเผือดไร้สีเลือด ริมฝีปากขาวแห้งแตกจนเลือดซิบ ชีพจรเต้นอ่อนลงทุกขณะ เนื่องจากขาดอากาศหายใจใต้พื้นทรายเป็นเวลานาน
อัซเซมานกอดร่างดุลยาไว้แน่น หัวใจแทบหลุดลอย เมื่อคิดว่า...
เธอกำลังจะตาย
เขาตัดสินใจวางร่างแบบบางของหญิงสาวลงบนพื้นทรายอันอ่อนนุ่ม ค่อยๆโน้มใบหน้าลงมา แล้วบรรจงจรดริมฝีปากของเขาลงประกบกับดุลยาแนบแน่นเนิ่นนาน
อากาศที่ถ่ายเทจากปากของชายหนุ่มค่อยๆเลื่อนไหลไปทั่วทั้งร่างดุลยา สมองที่กำลังจะหยุดสั่งการเมื่อครู่ เมื่อได้รับอากาศหล่อเลี้ยงก็กลับคืนมาทำงานอีกครั้ง
ดุลยาสูดหายใจลึก ก่อนสำลักแรงๆออกมา
อัซเซมานเผยยิ้มออกมาอย่างดีใจที่หญิงสาวฟื้นคืนสติ รอดพ้นจากวินาทีแห่งความตายมาได้อย่างหวุดหวิด
ดุลยาลืมเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆ ม่านตาค่อยๆปรับแสงหลังจากที่ไม่ได้ทำงานเป็นเวลานาน
ใบหน้าของอัซเซมานที่เปี่ยมด้วยรอยยิ้มลอยเด่นขึ้นในดวงจักษุของผู้ดำรงศักดิ์เป็นองค์หญิงแห่งเมดินาเป็นภาพแรก ที่เบลออยู่เมื่อครู่ก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
รู้สึกตัวแล้วเหรอ ดุลยา
น้ำเสียงยินดีของชีคหนุ่มเจือด้วยความอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ดุลยาหยีดวงตากลมโตครู่นั้น พยายามนึกย้อนทบทวน รู้สึกปวดหัวอย่างหนักจนแทบระเบิด ยกมือขึ้นกุมที่ขมับ
เธอจ้องหน้าอัซเซมานด้วยความสงสัย ก่อนเอ่ยถาม...
ท่านเป็นใคร ???
Create Date : 13 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 13 มิถุนายน 2553 15:46:07 น. |
|
1 comments
|
Counter : 321 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ส้ม (orangery kk ) วันที่: 13 มิถุนายน 2553 เวลา:22:58:14 น. |
|
|
|
|
|
|
|