[ I couldn't live without the comforting sound of pages flipping.]

Kafka on the shore, Haruki Murakami -TBR 2008/1

2008 TBR # 1

สิ่งที่ค้นพบระหว่างอ่าน Kafka on the Shore คือ


1. มันเป็น page-turner ที่เล่าแบบเหนือจริง อ้างถึงวัฒนธรรมอเมริกันสมัยใหม่ โดยเฉพาะดนตรี ซึ่งไม่น่าแปลกใจ เพราะคนเขียนเคยเปิดแจ๊ซบาร์


2. ถึงจะเดินเรื่องแบบเรื่อยๆ เหมือนอ่านตอนยังไม่ตื่นเต็มตา บรรยายรายละเอียดชีวิตประจำวันเรียบง่าย แบบแก้วต่อแก้ว (แก้วชา-กาแฟ ^^) ยิ่งถ้าฟังเพลงในเรื่องประกอบไปด้วย เหมือนมีอารมณ์ค้างมาจากยุค 70 แต่ก็ยังเดาไม่ได้ว่าเราจะเจออะไรในหน้าต่อไป บทต่อไป ทำให้สงสัยอยากรู้อยู่ตลอด ก็ไม่แปลกอีก เพราะคนเขียนเคยให้สัมภาษณ์ว่า บางทีเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน..



หนังสือเดินเรื่องสลับไปมาทีละบท ระหว่างตัวละครสองตัว คือ คาฟก้า และ นากาตะ


คาฟก้า เด็กชายที่หนีออกจากบ้านในโตเกียว เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็นคาฟก้า ระหว่างเดินทางได้เจอห้องสมุดเอกชนแห่งหนึ่ง คาฟก้าฆ่าเวลาแต่ละวันเช้าจรดเย็นไปกับการอ่านหนังสือที่นี่ จนสนิทสนมกับคนดูแลห้องสมุด โอชิม่า ซึ่งต่อมาชวนคาฟก้ามาทำงานที่ห้องสมุดด้วยกัน


และตัวละครที่สอง นากาตะ ชายอายุหกสิบ หัวช้า อ่านเขียนไม่ได้ แต่นากาตะมีความสามารถทดแทน (ที่จขบ อิจฉา) คือ สื่อสารกับแมวได้ (แต่พึงเข้าใจว่าแมวจะสื่อสารกับนากาตะหรือไม่ เป็นคนละเรื่องกัน) และเรียกฝนได้ (แต่ฝนตกมาเป็นอะไรเป็นอีกเรื่อง) นากาตะเข้าไปเกี่ยวข้องกับตัวละครที่สะสมวิญญาณแมว ต่อมาไปเกี่ยวข้องกับ โฮชิโน่ คนขับรถบรรทุกซึ่งช่วยนากาตะเดินทางเพื่อตามหาของที่นากาตะต้องการ ทั้งสองเดินทางไปจนถึงเมืองที่ห้องสมุดเอกชนที่คาฟก้าทำงานอยู่


ตลอดทั้งเล่ม สิ่งที่ทั้งสองคนทำเกี่ยวข้องกันในทางใดทางหนึ่ง (ไม่บอกว่าสองคนเจอกันไหม ^^)


หนังสือของมุราคามิเป็นเรื่องแปลกๆ เพราะว่ามันมีแมวพูดได้ (แน่นอน ก็มันมีคนพูดกับแมวได้นี่นา ก็ต้องมีแมวที่นากาตะพูดด้วยล่ะ) ฝนตกเป็นปลา หญิงขายบริการที่เรียนวิชาเอกปรัชญาและอ้างถึงนักปรัชญาระหว่างปฏิบัติงาน มันมีเป็นตัวละครไอค่อนสินค้าสองชนิดที่เรารู้จักกันดีด้วย


