ผู้เขียน ศรีสุรางค์ ๒๕๕๒สงวนลิขสิทธิ์
ไอหมอกขาวหนาทึบเหนือหน้าผาม้วนตัวตามสายลมราวมีชีวิต กิ่งสนสดเขียวชอุ่มแทงยอดสูงเสียดฟ้า มองเห็นรางเลือนท่ามกลางละไอเย็นโอบล้อมของสายหมอก พื้นเหนือเงื้อมผาชันซึ่งเป็นแผ่นหินหยาบสีน้ำตาลเข้มเยียบเย็นเสียงฝีเท้าเงียบเบาราวล่องลอยมากับไอขาวนั้น“ซอร์โย ไยเจ้าพาพี่มาที่นี่”สายลมแผ่วพัดผ่านปลายผมยาวมันสีนิลของผู้พูดปลิวขึ้นระใบหน้าคมที่ราวสลักเสลาจากหยกใส เรือนร่างสูงสง่างามในอาภรณ์ยาวจรดพื้นเร่งฝีเท้าตามร่างแน่งน้อยที่เดินราวล่องลอยนำอยู่เบื้องหน้าเธอมีผมยาวอย่างยิ่งปล่อยระลงเต็มแผ่นหลังเช่นเดียวกัน สวมเสื้อบางพลิ้วดุจชุดคลุมยาวเฉกเช่นกัน หากเงียบสงัดไร้วจีขานตอบต่อคำถาม“ที่รัก รอพี่ก่อน”ที่สุดมือของชายหนุ่มเอื้อมไปเกาะกุมต้นแขนเรียวไว้ เมื่อร่างน้อยเลื่อนกายใกล้กึ่งขอบผา ใบหน้างดงามของอิสตรีซึ่งสามารถทำให้หัวใจผู้พบเห็นวาบวับอยู่ในอกค่อยหันกลับมามอง ดวงตากลมใสสีน้ำตาลเข้มไร้แววแห่งชีวิตชีวาเช่นดังเคย จนทำให้ผู้ตามมาทั้งหลากใจและสงสัย“วันนี้เจ้ามีเรื่องในใจ?”ริมฝีปากบางขยับเอ่ย “ข้าอยากอยู่กับท่านเพียงลำพัง”คำตอบเรียกรอยยิ้มผุดพรายขึ้นบนใบหน้าคมสัน “ฤๅเรายังอยู่เพียงลำพังสองคนไม่พอเพียง เจ้าหัวใจของพี่ ที่สวนในวิหาร ห้องรโหฐานในปราสาทมากมาย จะต้องเดินทางมาในป่าห่างไกลเช่นนี้ทำไมกัน”วงหน้าเนียนผุดผ่องไร้รอยยิ้มตอบต่อคำยั่วเย้า นิ่งสนิทไม่มีปฏิกิริยาใดๆ แม้ในแววตา มือบางกุมมีดเล่มหนึ่ง ฝักของมันฝังลวดลายทองและอัญมณีสูงค่า ที่ปลายด้ามยังประดับด้วยทับทิมแววดาวเม็ดกลมใหญ่ราวผลพุทราแดงบุรุษหนุ่มเพิ่งมองเห็นมันในมือของเธอ“มีดอัคนี” มีดนี้สำคัญยิ่งนัก มิอาจประมาณค่าได้“ท่านพี่”“มีเรื่องอะไรหรือ...เจ้าหวาดกลัวอะไรจึงได้นำมีดอัคนีติดตัวมาด้วย”“ขะ...ข้ากลัว”ดวงตาใสมีแววหวั่นไหวขึ้นในเบื้องลึกเป็นครั้งแรก เธอกลับถูกสวมกอดไว้ในอ้อมแขนแข็งแรง เขาประคองศีรษะเธอให้ซบลงบนบ่า“เจ้ากลัวอะไร...บอกพี่”“ซาเรห์ ท่านรักข้า ไว้ใจข้ามากที่สุด” เสียงใสอ่อนเบา “ข้า...กลัว”“เจ้าไม่ต้องกลัวสิ่งใด ไม่มีอะไรที่พี่จะสละเพื่อเจ้าไม่ได้ ไม่มีอะไรที่จะมาทำร้ายเจ้าแม้เพียงปลายเส้นผม พี่ปฏิญาณแล้ว มนต์ของพี่จะคุ้มครองเราเสมอ ไม่มีผู้อื่นใดจะทำอันตรายเราได้เลย ด้วยอำนาจมันตราอันสูงที่สุดในแผ่นดิน เจ้าก็รู้ความข้อนี้”“ถูกแล้ว ไม่มีผู้อื่นใดทำร้ายเราได้เลย” เสียงใสพลิ้วสั่น หยาดน้ำตาหยดหนึ่งคลอขึ้นในดวงตางาม “ยกเว้นข้า ยกเว้น...สิ่งนี้”มีดประดับอัญมณีถูกชักออกจากฝัก คมโลหะกระทบแสงเป็นประกายปลาบ ในพลันที่ดวงตาสวยใสกลับไร้ซึ่งแววไปอีกครั้ง“ท่านพี่...”