[ I couldn't live without the comforting sound of pages flipping.]

The Name of the Rose / Umberto Eco (TBR# 5 )

สมัญญาแห่งดอกกุหลาบ / ภัควดี วีระภาสพงษ์ แปล / คบไฟ พิมพ์



เรื่องย่อ : เรื่องเกิดในสมัยกลางช่วงศตวรรษที่ 14 เมื่อวิลเลียม และ แอดโซ ต้องคลายคดีฆาตกรรมในหอสมุด ซึ่งอยู่ในอารามแห่งหนึ่งภายในเวลาจำกัดมาก ฆาตกรรมเกิดในหออาลักษณ์ซึ่งอยู่ในมหาคารอันวกวนและห้ามคนนอกเข้า ฆาตกรทำได้อย่างไร อาจารย์และศิษย์ต้องไขปริศนาข่งกับเวลา ขณะเดียวกันก็มีคนตายมากขึ้นทุกวัน


เรื่องควรเล่ามีเท่านี้ ส่วนขยายของนิยายเรื่องนี้อยู่ที่ อยู่ที่ "ทำไม" "ใคร" "อย่างไร" เพราะวิลเลียมเป็นคนฉลาดและมีความรู้มาก ย่อมไขปริศนาออกได้ แต่.. รายละเอียดระหว่างทางนี่สิที่ทำให้อ่านจนจบ ก่อนอ่าน คิดว่าคงจะเป็นพล็อตฆาตกรรมวกวนและอิงประวัติศาสตร์ เต็มไปด้วยรายละเอียดเหมือนดูหนังย้อนยุค จากเสียงแนะนำหลายเสียง คาดว่าเป็นอีกเล่มที่วางไม่ลง

ขณะอ่านบทที่หนึ่ง: นี่ฉันควรอ่านฉบับภาษาอังกฤษหรือภาษาไทย เพราะศัพท์ละตินและรายละเอียดประวัติศาสตร์ท้ายบท ช่วยประหยัดเวลาการค้นคว้า แต่ถ้าไม่มีท้ายบทอย่างฉบับภาษาอังกฤษ ก็ท้าทายดีเหมือนกัน เพราะคงไม่ค้นระหว่างอ่าน กำลังติดพัน..

อีกอย่าง เมื่อเริ่มต้น อ่านสลับไปมา เพราะฉบับแปลเป็นไทยใช้ภาษาละเมียดได้ระดับฉบับเดิม แต่ออกจะวิจิตรเกินระดับความละเมียดของ จขบ. (เป็นความผิดของ จขบ. เอง) ช่วงหลังๆ ไม่อ่านท้ายบทแล้ว รายละเอียดพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่อยากรู้! อยากรู้ว่าใครฆ่า (บอกมาเดี๋ยวนี้นะ?!!!)


ถ้าใครชอบประวัติศาสตร์ ชอบรายละเอียด และสามารถอ่านพ้นไปจากช่วงแรก ผ่านรายละเอียดปลีกย่อย (ที่อาจเป็นตัวใบ้ว่าใครคือฆาตกรและทำไม ซึ่งเป็นปกติของรหัสคดี) คุณน่าจะชอบเล่มนี้มาก ถ้าไม่ชอบอ่านรายละเอียด, มีแนวนี้เล่มอื่นให้อ่านอีกเยอะ อย่าไปเสียเวลาอ่านครึ่งๆ กลางๆ เพราะมันยังไม่ถึงส่วนที่สนุก ส่วนคุณที่อยู่ตรงกลางระหว่างสองประเภทข้างต้น ถ้าอยากลอง, The Name of the Rose (หรือจะอ่านฉบับไทย สมัญญาแห่งดอกกุหลาบ) คุ้มค่าที่สุดที่จะลอง โดยเฉพาะถ้าคุณคลั่งไคล้การอ่าน หรือแม้แค่หลงไหลการอ่านแบบพอประมาณ ก็คุ้มค่าแล้วที่จะลอง อดทนอ่านพ้นช่วง 1/3 ไป แล้วจะดีขึ้น



