เมนูใหม่ ขนมปังสังขยาชาไทย อร่อยจัด
บ่นอยากกินขนมปังสังขยามาหลายวัน นั่งเสกไปก้อคงไม่ได้กิน เลยลองหาสูตรจากในอินเตอร์เน็ตนี่แหละ แล้วทำกินเองเลย ตอนแรกก้อคิดว่าจะทำแค่สังขยา แล้วซื้อขนมปังแถวมาจิ้ม แต่บังเอิญไปเดินซุปเปอร์แล้วเจอแป้งขนมปังกึ่งสำเร็จรูป เราแค่เติมไข่ น้ำ เนยเอง ก้อเลยซื้อมาลองทำ แถมมีครัวซองสำเร็จรูปที่แค่ซื้อมาอบเองอีกด้วย เนื่องจากไม่มีใบเตยมาทำสังขยาสีเขียว คิดว่าจะทำสังขยาสีส้ม แต่ไม่มีสีผสมอาหารอีก คิดไปคิดมามีชาเย็นขวดอยู่ในตู้นี่หว่า เอามาดัดแปลงดีกว่า น่าจะหอมชาไทย อร่อยด้วย มาลองดูกันเลยดีกว่าเนอะ ส่วนผสมสังขยา 1. ชาเย็น 1 ถ้วยตวง 2. ไข่ไก่ 2 ฟอง 3. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ 4. แป้งมันสำปะหลัง 1 ช้อนโต๊ะ ในรูปขาดแป้ง ๆ ไปนะคะ พอดีลืม แล้วก้อไม่ได้ใส่น้ำตาล เพราะชาเย็นมันจะหวานอยู่แล้ว กลัวกะไม่ถูกแล้วหวานไป Tips>>> ถ้าจะทำสังขยาใบเตย ให้เปลี่ยนชาเย็นเป็นน้ำกะทิแล้วเอาไปคั้นใบเตยให้ได้กะทิเขียว แล้วก้อเพิ่มน้ำตาลอีกประมาณ 1/2 - 3/4 ถ้วยตวงตามความชอบ ถ้าจะเอาไว้จิ้มกับบนมปัง ใช้แป้งเท่านี้มันก้อจะเหลว พอจิ้มได้พอดี แต่ถ้าจะใส่เป็นไส้ขนมปังอบ ก้อตัองเพิ่มแป้ง เพื่อให้เนื้อสังขยาแข็งตัว แล้วห่อได้ เราเพิ่มแป้งสาลีไปอีกประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำสังขยา เริ่มจากตีไข่ แล้วก้อผสมแป้งกับชาเย็น คนแป้งให้ละลายแล้วก้อเอไปผสมกะไข่ที่ตีไว้ เสร็จแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง (ลืมถ่ายรูปตอนผสมแป้งกับกรองไว้ มีแต่ภาพตีไข่ ใช้ที่ตีฟองนมทำคาปูชิโน่มาตีไข่...อิอิ) ตั้งน้ำให้เดือดในหม้อขนาดใหญ่กว่าหม้อที่เราจะกวนสังขยานะ เพราะเราจะทำ Double Boiler คือการกวนให้สุกผ่านน้ำเดือดแทนที่จะกวนกะเตาไฟตรง ๆ เพราะจะได้ไม่ร้อนเกิน แป้งจะไม่เป็นเม็ด ๆ แล้วก้อป้องกันการไหม้ติดก้นหม้อ เอาหม้อส่วนผสมที่กรองไว้มะกี๊มาหล่อในหม้อน้ำเดือดบนเตาแบบในรูปข้างบน แล้วก้อกวนไปเรื่อย ๆ คนอย่าหยุด ระวังจะติดก้อนหม้อ ถ้าไม่กวนเรื่อย