กุมภาพันธ์ 2553

 
1
2
3
4
5
6
7
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
 
 
กินเอาชนะโคเลสเตอรอล
พอย่างเข้าหลักสี่ ยังไม่ทันถึง ดอนเมืองเลย ชักเริ่มมีปัญหากับตัวเองเสียมากมาย พอถึงคราตรวจสุขภาพประจำปี ก็จะถูกหมอบ่น..บ่น..และบ่น ทำไมถึงปล่อยให้น้ำหนักมากขนาดนี้ ?

ที่จริงหนูก็กินเท่าเดิมแหละ แถมยังจะกินได้น้อยลงซะอีก มันก็ยังอ้วนเอาๆ ต้องโทษการทำงานของต่อมไร้ท่อนั่นแหละ อย่ามาโทษหนู ทีเมื่อก่อนตอนอายุเยาวเรศรุ่น หนูกินมากกว่านี้อีก ยังไม่เห็นอ้วนเลย...

หมอมองลอดแว่นมา แล้วบ่นต่ออีก พอน้ำหนักมากแบบนี้ เดี๋ยวก็มีปัญหาความดัน-โลหิตสูงตามมาอีกแหละ...เห็นไหม (หมอบ่นไป วัดความดันไป)...ยังงี้ล่ะแม่นชะมัด ไม่เห็นเหมือนหวยบนดินเลย แทงเท่าไรก็ไม่ถูก

หมอบ่นต่ออีกว่า คราวนี้ก็คอยดูเถอะ ผลเลือดออกมา โคเลสเตอรอลก็ต้องสูงอีก แล้วไตรกลีเซอไรด์อีกล่ะ ภาวนาอย่าให้มันสูงด้วย ละกัน เดี๋ยวผมก็ได้ลูกค้าตามไปโรงพยาบาลอีก แล้วตัวหนักขนาดนี้ ระวังข้อเข่าไว้ด้วยนะ อย่าหาว่าผมไม่เตือน


ดังนั้น เราก็จะเห็นได้ว่า เรื่องโคเลสเตอ- รอลนั้น เป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตของสาววัยเงินและสาววัยทองทุกคนไป แต่ทำยังไงดี เราถึงจะกินได้อย่างสบายใจโดยสามารถเอาชนะไอ้เจ้าโคเลสเตอรอลของหมอไปได้ด้วย น่าสนใจไหมคะ?


เรื่องเดิมๆ ของโคเลสเตอรอล ก็มีอยู่ว่า มันเป็นอาหารหมวดไขมันที่เราจำเป็นต้องกินเพื่อให้ครบห้าหมู่ อันว่าโคเลสเตอรอลนั้น แยกออกเป็นสองพวก คือ พวกผู้ร้ายและพวกผู้ดี

โคเลสเตอรอลผู้ร้ายนั้น เป็นไขมันชนิดอิ่มตัว ที่มีอยู่ในอาหารประเภทนม เนย เนื้อสัตว์ อาหารประเภททอดด้วยน้ำมันสัตว์ น้ำมันปาล์มน้ำมันมะพร้าว ส่วนโคเลสเตอรอลผู้ดีนั้น เป็นแบบชนิดกรดไขมันไม่อิ่มตัว จะมีในอาหารประเภทไข่ไก่และเนื้อสัตว์

ผู้ร้ายนั้นทำให้เส้นเลือดอุดตันเหมือนสนิมท่อน้ำ ส่วนผู้ดีนั้นก็จำเป็นในการทำงานของต่อมไร้ท่อและฮอร์โมนเพศ ขืนอดอาหารมากไป ขาดโคเลสเตอรอล อาจจะทำให้ต่อมเสน่หาฝ่อได้นะเจ้าคะ


เมื่อรู้จักโคเลสเตอรอลแล้ว นักวิชาการเขาก็แนะนำว่า การจะลดระดับโคเลสเตอรอลประเภทผู้ร้ายในเลือดลง(ถ้าคุณมีสูง) และเพิ่มระดับโคเลสเตอรอลผู้ดี เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจลงนั้น ก็ต้องงดการกินอาหารประเภทนม เนย เนื้อสัตว์และของทอดๆ แต่ถ้ามีระดับโคเลสเตอรอลแบบผู้ร้ายสูงมาก หมอก็อาจจะสั่งยาเม็ดพวกสะเตติน มาให้กินเพื่อลดระดับโคเลสเตอรอลร้ายนั้นลง

