เปียก เปอะ เปื้อน ที่ภูกระดึง ภาค ทากกัด ลัดป่า เหยียบผา
24/10/51
ตื่นแต่เช้ามาชื่นชมบรรยากาศยามเช้าอันชื่นช่ำด้วยน้ำฝนกับหมอกหนา!!!! ครับไม่ผิดครับ น้ำฝนกับหมอกหนา ส่วนอากาศที่หนาวเหน็บอย่างที่คนอื่นคุยนักคุยหนามันอยู่ไหนกัน??? งงกับอากาศยามเช้าแล้ว ก็อาบน้ำ แปรงฟัน กินข้าวเช้า อีกทั้งสั่งข้าวเที่ยงเป็นห่อๆ รวมทั้งน้ำดื่มพร้อมสรรพแล้วก็ซื้อถุงกันทาก!!!! ด้วย เพราะว่าตอนตื่นเช้ามาบริเวณเต็นท์เต็มไปด้วยทาก เลยต้องซื้อถุงกันทากกับเสื้อกันฝนไปด้วยเพราะอากาศดีนัก เมฆฝนลอยเต็มเลย และแล้วก็ถึงเวลาเดินทาง กว่าจะซื้อของเตรียมของก็ เก้าโมงครึ่งเริ่มเดินทาง แต่เดี๋ยวก่อน แล้วจะไปที่ไหนกันก่อน หน้าผา หรือ หน้าฝนเฮ้ย!!! น้ำตก ดูจากแผนที่แล้ว เดินไปน้ำตกแล้วเดินไปหน้าผา จะดีกว่าและครบกว่า พวกเราเลยเลือกเที่ยวน้ำตกแล้วต่อด้วยหน้าผา ภายในเวลาหนึ่งวัน



หลังจากตกลงไปน้ำตกก่อนเลยต้องแต่งตัวเต็มยศกันทุกคน!!!!
อันนี้แบบถูกต้อง


อันนี้เกินไปหน่อย


อันนี้เหมือนพึ่งตื่น


จากที่ทำการอุทยานน้ำตกแรกที่ไปก็คือน้ำตกวังกวาง ครับ น้ำยังเยอะอยู่เลยยังไม่หมดฝน



จากนั้นเดินอีกซักพักลัดเลาะตามทุ่ง ตามเนินเขา ผ่านขี้ช้างหลายกอง จนได้ยินเสียงน้ำตกดังมาแต่ไกลครับ เดินอีกอึดใจแม้วครับ กว่าจะเจอน้ำตกเพ็ญพบใหม่ เหนื่อยเอาเรื่อง



ถึงซะที



ทากเริ่มลุมแล้วด้วย ถุงกันทากเอาไม่อยู่ สงสัยมันเริ่มฉลาด มันกระดึ๊บผ่านถุงกันทากมากัดที่ขาอ่อนแทน เดินไปซักพัก ง่ามนิ้วเท้าชาๆคันๆ โอ้ว ทากมันแอบกัดซะตัวอ้วนเลย เลยจัดการดึงซะ กรรมเลือดกระฉูดเลย หลังจากเอาทากเจ้ากรรมออกไปได้ ก็เดินเลาะป่า เลาะลำธารไปเลื่อย นึกอยากสัมผัสกับน้ำเย็นๆ ซักหน่อย เลยลงไปล้างขาดู แต่สิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ลูกทากมันมาเกาะที่ขา ไม่รู้ว่ามาจากไหนเยอะซะด้วย หมดอารมณ์เล่นต่อ เลยเดินไปน้ำตกถ้ำใหญ่



เลือดสดๆ


ระหว่างทางก็ผ่านน้ำตกเพ็ญพบ กับ น้ำตกโผนพบ แต่ก็ไม่มีอะไรพิเศษ เลยเดินผ่านๆ



น้ำตกถ้ำใหญ่นี่ไกลไม่ใช่เล่น เล่นเอาหอบถามหา แต่ที่นี่มีต้นเมลเปิ้ล แต่ตอนไปใบยังไม่แดงเลย แต่ก็มีบ้างใบที่หล่น ใบสองใบ จัดแจงหามุมถ่ายภาพอย่างสวยงาม







