Make a better place for you and for me
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
7 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 

Revolutionary Road ... กับการเดินทางของ Kate และ Leo



บล็อกนี้ขอระบายความคลั่ง สนองความบ้าส่วนตัวห้ามลอกเลียนแบบ ^^ ตอนนี้บ้าหนังเรื่องนี้มากๆยิ่งกว่าตอนที่นงไฉนโดนวางยาซะอีก T_T ทั้งที่คนอื่นๆดูแล้วไม่ค่อยจะชอบกัน แต่เราดูแล้วดูอีก เหอๆ


ปี 1997 ภาพแห่งความประทับใจนี้คือส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์



12 ปีผ่านไป... การกลับมาเจอกันอีกครั้งคือความมหัศจรรย์




มันคือความมหัศจรรย์ในด้านของการทำงาน นับตั้งแต่ Titanic ถ้ามองการเดินทางและผลงานที่ผ่านมาของเคทและลีโอ จะเห็นว่าต่างคนต่างก้าวมาไกลมากจนมีคนพูดถึงแต่ละคนในแง่ที่ว่าเป็นนักแสดงชาย-หญิงที่โดดเด่นที่สุดในบรรดานักแสดงรุ่นเดียวกันก็ว่าได้ ล่าสุดเคทเพิ่งกวาดรางวัลลูกโลกทองคำมา 2 รางวัลรวด และมีชื่อเข้าชิงออสการ์มาแล้วถึง 6 ครั้ง ในขณะที่ลีโอก็มีผลงานที่ยอดเยี่ยมออกมาให้เห็นอยู่ไม่ขาด

..และในด้านมิตรภาพ เคทกับลีโอยังคงสานสัมพันธ์ความเป็นเพื่อนไว้ได้อย่างเหนียวแน่น เพราะทั้งคู่ผ่านช่วงเวลาอันวุ่นวายมาด้วยกัน มันเป็นมิตรภาพที่น่าทึ่งเอามากๆ หลังงานลูกโลกทองคำ เคทถึงกับเอ่ยปากในรายการของ Oprah ว่า ทุกครั้งที่พูดถึงลีโอ เธออยากจะร้องไห้ออกมา เพราะการทำงานของเขาที่ผ่านมามันเหลือเชื่อมากๆ ตั้งแต่ What's Eating Gilbert Grape มาจนถึง Blood Diamond และเรื่องล่าสุด ที่การแสดงของลีโอทำให้เธอทึ่งสุดๆ



Revolutionary Road ริเริ่มมาจากไอเดียของเคทที่ชอบนิยายเรื่องนี้มากจนเธอเอาไปคุยกับลีโอและสามี Sam Mendes ซึ่งเป็นผู้กำกับและเกิดการพูดคุยกันระหว่างทั้งคู่ ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความหมายมากๆสำหรับเคทเพราะได้สามีเป็นผู้กำกับและได้เพื่อนรักอย่างลีโอเป็นนักแสดงนำ

ถ้าจะพูดถึงเนื้อหา มันคือความเครียดและความกดดันของสังคมชานเมืองอเมริกันในยุค 50 ที่ผู้คนเลือกที่จะอยู่ในกรอบ ทำตามแบบแผนปรับตัวให้สอดคล้องกับคนอื่นๆ เพื่อความรู้สึกมั่นคงและปลอดภัย

Frank กับ April คือคู่สามีภรรยาหนุ่มสาวที่ดูภายนอกแล้วเป็นคู่แต่งงานที่สมบูรณ์แบบจนเพื่อนบ้านต่างอิจฉา และทั้งคู่เองก็เชื่อว่าตนพิเศษกว่าคนอื่น ในเมื่อมีบ้านสวย มีฐานะมั่นคง มีลูกที่น่ารัก แล้วจะมีอะไรที่ต้องการอีก? แน่นอนดูภายนอกมันเป็นอย่างนั้น



แต่ความจริงแล้วแฟรงค์สุดแสนจะเกลียดงานที่ตัวเองทำ หากแต่ต้องทนกับมันเพราะเขามีหน้าที่ต้องเลี้ยงดูครอบครัว ในขณะที่เอพริลอยากจะเป็นนักแสดงแต่เธอก็ไม่ดีพอ เธอจึงต้องทนติดอยู่กับบ้านและความรู้สึกขาดอิสระ