แต่โชคร้ายที่เราทราบจากผลการวิจัยอีกแหละว่า วิธีการอดๆ อยากๆ ที่ว่านั้น สามารถลดระดับโคเรสเตอรอลผู้ร้ายลงได้แค่ 4%-13%เท่านั้น แถมการกินยาแอนตี้โคเลสเตอรอล ที่บางคนจำเป็นต้องกินนั้น ยังมีผลร้ายข้างเคียงตามมาอีกหลายอย่างเช่น อาจทำให้ตับทำงานแบบมีปัญหา กล้ามเนื้ออ่อนแอ (ไม่รู้ว่ามัดไหนกันบ้างที่อ่อนแอ)และแม้กระทั่งทำให้ระบบประสาทเสียหาย

แต่คนตะกละแบบเรา ก็ขอขอบคุณ พระผู้เป็นเจ้า ที่ผลการวิจัยล่าสุดในปี 2003 นี้ ก็ออกจะช่วยเอื้ออำนวยและให้กำลังใจคนที่ต้องควบคุมปริมาณโคเลสเตอรอลในเส้นเลือดได้ดีมากๆ งานวิจัยชิ้นนี้มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า พอร์ทโฟลิโอไดเอ็ท เพราะมันทำที่แผนกโภชนเวชศาสตร์ของโรงพยาบาลเซ็นต์ไมเคิลที่โตรอนโต


ผลการวิจัยก็มีอยู่ว่า ถ้าคุณกินอาหารจำพวกโปรตีนจากถั่วเหลือง ถั่วต่างๆ และอาหารประเภทที่มีเส้นใยสูงแบบถั่วฝักสด ข้าวโอ๊ต แอปเปิ้ล และ มันเทศ มันจะทำให้คุณสามารถลดระดับโคเลสเตอรอลผู้ร้ายในกระแสเลือดลงได้ถึง 30% เท่าๆ กับการกินยาลดพวกสะเตตินเลยทีเดียว

ทีนี้คุณก็ไม่ต้องกินยา ไม่ต้อง อดอาหารแล้ว เพียงแต่การกินจุ๊บกินจิ๊บของคุณนั้น ต้องจำกัดแวดวงให้อยู่ในอาหารจำพวกต่อไปนี้เท่านั้นเอง กินอาหารพวกนี้ให้มากขึ้นนะคะ

พืชกลุ่มที่เรียกว่า “สเตอรอล” พืชกลุ่มที่มีสารสเตอรอลนี้ ก็ได้แก่ถั่วฝักสดชนิดต่างๆ เช่น ถั่วลันเตา ถั่วแขก ถั่วฝักยาว ข้าวโพดและถั่วเหลือง แต่อย่าปรุงด้วยการผัดด้วยน้ำมันที่เป็นกรดไขมันอิ่มตัวหรือเนยเทียม เพราะมันจะทำให้การดูดซึมสารอาหารจากพืชกลุ่มนี้เลวลง

ถ้าจำเป็นต้องใช้เนยเทียมหรือผัดน้ำมัน กรุณาอย่าให้เกิน 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน


กลุ่มที่มีเส้นใยสูง เรียกอีกอย่างว่า กลุ่มที่ให้เส้นใยและกากที่ทำให้ ขับถ่ายง่าย อาหารกลุ่มนี้ทำให้ลดระดับไขมันผู้ร้ายได้ดีมาก ถ้าอธิบายง่ายๆ มันก็จะไล่จับไล่ซับไขมันผู้ร้ายแล้วขับถ่ายออกมาทำให้ระดับไขมันร้ายใน เส้นเลือดลดลง

งานวิจัยชิ้นนี้บอกว่า ถ้าคุณกิน เส้นใยพวกนี้เพิ่มขึ้น 1 กรัม ไขมันผู้ร้ายจะลดลง 2.2 มิลลิกรัม

