Photobucket ชีวิตคือการเดินทาง ท่องไปในโลกกว้าง อย่างอิสระ เสรี ติดตามข่าวสาร เรื่องน่ารู้ แวดวงบันเทิง ท่องเที่ยว สารคดี ได้ที่นี่

 
ธันวาคม 2551
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
11 ธันวาคม 2551
 

AUSTRALIA หนังดีอีกเรื่องที่น่าชมของ Baz Luhrmann



มหากาพย์ภาพยนตร์ แอ็คชั่น ผจญภัย กรุ่นไอรักแสนโรแมนติคที่เกิดขึ้นท่ามกลางดินแดนอันสวยงามในช่วงใกล้จะเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง (World War II) เล่าถึงเรื่องราวของคุณนายยังสาวชาวอังกฤษ (รับบทโดย นิโคล คิดแมน – Nichole Kidman) เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมายังดินแดนห่างไกล เธอได้พบกับหนุ่มพื้นเมืองผู้คุมไร่ปศุสัตว์ (รับบทโดยฮิวจ์ แจ๊คแมน – Huge Jackman) ที่ออกจะดิบเถื่อนอยู่สักหน่อย แต่เธอก็ยินยอมแบบไม่ค่อยเต็มใจที่จะอาศัยเขาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการต่อสู้เพื่อรักษาผืนดินอันเป็นมรดกตกทอดของเธอ เมื่อตัดสินใจลงเรือลำเดียวกันแล้ว ทั้งสองก็ร่วมกันเดินทางหลายร้อยไมล์ข้ามดินแดนมหัศจรรย์สวยสุดบรรเจิดแต่ยังไม่ค่อยมีใครเข้าถึงและสัมผัส เพื่อไปยังเมืองดาร์วิน (Darwin) ซึ่งกำลังถูกโจมตีโดยกองทัพญี่ปุ่นที่เพิ่งถล่มเพิร์ล ฮาร์เบอร์ (Pearl Harbor) จนราบเป็นหน้ากลอง

ภาพยนตร์ล่าสุดของ บาซ เลอร์มานเรื่องนี้ เป็นผลงานการบรรจงสร้างภาพแสนสวยบนผืนผ้าใบที่จะรังสรรค์ประสบการณ์บันเทิงผ่านจอภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของความรักแสนโรแมนติค, ดราม่าซาบซึ้งตรึงจิต, ผจญภัยโลดโผน, และความยิ่งใหญ่อลังการน่าตื่นตาตื่นใจ มหากาพย์เรื่องยิ่งใหญ่ที่การผจญภัยจะค่อย ๆ เผยความอลังการของดินแดนแห่งนี้ไปพร้อม ๆ กับเรื่องราวที่สุดแสนจะประทับใจไม่รู้ลืม




Australia นำแสดงโดยนิโคล คิดแมน (Nicole Kidman จาก Moulin Rouge! และ The Hours ลิขิตชีวิตเหนือกาลเวลา) นักแสดงหญิงเจ้าของรางวัลออสการ์ (Academy Award®), ฮิวจ์ แจ๊คแมน (Hugh Jackman จากไตรภาค The X-Men Trilogy และ The Prestige ศึกมายากลหยุดโลก), เดวิด เวนแฮม (David Wenham จาก 300 ขุนศึกพันธุ์สะท้านโลก และไตรภาค The Lord of the Rings Trilogy), ไบรอั้น บราวน์ (Bryan Brown จาก Breaker Morant และ The Thorn Birds), แจ๊ค ธอมป์สัน (Jack Thompson จาก Breaker Morant และ The Good German ภารกิจรักเพลิงสงคราม), เดวิด กัลปิลิล (David Gulpilil จาก Walkabout และ Crocodile Dundee ดีไม่ดี ข้าก็ชื่อดันดี), เดวิด งูมบูเจอร์ร่า (David Ngoombujurra จาก Rabbit Proof Fence สุดขอบฟ้าไกล หัวใจจะกลับบ้าน และ Ned Kelly วีรบุรุษแดนเถื่อน), และขอแนะนำแบรนดอน วอลเตอร์ (Brandon Walters) นักแสดงดาวรุ่งวัย 13 ขวบรับบทนูลล่าห์ (Nullah)

