สิงหาคม 2553

1
2
3
4
5
6
7
8
9
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
24
25
27
28
29
30
31
 
 
การเรียนของออแพร์ในอเมริกา
กฎสำคัญอีกอย่างของออแพร์คือออแพร์ต้องเรียนให้ได้ 6 เครดิต หรือ 72 ชั่วโมง โดยที่โฮสจะต้องรับผิดชอบจ่ายค่าเรียนให้ออแพร์ไม่เกิน 500 USD ออแพร์จะเรียนอะไรก้อได้ค่ะที่อยากเรียน แต่ว่าจะต้องเรียนในสถาบันที่เทียบเท่ากับวิทยาลัย (College) หรือมหาวิทยาลัย (University) เท่านั้น มีรุ่นน้องออแพร์บางคนเค้าถามว่าเค้าสามารถไปเรียนภาษาฟรีตามโบสถ์หรือสถาบันต่างๆได้หรือไม่ คำตอบคือได้ค่ะ เรียนเพื่อเสริมความรู้ของเรา แต่เก็บเป็นเครดิตของออแพร์ไม่ได้ เพราะเราต้องเรียนในระดับวิทยาลัยหรือมหวิทยาลัยเท่านั้น แล้วน้องบางคนก้อถามมาอีกว่า แล้ววิชาที่อยากเรียนคอร์สหนึ่งมันเกิน 500เหรียญ สามารถลงเรียนได้หรือไม่ ตอบว่าลงเรียนได้ค่ะ แต่ค่าเรียนส่วนที่เกิน500เหรียญ ขึ้นไปนั้น ออแพร์ต้องจ่ายเองค่ะ

วีซ่านักเรียนในอเมริกาส่วนใหญ่คือ F-1 กับ J-1 วีซ่า F-1 คือนักเรียนที่ใช้ทุนส่วนตัวค่ะ ส่วนวีซ่า J-1 คือนักเรียนแลกเปลี่ยนภายใต้องค์กรต่างๆ เช่น ออแพร์, นักเรียนทุน หรือนักวิจัย เป็นต้น

ที่อเมริกา 1 ปีการศึกษา มี 4 ภาคการเรียน หรือ 4 Quarter คือ Fall (กันยายน – พฤศจิกายน), Winter (ธันวาคม – กุมภาพันธ์), Spring (มีนาคม – พฤษภาคม), และ Summer (มิถุนายน – สิงหาคม) แบ่งกันง่ายๆตามฤดูการค่ะ

การเรียนในระดับวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยโดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 3 ระบบ ตามนี้ค่ะ

1.Academic ออกแนวมหาวิทยาลัย เรียน-สอบ-ตัดเกรด แบบบ้านเราอ่ะค่ะ เป็นการเรียนเพื่อที่จะเอาวุฒิประกาศนียบัตรหรือปริญญา นักเรียนที่ถือวีซ่า F-1 ต้องลงเรียนเต็มเวลาแบบนี้ค่ะ แต่ละเทอมนอกจากค่าหน่วยกิตแล้ว นักเรียนจะต้องจ่ายค่าบำรุงนั่นนี่อีกหลายอย่าง นักเรียนที่ถือวีซ่า F-1 จะถือว่าเป็น International Student ซึ่งต้องจ่ายค่าเรียนแพงกว่า อเมริกันซิติเซนและคนที่มีกรีนการ์ด ประมาณ 3 เท่า ตัวอย่างเช่น เราลงเรียนหนึ่งเทอม 17 หน่วยกิต อเมริกันซิติเซนและคนที่มีกรีนการ์ดจะจ่าย 900 เหรียญ แต่ International Student ต้องจ่าย 2,700 เหรียญ แพงค่ะ

2.Continuting Education ออกแนววิทยาลัยสารพัดช่างบ้านเราค่ะ เป็นคอร์สเรียนสั้นๆไม่เกิน 3 เดือน เป็นการเรียนแบบไม่มีเครดิตค่ะ คือไม่มีการให้คะแนนหรือการสอบ ฉะนั้นเลยไม่ต้องกังวลว่าจะสอบผ่านหรือไม่ผ่าน เปิดสอนคนทั่วไป ไม่จำกัดอายุและ เชื้อชาติ ส่วนใหญ่จะเรียนกันตอนเย็นหลังเลิกงาน หรือเสาร์อาทิตย์ วิชาที่เปิดสอนมีให้เลือกมากมายเช่น ทำอาหาร ศิลปะ ดนตรี ภาษา ออกกำลังกาย เต้นรำ ธุรกิจ คอมพิวเตอร์ ช่างซ่อม ดีไซน์เนอร์ ทำเครื่องประดับ ชงเครื่องดื่ม ละคร ฯลฯ แล้วค่าเรียนเรทเดียวกันทุกคนค่ะ บางคอร์สเรียนจบแล้วมีใบประกาศให้ด้วย

