ตี๋หล่อมีเสน่ห์
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ก็แค่คนๆหนึ่งที่ชอบดูหนัง แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้อัพเดตข้อมูลอะไรเพิ่มแล้วนะครับ


Group Blog
 
 
มกราคม 2550
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
8 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ตี๋หล่อมีเสน่ห์'s blog to your web]
Links
 

 
Anlat Istanbul ซินเดอเรล่า สโนไวท์ เจ้าหญิงนิทรา หนูน้อยหมวกแดง นักเป่าปี่แห่งฮาเมล์น และโลกมืดตุรกี



Anlat Istanbul (Istanbules Tales)

★★★★★★★★★★ 8.0/10

โครงสร้างหนังถือว่า ยอดเยี่ยมและสดใหม่มากเกี่ยวกับเทพนิยายดังในอดีต 5 เรื่องที่นำมาผสมรวมกันจนกลายเป็นชีวิตของคน 5 ตอน (แต่ละตอนก็จะเป็นตัวแทนของแต่ละเทพนิยาย) เพื่อเล่าความเป็นอยู่ของผู้คนและสังคมด้านมืดประเทศตุรกีในปัจจุบันให้คนภายนอกได้รับรู้ วิธีการเล่า คือจะนำเทพนิยายแต่ละเรื่องมาปรับแต่งให้เป็นเหตุการณ์สมมุติผ่านชีวิตของชนชั้นล่างในตุรกีจริงๆ โดยเปลี่ยนโลกที่เคยสวยงามของนิทานซึ่งเหล่าเด็กๆเคยอ่านมา...ให้เป็นโลกด้านมืดแทน เทพนิยายทั้งหมดที่เลือกมานั้น ประกอบไปด้วย สโนไวท์กับคนแคระ ซินเดอเรล่า เจ้าหญิงนิทรากับชายหนุ่มรูปงาม หนูน้อยหมวกแดง และนักเป่าปี่แห่งฮาเมล์น (จากเทพนิยายกริมของเยอรมัน) แล้วก็เอาเทพนิยายเหล่านั้นเปรียบเข้ากับความดำมืดของโลกปัจจุบันที่มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง (ไม่เว้นแม้แต่ตุรกีเอง) เช่น สามีจับได้ว่า ภรรยามีชู้ โจรขโมยกับความยากจน อิทธิพลมืดของมาเฟีย เรื่องเล่าของโสเภณี ความรุนแรง ความเสื่อมโทรมและโศกนาฏกรรมกับความเป็นจริงในสังคม โดยแต่ละตอนก็จะผูกเชื่อมเข้าหากันไปเรื่อยๆ ทุกตอนจะมีจุดเด่นที่ทำให้คนดูรู้ว่า ตอนนี้เป็นของเทพนิยายเรื่องไหน เช่น ในฉากที่ผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งหนีจนรองเท้าหลุดออกมาข้างหนึ่ง แต่เธอก็วิ่งต่อ เป็นต้น ทั้ง 5 ตอนมีผู้กำกับทั้งหมด 5 คน แต่ละคนจะกำกับตอนของใครของมัน ซึ่งถ้าผู้กำกับไม่เฉลยตอนท้ายหลังหนังจบ...คนดูอาจไม่รู้เลยก็ได้ว่า ต่างคนต่างทำ เพราะมันเหมือนเป็นคนๆเดียวสร้างเองทั้งหมด

ยอมรับว่า เป็นหนังที่มีเสน่ห์แปลกตาผมที่สุดในหนังเทศกาลครั้งนี้ ตัวหนังยังมีบรรยากาศหลอนและลึกลับอยู่ตลอดเวลาอีกด้วยเพื่อแทนด้านลบของสังคม ผมว่า โดยภาพรวม หนังแต่ละตอนที่นำมาเปรียบนั้น...น่าติดตามและสนุกแบบมีเสน่ห์ล่องลอยแบบของใครของมันดี แต่เหมือนว่า ขาดความเร้าใจแบบตื่นเต้นนิดๆหน่อยๆ ส่วนความลึกลับ ตัวหนังทำได้ดีอยู่แล้ว ฉากจบของหนังเมื่อนักเป่าปี่แห่งฮาเมล์นเดินพร้อมเป่าปี่ ขณะเดียวกันก็พบกับชีวิตของตัวละคร (ราวเทพนิยาย) ที่ทั้งหมดมาเจอกันโดยบังเอิญในสวนสาธารณะท้ายเรื่อง ทุกคนเห็นนักเป่าปี่ ก็เลยเดินตามกันมาจนถึงฉากจบที่สะพาน Halıç ซึ่งยังสร้างเชื่อมไปอีกฝั่งไม่เสร็จ (คือ ยังขาดตอนอีกเยอะ) คนดูจะเห็นภาพแม่น้ำสายใหญ่คั่นระหว่างตุรกีฝั่งเอเชียและยุโรป ทั้งนี้ นั่นเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นว่า ชีวิตของคนสองฟากฝั่งในประเทศเดียวกันนั้น มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และพวกเขาก็คงไม่มีวันไปถึงความศิวิไลซ์ตรงนั้นได้เพราะสะพานที่ขาดช่วง เนื่องจากสะพานที่สร้างทิ้งค้างไว้อย่างนั้น...จนทำให้ทุกคนต้องหยุดยืนอยู่ที่ปลายสะพานมองไปอีกฟากฝั่งอย่างนิ่งๆ และนั่นก็คือ ชีวิตของพวกเขา...ที่คงจะเป็นอยู่อย่างนี้ต่อไป และนี่เป็นหนังที่มีการเปรียบเทียบแปลกตาแบบยกนิ้วให้เลย แม้ผมจะชอบอยู่มากก็ตาม แต่รู้สึกเสียดายฉากจบที่สะพานนิดหน่อย เพราะถ้าเกิดมีจุดหักมุมแบบทั้งไม่คาดคิดและทั้งหลอนไปพร้อมกันได้ล่ะก้อ...ตัวหนังน่าจะยอดเยี่ยมด้วยประการทั้งปวง

