Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
5 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
พิภพอำพราง ตอนที่ 7

ตอนที่ 7
อำพันเรขา


ลึกเข้าไปในป่าอีกฟาก ปิศาจค้างคาวบินวนเวียนดูลาดเลา เมื่อเห็นทำเลเงียบสงัด ปราศจากอสูรร้ายตนอื่นๆแล้ว จึงตัดสินใจถลาร่อนลงใกล้โคนไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง

สัตว์ร้ายจากขุมนรกแยกเขี้ยวเตรียมขย้ำเด็กน้อย ปากกว้างของมันคำรามลั่นด้วยความหิวกระหาย เผยให้เห็นเขี้ยวยาวคมกริบเหมือนใบเลื่อย ลิ้นแหลมของมันอย่างลิ้นค้างคาวแลบยาวเฟื้อยออกมาเลียริมฝีปากหนากว้าง

“แฮ่...ฮ่...”
มันเงื้อกรงเล็บสุดแขน หมายกระซวกลงที่หน้าท้องขาวของเด็กน้อย หมายล้วงตับไตไส้พุงออกมากินเป็นอาหารอันโอชะ

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ !”
เสียงนั้นดังออกมาจากต้นไม้

ปีศาจร้ายหันไปมองต้นเสียงด้วยความกราดเกรี้ยวที่มีมารคอหอยมาขัดจังหวะ

ทันใดนั้น ก็มีควันสีขาวลอยพวยพุ่งขึ้นเป็นลำกลุ่มใหญ่อยู่ในอากาศม้วนเป็นวง แล้วจางหายไป ก่อนปรากฏเป็นผู้หญิงรูปร่างหน้าตาสวย นัยน์ตาคม ผิวขาว เส้นผมดำสละสลวยยาวถึงกลางแผ่นหลัง ชุดที่สวมสไบเฉียงพลิ้วไสว คาดสังวาลทอง รับกับผ้านุ่งทอเข้าชุด ก้าวออกมาจากต้นตะเคียนใหญ่

“วางเด็กลงเดี๋ยวนี้ !”
นางชี้นิ้วออกคำสั่ง

แต่อสูรร้ายไม่ฟังเสียง หันมาแยกเขี้ยวคำรามใส่น่าขวัญหนี
“ทำไมข้าจะต้องเชื่อเจ้าด้วย อีผีนางไม้ อย่ามายุ่งกับข้า แกมันก็ผีเหมือนกันล่ะวะ”

“ข้าจัดอยู่ในจำพวกเทพ เข้าใจเสียใหม่”
นางไม้เชิดหน้ากอดอก เล่นลิ้น

“ก็แค่เทพชั้นต่ำแหละวะ จะมีฤทธิ์เดชสักเท่าไหร่กัน ข้าไม่กลัวแกหรอก จะขยี้ให้แหลกคามือก็ยังได้ที่บังอาจมาขัดลาภข้า”

“หน็อย เก่งจริงก็เข้ามาสิ”
นางไม้กระดิกนิ้ว ท้าทาย

“อยากลองดีนักเหรอ อีนางตะเคียน”
ปิศาจค้างคาวรับคำท้าวางเด็กลงกับพื้นหญ้า หมายต่อกรกับนางไม้ปากกล้าให้รู้ดำรู้แดง

“สามหาวนัก นี่แน่ะ”
นางไม้ปล่อยแสงสีแดงออกจากดวงตาคมกริบคู่นั้น พุ่งไปยังร่างปิศาจร้าย

“แฮ่ะๆๆ แค่นี้เองรึ ฤทธิ์เดชของแก อีนางไม้กะเรวราก ! คัน ๆ ว่ะ ขนาดไฟนรกร้อนแรงกว่านี้นับร้อยเท่าพันทวี ข้ายังทนได้”
แววตานางไม้ตระหนก ด้วยฤทธิ์เดชที่มีไม่สามารถทำอะไรปีศาจค้างคาวอวดดีได้

“นี่เราทำอะไรมันไม่ได้จริง ๆเหรอเนี่ย”

“ทีข้ามั่งล่ะ”

ปิศาจร้ายบินโฉบใช้กรงเล็บเท้าตะปบแขนนางไม้ไว้แล้วบินทะยานขึ้นที่สูง
“ว้าย”

หล่อนรู้สึกเสียววูบที่พุ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ปีศาจค้างคาวจะปล่อยร่างนางลงกระแทกกับพื้นก้นจ้ำเบ้าไม่เป็นท่า

“อ๊ายยยยย !”
เสียงหวีดร้องลั่น

“แก !”
นางไม้เลือดแค้นขึ้นหน้า ยังเจ็บแปลบที่ก้นกบ

“เดี๋ยวเหอะ เข้ามาเลย”
นางตะเคียนยกหินก้อนเขื่องไว้ พอได้โอกาสที่ปิศาจค้างคาวบินโฉบลงมาก็หินทุ่มลงตรงกลางกะโหลกปิศาจค้างคาวทันที

“อ๊าค...ค...ค”
มันร้องเสียงโหยหวน มันสมองทะลักออกมาเป็นลิ่ม ๆ เลือดสีเขียวทะลักจากปากและจมูกเหมือนท่อประปาแตก มันทรุดลงกับพื้นแน่นิ่งไป

“อยู่ละ ไอ้ปิศาจร้ายเอ้ย นึกว่าแน่ เชอะ !”
นางไม้เชิดหน้าใส่ ก่อนคุกเข่าลงอุ้มเด็กน้อย