หลังจากผละจากน้ำตกถ้ำใหญ่ ก็เดินเปลือยอารมณ์ไปได้ซักพัก ขาเริ่มหนักท้องเริ่มหิว กระเป๋าที่เอาไปเริ่มเป็นภาระขึ้นมา เลยต้องทนเดินหาที่กินข้าวเที่ยงแล้วก็ได้ที่เหมาะๆ สระอโนดาด กว่าจะถึงฝนช่างเป็นใจ ตกลงมาซะอย่างงั้น แต่พอใส่เสื้อกันฝน ดันหยุดตก นี่มันแกล้งกันชัดๆ จะใส่เสื้อกันฝนไว้มันก็ร้อน กว่าจะถึงสระอโนดาด ถอดใส่อยู่หลายรอบ มาถึงสระอโนดาด ก็หาที่นั่งกินข้าว แต่หายากซักหน่อยถึงแม้ลานจะกว้าง แต่คนก็เยอะพอสมควร ไหนจะต้องหลบทาก ไหนจะต้องนั่งไกลๆ ขี้ช้าง ขี้กวาง รวมทั้งน้ำฝน พอได้ที่เหมาะๆ ข้างๆสระ ก็ปูพื้นด้วยเสื้อกันฝน เพื่อนก็รักเราเหลือเกินนั่งกับด้วยกัน แต่กินไปไม่ทันครึ่งห่อ ฝนมันตกอีกแล้ว เสื้อกันฝนเป็นที่นั่งไปแล้วด้วยเซ็ง สรุปมื้อเที่ยง เป็นอาหารที่บรรากาศดีที่สุด “กินข้าวกับฝนทนทากดูด อยู่ข้างสระ!!!” หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็เริ่มออกเดินทางประมาณบ่ายสองกว่า




ระยะทางจากสระอโนดาษมาถึงผานาน้อย ก็ประมาณ 2.8 กิโลเมตร รอบๆที่เดินส่วยใหญ่เป็นป่าหญ้าผสมกับต้นสน เดินไม่ถึงครึ่งทางท้องไส้เริ่มปั่นป่วน ของใหม่กินกินของเก่าจะออก เมื่อเช้าก็ไม่ได้เอาออกซะด้วย ทรมารจริงๆ จะแวะข้างทางก็กลัวทากเกาะ เดินกลับก็ไม่ได้ ต้องเดินหน้าอย่างเดียวโดยมีความหวังอยู่ที่ผานาน้อยต้องมีส้วม!!! ซักพักเห็นคนขี่จักรยานผ่านมาเลยลองถามว่าอีกไกลมั้ย เค้าตอบว่าไม่ไกล(แต่ในใจคิดว่ามรึงโกหกกรูชัวร์ เพราะเราก็ทำอย่างนั้น) เดินไปเดินมา อาการปวดมันไปๆมาๆ แต่มาแต่ละครั้งมันหนักขึ้น แต่ก็อดทนเดินจนถึงผานาน้อย แล้วอย่างที่คิดมีส้วมจริงๆ เลยแวะที่ร้านซะเลย ได้จังหวะดีจัดการเข้าไปปล่อยอย่างมีความสุข ตอนออกมาเพื่อน ผมก็เดินเข้าไป คิดในใจ “นึกว่าเป็นแต่กรูคนเดียวพวกมรึงก็เป็น”

ถัดจากแวะปลดทุกข์ที่ผานาน้อย แล้วก็มุ่งหน้าสู่ผาหล่มสัก แต่ระหว่างนั้นก็ได้แวะผาเหยียบเมฆ กับผาแดงด้วย ในระหว่างทางที่เดิน ฝนก็ตกๆหยุดตลอดหมอกก็เยอะมาก



ฝนตกอีก



ผาเหยียบเมฆ



ผาแดง



กว่าจะถึงผาหล่มสักก็บ่ายสี่โมงครึ่ง แต่โชคยังดีตอนมาถึงแดดเริ่มออกแล้ว แต่พระอาทิตย์ยังไม่ตกต้องรอจนห้าโมงเย็น ตอนมาแรกๆคนน้อย แต่พระอาทิตย์ใกล้ตกคนเริ่มเยอะขึ้น พวกเราเลยต้องรีบหาที่ถ่ายรูปกันถ่ายกันอย่างบ้าคลั่งกันเลยที่เดียว