แต่... หนังสือของมุราคามิก็สามารถอ่านแบบครุ่นคิดลึกซึ้งได้เหมือนกัน เพราะว่า.. เนื้อเรื่องอ้างถึงและถกเถียงปมโอดิปุสอยู่ตลอด (ปมที่ตัวเอกหลงรักแม่-ฆ่าพ่อ ปมเดียวกับในเรื่อง แฮมเล็ต) พูดถึงปรัชญาของเพลโต ร่ายตั้งแต่เรื่องเพศ ดนตรี สัญลักษณ์ อุปมาอุปไมย อื่นๆ อีก (ที่ จขบ อ่านแบบมึนๆ จะเป็นเพราะอ่านตอนง่วงนอน หรือเพิ่งตื่นมาอ่าน หรือด้อยปัญญาเกี่ยวกับปรัชญาก็แล้วแต่) แถมยังพาดพิงถึงประเด็นเล็กๆ เกี่ยวกับศาสนา วิถีแห่งเต๋า และพุทธ ต่างหาก



สรุปว่าหยิบเอานิยายที่ลุ่มลึกด้านแนวคิดปรัชญา ผสมกับวัฒนธรรมป๊อบอเมริกันช่วงยุค 70 แต่เวลาละเลียดได้อารมณ์เหมือนที่ โฮชิโน่บอก

"มันเหมือนดูหนังอินเดียน่าโจนส์"
(ชอบโฮชิโน่กับนากาตะ เพราะสามารถเข้าใจได้ง่ายกว่าเจ้าเด็กคาฟก้า)




อีกส่วนที่เราชอบคือ อ่านไป ฟังเพลงตามตัวละครไป
เริ่มจากที่คาฟก้าฟัง Cream ชุด Goodbye ซึ่งกำลังฟังอยู่เหมือนกัน ก็อินไปแบบหนึ่ง
พอคาฟก้าฟัง Duke Ellington ก็อีกอารมณ์ ถัดมาเป็น Prince, Radiohead
หรือที่โฮชิโน่ฟังเพลงคลาสสิค Archduke ของ Beethoven ก็อีกแบบหนึ่ง
(มัวแต่เก็บเพลงตามเนื้อเรื่องอย่างเพลิดเพลิน TBR1 จึงใช้เวลานานด้วยเหตุนี้ )







เมื่อพายุฝนผ่านพ้นไป คุณจำไม่ได้ว่าผ่านมาได้อย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ คุณไม่ใช่คนเดิมก่อนเดินฝ่าพายุ

“Once the storm is over you won’t remember how you made it through. . . . But one thing is certain. When you come out of the storm you won’t be the same person who walked in.”






ขอนำเสนอ Kafka on the shore OST. Selected by An An Ah ต้นเหตุความล่าช้าของ TBR 1


Hoshino's Archduke by Beethoven ที่ไม่ได้บรรเลงโดยคณะตามเนื้อเรื่อง (โหลดนานหน่อยนะ)




Kafka's Duke Ellington - Satin Doll by ตามเรื่อง ไม่ได้ระบุเพลง เลือกมาตามสะดวกของ จขบ




Kafka's Badge by Cream


Playlist เพลงอื่นๆ ของ Cream จากชุด 'Goodbye'
เพลงแรกๆ เป็นบันทึกการแสดงสด แค่เพลงแรกก็ยาวกว่า 9 นาทีแล้ว โหลดนานหน่อยค่ะ แต่มันส์ดี







Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2551 17:32:39 น. 34 comments
Counter : 1383 Pageviews.

 
เหะๆ เราก็อยากสื่อสารกับแมวได้ แต่ไม่อยากเป็นลุงนากาตะ

สมมติว่าเกิดเหตุนี้กะตัวเอง
เรา - ย่นๆ เธอฟังเรารู้เรื่องใช่มะ
ย่น - ........(ทำหูลู่ไปข้างหลัง)
เรา - คุยกันหน่อยน่า
ย่น - ...... (คิดในใจว่า นิ่งไว้ๆ อย่าทำเป็นฟังรู้เรื่องเชียว เด๋วยายนี่จะมีข้อเรียกร้อง)
เรา - ย่นจายร้ายยยยย
ย่น - ..... (หาวแล้วเดินจากไป)


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:00:17 น.  