3.E-Learning or Online เป็นการเรียนออนไลน์ผ่านทางอินเทอเนต สามารถเรียนได้ทั้ง Academic หรือ Continuting Education โดยเงื่อนไขของการเรียนจะขึ้นอยุ่กับสถาบันที่เรียนค่ะ

ด้วยงบประมาณแค่ 500 เหรียญ ออแพร์ส่วนใหญ่จึงเลือกเรียนแบบ Continuting Education ตาม Community College ใกล้บ้านค่ะ เนื่องจากค่าเรียนถูกและมีวิชาให้เลือกเรียนมากมาย วิชาที่ออแพร์เกือบทุกคนลงเรียนคือ ESL (English as Second Language) เป็นการสอนภาษาอังกฤษสำหรับคนที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง ฉะนั้นในชั้นเรียนเราก้อจะเจอคนต่างชาติมากมายที่พูดภาษาอังกฤษได้ห่วยเหมือนเรา ก๊ากกก กว่าจะสื่อสารกันรู้เรื่อง เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน



วิชาที่บีบีลงเรียนปีแรก
1.ESL Advance Listening & Speaking ตอนที่เรียนมีนักเรียนอยู่ 20 คน มาจาก 16 ประเทศค่ะ จำได้ว่ามีอยุ่วันหนึ่งหลังเลิกเรียน เพื่อนคนจีนคนหนึ่งชวนไปกินพุซซี่ บีบีก้องงเลย ไปกินอะไรนะ เธอก้อบอกว่าไปกินพุซซี่กัน เธอรู้จักร้านพุซซี่อร่อยๆอยุ่ร้านหนึ่ง โอ้วแม่เจ้า ในภาษาอังกฤษคำว่า “พุซซี่ Pussy” มันหมายถึงอวัยวะเพศหญิงค่ะ ก่อนที่บีบีจะคิดอะไรเลยเถิดไปมากกว่านั้น เธอก้อบอกว่าพุซซี่มันเป็นอาหารอิตาเลี่ยนไง ยูไม่เคยกินเหรอ บีบีก้อเลยร้องอ๋อ (ด้วยอาการโล่งอก) เธอหมายถึงพิซซ่านั่นเอง จากนั้นก้อขำกันใหญ่เลยค่ะ แล้วบีบีก้อกำชับเธอไปว่าอย่าไปชวนผู้ชายที่ไหนไปกินพุซซี่เป็นอันขาดนะ เดี๋ยวงานจะเข้าเอาได้

2.Introduction to Drawing เรียนวาดรูป กะว่าไปเรียนเท่ห์ๆขำๆ แต่พอไปเรียนจริงๆ ขำไม่ออกเลยค่ะ ศัพท์เฉพาะทางทางศิลปะแต่ละคำ ไม่รุ้เรื่องเลยค่ะ งงอย่างแรง อาศัยดูคนอื่นทำ แล้วก้อทำตามค่ะ

3.Friday Night Dance ชื่อวิชาก้อบอกอยู่แล้วว่าเป็นการเต้นทุกคืนวันศุกร์ เราเรียนเต้นรำแบบ Salsa กับ Zumba กันค่ะ เลิกเรียนสามทุ่ม เรียนเสร็จแล้วก้อไปต่อกัน เนื่องจากว่าร้อนวิชากัน เลยต้องไปลองวิชากันสักหน่อย หุหุ

4.Japanese 1 ที่ลงเรียนวิชานี้เพราะว่า บีบีเคยเรียนภาษาญี่ปุ่นมาก่อนค่ะ เลยอยากรู้ว่า ถ้าเราเรียนภาษาญี่ปุ่นในเวอร์ชั่นการสอนแบบภาษาอังกฤษมันจะเป็นยังไง ก้อสนุกดีค่ะ ได้มุมมองอะไรที่แปลกใหม่ดี ที่สำคัญชอบเพื่อนที่เรียนในคลาสนี้ค่ะ มีตั้งแต่อายุ 19 ปี จนถึง 63 ปี คนที่นี่ไม่มีคำว่าแก่สำหรับการเรียนค่ะ