รวมคะแนน ให้เต็ม ***** โดยรวมทั้งฉบับอังกฤษและไทย






ช่วงที่กำลังอ่านเรื่องนี้ บังเอิญได้ฟังคำสัมภาษณ์ที่ลุงแกไปคุยในรายการหนังสือของ BBC Bookclub ซึ่งเชิญนักเขียนมาคุยกับแฟนนักอ่าน (ทำให้ จขบ. ปันใจให้ Irwin Welsch ไปเรียบร้อยแล้ว ไว้อ่านผลงานน้า Welsch จบจะมาเล่าให้ฟัง) จะเล่าสรุปคำลุงเอโกให้ฟังสั้น ๆ


"ต้นฉบับภาษาอิตาเลียนไม่มีอธิบายท้ายบท เช่นเดียวกันกับฉบับแปลเป็นอังกฤษ เพราะผู้เขียนต้องการให้เป็นอย่างนั้น ด้วยเหตุผลที่ว่าทุกวันนี้ ภาษาละตินก็ยังใช้อยู่ในวัดวาอารามฝรั่ง และเป็นอย่างนั้นมาสองพันปีแล้ว ถึงจะไม่ค่อยมีใครเข้าใจภาษาละตินก็ตาม

ดังนั้น การที่ละภาษาละตินไว้โดยไม่แปล จึงไม่เป็นไร ผู้อ่านสามารถเข้าใจเรื่องได้ และอาจยิ่งท้าทายขึ้นด้วย เพราะบางทีสำนักพิมพ์ก็ไม่คิดว่าผู้อ่านจะโง่จนเดาไม่ออก การที่คนอ่านถูกท้าทายจากการอ่านหนังสือถือเป็นประสปการณ์ที่ดี ซึ่งประเด็นของหนังสือคือ การอ่านออกควรเป็นสิ่งท้าทายหรือไม่ อย่างไรก็ดี ในภาคภาษาอิตาเลียนมีคำละตินเยอะกว่าฉบับอังกฤษ"



ส่วนตัวคิดว่าการมีหรือไม่มีคำแปลละตินต่างมีข้อดี โดยทั่วไปคำแปลช่วยให้อ่านง่ายขึ้นเล็กน้อย แต่เพียงเล็กน้อยเพราะคำละตินที่สำคัญในเรื่องถูกแปลในเนื้อเรื่องเองแล้ว ถ้าไม่มีคำแปลก็ยังเข้าใจเรื่องได้ แม้จะเก็บอรรถรสและบรรยากาศได้ไม่เต็มครบถ้วน เหมือนอาหารทะเลที่สดและสุกใหม่ ตัวอาหารมีรสชาดดีอยู่แล้ว ต่างกันที่บรรยากาศว่านั่งกินในครัวที่บ้านหรือริมหาด ซึ่งบรรยากาศต่างกันอาจเสริมรสชาดได้อีกหน่อย



อีกคำถามที่แฟนนักอ่านถามในรายการว่าอะไรเป็นแรงจูงใจให้เขียน The Name of the Rose ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์สมัยกลางคนนี้ตอบว่า

"สิ่งที่ทำให้เขียนนิยายเรื่องนี้คือ อยากเขียนนิยายและอยากให้นิยายได้ตีพิมพ์ แรกคิดพล็อตในนิยายว่าจะฆาตกรรมพระกันไหม แต่ตอบว่า ไม่, แต่ให้พระตายเพราะอ่านหนังสือดีกว่า" (คือยังไงก็ตาย ทำไมและอย่างไร น่าสนใจกว่า)







อุมแบร์โต เอโก เขียนเรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องแรกและเป็นเรื่องที่มีชื่อเสียงที่สุด ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์แล้ว วิลเลี่ยมบนจอแสดงโดย Sean Connery ส่วน แอดโซ มีหน้าตาแบบ Christian Slater ซึ่งคนหลังพอรับได้ แต่คนแรก... ไม่ๆๆๆๆๆ ลุง Sean ไม่มีส่วนไหนที่จะเล่นในเรื่องนี้ได้เลย