หกโมงกว่าก็เดินกลับ ตอนเดินกลับที่พักนี่เป็นอะไรที่น่ากลัวสุดๆ ฟ้าเริ่มมืด เดินไม่ทันไรทั่วบริเวณมืดหมด ไปฉายมี สองอัน โอ้ว ยิ่งเดินเหมือนยิ่งช้า นักท่องเทียวคนอื่นเดินแซงไปเรื่อยๆ ผมคิดว่าพวกเราล้าจากที่เดินทางกันไปมากๆ จำได้ว่าตอนนั้นเดินไม่กลัวอะไรเลย ไม่หลบแอ่งน้ำแล้วลุยอย่างเดียว คิดอย่างเดียวกลับที่พักห็เร็วที่สุด เดินผ่านร้านค้าเค้าก็ปิดกันหมดแล้วด้วย

เดินถึงที่พักประมาณ สองทุ่ม กว่าจะอาบน้ำ กินข้าวก็สามทุ่มเลยที่เดียว แต่เกิดปัญหากับผมแล้วสิ ตอนจะอาบน้ำมาเช็คผ้าเช็ดตัว มันแปลกๆไป คือ ตำแหน่งที่ตากไว้มันเปลี่ยน ผมตากตอนเช้าไว้ด้านซ้ายของเชือกขั้นกลางแต่มันกลับมาอยู่ที่ด้านขวาของเชือก ผมคิดว่ามันตกแน่ๆ อีกอย่างมันเปียกมากๆ เลยคิดว่ามันคงตกแล้วมีคนเก็บให้ ผมก็ตัดสินใจใช้ผ้าผืนเล็กแทน ผืนใหญ่พับเก็บทั้งเปียกๆนั่นแหละ

หลังจากนั้น กินข้าวเสร็จ ก็กลับที่พัก โชคดีที่มีเพื่อนเป็นเภสัช เตรียมยามาครบเลย เพื่อนให้กินยาคลายกล้ามเนื้อ กลับนวดขาด้วยยาแก้ปวด แล้วมาสรุปกันว่าวันนี้เดินทั้งหมด 5 น้ำตก 6 ผา( หมากดูดกับจำศีล ผ่านตอนมืด) รวมแล้ว กว่า 20-30 เมตร บ้าไปแล้ว อีกอย่างแผลจากทากอีกคนละไม่ต่ำกว่า 6-7 แผล(จนถึงวันนี้แผลเป็นยังอยู่)



ซักสี่ทุ่มก็นอนหลับอย่างสบายในคืนที่สอง.........หลับอยู่ดีเพื่อนคนนึงโวยวายขึ้นมา “เฮ้ย น้ำอะไรว่ะ” ตื่นกันหมด ปรากฏว่า เพื่อนผมลูบหัวตัวเองแล้วเจอเลือดไหลที่หัว แล้วก็ทำท่าปัดๆที่หัว แล้วก็บอกว่าทากดูดเลือดที่หัวซะเลือดไหลเลยว่ะ แต่ไม่รู้ตัวมันอยู่ไหน สรุปคืนที่สองแทนที่จะหลับอย่างสบายมาเสียวทากที่เพื่อนปัดหายไปไหนก็ไม่รู้



Create Date : 23 ธันวาคม 2553
Last Update : 23 ธันวาคม 2553 22:29:51 น.
Counter : 1278 Pageviews.

3 comments
  
ตามมาเที่ยว ภูกระดึง ครับ
โดย: Kavanich96 วันที่: 24 ธันวาคม 2553 เวลา:8:50:50 น.
  
ดูภาพไป อ่านไป เสียวไป ( )

แต่ก็น่าสนุกดี อยากไปบ้างจัง ขอไปด้วยคน
โดย: ทะเลใต้แสงจันทร์ วันที่: 24 ธันวาคม 2553 เวลา:14:43:50 น.
  
5 น้ำตก 6 ผา บ้าพลังกันที่สุดอ่ะ พวกเรา
โดย: I_Amp IP: 58.136.59.143 วันที่: 25 ธันวาคม 2553 เวลา:16:09:34 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อยากทำอะไรก็ทำ
Location :
BOSTON  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เดินตามทางที่เลือกอย่างแน่วแน่
New Comments
ธันวาคม 2553

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
22
25
26
27
28
29
30
31