เลอร์มาน (Baz Luhrmann) ผู้กำกับฯ จาก William Shakespeare’s Romeo+Juliet และ Strictly Ballroom) กำกับภาพยนตร์เรื่อง Australia จากเค้าโครงเรื่องที่เขาคิดขึ้นเอง และบทภาพยนตร์ที่ร่วมแต่งกับสจ๊วต บีตตี้ (Stuart Beattie จาก Pirates of the Caribbean ทั้งสามภาค), โรนัลด์ ฮาร์วู้ด (Ronald Harwood จาก The Pianist สงคราม ความหวัง บัลลังก์เกียรติยศ) ผู้เขียนบทภาพยนตร์เจ้าของรางวัลออสการ์ (Oscar-winner), และริชาร์ด ฟลาเนแกน (Richard Flanagan) นักเขียนนวนิยายชื่อดังชาวออสเตรเลี่ยน (Australian)




ข้อมูลที่น่าสนใจ

แบรนดอน วอลเตอร์ รับบทเป็น นูลล่า
(BRANDON WALTERS: Nullah)
แบรนดอน วอลเตอร์เป็นเด็กชายวัย 13 ขวบที่เลอร์มานค้นพบจากกระบวนการเลือกเฟ้นนักแสดงเด็กที่จะมารับบทหนุ่มน้อยอะบอริจิน (young Aboriginal boy) ตัวละครสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้ หลังจากเข้าค่ายฝึกซ้อมกลุ่มเด็ก ๆ ที่ผ่านการคัดเลือกจำนวนหนึ่ง ณ Fox Studios ในออสเตรเลีย (Australia) เลอร์มานกับคณะก็ยังเดินทางไปยังเมืองบลูม (Broome) บ้านเกิดของวอลเตอร์แถบออสเตรเลียตะวันตก (Western Australia) ซึ่งครอบครัวของหนุ่มน้อยก็สนับสนุนให้มาร่วมแสดงบทเด่นนี้ในภาพยนตร์ของเลอร์มาน
ภาพยนตร์เรื่อง Australia ซึ่งเป็นผลงานเรื่องแรกของวอลเตอร์





บาซ เลอร์มาน – ผู้กำกับ, ผู้เขียนบท, และผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์

(BAZ LUHRMANN: Director, Writer and Producer)
บาซ เลอร์มานโด่งดังไปทั่วโลกด้วยความสำเร็จจากผลงานหลายชิ้นทั้งภาพยนตร์, โอเปร่า, ละครเวที, ดนตรี, มัลติมีเดีย, และงานแสดงสดมากมาย ในฐานะผู้ก่อตั้งและผู้บริหารบริษัท Bazmark.Inq. และบริษัทในเครือทั้ง Bazmark Live และ Bazmark Music ซึ่งผลิตผลงานที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงตลอดเวลาบ่งชี้ให้เห็นถึงความสามารถของเลอร์มานที่เข้าถึงรสนิยมของผู้ฟัง และจับกระแสของมหาชนได้ถูกทางอยู่เสมอ

ภาพยนตร์เรื่อง Moulin Rouge! ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องก่อนหน้านี้ของ เลอร์มาน ที่นำแสดงโดยนิโคล คิดแมน (Nicole Kidman) กับยวน แม็คเกร้กเกอร์ (Ewan McGregor) ที่เขาริเริ่มพัฒนางานสร้าง, ร่วมเขียนบทภาพยนตร์, อำนวยการสร้าง, และกำกับภาพยนตร์ ซึ่งเปิดฉายรอบปฐมทัศน์ในเทศกาล Cannes Film Festival เดือนพฤษภาคม 2001 เมื่อออกฉายทั่วโลกก็เปิดตัวเป็นภาพยนตร์ทำเงินอันดับหนึ่งทั้งในอังกฤษ (UK), ฝรั่งเศส (France), ออสเตรเลีย (Australia), และสวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) นอกจากจะกวาดรายได้จากการฉายในโลกภาพยนตร์ทั่วโลกไปกว่า 170 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แล้วก็ยังกวาดรางวัลอันทรงเกียรติไปมากมาย รวมทั้งรางวัลลูกโลกทองคำ (Golden Globe) สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทเพลงหรือตลก (Best Musical or Comedy), รางวัล Film of the Year Awards จากทั้งเวที National Board of Review และเวที Producers Guild of America, และรางวัลออสการ์ (Academy Awards) ที่แค็ทเธอรีน มาร์ติน (Catherine Martin) ได้รับคือสาขาออกแบบสร้างสรรค์ฉากยอดเยี่ยม และสาขาออกแบบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม (production and costume design จากที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงมากถึง 6 สาขารวมทั้งสาขา Best Picture ด้วย) เลอร์มานเองก็ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล BAFTA nominations สาขา Best Director กับสาขา Best Screenplay และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ (Golden Globe nomination) สาขา Best Director ด้วย นอกจากนั้นเขายังบริหารงานอำนวยการผลิตอัลบั้มดนตรีประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้ง 2 แผ่นซึ่งขายดีทั่วโลกกว่า 6 ล้านแผ่นจนคว้ารางวัลแพล็ทตินั่มมาครองด้วย