เมื่อทุกอย่างเกินจะทานทนได้ เมื่อรู้สึกว่าความสัมพันธ์เริ่มจะสั่นคลอน เอพริลหาทางออกด้วยการไล่ตามความฝันของเธอและแฟรงค์ด้วยข้อเสนอการไปเริ่มต้นใหม่ที่ปารีส ที่ๆแฟรงค์เคยพูดว่าอยากจะกลับไปทันทีที่มีโอกาส เมื่อเพื่อนบ้านรู้ข่าวต่างก็มองว่านี่เป็นไอเดียที่เหลวไหล ในขณะที่คนบ้าหนึ่งคนกลับเข้าใจได้ตรงประเด็น

แต่การย้ายไปปารีสคือทางออกจริงหรือ? สุดท้ายแล้วเราควรจะอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ยอมรับความจริงหรือทำตามความฝันกันแน่?



แฟรงค์ คือตัวแทนของผู้ชายที่รับภาระทำงานนอกบ้าน การมีครอบครัวทำให้เขาเปลี่ยนไป จากหนุ่มช่างฝันกลายเป็นพนักงานออฟฟิศ อยู่กับความเป็นจริง ความปลอดภัย ความมั่นคงของครอบครัว เขาเชื่อว่าเขาทำให้ครอบครัวมีความสุขในแบบของเขา

เอพริล คือตัวแทนของความฝัน การค้นหาคำตอบและความหมายของชีวิต แม้จะต้องแลกกับทุกอย่างแต่ขอให้ได้ทำในสิ่งที่รัก เธอเชื่อว่าเธอจะทำให้ครอบครัวมีความสุขมากขึ้นได้ในแบบของเธอ

และปัญหาก็คือทั้งคู่หาวิธีรับมือกับปัญหาที่เหมาะสมไม่ได้ แฟรงค์มักจะพูดในขณะที่ควรเงียบ ในขณะที่เอพริลก็เงียบในขณะที่ควรจะพูด

ทั้งสองตัวละครนี้มีข้อเสียทั้งคู่คือความเห็นแก่ตัว ที่ทั้งคู่มองว่าทำเพื่อครอบครัวจริงๆแล้วอาจเป็นข้ออ้างเพื่อตัวเองทั้งนั้น ถ้าพยายามทำความเข้าใจทั้งสองฝ่ายก็ไม่สามารถที่จะโทษคนใดคนหนึ่งได้ หรือไม่ก็เกลียดและสงสารทั้งคู่ไปพร้อมๆกัน เพราะต่างเป็นเหยื่อความเห็นแก่ตัวของกันและกัน (แต่สารภาพว่าฉากหลังๆเราเริ่มจะสงสารแฟรงค์มากกว่า)

แต่มันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดความเห็นแตกแยกระหว่างทีมแฟรงค์และทีมเอพริล บางคนมองว่าแฟรงค์ขี้ขลาด ขณะที่บางคนมองว่าเอพริลฝันเฟื่องมากเกินไป มันเลยเป็นการถกเถียงกันไม่จบสิ้นเช่นเดียวกับการทะเลาะกันของแฟรงค์และเอพริลในเรื่องที่นับแต่จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นี่คือความน่าสนใจ ในขณะที่หลายคนอาจจะมองว่าทำไมเราต้องสนใจความขัดแย้งของคนคู่นี้ด้วย เพราะมันช่างหดหู่ เครียด และกดดัน



ยอมรับว่ามันเครียดจริงๆ และมีหลายฉากที่ดูแล้วรู้สึกอึดอัดเอามากๆ แต่เราก็ทนฝ่าหิมะไปดูเรื่องนี้มา 4 รอบในหนึ่งสัปดาห์ ดีที่มีบัตรสมาชิกโรงหนังอยู่ดูกี่รอบก็ได้ แหะๆ ว่าจะดูซ้ำอีกเรื่อยๆจนกว่าจะออกจากโรง เอาให้เครียดตายกันไปข้าง