ปล.1 ในบ้านที่มิลาน ลุงแกเก็บหนังสือไว้ 1300 เล่ม กระจัดกระจายที่อื่นๆ อีกนิดหน่อย รวมๆ แค่ 1500 เล่มเอง ที่จริงมีเยอะกว่านี้มากแต่อยู่ที่อื่นนอกบ้าน

ปล.2 เล่มนี้เป็น TBR ที่ 5 เล่มที่ 4 Picture of Dorian Gray ให้คะแนน **** 1/2 (หักคะแนนหนึ่งช่วงที่ยืดยาด แต่ไม่เขียนรีวิว เพราะขี้เกียจ.. )

ปล.3 ดูท่าจะเป็น TBR เล่มสุดท้าย เพราะเล่มอื่นฟอนต์ไม่ผ่านมาตราฐานฟอนต์ใหญ่พอเหมาะกับการอ่านช่วงพักฟื้นสายตา The Bookseller of Kabul อ่านไม่จบ เบื่อซะก่อน




 

Create Date : 19 สิงหาคม 2551
35 comments
Last Update : 19 สิงหาคม 2551 16:23:58 น.
Counter : 1160 Pageviews.

 

อ๊ากกกกก หมีชอบเล่มนี้ของลุงที่สุดเยย

เห็นด้วยว่า พ้นวันแรกของหนังสือไปได้แล้ว ชีวิตเร้าใจขึ้นเยอะ 55

 

โดย: แพนด้ามหาภัย 19 สิงหาคม 2551 11:28:19 น.  

 

ถือเป็นหนังสือคลาสสิกอีกเล่ม (ที่ยังไม่ได้อ่าน แป่ววว...)

 

โดย: Boyne Byron 19 สิงหาคม 2551 12:26:50 น.  

 

เย้ๆ ตาหายแล้วเหรอ รออ่านบล็อคใหม่อยู่นานเลย (ของผมกำลังปั่นอยู่) บล็อคใหม่ผมมีการพาดพิง และพัวพันถึงคุณอออ.ด้วยนะ ไว้ว่างๆลองเข้าไปดูแล้วกัน แต่ยังไม่รู้นะว่าจะอัพวันไหน (อ้าว)

เรื่องนี้ก็อยากอ่าน แต่.........

ไอ้ที่กองอยู่บ้านยังท่วมหัวอยู่เลย เอาไว้ก่อนแล้วกัน

 

โดย: แฟนผมฯ IP: 202.134.119.218 19 สิงหาคม 2551 13:44:10 น.  

 

เอามาฝาก อ่านคห.ที่ 5 เป็นต้นไปนะฮับ

https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=lawit&date=09-01-2006&group=11&gblog=1

ปล. จริงๆ ลุงเอโคเป็นศาสตราจารย์ด้านสัญญวิทยา (คนแรกของโลก) นะ ส่วนประวัติศาสตร์ยุคกลางนั่นเป็นวิชาที่เรียนสมัยปริญญาเอกจ้า

 

โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ IP: 58.9.17.187 19 สิงหาคม 2551 14:28:25 น.  

 

ส่วนตัวชอบอ่านขยายความท้ายบทมาก
ยอมพลิกไปพลิกมาอ่านในตอนแรก ๆ

บทหลัง ๆ เริ้มตื่นเต้นและเก็ทภาษาของคนแปลมั่งแล้วก็พอข้าม ๆ คำแปลละตินไปบ้าง เพราะเรื่องกำลังเข้าไคล...อิอิ

ยกให้หนังสือเล่มนี้เป็นสุดยอดในดวงใจในรอบทศวรรษเลยทีเดียว...

คำโปรยหัวบล็อกของจขบ.ช่างเตือนจิตสะกิดตาดีจริง ๆ ช่วงนี้ใกล้ถึงคิวต้องไปตรวจตามั่งแล้ว

(ไม่แค่อ่านมาก...ปักครอสติชก็เป็นงานที่ทำร้ายสายตาได้อย่างน่าเพลิดเพลินมาก ๆ ด้วย เฮ้อ...)

 

โดย: แม่ไก่ 19 สิงหาคม 2551 14:46:37 น.  

