ได้ลิปสติกของ YSL - Yves Saint Laurent (อ่านว่า อีฟ-แซง-โล-ค-รอง) มาสักพักแล้วค่ะ
ด้วยความอยากลองอีกสักรอบ หลังจากที่ไปลองใช้ของคุณยายแล้วไม่ปลื้มสักเท่าไหร่
เพราะกลิ่นมันและสีที่จัดเกินไป สำหรับเราที่ยังเด็กอยู่ ไม่ประทับใจนัก
เลยพยายามปฏิเสธที่จะลองอีกครั้งมาเนิ่นนาน


พอดีเจ้านายไปเที่ยวเลยฝากสอยที่ King Power สุวรรณภูมิมาลองเล่นสักแท่ง

ในราคา 900 บาท ได้ลดอีก 10% เหลือ 810 บาท......ถูกกว่า MAC อี๊กกก




มาในกล่องกระดาษแข็งสีทองดูหรูหราเชียว

รุ่นที่ฝากซื้อมาเป็นรุ่น Rouge Volupte Silky-Sensual Radiant Lipstick ค่ะ
สีที่นายเลือกให้คือ No.1 - Nude Beige





แท่งสีทองสวยงาม ตรงกลางเป็นสัญลักษณ์ YSL สีทองบนพื้นสีเดียวกับลิปสติกด้านใน

แค่ดีไซน์แพ็คเกจก็หรูหราชนะเลิศแล้วค่ะ....^__^




ถอดปลอกลิปสติกออกมาจะเห็นว่า สีของลิปสติกด้านในเหมือนกับสีด้านนอกใต้โลโก้ YSL เลยค่ะ
ปลายของลิปสติกเป็นแบบเรียบๆนะคะ







สีที่เลือกมา No.1 - Nude Beige เป็นสีนู๊ดโทนชมพูค่ะ สีจากแท่งจะดูเข้ม
แต่พอทาออกมาจะอ่อนกว่าเล็กน้อยค่ะ




เนื้อลิปสติกเป็นครีมมี่มากๆค่ะ นุ่ม ลื่น ปกปิดสีปากได้มิดเลยค่ะ ทาบางๆได้
โดยไม่ต้องทาลิปบาล์มช่วยเลยค่ะ เนื้อลิปสติกชุ่มชื่นมาก แต่อย่าทาหนาเกินไปนะคะ
มันอาจจะเป็นคราบและตกร่องได้ค่ะ

ต้องทาเบาๆแล้วแตะๆสีบนปากเบาๆใช้พู่กันทาปากช่วยเก็บรายละเอียดขอบปากด้วยก็ดีค่ะ
อย่าเม้มปากนะคะ ให้ฟิล์มสีมันเคลือบปากไว้สักพัก มันจะค่อยๆซึมลงบนปาก
แล้วสีลิปสติกจะติดทน และดูไม่เยิ้มด้วยค่ะ ริมฝีปากจะดูฉ่ำๆ.....เราชอบมาก




ส่วนเรื่องกลิ่นของลิปสติกที่เคยไม่ชอบ.....ตอนนี้เหมือนว่าเค้าจะเปลี่ยนกลิ่นนะคะ
มันไม่หอมมากเหมือนแต่ก่อนแล้วค่ะ เป็นกลิ่นกุหลาบอ่อนๆเบาๆ ไม่รุนแรงค่ะ
กลิ่นยอมรับได้ค่ะ ^^


สีเบอร์ No.01 นี่ซีดไปสักหน่อยค่ะ....แต่ซีดๆแบบนี้เราชอบนะ สาวผิวเหลืองๆ
อาจจะทาแล้วดูซีดไป แต่สาวผิวขาวก็จะดูสวยน่ารักดี สัญญากับตัวเองว่า
แท่งหน้าจะเลือกสีที่สดกว่านี้สักหน่อย อิอิอิ



แต่โดยรวมแล้วเราชอบนะคะ ทาแล้วดูสวยดี ถึงคุณแฟนจะทักว่าปากซีดไปหน่อยก็เหอะ....อิอิอิ




คุณภาพเนื้อ...10/10 เนื้อดีค่ะ นุ่มชุ่มชื่นมากๆ
ความติดทน.....8/10 ติดทนประมาณนึง แต่กินข้าวก็หายหมด
วิธีการใช้........8/10 ทายากไปหน่อย ทาไม่ดีก็เป็นคราบ ตกร่อง
ราคา.............9/10 ราคาไม่แพงมาก ถ้าเทียบกับคุณภาพระดับนี้

ข้อเสียของมันนอกจากทายากไปหน่อย ก็คือหาซื้อยากนี่แหละค่ะ
มันไม่มีเคาน์เตอร์ในเมืองไทย ต้องซื้อใน Duty Free หรือ ฝากหิ้วมากจากต่างประเทศ

แต่เดี๋ยวนี้ร้านหิ้ว ร้านในอินเตอร์เนต รับหิ้วเพียบ ซื้อง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ
ถ้าใครอยากลองเทสเนื้อและสี แนะนำให้ไปที่ King Power รางน้ำค่ะ
สามารถเข้าไปลองสีได้เลย ^^