ประเด็นที่ดูซ้ำคือการแสดงล้วนๆ พยายามตัดความตึงเครียดของเนื้อเรื่องออกไปแล้วใส่ใจแต่การแสดงขั้นเทพ การระเบิดอารมณ์ปะทะกันของเคทกับลีโอยิ่งกว่าการปล่อยพลังซูเปอร์ไซย่า (อันนี้เว่อร์) แต่เราจะเข้าข้างแฟรงค์ก็เพราะลีโอเนี่ยแหละ เรียกว่าเปลือยทางอารมณ์แบบเห็นจะๆ ดูแล้วได้เต่อึ้ง ในบอร์ด IMDb ของเรื่องนี้ความเห็นส่วนใหญ่เอนไปทางลีโอทั้งนั้น มีแต่คนสงสัยว่าทำไมไม่ได้ชิงออสการ์ อืม ยังดีไม่พอ (อีกรึ?)

และอีกเรื่องที่น่าสังเกตคือปฎิกิริยาจากคนดู จากที่ดูมา 4 รอบรู้สึกว่าประสบการณ์ต่างกันพอสมควร ดูรอบแรกเหมือนดูหนังตลก หลายๆฉากมีคนหัวเราะเยอะมาก ตอนไปดูเตรียมใจไว้แล้ว อ่านรีวิวคิดว่าคงไม่ชอบหนังเรื่องนี้แน่ แต่ปฏิกิริยาจากคนดูนี่ช่วยให้ขำจนท้องแข็งได้เลยในบางฉาก สนุกมากๆ ดูรอบหลังๆคนดูเงียบๆ บางฉากไม่น่าหัวเราะก็หัวเราะซะงั้น



ไม่รู้เป็นเพราะคิดไปเองรึเปล่า แต่รู้สึกว่าฉากรักของแฟรงค์กับเอพริลในเรื่องดูไม่ค่อยอินเท่าไหร่ หรือว่าหนังตั้งใจให้เป็นแบบนี้ เอ หรือเพราะสามีเคทเป็นผู้กำกับ ทั้งคู่เลยเกร็งๆ แต่ดูแล้วคู่แฟรงค์กับเอพริลนี่ลุ้นเหนื่อยกว่าคู่เคทกับลีโอซะอีก ตอนขึ้นไปรับรางวัลลูกโลกทองคำ เคทเธอบอกรักลีโอซะยาวเหยียดแถมใส่อารมณ์สุดๆ ยิ่งกว่าขอบคุณสามีเธอซะอีก แถมสารภาพว่ารักลีโอมา 13 ปี ช่างไม่เกรงใจคุณสามีเธอเลย

ถ้าเข้าบอร์ดเกี่ยวกับเคทช่วงนั้นจะมีแต่คนถามถึงเคทกับลีโอ ประมาณว่าสองคนนี้สนิทเกินเพื่อนแน่ๆ มีเรียกแทนกันว่า babe, sweetheart, darling ออกนอกหน้าประจำ เคทถึงขั้นพูดประชดในรายการหนึ่งว่าเธอรู้สึกว่าลีโอเหมือนเป็นสามีเธอมากกว่าสามีจริงๆของเธอซะแล้ว เพราะเธอพูดถึงลีโอบ่อยมากๆ (รู้ตัวด้วยแฮะ)



จริงๆก็คิดว่ายังไงก็ไม่มีทางแต่อ่านความเห็นคนอื่นก็อดฮาไม่ได้ สงสารแซมแต่ก็แอบลุ้นลีโอ (โอ บาปมั้ยเนี่ย) แต่หลังๆนี่ลีโอช่างอ้วนอืดซะเหลือเกิน เฮ่อ.....

เอาเข้าจริงเรื่องนี้เป็นหนังที่ไม่กล้าแนะนำให้คนอื่นดูเท่าไหร่เลย มีวันนึงดูหนังเรื่องนี้แล้วกลับมาโหลดดูละครบริษัทบำบัดแค้น โอย หัวจะระเบิด ปวดหัวตุบๆทั้งคืน







 

Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2552
14 comments
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2552 9:03:22 น.
Counter : 1241 Pageviews.

