|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
พิภพอำพราง ตอนที่ 3
พิภพอำพราง ๓ โดย อำพันเรขา
เหมือนแพรกำลังนั่งโขลกน้ำพริกเสียงรัวหนักจนพื้นครัวที่เป็นไม้กระดานไหวยวบตามแรงสะเทือนของครกหินที่โยนตัวตามจังหวะกระชั้นถี่ คนโบราณบอกว่า ถ้าอยากรู้ว่าลูกสาวบ้านไหนเป็นแม่ศรีเรือนเหมาะจะสู่ขอมาเป็นลูกสะใภ้ ให้ฟังเสียงตำน้ำพริก ... ยิ่งหนัก ยิ่งถี่ ยิ่งดี...
พิมาลาเดินเข้าครัวมานั่งข้างๆพี่สาว ทำอะไรทานคะ หอมเชียว น้ำพริกกะปิจ้ะ ให้พิมช่วยนะคะ อย่าเลย เดี๋ยวกลิ่นกระเทียมจะติดมือเปล่าๆ ไม่เห็นเป็นไรเลย พิมาลาหยิบกระเทียมมาแกะเปลือก ให้แจ๋นช่วยมั้ยคะ แจ๋นที่กำลังหั่นแตงกวาอยู่ที่อ่างล้างจาน หันหน้ามายิ้มแป้นแล้นให้ น้ำเสียงแปร่งไร้ตัวสะกดของแจ๋นทำให้พิมาลาอดขำไม่ได้
ไม่ต้องหรอกจ้ะ ฉันทำเองได้ นี่ ผู้ชายที่มาด้วยน่ะ แฟนเหรอ เหมือนแพรแกล้งกระซิบกระซาบ หน้าตาคมคายดีนะ ท่าทีก็ดูเรียบร้อย คุณแม่ยังชมเลย เห็นแนะนำว่าเพื่อน ไม่จริงมั้ง
เหมือนแพรลอบสังเกตอากัปของน้องสาวที่อายม้วนต้วน เลือดฝาดสูบฉีดจนแก้มแดงปลั่ง นั่งบิดเปลือกกระเทียมเล่น ไม่ยอมตอบ ก็พอเดาออกว่าอะไรเป็นอะไร ดูสิ... หน้าแดงแล้ว แฟนแหงๆ หนูก็ว่าอย่างนั้นแหละค่า แจ๋นที่ลอบฟังอยู่พลอยผสมโรง แหม พี่แพรก็... พิมาลาพยายามเรียบเรียงคำพูด
แม้ว่าภายนอกจะดูเป็นสาวมั่น เหมือนม้าดีดกะโหลก แต่ถึงอย่างไร เธอก็ถูกแม่สอนให้สำรวมกิริยาวาจาตามอย่างลูกผู้หญิงตั้งแต่ยังเล็ก จะบอกว่าแฟนก็คงดูไม่เหมาะสม เพิ่งคบกันน่ะค่ะ พัสเขาเรียนวิศวะฯ พิมาลาตอบไม่เต็มเสียง
ฮั่นแน่!!! สาวอักษรฯ กับหนุ่มวิศวะฯ เข้ากันราวกับกิ่งทองใบหยก เหมือนแพรแกล้งล้อ เธอกับน้องสาวมักเปิดเผยเรื่องส่วนตัวของกันและกันอยู่เสมอ แค่กำลังดูใจกัน... ปิดเทอม พัสเค้าขอมาเที่ยวบ้านเลยพามาด้วย เข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ เร่งทำคะแนนน่าดูเลยนะ นัยคนนี้ เหมือนแพรพูดอย่างรู้ทัน
ไม่เสียหายใช่ไหมพี่ ??? พิมาลาออดอ้อน ขอความเห็น ตั้งแต่เล็กคุ้มใหญ่ ยังไม่เคยพาผู้ชายที่ไหนมาเปิดตัว เธอจึงรู้สึกกลัวไปหมด กลัวว่าที่บ้านจะไม่ชอบเอย... กลัวว่าจะเข้ากับที่บ้านไม่ได้เอย... กลัวจะถูกมองว่าไม่เหมาะสมเอย... กลัวไปสารพัด...