ๆ พอส่วนผสมเริ่มสุก มันจะจับกันเป็นก้อนนะ แล้วเนื้อสังขยาจะไม่เนียน กวนไปจะได้ประมาณรูปข้างล่าง ลองชิมดูว่าไม่มีรสแป้งแล้วเพื่อเช็คว่าแป้งสุกรึยัง ถ้ายังมีรสแป้งอยู่ก้อกวนต่อไป พอดีไม่ได้จับเวลาว่านานเท่าไหร่ รูปอันบนที่นวล ๆ หน่อย พอดีถ่ายตอนไอน้ำมันฟู่มาพอดี ไม่ต้อง filter ก้อเบลอเองเรย..อิอิ เสร็จแล้วก้อตักใส่ถ้วยทิ้งไว้ให้อยู่ตัว ประมาณนี้ พอเย็นแล้วเอาเข้าตู้เย็นก้อได้ เสร็จแล้วเราเอามาลองใส่เป็นไส้ครัวซองดูวันแรก ก้อไม่ยากอะไร เพราะใช้ Dough แช่เย็นที่ขาย ๆ กันในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่นี่ หน้าตาเป็นงี้เองอันนี้กระป๋องเล็ก ทำได้สี่ชิ้น แกะกระป๋องมันก้อจะระเบิดออกมา เราก้อเอาแป้งมาแผ่เป็นชิ้น ๆ มันจะมีรอยตัดให้อยู่แล้ว แกะง่าย ออกมาได้หน้าตาอย่างงี๊ เป็นสามเหลี่ยม แล้วก้อเอาไส้สังขยามาทา แล้วก้อม้วน ๆ พอดีมือเลอะ ไม่ได้ถ่ายรูปไว้อ่ะ แล้วเอาเข้าเตาอบ 375 องศาฟาเรนไฮท์ ซักสิบนาที เค้าบอกไว้หมดแหละ ข้างกระป๋อง...อิอิ อบออกมาหน้าตาเป็นงี้ พอดีให้มันยังไม่อยู่ตัวมาก ม้วนยากหน่อย ได้มาหลวม ๆ อย่างงี้อ่ะ ทีนี้มาถึงพระเอกของงาน ขนมปังสังขยาครับผม ก่อนจะทำตื่นเต้นมาก ๆ เลย กลัวไม่รอด มาดูส่วนประกอบกันก่อนดีกว่า ส่วนประกอบขนมปัง 1. แป้งขนมปังกึ่งสำเร็จรูปพร้อมยีสต์แห้ง 2. นมสด หรือ น้ำร้อนจัด 1 ถ้วยตวง 3. เนยสด ทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง 2 ช้อนโต๊ะ 4. ไข่ไก่ 1 ฟอง นี่คือเต็ม ๆ สูตรตามที่กล่องบอก แต่ว่าข้าพเจ้าอยู่คนเดียวทำแค่ครึ่งสูตรพอ แป้งที่เค้าให้มาก้อเอามาตวงแล้วก้อตักใช้ครึ่งเดียว ยีสต์ก้อครึ่งนึง ถ้าหาแบบกึ่งสำเร็จรูปไม่ได้ก้อไปลอง ๆ หาสูตรในเน็ตดูนะ คุณแม่สลิ่มก้อมีสูตรขนมปังอยู่นะ แต่พอดีเราขี้เกียจ อ้อ จะบอกอีกอย่างนึงว่าในสูตรเค้าใช้น้ำร้อน ไม้ได้ใช้นม แต่เราคิดเองว่าใช้นมมันน่าจะนุ่มขึ้น แล้วก้อแอบเอาน้ำตาลละลายไปกะนมร้อนอีกประมาณ 1 ช้อนชาได้ เนื่องจากแป้งกึ่งสำเร็จรูปนี้เป็นสูตร Dinner roll ที่ฝรั่งเอาไว้กินกับอาหารจานหลัก