Ain't




"Wishing Well" ความตายที่สวยงาม

"Wishing Well" ความตายที่สวยงาม
เราทุกคนรู้ว่า "ความตาย" คือ ปลายทางของชีวิต แต่ไม่อาจรู้ได้ว่ามันจะมาถึง
เมื่อไร ตรงกันข้ามมี
เด็กกลุ่มหนึ่งที่รู้ตัวดีว่า พวกเขากำลังเดินไปสู่ความตายและอยู่ใกล้มันขนาด
ไหนทุกวินาทีที่ผ่านไป

หากใครมีโอกาสขึ้นไปบนชั้น 16 ตึก สก รพ.จุฬาลงกรณ์ จะพบเด็กๆ โกนหัวจนล้าน
เลี่ยนนอนอยู่บน
เตียงผู้ป่วยเรียงราย เขาและเธอเหล่านี้เป็นโรคมะเร็งที่แตกต่างกันไป เมื่อ
รักษาไปได้ระยะหนึ่งแพทย์
วินิจฉัยแล้วว่า ไม่สามารถรักษาต่อไปได้ จะแนะนำพ่อแม่ผู้ปกครองถึงทางเลือก 2
ทาง คือ หยุดการ
รักษาทางเคมีการแพทย์แล้วกลับไปอยู่บ้าน แต่ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์และใช้
ชีวิตตามปกติ

แต่ถ้าหากพ่อแม่เด็กตัดสินใจทางเลือกใหม่ คือ การหยุดรักษาทางเคมีแพทย์ แล้วให้
รักษาแบบประคับ
ประคอง โดยให้เด็กมีคุณภาพจิตที่ดี ทำให้มีความสุขก่อนจากโลกนี้ไป แพทย์จะส่ง
ต่อมาที่ Wishing
Well หรือ โครงการส่งชีวิตสุขสมหวังก่อนสิ้นลม แทนที่จะนอนรอความตายอยู่กับยา
พาราแก้ปวดหรือสิ้น
ลมในห้องไอซียูอย่างเดียวดาย

"เม่น" เด็กผู้ชายวัย 6 ขวบ ป่วยเป็นมะเร็งเยื่อหุ้มปอดมานาน 2 ปีแล้ว เขามี
อาการครั้งแรกเมื่อ
ปลายปี 2547 ขณะเดินถือหม้อหุงข้าวอยู่เขาหันมาบอกแม่ว่า "ขอพักก่อน เหนื่อย
เดินไม่ไหว" หลังจาก
นั้นแม่ก็พาไปหาหมอที่คลินิกประจำ และได้รับคำแนะนำให้ไปที่ รพ.บางพลี รพ.
ศิครินทร์ ก่อนจะส่งต่อไป
ยัง รพ.จุฬาฯ ตรวจวินิจฉัยโรค บังเอิญว่าเป็นช่วงปีใหม่และเกิดพิบัติภัยสึนามิ
จึงต้องรอผลการตรวจ
ระหว่างนี้แพทย์จะเจาะน้ำออกจากปอดทุกวันๆ ละ 500-800 ซีซี

1 ทุ่มตรง วันที่ 4 มกราคม 2548 ครอบครัวน้องเม่นจึงรู้ว่า แท้ที่จริงแล้วโรค
ที่เด็กชายวัย 6 ขวบ
กำลังเผชิญอยู่ คือ มะเร็งเยื่อหุ้มปอด ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้เพียง 1 ในล้าน
โอกาสรักษาหายมีเพียง
80% ขณะนอนรักษาตัวอยู่ที่ตึก สก ชั้น 18 น้องเม่นต้องทำเคมีบำบัด 3 สัปดาห์
ครั้งและครั้งละ 3-5 วัน
มากถึง 17 ครั้งด้วยกัน และครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ปีที่
แล้ว

หลังจากเอกซเรย์ด้วยคอมพิวเตอร์หมอไม่พบมะเร็งอีก จึงให้พักฟื้น 3 เดือน น้อง
เม่นกลับไปใช้ชีวิต
ตามปกติอีกครั้ง ไปโรงเรียนได้ วิ่งเล่นได้เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ

แต่แล้วอีก 6 เดือนต่อมา เมื่อหมอนัดตรวจอีกครั้ง น้องเม่นและครอบครัวก็ต้องพบ
กับข่าวร้ายยิ่งกว่า
ครั้งไหนๆ เด็กชายในวัยซุกซนจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 3 เดือนเท่านั้น หมอจึง
แนะนำทางเลือกให้ 2
ทาง คือ รักษาต่อซึ่งโอกาสหายน้อยมาก กับการหยุดรักษาแล้วใช้ชีวิตตามปกติ ไป
โรงเรียนตามปกติ พา
ไปเที่ยวที่เด็กอยากไป

ครอบครัวและน้องเม่นเลือกวิธีที่ 2 คือ การอยู่ท่ามกลางความรักความอบอุ่นของคน
ในครอบครัว ในวา
ระสุดท้ายของชีวิต เที่ยวทะเลบางแสน สวนสนุกด= รีมเวิลด์ สยามโอเชี่ยน เวิร์ล
และไปทำบุญตามวัด
ต่างๆ

"โหน่ง ชะ ชะ ช่า" คือ ดาวตลกในดวงใจของน้องเม่น ก่อนช่วงสุดท้ายของชีวิตจะมา
ถึง เจ้าหน้าที่
มูลนิธิสายธารแห่งความหวัง โทรศัพท์ติดต่อไปยังตลกชื่อดัง โหน่งกำลังทำงานอยู่
ต่างจังหวัดบอกกับ
"นิลอุบล จันทร์โหนง" เจ้าหน้าที่ให้หามือถือที่เปิดเสียงได้ "จะเล่นตลกให้น้อง
ฟัง" ก่อนจะบอกลาน้อง
เม่นให้หลับให้สบายเมื่อการแสดงสั้นๆ จบลง