ไม่เสียหายหรอกจ้ะ คุณแม่กับพี่เข้าใจดี เหมือนแพรยิ้มให้ พิมาลาฟังแล้วค่อยเบาใจ
พามาดูตัวไว้ก่อน เรียนจบ รับปริญญาเมื่อไหร่ ค่อยเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับญาติๆดีมั้ย เหมือนแพรหัวเราะเบาๆ พิมาลาเขิน ปาเปลือกกระเทียมที่ม้วนเป็นเกลียวใส่เหมือนแพร อายจนพูดไม่ออก
------------------------------------------------------------------
พัสสนนั่งอ่านหนังสือที่โต๊ะไม้ลวดลายธรรมชาติในสวนหลังบ้าน หากแต่สมองของเขากลับมิได้จดจ่อต่อตัวอักษรตรงหน้ามากนัก สมองเขากลับครุ่นคิดว่ายวน
เขาชอบบรรยากาศบ้านกลางดงของพิมาลามาก สายลมพัดโชยเอื่อยเย็นสบาย มีเสียงนกป่าที่ส่งเสียงดังระงมราววงดนตรีออเคสตร้าวงใหญ่ขับกล่อมพงไพร ที่นี่ยังคงความเป็นธรรมชาติ ห่างไกลจากน้ำเงินของพวกนายทุนเห็นแก่ตัวอยู่มาก
น้ำจิตน้ำใจที่ทุกคนในบ้านของพิมาลาหยิบยื่นต้อนรับเขาอย่างดี ประหนึ่งว่าเขาเป็นสมาชิกอีกคนหนึ่งทำให้เขาไม่รู้สึกขัดเขิน เขาคิดกับพิมาลามากกว่าเพื่อนสาวคนสนิท... มากกว่าแฟนที่เดินควงคู่ไปไหนต่อไหน... เขาคิดไปไกลวาดฝันว่าพิมาลาคือคู่ชีวิต !!!
ใช่ว่าอายุ 22 ปีของชีวิตหนุ่มเพลย์บอยรูปหล่ออย่างเขาจะไม่เคยผ่านรสรัก เมื่อก่อนเขาเที่ยวผับเที่ยวบาร์บ่อยยิ่งกว่าเข้ามหาวิทยาลัย มีผู้หญิงมากหน้าหลายตาเสนอทอดเรือนร่างให้เขาเชยชมไม่น้อย จนบางครั้งก็เคยปล่อยอารมณ์ให้เผลอฟุ้งกระเจิดกระเจิงไปบ้าง แต่นับตั้งแต่พิมาลาก้าวเข้ามาในชีวิต ทุกอย่างในชีวิตเขาก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไป ผู้หญิงยิ้มใสที่ไม่เคยยอมอ่อนข้อต่อความไม่ถูกต้อง
พัสสนเจอกับพิมาลาครั้งแรก ตอนที่เขาจอดรถในที่ห้ามจอด ก็สาวคนนี้นี่แหละที่ร้องโวยวายว่ารถของเขาจอดบังทางขึ้น-ลงหน้าคณะ แต่เขาก็ไม่ได้ยี่หระ ลูกชายสารวัตรชื่อดังอย่างเขาไม่เคยผิดอยู่แล้ว ผลก็คือ... หลังจากเสร็จธุระ กลับมาที่รถก็เจอทั้งรอยขีดข่วน มิหนำซ้ำยังถูกปล่อยลมจนยางแบนแต๋อีกต่างหาก!!! ตรงที่ปัดน้ำฝนมีกระดาษเอสี่เสียบไว้ ใจความท้าลองดี...
ชั้นชื่อพิมาลา ถ้ามีปัญหานัดเคลียร์ได้ 24 ชม.!!!
พัสสนตามสืบจนรู้ว่าพิมาลาเรียนอยู่ปี 2 คณะอักษรศาสตร์ ตามปกติเด็กอักษรมักจะหงิมๆติ๋มๆไม่กล้าบ้าบิ่นมุทะลุถึงขนาดนี้ แต่นั่นก็ถือเป็นความประทับใจครั้งแรกของเขาที่มีต่อเธอ
พัสสนนัดเคลียร์กับพิมาลาที่ร้านไอศกรีม ในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง หลังจากนั้น... ทั้งสองก็รู้จัก ความโกรธแค้นในตอนแรกหายไปเมื่อไหร่ไม่รู้ ทั้งคู่กลายมาเป็นแฟนกันแบบไม่ทันตั้งตัว
ตั้งแต่นั้นเขาก็เลิกทำตัวเหลวไหล เพราะมีพิมาลาคอยเข้มงวดกวดขันอยู่เสมอ จนเพื่อนสนิทอดแซวไม่ได้... ไอ้เสืออย่างเขาถอดเขี้ยว ทิ้งลายเสียแล้ว!!!
เขานั่งคิดย้อนอดีตแล้วยิ้มกริ่ม โชคชะตามักเล่นตลกกับเราอยู่เสมอ... บทความรักจะมาก็มักมาแบบไม่ทันตั้งตัว แต่บางคนที่ไขว่คว้าหามันแทบตาย สุดท้ายก็กลับเหนื่อยเปล่า!!!