 

ฮ่าๆๆๆๆ อ่านในกรอบสี่เหลี่ยมไปก็ขำไป
ขำตรงที่ภาษาไทยใช้คำวิจิตรเกิน

ลป. พิธีเปิดโอลิมปิกดูเหมือนกันคร้าบบบบ ประทับใจสุดก็ตอนที่แปรเลขนับถอยหลังตอนเปิดงานนั่นแล ชอบสุดๆแล้ว
ส่วนตอนที่ซาร่าห์ออกมาร้องกับหลี่ฮวนไม่รู้สึกชอบเสียงของเธอเลย เธอร้องเสียงสูงเกินไปอ่ะ แทบจะไม่ได้ยินแน่ะ

ลป2. Jason Mraz ชอบมากกกก อัลบั้มใหม่นี้ชอบเกือบทุกเพลง เพลงที่ร้องกัลโคลบี้ก็น่ารักเหลือเกิน

 

โดย: Unravel 19 สิงหาคม 2551 14:56:31 น.  

 

ู^
แต่.. สัญวิทยาคือวิชาอะไร? สงสัยจัง.. เวลาคนจบสาขาไหนเป็นคนแรกของโลก ใครตั้งมาตรฐานว่าสอบผ่านแล้ว

 

โดย: อั๊งอังอา 19 สิงหาคม 2551 14:58:34 น.  

 

หาอะไรเจอฟระ งง ให้ไปอ่านขยายพรมแดนเฉยๆ น่อ

สัญญวิทยา (ญ สองตัว) หรือ semiology เรียกอีกอย่างว่า สัญญศาสตร์ หรือ semiotics เป็นวิชาว่าด้วย สัญญะ (โดนถรีบบบบบ) คือ สิ่งที่ใช้แทนความหมาย และกระบวนการสื่อความหมาย เป็นวิชาที่มีผู้ร่วมพัฒนาก่อร่างสร้างตัวหลายสิบหลายร้อยคน กินเวลาหลายสิบหลายร้อยปี

สายวิชาที่ใกล้เคียงที่สุดคือภาษาศาสตร์ อาจารย์คนแรกที่คิดไอเดียที่จะต่อยอดมาถึงวิชานี้เป็นบิดาแห่งภาษาศาสตร์สมัยใหม่ด้วย เป็นชาวสวิส ชื่อแฟร์ดินองด์ เดอ โซซูร์ ตอนนั้นแกบอกว่า ภาษาศาสตร์เป็นส่วนหนึ่งของสัญญวิทยาด้วยซ้ำ

ส่วนเรื่องสอบผ่าน เปล่าฮับ คืออย่างที่บอก คนที่ร่วมพัฒนาวิชานี้มีมากมาย ค่อยๆ ทำกันมา ตอนแรกไม่มีใครสอนหรือมีตำแหน่งสาขานี้โดยตรงหรอก ก็เป็นนักโน่นนักนี่ต่างๆ กันไปมากมาย แต่ทีนี้ตำแหน่งทางวิชาการฝรั่งมันไม่เหมือนของไทยไง เขาตั้งตำแหน่งจำนวนจำกัดไว้ แล้วเลือกคนขึ้นมาดำรงตำแหน่งคราวละคน แล้วป๋าเอโกก็เป็นคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ทางสัญญวิทยาตำแหน่งแรกที่มีการตั้งขึ้นมา เท่ห์ขึ้นไปอีกที่ตำแหน่งนั้นอยู่ในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในโลกด้วย (มหาวิทยาลัยโบโลญา)

*เวลาภาษาไทยชอบเรียกสัญญวิทยา เพราะสัญญศาสตร์มันมีเสียงชวนสับสนกับ ศัลยศาสตร์ แต่เวลาเรียกภาษาอังกฤษชอบ semiotics เพราะออกเสียงง่ายกว่า

 

โดย: the grinning cheshire cat 19 สิงหาคม 2551 15:44:57 น.  

 

ปล. แก้ๆ "กินเวลาหลายสิบหลายร้อยปี" เป็นกินเวลาเกือบร้อยปีน่อ

 

โดย: the grinning cheshire cat 19 สิงหาคม 2551 15:46:46 น.  