ในขณะที่ทุกคนในห้องหัวเราะกับเสียงของโหน่ง ชะ ชะ ช่า น้องเม่นหลับสบายไปพร้อม
กับเสียง
"พี่โหน่ง...มาแว้วววว"

ในขณะที่ "น้องรุ้ง" เด็กผู้หญิงอีกคนอยากเพ้นท์เล็บเจ้าหน้าที่ก็พาช่างมา
เพ้นท์เล็บถึงเตียงผู้ป่วย หลัง
จากนั้น 1 สัปดาห์ น้องรุ้งก็จากโลกใบเล็กๆ นี้ไปอย่างสงบ พร้อมกับเล็บที่
เพ้นท์ด้วยสีสันสวยงาม และ
รอยยิ้มที่เปี่ยมสุข

แต่สำหรับ "น้องซี" วัย 7 ขวบ ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แม้จะต้องทนทุกข์ขนาด
ไหน น้องซีก็ยัง
มอบความสุขให้กับเพื่อนๆ พี่ๆ ในมูลนิธิสายธารแห่งความหวัง ด้วยการร้องเพลงให้
ฟัง กลายเป็นบ่อเกิด
แห่งความหวังเล็กๆ ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ระดมเงินมาช่วยเหลือและก็ได้ครบในวัน
ที่น้องซีจากไป

ด้าน "น้องเจมส์" เด็กฉลาดที่อยากไปพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิ
สารธารแห่งความหวัง
แอบทำเซอร์ไพรส์เล็กๆ ด้วยการให้ "อ้อม พิยดา อัครเศรณี" ไปกับเขาด้วย น้อง
เจมส์กึ่งตกใจกึ่งดีใจ
และวันที่น้องเจมส์จากไปนางเอกสาวชื่อดังถึงกับหลั่งน้ำตา

เด็กผู้หญิงอีกรายวัย 12 ปี มีความหวังสุดท้ายของชีวิต คือ การเสริมดั้งจมูก
เพื่อจะได้พบกับ
"แอนดริว เกร้กสัน" แต่การตามตัวดาราดังไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึง
หาวิธีเข้าไปโพสต์ใน
อินเทอร์เน็ตบอกว่า มีคนไข้ต้องการเจอตัว และเขาใกล้จะเสียชีวิตแล้ว

ไม่นานต่อมา กลางดึกคืนหนึ่งแอนดริวในสภาพหนวดเคราเฟิ้ม เพราะกำลังถ่ายละคร
เรื่อง
"คนระลึกชาติ" ก็โผล่เข้ามาให้กำลังใจเด็ก สร้างความประทับใจกับทุกคนที่อยู่ใน
เหตุการณ์ โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งเด็กที่ป่วย แล้วอีก 2 วันต่อมา เด็กก็เสียชีวิตลง

"ความฝันของเด็กๆ มีหลากหลาย ทำง่ายและทำได้ทันที เช่น เด็กคนหนึ่งอยากกินไก่
ทอดเคเอฟซี เรา
ก็สั่งมาให้ตอนนั้นได้เลย เด็กบางคนอยากไปเดินเล่นสวนลุมฯ เราก็พาไป" นิลอุบล
จันทร์โหนง สรุป

ก้าวเข้าปีที่ 4 แล้ว สำหรับโครงการ Wishing Well ซึ่งมีความหมายอยู่ 2 ประการ
คือ การรักษา
ให้หายกับคำอธิษฐานสุดท้ายที่เป็นจริง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ต่อชีวิตและส่ง
ชีวิตเด็กๆ ไปแล้ว
35-40 ราย เฉลี่ยมีคนไข้เสียชีวิต 3-5 คนต่อปี โดยเด็กๆ หลายคนสุขสมหวังกับ
ปรารถนาสุดท้ายของ
ชีวิต จากไปด้วยรอยยิ้มอย่างสงบสุข ถึงแม้จะรู้ล่วงหน้าว่า มีเวลาเหลืออยู่บน
โลกกลมๆ ใบนี้อีกนานแค่
ไหน

หลังจากนั้นพวกเขาก็จะจากไป ไม่มีวันกลับมาอยู่ดูความศิวิไลซ์บนโลกใบนี้อีกต่อ
ไป !!!

เรื่อง / ตวงรัตน์ มีศรี mesri@gmail.com

ภาพ / มูลนิธิสายธารแห่งความหวัง
โทร 02-677-4117
บริจาคเงินได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี "
มูลนิธิสายธารแห่ง
ความหวัง" เลขที่บัญชี 045-2-95999-4










 

Create Date : 03 เมษายน 2550
1 comments
Last Update : 22 เมษายน 2550 19:35:56 น.
Counter : 1020 Pageviews.

 

เมื่อวาน อ่านเรื่อง เด็กน้อยกับตู้เย็น เป็นอีกเรื่องที่น่าเศร้าใจ

ชีวิต ที่แตกต่าง
อีกชีวิตน้อยๆที่ถูกทำร้ายจากสังคม

 

โดย: ain't 26 เมษายน 2550 10:11:51 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ain't
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





...สิ่งใดมองไม่เห็น
หรือนั่นเป็นเพราะมันไม่มีอยู่ ?
สิ่งใดเราเก็บซ่อนไว้ในความทรงจำ
หมายความว่าจะคงอยู่อย่างนั้นได้ตลอดไป ?...











Google

Group Blog
 
<<
เมษายน 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
3 เมษายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ain't's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.