เรากลัวว่ามันจะกระด้าง แล้วก้อไม่หวานแบบขนมปังสังขยาบ้านเรา ก้อเลยเพิ่มไปเอง ก้อออกมาอร่อยดี หน้าตาส่วนประกอบมีดังต่อไปนี้ แป้งกึ่งสำเร็จรูป 1 กล่อง ข้างหลังมีวิธีการทำบอกเสร็จ ต่อมาก้อเป็นส่วนผสมอื่นๆ มาดูวิธีทำกันเลยดีกว่า หนุกหนานมาก เริ่มจากเอาแป้งผสมกับยีสต์คนให้ยีสต์กระจายทั่ว ๆ ก่อน จากนั้นเติมไข่ เนยแล้วก้อนมร้อนจัด หรือน้ำร้อนจัด ที่ต้องใช้น้ำร้อนเพราะมันจะช่วยให้ยีสต์ทำงานน่ะ นี่คือเค้าบอกไว้เลยที่ซองยีสต์ ถ้าเอายีสต์ละลายกับน้ำก่อนก้อจะไม่ต้องร้อนจัด ๆ แต่ถ้าเอายีสต์ผสมกับแป้ง น้ำต้องร้อนกว่า เนื่องจากไม่มี Thermometer เราเลยเอาให้เดือดไว้เลย เสร็จแล้วก้อใช้พายคนให้ส่วนผสมเข้ากัน จนไม่มีแป้งติดที่อ่างผสมแล้ว เราไม่ได้ใช้เครื่องนะเพราะไม่มี แล้วก้อไม่ได้ทำเยอะด้วย จะได้เป็นแบบรูปข้างบน จะเห็นว่าส่วนผสมเข้ากัน แต่ยังไม่เนียน แล้วก้อเอาออกมานวดมือ กับโต๊ะสะอาด ๆ จนเนียนแบบรูปข้างล่าง วิธีการนวดคือพัดแป้งจากด้านไกลตัวเข้าหาด้านใกล้ตัว แล้วก้อใช้อุ้งมือนวดโดยการดันจากด้านในตัวออกไปด้านนอกตัว สลับกันไปมา ข้อดีของแป้งกึ่งสำเร็จรูปคือไม่ต้องนวดนาน ซัก 5 นาทีก้อเนียนแล้วก้อเหนียวแล้ว แต่ถ้าผสมเองคงนานกว่ามั้ง เค้าบอกว่าวิธีเช็คแป้งคือ ให้ดึงแป้งออกมาก้อนเล็ก ๆ แล้วลองยืด ขึงให้บาง แป้งต้องเหนียวดี ไม่ขาด แล้วก้อบางจนเห็นลายนิ้วมือตัวเอง พอดีมือมันเลอะ ไม่ได้ถ่ายรูปไว้นะ เสร็จก้อพักไว้ประมาณ 5 นาที (เหมือนเดิม แป้งกึ่งสำเร็จรูป ตามกล่องเค้าบอกเท่านี้ก้อพอ แต่ว่าถ้าเป็นสูตรจริง ๆ เค้าว่าต้องรอให้แป้งมันขึ้นเท่าตัวรอบนึงก่อนแบ่ง) ระหว่างรอ เอาอะไรมาคลุมแป้งไว้ แล้วก้อเตรียมถาด พอดีเราซื้อถาดอะลูมิเนียมฟอยล์หลุม ๆ มา ง่ายดี มีถ้วยกระดาษมาให้เสร็จ พอได้เวลา 5 นาทีก้อแล้วเอาแป้งมาตัดแบ่งเป็นก้อน ๆ แบบรูปข้างล่างนี้ แล้วก้อมาคลึงด้วยอุ้งมือให้กลม (ครึ่งส่วนที่เราทำ ได้หกก้อน พอดีสำหรับคนอยู่คนเดียว) เสร็จแล้วก้อเอาแป้งมาแผ่เพื่อใส่ไส้ เค้าให้เอาด้านเนียน ๆ เข้าหาโต๊ะนะ เพราะตอนหุ้มส่วนไม่เนียนจะได้อยู่ข้างในไง