เลอร์มานยังโด่งดังจาก William Shakespeare’s Romeo + Juliet ภาพยนตร์ที่เขาดัดแปลงจากบทประพันธ์คลาสสิคให้กับ Twentieth Century Fox นำแสดงโดยลีโอนาร์โด ดีแค็พปริโอ้ (Leonardo DiCaprio) และแคลร์ เด้นส์ (Claire Danes) ซึ่งเขาร่วมเขียนบทภาพยนตร์, กำกับ, และอำนวยการสร้างผลงานที่ถ่ายทำกันในเม็กซิโก (Mexico) และกวาดรายได้ถล่มทลายไปทั่วโลกเรื่องนี้ ภาพยนตร์เปิดฉายในสหรัฐอเมริกาและขึ้นอันดับหนึ่งในสัปดาห์แรก ก่อนจะกวาดรายได้ทั่วโลกไปมากกว่า 140 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และรางวัลอันทรงเกียรติมากมาย รวมทั้ง รางวัล BAFTAs ถึง 4 สาขารวมทั้งสาขา Best Direction กับสาขา Best adapted screenplay, รางวัล Berlin Film Festival Awards ถึง 2 สาขารวมทั้งสาขา Best Direction ด้วย, ลีโอนาร์โด ดีแค็พปริโอ้ (Leonardo DiCaprio) คว้ารางวัล Golden Bear สาขา Best Actor, และส่งให้แค็ทเธอรีน มาร์ติน (Catherine Martin) ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ (Academy Award nomination) สาขา Best Art Direction ด้วย ในขณะที่ผลงานอัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์ที่บริหารงานอำนวยการผลิตโดยเลอร์มานก็ขายดีกว่า 7 ล้านแผ่นทั่วโลกและคว้ารางวัลแพล็ทตินั่มในสหรัฐอเมริกาไปถึง 3 แผ่น

ความสำเร็จของ William Shakespeare’s Romeo + Juliet เป็นการตอกย้ำความสำเร็จของเลอร์มานจากภาพยนตร์เรื่องก่อนหน้านี้คือ Strictly Ballroom ที่กวาดรายได้ทั่วโลกไปกว่า 80 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตอนที่ Strictly Ballroom เปิดฉายรอบปฐมทัศน์ในเทศกาล Cannes Film Festival ก็คว้ารางวัล Prix de la Jeunesse และยังเป็นที่กล่าวขวัญถึงกันอย่างกว้างขวางบนเวที Camera D’Or ก่อนจะเดินหน้ากวาดรางวัลจากเวทีระดับโลกหลายแห่ง รวมทั้ง รางวัล BAFTAs ถึง 3 สาขา และรางวัล Australian Film Institute awards (AFIs) ถึง 8 สาขา
ภาพยนตร์เรื่อง Strictly Ballroom ดัดแปลงจากบทละครเวทีที่ เลอร์มาน ริเริ่มพัฒนา, ร่วมเขียนบท, จัดแจงบทบาทการแสดงบนเวทีละคร, และกำกับการแสดง ในระหว่างกำลังศึกษาหลักสูตรนักแสดงที่ National Institute of Dramatic Arts (NIDA) ในซิดนี่ย์ (Sydney) ละครเวทีเรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นสัมพันธภาพในการทำงานระหว่างเขากับเคร้ก เพี้ยร์ซ (Craig Pearce) ผู้เขียนบทละครเวทีที่คว้ารางวัลมากมาย รวมทั้งเมื่อละครเวทีเรื่องนี้เปิดแสดงครั้งแรกโดยเลอร์มานเป็นผู้กำกับศิลป์ (Artistic Director) ให้กับคณะ Six Years Old ผ่าน Sydney Theatre Company และกลายมาเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในปี 1992