 

ไปหน้าเดียวกันหรือเปล่าฟะเนี่ย หน้าที่มีป๋าดาลีนะ

 

โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) 19 สิงหาคม 2551 16:22:09 น.  

 

ระบุหมายเลขมาด้วยจิ เง่อ

 

โดย: the grinning cheshire cat 19 สิงหาคม 2551 16:42:54 น.  

 

อยู่ในคิวอ่านอยู่แหนะ

แต่ตอนนี้อ่านดอน กีโฆเต้อยู่ (หลังจากให้หลายเล่มแซงคิวไปจนมันน้อยใจแล้วเนี่ย เหอๆ)

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 19 สิงหาคม 2551 18:02:30 น.  

 

คิดว่าตัวเองเป็นพวกครึ่งบกครึ่งน้ำนะ อยากรู้ว่าใครฆ่า ณ บัดนาว แต่ก็ไม่รังเกียจรายละเอียดวกวนระหว่างทาง (ขอแต่งให้ระหว่างทางนั้นมันดูดึงดูด น่าเดินหน่อย)

เอนี่เวย์ ยังไม่อยากอ่านเรื่องนี้ ไม่ว่าจะภาษาไทยหรืออังกิ๊ด

และ TBR ข้าพเจ้ายังอยู่แค่เลข 1 อยู่เลย
อา.. เส้นทางสู่ความเป็นที่โหล่ช่างง่ายดาย

 

โดย: ยาคูลท์ 19 สิงหาคม 2551 19:39:45 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณนิก ?

ตาหายดีแล้ว ?

คาดว่าเนอะ ...อิอิ

บายเดอร์เวย์ เรื่องนี้ยังไม่ได้อ่าน

ปล.ดีใจที่ชอบบล็อกจิตป่วนของอ้อน ช่วงนี้จิตป่วนนิดๆ
ตอนนี้ก็ยางไม่หายเลยค่ะ 55

 

โดย: BeCoffee 19 สิงหาคม 2551 19:49:53 น.  

 

+ โทษทีครับ พักหลังๆ เวลากลางวันผมชักจะยุ่งเหยิงเกินเหตุ เลยต้องใช้เวลามาสะสางบล็อกเพื่อนๆ เอาตอนค่ำๆ มืดๆ เนี่ยแหละเน้อ

+ หุๆ ผมเอ๊าท์จากแวดวงวรรณกรรมมานานแล้วจ้า (เคยไปสารภาพที่บล็อกน้องหมีชุน กับครูเต้ยไว้แล้ว) แต่บันเทิงคดีเรื่องนี้ ก็เคยได้ยินชื่ออยู่ครามครันนะครับ ดังอยู่พอตัวเหมือนกันอ่า

+ ขอให้ตาหายเป็นปกติไวๆ และไม่มีเอ็ฟเฟ็กต์อะไรมาเพิ่มเติมด้วยแล้วกันจ้า

 

โดย: บลูยอชท์ 19 สิงหาคม 2551 20:13:24 น.  

 

ดีจังได้เห็นรีวิวของอออ. แสดงว่า พอจะใช้งาน "ตา" ได้บ้างแล้ว

เรื่องนี้ก็ตามเคยค่ะ ...ยังไม่ได้อ่าน ยังไม่มี และคงต้องมี เพื่อให้ได้อ่านต่อไป

 

โดย: นัทธ์ 19 สิงหาคม 2551 21:28:24 น.  

 

เห็นรีวิว คงหายดีแล้วใช่มั้ยคะ

 

โดย: พุดน้ำบุศย์ IP: 117.121.218.60 19 สิงหาคม 2551 22:15:42 น.  

 

ไหนบอกว่านับนิ้วแล้วไม่ถึงสิบ นี่ซัดไปจะยี่สิบแล้วเน้อ

ผมอัพบล็อคเสร็จแล้วนะ ไปใช้สิทธิพาดพิงได้ 5555

 

โดย: แฟนผมตัวดำ 19 สิงหาคม 2551 22:43:21 น.  