วิชาที่บีบีลงเรียนปีที่สอง
1.Introduction to Drawing and Sketching ลงเรียนวิชาเดิมค่ะ แต่ย้ายโรงเรียน อยุ่อเมริกามาปีหนึ่งแล้ว ภาษาอังกฤษไม่ห่วยมากเหมือนเมื่อก่อนเลย เลยทำให้เรียนได้ดีมากขึ้นค่ะ อาจารย์สอนดีมากเลยค่ะ แบบว่าบีบีวาดรูปไปเป็นเลย แต่วาดตามที่อาจารย์สอนมา แล้วรูปออกมาสวยมากค่ะ สวยจนไม่อยากเชื่อเลยว่าเป็นฝีมือตัวเองอ่ะ อาจารย์ที่สอนคลาสนี้อายุเกือบ 70ปีแล้ว อาจารย์บอกว่าบีบีเป็นคนไทยคนแรกค่ะที่เป็นลูกศิษย์แก

2.Flow Yoga ถือเป็นการออกกำลังกายไปด้วย

3.How to take a good picture form your digital camera วิชานี้ใช้เวลาเรียนแค่ 3 ชั่วโมงค่ะ แต่คุ้มค่าพอสมควร เพราะได้เทคนิคดีๆในการถ่ายรูปมาเพียบเลย

4.Beginning Cake Decoration วิชานี้เป็นการเรียนแบบปฏิบัติด้วยค่ะ สนุกแล้วก้ออิ่มมากด้วย อาจารย์จะอบเค้กไว้รอ เพราะงั้นเราเลยไม่ต้องกังวลเรื่องรสชาติ ระดับอาจารย์อบเค้ก มันต้องอร่อยอยุ่แล้ว นักเรียนมีหน้าที่แต่งหน้าเค้ก อาจารย์ก้อจะสอนวิธีแต่งเป็นรูปดอกไม้ ใบไม้ ลวดลายต่างๆ เพลินดีค่ะ พอจบชั่วโมงเราก้อเอาเค้กกลับบ้านไปกินค่ะ อิ่ม อร่อย อ้วน ค่ะ

5.ESL : English as a Second Language กลับไปเรียนอีกค่ะ ความรู้ภาษาอังกฤษจะได้แน่นๆ

การได้มาเป็นออแพร์ที่อเมริกามันทำให้ภาษาอังกฤษดีขึ้นมากจริงๆนะคะ โดยเฉพาะการพูดและการฟัง เพราะเราจำเป็นต้องพูดภาษาอังกฤษทุกวัน แรกๆที่เรามาเราอาจจะไม่เข้าใจ แต่พออยู่ไปสักพักมันจะเริ่มฟังออก พอฟังออกเราก้อจะเข้าใจ แล้วต่อไปเราก้อสามารถพูดได้ ตามที่เจ้าของภาษาพูด วิวัฒนาการทางภาษาของบีบีมันมาอย่างนี้ค่ะ ส่วนในด้านการอ่านและเขียน อันนี้ขึ้นอยู่กับความขยันของออแพร์แต่ละคนเองค่ะ ว่าจะอ่านที่ไหนหรือเขียนอะไรให้ใครอ่าน บีบีไม่ค่อยได้อ่านเท่าไหร่คะ ยอมรับว่าขี้เกียจมากค่ะ ขี้เกียจอ่านไปเปิดดิคไปค่ะ แต่บีบีชอบอ่านนิตยสารแฟชั่นค่ะ ได้ศัพท์แสลงเยอะดี อ้อ อีกอย่างบีบีชอบอ่านภาษาอังกฤษจากซัพไตเติ้ลตอนดูหนังค่ะ อันนี้ได้ความรู้เยอะมาก ไม่ต้องใช้ดิคด้วย ส่วนเรื่องการเขียน บีบีชอบเขียนอยู่แล้วค่ะ บีบีจะเขียนเป็นบทความแล้วก้อไปให้อาจารย์ที่สอนภาษาอังกฤษดูให้ อาจารย์ก้อจะช่วยแก้ไขตรงที่ใช้แกรมม่าผิด แล้วก้อช่วยแนะนำด้วยว่าควรจะฝึกเขียนแกรมม่าแบบไหนในคราวต่อไป ถือว่าตัวเองโชคดีค่ะที่ได้อาจารย์น่ารักแบบนี้






Create Date : 23 สิงหาคม 2553
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2554 9:43:48 น.
Counter : 11562 Pageviews.