หลังจบการศึกษาจาก NIDA และเสร็จงาน Strictly Ballroom ที่นำกลับมาสร้างเป็นภาพยนตร์แล้ว เลอร์มานก็ยังคงเป็นผู้กำกับศิลป์ (Artistic Director) ให้กับคณะละครเวทีอีกหลายคณะ, ร่วมงานในโครงการ Ra Project ของ Australian Opera ซึ่งเขาร่วมสร้างสรรค์ Lake Lost โอเปร่าที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับเฟลิกซ์ มีเกอร์ (Felix Meagher) ผู้ประพันธ์ดนตรีชื่อดัง และงานนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกันกับแค็ทเธอรีน มาร์ติน (Catherine Martin) นักออกแบบสาว
หลังจาก Lake Lost ประสบความสำเร็จอย่างงดงามก็ตามมาด้วย Dance Hall ละครเพลงเวทีขนาดมหึมาที่เลอร์มานร่วมสร้างสรรค์กับมาร์ตินเพื่อเปิดการแสดง ณ Sydney Town Hall
หลังจากนั้นก็สร้างสรรค์ผลงานละครเวทีจากบทของตัวเองและโอเปร่าคลาสสิคอีกหลายเรื่อง จนมาประสบความสำเร็จอย่างสูงกับ La Boheme ของพุคซินี่ (Pucci) ให้กับคณะ Australian Opera ที่คว้ารางวัล MO สาขา Operatic Performance of the Year และยังได้กลับมาแสดงอีกครั้งในปี 2002 และเปิดแสดงบนเวทีบรอดเวย์ (Broadway) ก็ได้รับการต้อนรับชนิดขายบัตรเกลี้ยง Baz Luhrmann’s Production of Puccini’s La Bohème on Broadway ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Tony Awards ถึง 7 สาขา รวมทั้งสาขา Best Revival และสาขา Best Director ให้กับเลอร์มาน ก่อนจะคว้ารางวัลสาขา Best ensemble cast, และสาขา Best set design and lighting มาครอง

หลังจากเปิดการแสดงมากกว่า 200 รอบคณะโอเปร่าตระเวนไปเปิดการแสดง ณ Ahmanson Theatre ในลอสแองเจลิส (Los Angeles) เมื่อเดือนมกราคม 2004 เพียงไม่กี่รอบและได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Ovation Awards ถึง 7 สาขา และคว้าสาขา ensemble cast, สาขา set design, และสาขา lighting and sound มาครองได้สำเร็จ
เลอร์มานยังกำกับละครเวทีที่เขาดัดแปลง A Midsummer Night’s Dream ให้กับเบนจามิน บริทเท่น (Benjamin Britten) โดยใช้อินเดีย (India) ในยุคอาณานิคมเป็นฉากหลังเพื่อเปิดแสดงที่ Australian Opera หลังจากประสบความสำเร็จกับการแสดงในซิดนี่ย์ (Sydney) และเมลเบิร์น (Melbourne) มาหลายฤดูกาลก็คว้ารางวัล Critics’ Prize จากเทศกาล Edinburgh Festival ในปีเดียวกันนี่เองที่ทั้งเลอร์มาน, มาร์ติน, และบิล มาร์ร่อน (Bill Marron) ได้รับเกียรติให้เป็นคณะบรรณาธิการรับเชิญสำหรับ Vogue Australia ฉบับพิเศษที่ได้นิโคล คิดแมน (Nicole Kidman) กับไคลี่ มิโน้ก (Kylie Minogue) มาเป็นนางแบบคนสำคัญ