อ้อ จำได้ว่า ผมเจอผู้กำกับ (ถ้าจำไม่ผิด 3-4 คนเห็นจะได้) พร้อมกันในลิฟต์ที่สยามพารากอนโดยบังเอิญด้วยครับ (แต่ตอนนั้น ผมกลับจำพวกเขาไม่ได้เลย แม้จะมีช่วง Q&A ในรอบที่ผมดูก็ตาม แต่คงเป็นเพราะผมนั่งไกลจากด้านหน้าจอด้วย อีกอย่างก็คือ มาเจออีกที ก็หลายวันผ่านไปแล้ว) หนึ่งในกลุ่มถามผมว่า "จะซื้อของเล่นไปฝากลูกที่ตุรกี...ซื้อได้ที่ชั้นไหน" ผมตอบ "ไม่แน่ใจครับ คุณลองไปถามประชาสัมพันธ์ น่าจะดีกว่านะ” (คือ ตอนนั้น ห้างเพิ่งเปิดได้เดือนเศษๆมั๊ง ผมยังเดินไม่ทั่ว แถมมาเป็นครั้งแรกเพื่อดูหนังเทศกาลด้วย) พอดีเหลือบไปเห็นเจ้าหน้าที่คล้องป้ายเทศกาลหนัง ก็เลยถามเขาว่า ผู้กำกับหรือเปล่าครับ เจ้าหน้าที่เลยบอกว่า ทั้งหมดเป็นผู้กำกับหนังเรื่องนี้ ผมเลยหันไปพูดกับพวกเขาต่อทันที "อ้อ ผมได้ดูหนังของพวกคุณด้วยนะ ผมชอบไอเดียหนังคุณมาก" ผู้กำกับทุกคนหัวเราะและพูดแบบยิ้มๆกลับมาว่า "อ้าว ได้ดูด้วยเหรอ ขอบคุณนะครับ" (รู้สึกผู้กำกับทั้งหมดจะดีใจกับเสียงตอบรับมาก ผมคุยเรื่องหนังกับพวกเขาต่ออีกแป๊บนึง ก่อนจะเดินออกจากลิฟต์ไปซุปเปอร์มาเก็ต) สุดท้ายครับ Anlat ในภาษาตุรกี แปลว่า การย่ำซ้ำเดิมอยู่อย่างนั้น ก็คงเปรียบเหมือนวังวนชีวิตตัวละครด้านมืดในเมืองอิสตัลบูลที่ไม่แตกต่างกันเลยกับความหมายของคำและในหนัง


Create Date : 08 มกราคม 2550
Last Update : 6 มิถุนายน 2552 12:28:48 น. 7 comments
Counter : 788 Pageviews.

 
ชักจะอยากดูแล้วสิ..


โดย: oO (yosa ) วันที่: 8 มกราคม 2550 เวลา:9:59:26 น.  

 

Photobucket - Video and Image Hosting

คิดสิ่งให้ สมปราถนานะค่ะ

มีสุขภาพ แข็งแรง

ตลอดไปนะค่ะ

หวัดดีค่ะ แวะมาเยี่ยมเยียนค่ะ



โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) วันที่: 8 มกราคม 2550 เวลา:10:52:36 น.  

 
เป็นไอเดียที่น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 8 มกราคม 2550 เวลา:11:52:24 น.  

 
น่าสนุกจังค่ะอยากดูจังเลยค่ะ


โดย: oryzaja วันที่: 8 มกราคม 2550 เวลา:16:34:52 น.  

 
ไปดูมารอบเดียวกันเลยค่ะ จำได้ว่าหนังเล่าได้สนุก และไอเดียเขาดีมากๆ เลย เป็นหนึ่
งในหนังที่คนดูแล้ว ตายตาหลับได้ค่ะ


โดย: Pukkei (Pukkei ) วันที่: 8 มกราคม 2550 เวลา:22:01:26 น.  

 
เรื่องนี้ผมอยากดูมากๆ
แต่ติดที่ว่าปีที่แล้วต้องสอบโอเน็ตเอเน็ต เวลาไม่เอื้ออำนวย เลยอดดู TT


โดย: nanoguy IP: 203.113.35.6 วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:4:30:29 น.  

 
แล้วตอนนี้จะไปหาดูได้ที่ไหนกันเนี่ย..เหอๆ ถ้าจะให้ดี ช่วยกรุณาแนะนำร้านดีวีดีด้วยก็จะดีนะครับ แนะนำจนอยากดูแล้ว..แป่วววว


โดย: Bkkbear (Bkkbear ) วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:20:40:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.