 

ข้ามต้นฉบับทั้งอังกฤษไทยไปดูหนังเลยค่ะ
หนัง(สือ)เรื่องนี้เหมาะกับเหล่าหนอนที่ซู้ดด
ปล.อยากอ่านรีวิวpicture of dorian grayจัง...

 

โดย: แอปเปิ้ลอบเชย (apple_cinnamon ) 19 สิงหาคม 2551 22:57:41 น.  

 

โห ขนาดตายังไม่ค่อยหายดี

ยังอุตส่าอ่าน หนังสือเล่มหนาอย่าง

the name of the rose จบจนได้

นับถือจริงๆ

 

โดย: ahiruno007 IP: 58.9.23.58 20 สิงหาคม 2551 1:39:13 น.  

 

^
อ่านจบนานแล้วเพิ่งมาเขียน ถ้าเป็นตอนนี้ คงไม่กล้า ตัวหนังสือเล็กไป
วันนี้แวะมาเช็คเรทติ้ง แล้วจะหายไปอีก 2-3 วัน เมื่อวานเข้าเน็ตนานไปหน่อย + +"

 

โดย: อั๊งอังอา - - ตาแฉะๆ IP: 124.120.115.254 20 สิงหาคม 2551 8:43:39 น.  

 

น่าสนใจครับ

ตอนนี้กำลังอ่านวรรณกรรมผู้หญิงจ๋าอย่าง Pride&Prejudice อยู่ เล่มหน้าอยากเปลี่ยนแนวอยู่พอดี

 

โดย: yatiko 20 สิงหาคม 2551 10:15:39 น.  

 

แอตติคัส ฟินช์คือคุณพ่อในเรื่อง To Kill a Mockingbird อ่ะจ้ะ น่าร้ากกกกกกกกกก

 

โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ IP: 58.9.16.186 20 สิงหาคม 2551 12:31:39 น.  

 

ทัวร์จามจุรีสแควร์ที่บอกไว้จ้ะ

//busluv.exteen.com/20080710/entry

 

โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ IP: 58.9.16.186 20 สิงหาคม 2551 15:47:31 น.  

 

สวัสดีอีกรอบ

ไม่แน่ใจไงว่าอ่านหรือยังอ้ะ

ส่งมาก็ได้นะ เผื่อยังไม่ได้อ่านอะจ้า

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 20 สิงหาคม 2551 19:27:05 น.  

 

เฮ กลับมาแล้ว คิดถึงจังเลย
หายดียังครับ

 

โดย: คนขับช้า 20 สิงหาคม 2551 20:45:22 น.  

 

ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ
ดูหนังและอ่านภาษาเยอรมัน

เดี๋ยวจะตามหาภาษาไทยมาอ่าน
ดีใจที่แปลเป็นไทยค่ะ
ช่วยกันแนะนำต่อๆไปนะคะ

 

โดย: แม่ของอ๊บ IP: 84.143.119.254 21 สิงหาคม 2551 0:26:31 น.  

 

การที่คนอ่านถูกท้าทายจากการอ่านหนังสือถือเป็นประสปการณ์ที่ดี ซึ่งประเด็นของหนังสือคือ การอ่านออกควรเป็นสิ่งท้าทายหรือไม่...

อ่านตรงนี้แล้วขำค่ะ 555

 

โดย: ศรีสุรางค์ 21 สิงหาคม 2551 13:44:24 น.  

 

มันก็ไม่ขำขนาดนั้นน่อ.. หรือว่า.. คิดยักยอกเงินบริษัทจริงๆ ? + +"

^^
^^
นี่สงสัยจริงๆรึเปล่าเนี่ย...

เรื่องที่ว่าซีเรียสผมล้อเล่นนะครับ อ่านแล้วขำน่ะดีแล้ว เพราะผมก็ตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น หยอดมุขไปขนาดนั้นถ้าไม่ฮาเอาซะเลยผมคงผิดหวังแย่

แล้วตกลงจะได้พักสายตามั๊ยนี่... หักห้ามใจหน่อยครับ เดี๋ยวไม่หาย

 

โดย: แฟนผมฯ IP: 202.134.119.218 21 สิงหาคม 2551 17:14:58 น.  