 
หนังสือของมุราคามิเป็นอะไรที่อธิบายยากค่ะ
แหวกแนวเสมอ

ยินดีด้วยค่ะ สำเร็จไป 1 เล่มแล้ว ที่เหลือก็สู้ๆ สู้ตายนะ


โดย: Jevanni วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:07:21 น.  

 
มีหนังสือเล่มนี้อยู่ในกองดองโดยบังเอิญ...
ไม่รู้มาได้ยังไง เลยไม่ได้คิดจะอ่าน...แหะ ๆ

แต่มาเจอประโยคนี้...อ่านไป ฟังเพลงตามตัวละครไป
เริ่มจากที่คาฟก้าฟัง Cream ชุด Goodbye ซึ่งกำลังฟังอยู่เหมือนกัน ก็อินไปแบบหนึ่ง ...

เดี๋ยวไปหยิบมาอ่านมั่งดีกว่า เผื่อจะอิน


โดย: แม่ไก่ วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:20:09 น.  

 
กี๊ซซซซซ ครีเอทอ่ะตะเอ๊ง

ชอบเรื่องนี้เป็นเรื่องต้นๆ ของมุราคามิเลยนะเนี่ย


โดย: the grinning cheshire cat วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:07:10 น.  

 
มุราคามิ ...คนพูดถึงกันเยอะ
แต่เราไม่เคยอ่านงานของเค้าเลย
อาจเป็นเพราะว่า กลัวจะต้องทำความเข้าใจกันนานอ่ะนะ
แต่เล่มนี้ ...หาเพลงประกอบฟังด้วย ...คงช่วยให้อ่านสนุก

จดไว้อีกเล่ม

ผ่านเล่มแรกไปแล้ว....ยินดีด้วยจ๊ะ


โดย: นัทธ์ วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:14:33 น.  

 
โอ้ เก๋จริงๆ ค่ะ
กดฟังเพลงเพลินเลย

ชอบเรื่องนี้ของมูราคามิ มากๆ เช่นกัน
ชอบ โฮชิโน่ ด้วย


โดย: grappa วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:38:46 น.  

 
อยู่โซลค่ะ จะแข็งตายอยู่แล้ว ฮ่าๆๆ เดินคลุมโปงเลย พันทุกส่วนของร่างกาย ฮ่าๆๆ

ตลกตอนนี้จัง ที่จขบ.อิจฉา คือสื่อสารกับแมวได้ จบไปหนึ่งเล่มแล้ว เรายังไม่ถึงครึ่งเล่มเลยอ่ะ แง๊ เริ่มอยากอ่านเล่มอื่นมากกว่าแล้ว ฮ่าๆๆ


โดย: TaMaChAN (narumol_tama ) วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:54:45 น.  

 
.. นี่ก็ดองไว้นานแล้ว ..


โดย: แม่มดพันปี วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:45:00 น.  

 
จากที่คุณอั๊งอังอา เม้นไว้ในหน้าการ์ตูนบล็อกเรา

เคยเอาภาพแบบขยับได้ แล้วคนอ่านเขาบอกน่ากลัวเกินไป คือ 2 ลิ้งค์นี้ค่ะ

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jevanni&month=02-2008&date=04&group=6&gblog=6

และ

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jevanni&month=01-2008&date=22&group=6&gblog=5

บล็อกล่าสุดก็เลยเอาภาพไม่ขยับมาลงแทนค่ะ


โดย: Jevanni วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:37:04 น.  

 
ท่าทางจะเข้าใจยาก
จดชื่อไว้ก่อน......ฮิ ฮิ


โดย: nikanda วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:38:47 น.  

 
ว่าจะอ่าน แต่ยังไม่อ่านงานมูราคามิสักเล่ม รอเล่มต้นก่อนด้วย สปุ๊ตนิก สวีตฮาร์ต ใกล้เคียงกับตัวเองดี


โดย: แอบชอบ คห. ข้างล่าง วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:23:01:28 น.  