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงกับ William Shakespeare’s Romeo + Juliet เลอร์มานก็ก่อตั้งบริษัท Bazmark.Inq. ในซิดนี่ย์ (Sydney) และริเริ่มทำงานอัลบั้ม Something For Everybody ที่มีเพลงฮิตอย่าง Everybody’s Free to Wear Sunscreen ที่ขึ้นอันดับ 1 ของชาร์ตในอังกฤษ (UK) และได้แผ่นเสียงทองคำยอดขายในสหรัฐอเมริกา (U.S.) และยังติดอันดับก้าวกระโดดเมื่อเปิดผ่านคลื่นวิทยุด้วย
ภายใต้การกำกับของแค็ทเธอรีน มาร์ติน (Catherine Martin) ส่งให้ Bazmark ได้อำนวยการผลิตงานแสดงแฟชั่นโชว์คอลเลคชั่นรับฤดูใบไม้ร่วงกับฤดูหนาว (Autumn/Winter Collection) ปี 1998 ของคอลเล็ต ดินนิแกน (Collette Dinnigan) แฟชั่นดีไซเนอร์ชื่อดังของออสเตรเลีย (Australian fashion designer) ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre) ในกรุงปารีส (Paris) หลังจากนั้นคณะทำงานของ Bazmark Live ก็ยังไปออกแบบทิวทัศน์ของถนนในโรงถ่าย Fox Studio ที่ออสเตรเลีย (Australia), อำนวยการผลิตส่วนหนึ่งของ Lights Camera Chaos ที่เขียนบทและกำกับโดยแบร์รี่ คอสกี้ (Barrie Kosky) ผู้อำนวยการเวทีละครชื่อดังชาวออสเตรเลี่ยน (Australian theatre director)

ล่าสุด เลอร์มานริเริ่มพัฒนา, อำนวยการผลิต, และกำกับชิ้นงานโฆษณาผลิตภัณฑ์น้ำหอมของ Chanel No. 5 ที่แพร่ภาพทั่วโลกทั้งในโรงภาพยนตร์และทางโทรทัศน์ ที่นำแสดงโดยนิโคล คิดแมน (Nicole Kidman) นักแสดงสาวจาก Moulin Rouge! กับร็อดดริโก ซานโทโร่ (Rodrigo Santoro) นักแสดงดาวรุ่งบราซิลเลี่ยนหนุ่ม (Brazilian rising star) และเป็นชิ้นงานโฆษณาที่ U.S. Cinema Advertising Council ยกย่องให้เป็น Top National Spot ด้วย

ภาพยนตร์เรื่อง Australia เป็นผลงานอำนวยการสร้างเรื่องแรกในมหากาพย์ไตรภาพที่เลอร์มานตั้งใจจะสร้าง และเป็นการร่วมงานกันครั้งที่สามระหว่างเขากับนิโคล คิดแมน (Nicole Kidman) และยังเป็นการร่วมงานกันครั้งล่าสุดของเขากับแค็ทเธอรีน มาร์ติน (Catherine Martin) คู่หูผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงานหลาย ๆ ชิ้นและเป็นภรรยาสุดที่รักของเขามานานกว่า 18 ปีแล้วด้วย







 

Create Date : 11 ธันวาคม 2551
2 comments
Last Update : 11 ธันวาคม 2551 2:42:36 น.
Counter : 2168 Pageviews.

 
 
 
 
ไม่ได้ทัศนาหนังมหากาพย์แบบนี้มานานแล้วครับ รู้สึกอยากดูขึ้นมาเลยจริงๆ
 
 

โดย: หมื่นทิพ (เทพบุตรตบะแตก!! ) วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:16:56:31 น.  

 
 
 
ไม่ได้ทัศนาหนังมหากาพย์แบบนี้มานานแล้วครับ รู้สึกอยากดูขึ้นมาเลยจริงๆ
 
 

โดย: หมื่นทิพ (เทพบุตรตบะแตก!! ) วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:16:56:41 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

อาร์ม อิสระ
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




แค่นักเขียน นักข่าวที่อยากหยุดพักงานสักวัน แล้วท่องเที่ยวไปตามที่ใจต้องการ แต่ยังไม่รู้เลยว่าวันนั้นจะมาถึงเมื่อไหร่

[Add อาร์ม อิสระ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com