อาหารกลุ่มนี้ก็ได้แก่ ข้าวโอ๊ต ข้าว บาร์เล่ย์ (แต่การกินเบียร์ที่หมักจากข้าวบาร์เลย์ ไม่ลดไขมันร้ายนะจ๊ะ) ผลไม้พวกแอปเปิ้ล ลูกแพร์ ส้มต่างๆ ทั้งส้มเขียว-หวาน ส้มโอ ส้มเช้ง ถั่วเมล็ดแห้ง ผักพวกแครอท บร็อคโคลี่ กะหล่ำดอก มะเขือ-ยาว ทั้งแบบเขียวและแบบม่วง ฝักกระ-เจี๊ยบสด

กินเท่าไรจึงจะพอ... คุณควรจะกินอาหารที่มีเส้นใยกลุ่มนี้ ให้ได้เส้นใยอาหารวันละ 10-25 กรัม จึงจะพอ-เหมาะ กินอะไรจึงจะได้เส้นใยอาหารเท่านี้ ก็มีตัวอย่างให้ เช่น มะเดื่อ 3 ผล หรือลูกแพร์ขนาดกลางๆ 1 ผล หรือส้มขนาดกลาง 1 ผล แบบนี้จะได้เส้นใยอาหาร 2 กรัม หรืออีกตัวอย่างคือ ถั่ว-ลันเตาครึ่งถ้วยตวง คุณก็จะได้เส้นใยอาหาร 3 กรัม เป็นต้น

กลุ่มโปรตีนจากถั่วเหลือง สารโปรตีนจากถั่วเหลืองจะช่วยลดโคเลสเตอ-รอลในสองทาง โดยทางแรก จะช่วยเพิ่มอัตราการกำจัดโคเลสเตอรอลออกจากกระแสเลือดให้สูงขึ้น ทางที่สอง จะช่วยลดการสร้างโคเลสเตอ-รอลในตับ

อาหารกลุ่มที่ให้สารโปรตีนจากถั่ว-เหลือง ได้แก่ เต้าหูชนิดต่างๆ ทั้งแข็ง ทั้งอ่อน ทั้งขาว ทั้งเหลือง ทั้งหลอด แล้วก็พวกอาหารเจต่างๆ ที่ทำจากถั่วเหลือง กินเท่าไรจึงจะพอ-เหมาะ ก็ต้องกินให้ได้สารโปรตีนประมาณวันละ 20 กรัม อันนี้ก็ต้องไปดูตารางสารอาหารของกรมโภชนาการ เอาคร่าวๆ ก็คือ เต้าหู้ครึ่งถ้วย จะให้เยื่อใยอาหารถึง 17 กรัม แน่ะ..

ถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ แบบที่แขกแบกมาขายหรือมีขายอยู่ตามศูนย์การค้านี้ อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวหรือไขมันดี และสารสเตอรอล ซึ่งทั้งสองตัวทำหน้าที่ช่วยลดไขมันร้าย แต่ถ้าจะให้ผลดีที่สุดต้องลงทุนกินของแพงๆ คือถั่ววอลนัท แบบที่เม็ดย่นๆ เหมือนสมองน่ะ

วอลนัทมีไขมันดีชนิดพิเศษคือ กรด-ไ ขมันไม่อิ่มตัวที่ชื่อว่า แอลฟาไลโนเลนิค ที่มีผลการวิจัยรับรองแล้วว่า ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจล้มเหลวในสตรี ถั่วอีกชนิดที่มีกรดตัวนี้ ก็คือ ถั่วอัลมอนด์... ของดีๆ แบบนี้ กินเท่าใดจึงพอเหมาะ ตำราบอกว่า กินวันละ 1–2 ช้อนโต๊ะ ก็เพียงพอ

และสำหรับอาหารกลุ่มสุดท้าย ที่แนะนำให้สะเดิฟมากๆ คือ ปลา เชื่อไหมว่า ปลามันๆ ทั้งหลาย เช่น แซลมอน ทูน่าและแม็คเคอเรล นั้น ดีมากๆ สำหรับสุขภาพโดยทั่วไปของหัวใจทั้งสี่ห้อง แถมยังช่วยลดไขมันผู้ร้ายอีกด้วย มีผลการวิจัยรับรองแล้วว่า คนที่กินปลาเป็นประจำทุกวัน เช่น กลุ่มของฝาชีทองนี้ มันช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคอาริธเมีย (แปลว่าโรคหัวใจเต้นในจังหวะผิดปกติ) และช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคหลอดเลือดอุดตันด้วย

แล้วกินปลาเท่าใดจึงจะพอดีจ๊ะ... ตำราบอกว่า ต้องกินประมาณสัปดาห์ละ 2 ตัว แน่ะ


นอกจากกินอาหารกลุ่มแรกให้มากขึ้นแล้ว สาวๆ ทั้งหลายยังต้องกินอาหารกลุ่มต่อไปนี้ให้น้อยลงด้วยนะจ๊ะ

พวกที่มีไขมันอิ่มตัว อาหารพวกนี้ ก็ได้-แก่ เนื้อสัตว์ต่างๆ นอกจากเนื้อปลา พวกนมเนยที่มีไขมันเต็มอัตราศึก กินเข้าไปเกิดไขมันร้าย ในเลือดตรึมเลย ถ้าคุณชอบกินเค้กที่แต่งหน้าด้วยครีมมันๆ เบคอน เนื้อสัตว์ประเภทเนื้อแดงต่างๆ เนย ไอศกรีม และครีมชีสประเภทบลูเบอ-รี่ชีสเค้ก ชีสพาย ชัวร์ป้าบเลยว่า ไขมันร้ายเต็มไปหมด

น้ำมันพืชบางชนิดเช่น มะพร้าวและ ปาล์ม ก็มีกรดไขมันอิ่มตัวสูงมาก กินน้อยลงเท่าใดจึงจะดี ? ก็คงต้องกินให้น้อยกว่า 20 กรัมต่อวัน ไอศกรีมสองก้อนนั้น มีกรดไขมันอิ่มตัวถึง 9 กรัมนะจ๊ะ..จำไว้

กลุ่มทรานสแฟ็ตตี้เอซิดหรือกลุ่มที่มีสารที่จะกลายเป็นกรดไขมันได้ง่าย อาหารกลุ่มนี้ นอกจากจะทำให้เพิ่มไขมันร้ายในเลือดแล้วลดไขมันดีลงอีกต่างหาก

อาหารที่มีกรดไขมันร้ายกลุ่มนี้ ได้แก่ อาหารทอดๆ ทั้งหลาย เนยเทียมทั้งแบบขาวและเหลือง แล้วก็ขนมกรุบกรอบที่ขายอยู่ตามท้องตลาด ที่มีส่วนผสมของน้ำมันแบบไฮโดร-จีเนท เช่น คุกกี้ แคร็กเกอร์และขนมอบกรอบทั้งหลาย อย่าตามใจให้เด็กๆ กินมากนักนะคะ แล้วตัวคุ ณเองกินให้น้อยลงเท่าใดจึงดี? …

ในอเมริกา ต้องรอให้ถึงปี 2006 โน่น กฎหมายจึงจะออกมาบังคับให้ผู้ผลิตขนมแบบนี้ ต้องปิดฉลากแจ้งส่วนประกอบของสารอาหารในขนมบรรจุกล่องและกระป๋อง เพื่อที่พวกเราจะได้คำนวณได้ว่า กินเท่าไรจึงจะไม่เป็นผลร้ายต่อสุขภาพ

สำหรับในเมืองไทย ก็คงต้องรอปี 2010 หรือช้ากว่านั้น จึงจะออกกฎหมายตามก้นอเมริกา


ชีวิตคนไทยมันถูกแสนถูกอยู่แล้ว ไม่มีรัฐบาลไหนสนใจอย่างจริงจังหรอกค่ะ ดูแลตัวเองกันไปก็แล้วกัน


ดีดี้

ข้อมูลจากนิตยสาร คู่สร้างคู่สมปีที่ 25 ฉบับที่ 465
ประจำเดือน พฤษภาคม ปักษ์แรก 2547



Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2553 15:28:13 น.
Counter : 245 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ดวงดาวแห่งความรัก
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
สาวซ่า ราศีกันย์