 
ยินดีด้วยค่ะ กำจัดไปได้หนึ่งแล้ว

เล่มนี้แปลกดีนะ แมวพูดได้ เหอๆ
ยังไม่ค่อยกล้าหยิบงานของมูราคามิค่ะ
มีความรู้สึกว่ายังไม่พร้อมสำหรับแนวนี้เท่าไหร่

เราอ่าน TBR #2 ค้างอยู่เป็นอาทิตย์แล้วค่ะ
คือพอเบื่อแล้ว ก็ไม่ค่อยอยากหยิบต่อยังไงไม่รู้


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:23:21:18 น.  

 
เห็นขนาดเล่มก็ท้อแล้ว

ยิ่งบอกว่าเป็นผลงานของมูราคามิ ยิ่งท้อไปใหญ่
เพราะอ่านมาสองเล่ม จบไปนานละ ถึงวันนี้ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี


โดย: ahiruno007 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:21:25 น.  

 
งานของลุงหมูมันมีกลิ่นอายที่ไม่เหมือนใครดีค่ะ

จะอ่านงานแกนี่ ต้องเตรียมพบกับโลกอีกโลกเสมอ


ยังติดงานของลุงหมูอยู่ 2 เล่ม กำลังจะพยายามทลายพร้อมๆ กับเล่มๆ อื่นๆ ก่อนงานหนังสืออยู่ แหะๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:07:33 น.  

 
ยังไม่ได้อ่านงานของมุราคามิเลยค่ะ

หยิบมาเปิดๆ หลายครั้ง สงสัยไม่ค่อยชอบแนวนี้

ซื้อมาเล่มนึง ยังดองอยู่เลย


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:41:53 น.  

 
ยังไม่เคยอ่านงานของมุราคามิเลยค่ะ

ท่าทางจะออกแนวปรัชญา...ช่วงนี้ สมองกลวง ไม่ควรอ่านอะไรมีสาระ


โดย: piccy วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:50:59 น.  

 
ดูเหมือนยากจังค่ะ



โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:22:01 น.  

 



ขอให้มีความสุขสมหวังกับทุกความรักน๊า


อ่านข้อสองแล้วทำให้อยากอ่านเลย
ชอบหนังสือที่อ่านแล้วไม่รู้ว่าหน้าต่อไปจะเจออะไรแบบนี้เลยค่ะ

ปล.เสียดายจังอดฟังเพราะวันนี้เน็ตเน่าหนอนมาก T^T


โดย: Hobbit วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:32:31 น.  

 
สวัสดีอีกรอบ

อยากอ่านเลิฟเลตเตอร์หรือเปล่า?

ส่งไปให้ยืมได้นา


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:36:21 น.  

 


สุขสันต์วันแห่งความรักนะจ๊ะ อออ. + ป. + คุณ ย.


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:53:56 น.  

 
อะฮ้า...เขียนเรื่องนี้ด้วย


ชอบโควตที่ยกมาด้านล่างมากๆด้วยเช่นกันครับ
และชอบเรื่องราวของนากาตะมากกว่าเจ้าคาฟกาด้วย ฮ่าๆๆ
ลุงแกเป็นคนที่น่ารักมากจริงๆ


ปล. แอบกรี๊ด Rilo Kiley ชอบเพลงนี้มาก แต่ฟังทั้งอัลบั้มแล้วรู้สึกว่า...Silver Lining มันมารวมกับเพลงอื่นในอัลบั้มได้ยังไง???


โดย: Unravel วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:47:16 น.  

 
หงึ ที่เห็นเพราะถูกเทรนมาในทางนี้ล่ะมั้ง สายตามันสอดส่ายหาเรื่องอยู่ตลอด แต่ตอนเรียนล่ะขี้เกี๊ยจขี้เกียจ มาตอนนี้นั่งนึกๆ แล้วอยากเขียนเอสเสจังเลย

ตกลงเมื่อวานซื้อบัตรทันไหมจ๊ะ


โดย: the grinning cheshire cat วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:15:57 น.  