“เจ้าตัวน้อย ปลอดภัยแล้ว มาหาน้ามา”
นางอุ้มทารกมนุษย์ขึ้นมาดูใกล้ ๆ

เด็กน้อยไม่รู้ประสีประสา หัวเราะเอิ้กอ้าก เล่นกับพี่สาวใจดี
“น่ารักน่าชังจริง อยู่กับน้ามั้ย ฮิฮิ ลูกใครหนอพ่อช่างปั้น”
ขณะที่นางไม้กำลังเย้าแหย่ทารกน้อยอยู่นั้น เจ้าปิศาจร้ายจากขุมนรกก็ลืมตาโพลงขึ้น มันหันมาทางนางอย่างประสงค์ร้าย

“แฮ่...ฮ่”
ปิศาจค้างคาวค่อยๆยันกายขึ้นสยายปีกกว้าง มองมาอย่างอาฆาตมาดร้าย

“ว้าย ยังไม่สิ้นฤทธิ์อีกเหรอ ทำไมมันอึดอย่างนี้ อยู่ไม่ได้แล้วไอ้หนู เข้าบ้านดีกว่า”
นางหายแว้บเข้าไปในต้นไม้ที่พำนัก ภายในนั้นตกแต่งไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยคล้ายบ้านพักอาศัย นางนั่งพักเหนื่อยที่ตั่งตัวเตี้ย

“มันจะตามมาได้ไหมนี่”
พูดพลาง ยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่หน้า

“เจ้าเข้าได้ ข้าก็ต้องเข้าได้สิ ! แฮ่”
มันบินตามเข้ามาภายใน แววตาแดงก่ำ

“ว้าย ไอ้ผีนรก แกกล้าดียังไง ถึงได้บุกเข้ามาในบ้านข้า ออกไปเดี๋ยวนี้”

“ส่งเด็กมา ข้าหิว”

“ไม่ ไปหาคุ้ยกินซากสัตว์ตายโน่น อย่ามายุ่งกับเด็กคนนี้”
นางไม้กอดทารกไว้แนบอก

“เอาของข้ามา”
มันยื่นกรงเล็บออกไปหมายจะตะปบ แต่นางไม้หลบทัน

“ไม่”
ที่ต้นแขนของนางตะเคียนถูกกงเล็บอันคมกริบราวมีดโกนของมันเฉี่ยวจนเลือดสีแดงไหลเป็นทางยาว ทั้งเจ็บทั้งแสบ
นางตะเคียนตัดสินใจกระโจนออกไปนอกต้นไม้ หลบกงเล็บของมันที่เงื้อหมายจะซ้ำอีกระลอกได้อย่างหวุดหวิด

“ว๊ายยยยยย”

“แฮ่...ฮ่”

“เอาไงดี ๆ”
นางไม้ขมวดคิ้วบางเรียว ครุ่นคิด

“จริงสิ”
นางดีดนิ้วดังเป๊าะ ยิ้มมาดมั่น

“ต้องไปขอความช่วยเหลือจากเทพารักษ์ เทพารักษ์ต้องช่วยเราได้”
นางไม้วิ่งสุดฝีเท้า อีกทั้งยังต้องวิ่งทั้งอุ้มเด็กที่เป็นกายหยาบ จึงใช้พลังมากกว่าปกติ นางตะเคียนรวบรวมพลังจิตมั่น คิดถึงอำนาจบารมีที่เคยสั่งสมมาแต่ชาติพบก่อนให้บันดาลพละกำลังแก่นางในการช่วยชีวิตทารกมนุษย์น้อยผู้นี้

นางตะเคียนรู้สึกเหนื่อยอ่อนแทบขาดใจ กว่าจะวิ่งถึงศาลเทพารักษ์ที่ดูแลป่า
“เทพารักษ์ ท่านเทพารักษ์ ช่วยด้วย”

ตะโกนเรียกที่หน้าศาลไม้เก่าพังพาบ ที่พร้อมจะล้มครืนได้ทุกเมื่อ เนื่องจากปราศจากการดูแลรักษา
“ท่านเทพารักษ์ ๆ อยู่ไหมคะ ท่านคะ อยู่หรือเปล่า”

แต่ปราศจากเสียงตอบรับ ไร้วี่แววของเทวดาผู้พิทักษ์ผืนป่า
นางชะโงกหน้าเข้าไปในศาล

“ว้า ให้ตายสิ ดันไม่อยู่อีก ”

“แฮ่”
เจ้าสัตว์ร้ายนั่นบินตามมาทันจนได้

“โอย ทำไงดี เทพารักษ์ก็เกิดไม่อยู่ตอนนี้ สงสัยไปแอบดูกินรีอาบน้ำที่ป่าหิมพานต์แน่เลย”

“แฮ่ เอามาเดี๋ยวนี้”

“ไม่ กลับไปลงนรกซะ ไป๊”
นางกลับหลังเตรียมวิ่งหนีต่อแต่ยังไม่ทันก้าวขา...

“จะหนีไปไหน อีนางไม้”
มันคว้าหมับกำผมของนางไว้แน่น กระชากจนนางหน้าหงาย

“ว้าย โอ๊ย ปล่อย”
ทั้งสองยื้อยุดกันไปมา

“แง้ๆๆ”
เด็กน้อยร้องไห้จ้า

“ข้าจะถลกหนังหัวแก อีนางไม้ชั้นต่ำ”



Create Date : 05 มิถุนายน 2553
Last Update : 24 มิถุนายน 2553 20:17:43 น. 1 comments
Counter : 1620 Pageviews.

 
จะมาอัพอีกไหมหน่า T^T


โดย: sakeena IP: 110.168.123.202 วันที่: 26 มกราคม 2554 เวลา:13:29:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดับตะวัน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดับตะวัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.