 

อยากดูมากๆเลยค่ะ วางแผนจะไปดูมาสองสามอาทิตย์แล้วก็มึเหตุ ไม่ได้ไปดูมันซะทุกครั้ง
จขบ.ไปดู The Reader มารึยังคะ เค้าว่าเป็นเรื่องที่เคท ท็อปฟอร์มมากๆ

 

โดย: ~ @ Called ME LYDIA @~ 7 กุมภาพันธ์ 2552 16:15:56 น.  

 

อยากดูมากๆเลยค่ะ วางแผนจะไปดูมาสองสามอาทิตย์แล้วก็มึเหตุ ไม่ได้ไปดูมันซะทุกครั้ง
จขบ.ไปดู The Reader มารึยังคะ เค้าว่าเป็นเรื่องที่เคท ท็อปฟอร์มมากๆ

 

โดย: ~ @ Called ME LYDIA @~ 7 กุมภาพันธ์ 2552 16:15:58 น.  

 

เคท คงซึ้งใจ ลีโอมานานแล้วเน๊าะ..


ประมาณว่า สนิทใจอ่ะ...


ถ้าเป็นไปได้...ต้องไปหาเรื่องนี้ดูสักหน่อย...น่าสนใจไม่น้อยทีเดียวน๊ะ..

 

โดย: I_sabai 7 กุมภาพันธ์ 2552 16:49:19 น.  

 

น่าดูจังค่ะ

 

โดย: t_karnya 7 กุมภาพันธ์ 2552 18:16:52 น.  

 

มาเยี่ยมและมาตอบ

ได้ดู Equus ต่ะ แดเนียล แรดคลิฟฟ์ เล่นดีมากเลยค่ะ เคยดูตอน แฮรี่ภาคแรกก็เฉยๆ ไม่ได้เป็นแฟนแฮรี่ แดเนียล แรดคลิฟฟ์ มีีฝีมือมากๆ เสียดายที่วันนี้ วันที่ 8 คือวันสุดท้ายที่เค้าเล่นเรื่องนี้แล้วค่ะ

 

โดย: ~ @ Called ME LYDIA @~ 8 กุมภาพันธ์ 2552 15:17:21 น.  

 

ไม่ถนัดหนังสไตล์นี้เอาเสียเลยค่ะ ตอนนี้รอ The Curious Case of Benjamin Button อยู่

 

โดย: ทินา IP: 129.11.120.41 8 กุมภาพันธ์ 2552 16:52:09 น.  

 

..อย่าลืมนะคะ..กรกฎาคม 2009 รอดูหนังป๋าเด็ปป์เรื่องใหม่นะ..ชื่อ Public Enemies (แสดงคู่กับ Christian Bale )...

 

โดย: I_sabai 9 กุมภาพันธ์ 2552 10:50:30 น.  

 

ชอบ คู่นี้เหมือนกันค่ะ

น่ารักดี

 

โดย: Fullgold 11 กุมภาพันธ์ 2552 0:00:24 น.  

 




มาช้ายังดีกว่าไม่มานะคะ
ขอให้มีความสุขในวันดีๆ และตลอดไปค่ะ

 

โดย: Fullgold 15 กุมภาพันธ์ 2552 11:05:39 น.  

 



สบายดีนะคะ...หายไปไหนหนอ..คิดถึงจ้า

สุขสันต์วันอาทิตย์ค่ะ

 

โดย: I_sabai 8 มีนาคม 2552 10:44:41 น.  

 

แวะมาส่งความคิดถึงจ๊ะ...

 

โดย: I_sabai 22 เมษายน 2552 23:47:31 น.  

 

แวะมาส่งความคิดถึง

 

โดย: Fullgold 7 พฤษภาคม 2552 20:30:22 น.  

 

แวะมาส่งความคิดถึงและห่วงใยจ้า

 

โดย: I_sabai 10 กรกฎาคม 2552 10:31:30 น.  

 

แนะนำเว็บดูหนังซีรีย์เกาหลีฟรี

 

โดย: koreaserie (loveyoupantip ) 6 สิงหาคม 2554 11:17:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เด็กทดลองรุ่น23
Location :
London United Kingdom

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




My Must See Movies
- Milk (23 Jan 09)
- Revolutionary Road (30 Jan 09)
- Marley & Me (13 March 09)
- Harry Potter and the Half-Blood Prince (17 July 09)
Friends' blogs
[Add เด็กทดลองรุ่น23's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.