 
มาบอกว่าเพิ่งเห็นหลังไมค์ ขอบคุณมากจ้า


โดย: the grinning cheshire cat วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:44:37 น.  

 
...


เคยอ่านหนังสือของ มุราคามิ เล่มเดียว คือ พินบอล 1973

อ่านแล้วเฉยๆ มีหลายคนบอกว่าเล่มนี้อ่านง่ายที่สุด

ยังไม่ได้ไปหาเล่มอื่นมาอ่านเพิ่ม

ส่วนหนึ่งคงเพราะ เฉยๆ กับเล่มแรกที่อ่านด้วยมั้งครับ?





โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:35:54 น.  

 
TBR ค่อยๆคืบหน้าวันละนิดค่ะ เดี๋ยวจะไปอ่าน a walk to remember ต่อให้จบ แล้วจะไปอ่านหนังสือสอบแล้ว
เราอ่านคาฟก้าเป็นเรื่องแรกของมุราคามิเลยค่ะ ก็สนุกน่าติดตามดี แต่พวกเรื่องสั้นนี่เฉยๆซะส่วนใหญ่(บางเรื่องก็อ่านไม่รู้เรื่อง )


โดย: PinGz (Kai-Au ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:38:03 น.  

 
เพิ่งได้อ่านหนังสือชีวิประวัติของนักเขียนคนนี้(ไปได้ไม่กี่หน้า-*-) ของปราย พันแสง
เห็นมีที่เขียนถึงหนังสือเล่มนี้ด้วย แต่โดยส่วนตัวแล้วผมยังไม่เคยอ่านงานของเขามาก่อน
ส่วนหนึ่งเพราะหาอ่าไม่ได้ -*- เอาไว้จะรีบไปมองหามาอ่านให้จงได้


โดย: ขอรบกวนทั้งชุดนอน วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:30:42 น.  

 
วันนี้แอบมีเพลงมาแนะนำคร้าบ ไม่รู้เคยฟังรึยัง
New Soul ของสาว Yael Naim
น่ารัก ฟัง+ดู แล้วหน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพราไม่แพ้ Silver Lining เลยล่ะครับ





โดย: Unravel วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:21:20 น.  

 
ฮาโหลๆๆ
มาเยี่ยมจ้า


โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:55:32 น.  

 
เอ๋...จขบ.ชื่อนิกเหรอเนี่ย

หรือใครที่ใกล้ชิดชื่อนี้

บอกหน่อยจิ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:49:06 น.  

 
น่าสนใจโครงการนี้นะครับ
ขจัดความรกรุงรังได้ดีทีเดียว

ปล. ศิษย์สะดือ นี่ ทำให้ผมฝันจนวันนี้ครับ


โดย: คนขับช้า วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:23:55 น.  

 
แวะมาเยี่ยมครับ
ลอง Code ด้านบน รูปพระพี่นางแล้ว ไม่เห็นได้เลยครับ
แต่ไปโผล่ด้านขวาแทนจ้า


โดย: คนขับช้า วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:42:05 น.  

 
คิดถึงๆ

โผล่ไปตอนอัพบล็อกใหม่พอดีเยย เฉียดกันแค่เสี้ยวหางแมว


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:12:00:43 น.  

 
โห หายไปนานเลยนะคะ


โดย: TaMaCaHaN (narumol_tama ) วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:22:26 น.  

 
...


อัพบล็อกได้แล้วนะ คุณนิก








โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:06:46 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

My So Called Love
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Life is short.
Play naked.


Updated :
Book: "สนใจเล่มไหนสอบถามได้" --ไม่ได้แจกหนังสือ
Book:
ทวิดารา Double Star
Hello: สิงคโปร์
Hello: สิงคโปร์ 2

กำลังอ่าน
Starcatcher's currently-reading book recommendations, reviews, favorite quotes, book clubs, book trivia, book lists

Spring Challenge 2010 March 1 - May 31

แนะนำ

มนุษย์หมาป่า / Jane Rice

บาร์เทิลบี / เฮอร์แมน เมลวิลล์













Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
13 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add My So Called Love's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.