พอดีมันไม่ติด เราเลยไม่ได้โรยนวลที่โต๊ะ ก้อเป็นอย่างรูปที่เห็นด้านบนนะ แผ่แป้งออก ตักไส้สังขยามาใส่ พอดีสังขยาไม่ได้ทำเยอะ หลังจากที่ใส่ไปกะครัวซองด้านบนมะวาน วันนี้เลยห่อได้สี่ลูก แป้งที่เหลือเลยมาทำหนมปังเนยสด โดยการตัดเนยเป็นก้อนสี่เหลียมมาใช้เป็นไส้แทน เนยที่เห็นนี่เยอะไปนิดนะ เพราะตอนอบนะ เนยเยิ้มอยู่ตรงก้นถาดเลย อ้วนสะใจได้อีก เนื่องจากห่อไม่ค่อยเป็นก้อเอาแป้งหุ้ม ๆ ไส้ให้มิดแบบภาพข้างบน ไม่สวยเท่าไหร่ พอหุ้มเสร็จก้อ เอามาคลึง ๆ ให้กลมอีกหน่อยนึง แล้วก้อเอาไปใส่ถ้วยกระดาษไว้ คราวนี้ตามข้างกล่องบอกว่าให้ทิ้งไว้จนแป้งขึ้นเป็นสองเท่า ประมาณ 20 - 30 นาที ในอุณหภูมิห้อง ยิ่งร้อนยิ่งขึ้นเร็ว เพราะยีสต์ชอบความร้อน จะเห็นว่าแป้งมันจะอืดขึ้นมาเลย ในรูปนี่เทียบให้ดูก่อนและหลัง อันบนตอนปั้นเสร็จ อันล่างหลังจากที่พักไว้ครึ่งชั่วโมง ภาพบนแถวล่างที่มันโตกว่าเพราะเป็นไส้สังขยาที่ใส่ไส้ไปเยอะ มันเลยอ้วน แถวบนที่เป็นไส้เนยสดจะเล็กกว่า ภาพล่างแถวบนเป็นสังขยาตอนอีดแล้ว แถวล่างเป็นไส้เนยสด ที่ถ้าเทียบจะเห็นได้ว่าขนมมันใหญ่ขึ้มาเลย จนอันเกือบจะพอ ๆ กัน พอดีตอนถ่ายกลับหัวกลับหางกันไปมา ไม้ได้สังเกตจนมาทำรูปนี่แหละ พอแป้งขึ้นตัวเป็นสองเท่า ก้อเอาไปอบ 375 องศาฟาเรนไฮท์ ประมาณสิบนาที จะได้แบบภาพบนซ้าย แล้วก้อเอามาทาด้วยไข่ เพราะเค้าบอกว่ามันจะทำให้ขนมปังเงางาม แล้วเอาไปอบต่ออีก 3 - 5 นาที ตอนนี้ต้องเฝ้าเลย ระวังอย่าให้มันไหม้ เสร็จแล้วจะได้แบบนี้ ถ่าดา... เหลืองสวยงาม เพราะไข่ ก้นไม่ไหม้เห็นมั้ยยยย ไส้สังขยาเยิ้มสะใจ หายอยาก อันที่เป็นเนยสดก้อชุ่มฉ่ำหอมเนย และแล้วภาระกิจสำหรับ Weekend นี้ก้อจบลงอย่างมีความสุข อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ มาอิ่มอร่อยกับขนมปังสังขยาชาไทยสูตรนี้กันนะคะ
Create Date : 25 สิงหาคม 2551 |
|
15 comments |
Last Update : 25 สิงหาคม 2551 5:16:04 น. |
Counter : 5367 Pageviews. |
|
|
|
ขอหม่ำด้วยได้ป่าว ขนมปังอบได้สวยถูกใจถั่วงอกน้อยอย่างแรง