 

พลอตเรื่องน่าอ่านจังเลยค่ะ
แต่ถ้าเป็นปุ๊กอ่านนะ เชื่อหนมกินได้เลยว่าพลิกไปอ่านคำเฉลยก่อนแหงมๆ

อ่านคอมเม้นต์แล้ว 55 เหมือนกันจริงๆด้วยค่ะ อาการหวงพื้นที่ส่วนตัวเนี่ย อย่าได้ล้ำเข้ามาเชียว

คุณอั๊งอังอาตาหายดียังคะ อ่านหนังสือได้สบายๆแบบนี้หายห่วงแล้วโนะ

ปล.ฝากความคิดถึงให้น้องหมาด้วยค่า

 

โดย: Hobbit 21 สิงหาคม 2551 21:19:00 น.  

 

ไม่ได้อ่าน TBR ต่อเลยค่ะ พอดีป่วยหนัก (เป็นไข้เลือดออกแต่ดันนึกว่าเป็นไข้ธรรมดาซะนี่) แต่ตอนนี้หายแล้ว จ้ำแดงกำลังขึ้นเลยค่ะ หมอบอกว่าไม่เป็นไรแล้ว เดี๋ยวไม่เกินสัปดาห์จ้ำๆก็จะหาย

 

โดย: PinGz (Kai-Au ) 21 สิงหาคม 2551 22:55:42 น.  

 

เล่มนี้อยู่ในคิวอันยาวนาน แววว่าจะอยู่ต่อไปอะค่ะ ไม่มีสมาธิเสียที ^^"

 

โดย: Clear Ice 22 สิงหาคม 2551 5:45:19 น.  

 

...



หวัดดีค้าบพี่
ขอบคุณสำหรับการอวยพรวันเกิดกันครับผม


ยินดีด้วยที่อ่านหนังสือ + อัพบล็อก ได้อีกคำรบเน้อ



 

โดย: The Legendary Midfielder 25 สิงหาคม 2551 10:34:40 น.  

 

ความจริงว่าจะหาเล่มนี้มาอ่านนานแล้วเหมือนกันค่ะ แต่ไม่รู้เป็นไงเข้าร้านหนังสือแล้วลืมซื้อทุกที หน้าปกก็ไม่เคยผ่านตาด้วย หายากไหมคะเล่มนี้อ่ะ

ไม่ค่อยได้อ่านแนวสืบสวนเท่าไหร่ แต่ก็อยากลองดูค่ะ

 

โดย: amy_de_alamode 30 สิงหาคม 2551 14:09:24 น.  

 

กรี๊ดดดดดดดดด ให้ห้าเต็มเลยเหรอเนี่ย แหง่ะ ดีใจๆๆๆ แต่ยังไม่ได้เริ่มอ่านเลยเรา เศร้า พักนี้ทำงานไม่มีเวลาทำอะไรเลย

ปกติไม่ต้องแปลภาษาละตินก็ได้อรรถรสดีนะคะ เห็นหนังสือแปลหลายภาษาก็ทำแบบนี้เหมือนกัน อย่างอ่านพวก Kite Runner เค้าก็ชอบคงภาษาเดิมไว้เป็นหย่อมๆ ก็ได้อรรถรสดีค่ะ ชอบแบบนี้มากกว่า

 

โดย: TaMaChAN (narumol_tama ) 21 กันยายน 2551 2:19:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


My So Called Love
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Life is short.
Play naked.


Updated :
Book: "สนใจเล่มไหนสอบถามได้" --ไม่ได้แจกหนังสือ
Book:
ทวิดารา Double Star
Hello: สิงคโปร์
Hello: สิงคโปร์ 2

กำลังอ่าน
Starcatcher's currently-reading book recommendations, reviews, favorite quotes, book clubs, book trivia, book lists

Spring Challenge 2010 March 1 - May 31

แนะนำ

มนุษย์หมาป่า / Jane Rice

บาร์เทิลบี / เฮอร์แมน เมลวิลล์













Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
19 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add My So Called Love's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.