10 comments
  
สู้ๆนะครับ

คนรักผมคนนึงเคยไปแบบนั้นตั้งแต่ยังไม่รู้จักกัน

กลับมาแล้วเป็นสาวเก่งน่าดู

โดย: นายแมมมอส วันที่: 23 สิงหาคม 2553 เวลา:17:49:03 น.
  

ขอบคุณมากครับ ที่เข้าไปอ่าน สถานสงเคราะห์...บ้านเกิด..ผม ซึงที่อ่านอยู่นี้เป็นเพียงต้นฉบับที่ ยังไม่ได้มีการตี
พิมฬ์ออกเป็นหนังสือ ยังก็ช่วยติดตามอ่านจนจบต้นฉบับ
เลยนะครับ และในตอนนี้ผมก็ได้เขียน ถึง เรื่องมุมมืด 2
ติดตามมาอ่านให้ทันครับ

ส่วนที่ถามว่าใช้แฟ้มเยอะ ขนาดนั้น มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดหรอกครับ ขอปิดไว้ก่อนครับ รอไว้เป็นหนังสือเมื่อไรผมจะเล่าอย่างเต็มที่ ครับ

สวัสดีครับ บ๊ายๆ...............
โดย: ลูกชิ้น (ชูคอม ) วันที่: 24 สิงหาคม 2553 เวลา:0:11:35 น.
  
ชอบข้อความด้านข้างที่คุณบีบีเขียนมากเลยค่ะ เหมือน pay it forward เมื่อเราได้รับแล้ว เราก็อยากจะให้ต่อ
โดย: breakaway วันที่: 25 สิงหาคม 2553 เวลา:11:23:11 น.
  
ขอบคุณค่ะ
อยากสวยจนเบื่อแล้วอ่ะ
เจ็บจัง
โดย: far_sexy1 วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:0:15:06 น.
  
โครงการที่คุณเข้าร่วมอยู่ตอนนี้น่าสนใจมากค่ะ
และดีมากๆด้วย ยินดีด้วยน่ะค่ะที่
คุณมีโอกาสดีๆอย่างงี้
ขอให้สนุกกับการแต่งบล็อคน่ะค่ะ
โดย: แม่น้องทิกเกอร์ (บันทึก....ไซเบอร์ ) วันที่: 3 กันยายน 2553 เวลา:1:15:53 น.
  
ดีจังเลยนะคะ เหมือนได้ทำงานและเพิ่มความรู้ให้ตัวเองไปด้วย เคยสนใจค่ะ แต่รู้ช้าไป เพราะเค้ากำหนดอายุ เลยอดค่ะ
โดย: galsangel วันที่: 3 กันยายน 2553 เวลา:17:29:41 น.
  
สวัสดีค่ะ คุณบีบี
กำลังจะสมัครไป ออแพ เลยค่ะ
คุณ บีบี อยู่ซีแอนเติลใช่มั้ยคะ อยากไปเมืองนี้มากเลยค่ะ พอจะรู้จัดว่าที่โฮสดีๆน่ารักๆแนะนำบ้างมั้ยคะ อยากคุยกับคุณ บีบี มากค่ะ เรื่องข้อมูลเหล่านี้ รบกวนคุณบีบี แอดเมล์ด้วยนะคะ kaori_sila@hotmail.com ขอบคุณมากค่า
โดย: Ae IP: 125.25.250.159 วันที่: 16 กันยายน 2554 เวลา:16:09:38 น.
  