นั่งใจลอยคิดถึงอะไรอยู่หรือ... ลดายกแก้วน้ำอัญชันสีม่วงแก่ ประดับด้วยดอกกล้วยไม้ป่า และมะนาวฝานชิ้นบางๆ มาวางเทียบตรงหน้าเขา
เวลคัม ดริงค์ สูตรของบ้านเราจ้ะ แม่ทำเองกับมือ ลองชิมดูสิ
ขอบคุณครับ
พัสสนบีบมะนาวลงไปในน้ำอัญชัน น้ำสีม่วงแก่เมื่อครู่ทำปฏิกิริยากลายเป็นสีแดงเรื่อทันที เขายกแก้วกระดกดื่ม น้ำอัญชันสูตรพิเศษของลดามีกลิ่นหอมคล้ายอบด้วยควันเทียน แยกไม่ออกว่าผสมเกสรดอกไม้อะไรลงไปด้วย รสไม่หวานจัด พอติดนิดๆที่ปลายลิ้น ดื่มแล้วรู้สึกชุ่มคอชื่นใจ ดับกระหายทันที
น้ำอัญชัน มีสารแอนโธไซยานิน ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่ก่อโรคมะเร็งได้ด้วยนะ ลดาบรรยายสรรพคุณคล่องปรื๋อ
พัสสนนึกประหลาดใจหญิงชราวัยห้าสิบกว่า อยู่กลางป่ากลางดง ทำไมถึงได้มีความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์พวกนี้เป็นอย่างดี
ลดาดูเหมือนจะอ่านความคิดเขาออก เลยชิงตอบก่อน คนแก่อยู่บ้านเฉยๆ ไม่รู้จะทำอะไร แม่ก็เลยชอบอ่านหนังสือน่ะ
พัสสนพยักหน้า มองลดาอย่างชื่นชม คนแก่จำนวนไม่น้อย ชอบคิดว่าตัวเองไร้ค่า จึงเอาแต่นั่งๆนอนๆ ไปวันๆ สุดท้ายก็เส้นยึด เป็นอัมพฤกษ์ เดินไม่ได้ แต่ดูเหมือนลดาจะดูคล่องแคล่ว ฉลาดรู้ และทันคน ผิดจากคนแก่ทั่วไป หญิงชราจ้องไปยังหน้าปกหนังสือที่เขาอ่านแล้วอมยิ้ม
พ่อหนุ่มอ่านหนังสือ ตายแล้วไปไหน ด้วยหรือ
ครับ
ลดาทอดสายตาออกไปยังแนวเขาที่ทอดยาวเหยียดสุดลุกหูลูกตาเบื้องหน้า แสงพระอาทิตย์เป็นสีส้มอ่อนๆ อย่างที่เรียกว่า ผีตากผ้าอ้อม ทำให้ทิวทัศน์บริเวณนั้นดูลึกลับซ่อนเร้น ลดาถอนใจยาว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ
คนสมัยนี้ไม่ค่อยเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย คิดว่าตายแล้วสูญ ชาติหน้าไม่มี จึงทำบาปทำกรรมกันอย่างไม่กลัวเกรง พ่อหนุ่มว่ามั้ย ??? ลดาหันมาถาม
ผมเพิ่งจะสนใจเรื่องโลกหน้า เมื่อไม่นานมานี้เองครับ
แล้วอะไรทำให้หันมาสนใจล่ะ
เรื่องมันยาวน่ะครับ...
พัสสนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนตัดสินใจเล่าเรื่องราวในอดีตให้หญิงชราฟัง
ผมเคยมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่ง เขาสนใจเรื่องนรก สวรรค์ อย่างมากจนเข้าขั้นหมกมุ่น เห็นเขาเที่ยวค้นคว้าหาหนังสือเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มาอ่านอยู่ตลอด...
ความทรงจำในอดีตเมื่อ 3 ปีก่อน ผุดพรายฉายชัดในสมองราวกับม้วนฟิล์มภาพยนตร์ที่ฉายวนในโรงหนังซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
ที่ห้องสมุดมหาวิทยาลัย นิสิตนักศึกษาส่วนใหญ่เริ่มทยอยกลับบ้าน เนื่องจากเย็นมากแล้ว แต่วิทยายังคงนั่งอยู่ที่นั่น บนโต๊ะเต็มไปด้วยหนังสือเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย
พัสสนเดินเข้ามา หวังจะชวนเพื่อนไปเที่ยวกลางคืน แต่คำถามแรกที่วิทยายิงใส่เขาคือ
นายเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายหรือไม่ เขาถาม โดยที่ยังไม่ละสายตาจากหนังสือที่อ่าน
ห้าสิบ-ห้าสิบ ทำไมวะ??? เขาตอบอย่างกั๊กๆ ไม่กล้าฟันธง เรื่องแบบนี้ถูกผู้ใหญ่ฝังหัวมาตั้งแต่เด็ก... แม้ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่....
แต่เราสงสัยจริงๆเลยว่ะ ว่าคนเราตายแล้วจะเป็นยังไง แล้วไปที่ไหน นรก สวรรค์ มีจริงหรือเปล่า หรือเป็นแค่เรื่องประโลมโลก เขาถามรัวเป็นชุดคล้ายอัดอั้นตันใจต่อข้อสงสัยมานาน
ทำยังไงถึงจะได้รู้วะ... วิทยาหันมาถาม สีหน้าเคร่งเครียดจนหน้ากลัว
อยากรู้ ก็ลองตายดูสิวะ !!! พัสสนพูดกลั้วหัวเราะ...
Create Date : 23 เมษายน 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 23 เมษายน 2553 21:48:48 น. |
Counter : 312 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|