สวัสดีค่ะคุนบีบี ตอนนี้กำลังตัดสินใจจะไปออแพค่ะ เพราะว่าคิดไว้ว่าจะไปcare giverที่แคนาดา อยากถามคุนบีบีว่า
1.ออแพลงเรียนContinuting Education ได้กี่วิชาคะในงบ500เหรียญ
2.ถ้ามีเวลาว่างจากการทำงานเราสามารถหางานเสริมทำได้มั้ยคะ เช่น เด็กเสิร์ฟ หรือสอนดนตรีตามบ้าน เป็นต้น
3.ถ้าเสดจากออแพแล้ว จะไปแคนาดาต่อ ถ้าจบโครงการที่แคนาดาแล้วจะมีโอกาสได้งานทำที่นั่นเลยมั้ยคะ คืออยากวางแผนให้ตัวเองว่าถ้ามั่นคงแล้วจึงย้ายครอบครัวมาอยู่อ่ะค่ะ

ขอบคุนมากๆเลยนะคะ
อ่านblogคุนบีๆแล้วได้ความรู้เยอะเลย สนุกด้วยค่ะ
โดย: yim IP: 115.84.239.3 วันที่: 19 ธันวาคม 2555 เวลา:18:07:34 น.
  
Yim
1.แล้วแต่ระดับของสถานศึกษาและวิชาที่เราลงเรียนค่ะ เช่น ถ้าลงเรียน ESL ใน community college ค่าเรียนไม่เกิน 200$ แต่ถ้าลงเรียน ESL ใน university ค่าเรียนจะตกประมาณ 600-800 $ ค่ะ ส่วนที่ว่าจะเรียนได้กี่วิชา มันก็แล้วแต่เราอ่ะค่ะว่าเราจะเลือกเรียนวิชาที่ถูกหรือแพงยังไง

2. ตามกฎหมายแล้วห้ามทำงานอื่นนอกจากเลี้ยงเด็กที่บ้านโฮสค่ะ แต่บางคนก็แอบไปเป็นเด้กเสิร์ฟบ้าง รับจ๊อบอื่นบ้างอะไรอ่ะค่ะ

3. โอกาสที่จะได้งานต่อหลังจากจบโครงการแคร์กิฟเวอร์ที่แคนาดา อันนี้พี่ตอบไม่ได้ค่ะ เพราะมันขึ้นอยู่กับตัวน้องเองค่ะ ว่าน้องเป็นคนที่ขวนขวายหาโอกาส หรือว่านั่งรอให้โอกาสเข้ามาหาน้องเอง

โชคดีนะจ๊ะ
โดย: Sugar lip วันที่: 23 ธันวาคม 2555 เวลา:15:44:20 น.
  
ชอบที่พี่บีบีบอกเล่าทุกอย่างเลยค่ะ ตอนนี้สมัครโครงการนี้อยู่ หนูอยากคุยกับพี่บีบีมากค่ะ
รบกวนพี่บีบีแอดเมลหรือเฟสมาหาได้มั้ยคะ อยากได้ข้อมูลจากพี่ๆค่ะ ตอนนี้ทำเอกสารอยู่เลยค่ะ อังกฤษก็ไม่เก่งด้วย อยากได้ข้อมูลและคำแนะนำจากพี่บีบีจังค่ะ ขอบคุลค่ะ

butterfly_orchid@hotmail.co.th ค่ะ
โดย: mammiiz IP: 223.207.116.238 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2557 เวลา:16:52:03 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Sugar lip
Location :
Seattle  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?]



วันหนึ่ง เราจะต้องทำบล็อคหน้าตาสวยๆออกมาให้ได้ คอยดูสิ หึ

บีบีได้มาใช้ชีวิตอยุ่ที่อเมริกาถึงวันนี้ก้อเกือบ 3 ปีล่ะค่ะ การได้มาใช้ชีวิตต่างแดนตัวคนเดียว เวลามีปัญหาหรือข้อสงสัยขึ้นมา มันก้อไม่รุ้จะไปถามใคร ภาษาเราก้อไม่ดี บีบีก้อจะหาข้อมูลในเวป google แล้วบีบีก้อจะได้คำตอบออกมาในรูปแบบของ bloggang บีบีเลยรู้สึกถึงความสำคัญของบล็อค รู้สึกขอบคุณคนเขียนบล็อคทุกๆคน ที่เสียสละเวลามาเล่าประสบการณ์ต่างๆที่เป็นประโยชน์อย่างมากมายกับคนที่ไม่รู้อะไรเลยอย่างบีบี ดังนั้นบีบีก้อเลยตั้งใจไว้ว่าจะทำบล็อคเพื่อบอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์ และ how to ต่างๆ ของบีบี เผื่อว่าจะได้เป็นประโยชน์แก่คนอื่นๆมั่งค่ะ
New Comments