ด้วยความงุนงงไม่เข้าใจ ซาเรห์มองดูปลายมีดสองคมชี้ตรงมาที่อกเขา สู่หัวใจทางด้านซ้าย ก่อนเบี่ยงมาทางขวาอีกนิดด้วยมืออันสั่นเทาเสียงกรีดร้องราวเจ็บปวดเหลือคณาหลุดจากริมฝีปากบางของผู้ถือมีดนั้นเอง ก่อนมือขาวนวลแทงอาวุธอาบมนตรานั้นเข้าสู่ทรวงอกของผู้เป็นที่รักดุจดวงใจเพียงหนึ่งเดียว ครั้งเดียวจมมิดด้าม ก่อนจะกระชากออกด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี“ซะ...ซอร์โย”ตกตะลึงราวไม่อาจเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น ร่างสูงกุมอกตนเอง ซวนเซ สายตาพร่าเลือนมองเห็นหยาดโลหิตสีทับทิมเคลือบตลอดสองด้านของมีดอาคมซึ่งตนเป็นผู้เสกสร้างเองกับมือ และสตรีที่รักยิ่งดวงวิญญาณถอยหลังห่างไปด้วยร่างอันสั่นเทาดวงตาใสเบิกกว้าง น้ำตาหยาดเล็กกลิ้งลงมาตามแก้มเป็นสาย“ทะ...ทำไม?!”ดรุณีร่างน้อยสะอื้นไห้ หันคมมีดเข้าสู่อกตนแทน“อย่านะ ซอร์โย!!”สิ้นเสียงตะโกนก็ไม่ทันเสียแล้ว ชายหนุ่มพยายามไขว่คว้าร่างบอบบางที่แทงมีดเข้าสู่หัวใจตนเองเช่นกัน เธอกระอักไอ ซวนเซถอยไปเบื้องหลังเขาไม่สามารถคว้าเธอไว้ได้ ร่างน้อยหงายหลังร่วงดิ่งลงจากแผ่นผา เห็นเพียงอาภรณ์สีจางพลิ้วตกลงไปพร้อมเส้นไหมสีนิลที่แผ่กระจายรอบใบหน้าตกใจเจ็บช้ำแค่วูบเดียว ก่อนสายหมอกหนาทึบกลืนกินเธอให้หายไปเขาพูดไม่ได้...ความสามารถในการพูดถูกตัดหายไปด้วยลำคอปวดร้าวอัดแน่นร่างสูงซึ่งเคยผึ่งผายองอาจทรุดลงคุกเข่าริมหน้าผา ธาราโลหิตไหลหลั่งลงจากอกเป็นสีแดงสด ผ่านมือที่กุมหัวใจอยู่ลงสู่เสื้อคลุมสีขาวขลิบทองคำ ลงสู่พื้นหินขรุขระเย็นเยียบ หัวใจของเขายังคงเต้น เพราะคมมีดเบียงเบนไปเพียงเล็กน้อย หากเลือด...ไม่หยุดไหลหัวใจของเขาหล่นตามเจ้าของร่างน้อยลงไป ลึกลงไป ในหุบผาที่มองไม่เห็นนั้น“ไม่...ข้าไม่.ให้..เจ้าตาย...จากข้า....ปัณฑารีย์....”ในที่สุดเสียงคำรามหลุดจากลำคอที่ตีบตันเพราะแรงบีบคั้นของอารมณ์ออกมา เมื่อร่างสูงสง่าทรุดลงกับพื้น แขนที่เปรอะเปื้อนโลหิตยื่นไขว่คว้าหาลงไปยังหุบผาที่ปกคลุมด้วยสายหมอก ด้วยความมุ่งมั่นอันแรงกล้ากว่าความพยายามที่จะมีชีวิตอยู่ของตนเอง...“ข้าไม่..ให้...เจ้า....ตาย”ด้วยคำประกาศนั้น เวทย์ วิญญาณ ผสานเป็นหนึ่งสลักลงลึก ลิขิตชะตาเคราะห์อันไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ นานหลายชั่วกัปกัลป์
- เจ้าหัวใจของพี่... ใช้ในความหมายว่า เจ้าของหัวใจ หรือผู้ยิ่งใหญ่ในหัวใจ คล้ายๆ เจ้าชีวิต นะคะ-ทับทิม ที่มีแววดาว เป็นทับทิมที่หายาก เมื่อเจียระไนแบบหลังเบี้ยแล้ว ยามเมื่อสะท้อนแสงจะมีประกายรูปดาวหกแฉกปรากฏขึ้นบนผิวหน้าของพลอยค่ะ
มานั่งนอนรอวันหนังสือมาค่ะ แบบว่างานนี้ ออกเมื่อไรต้องซื้อค่ะ
ไม่รู้ล่ะเรื่องเป็นไง ไม่กล้าอ่านด้วยค่ะ กลัวลงแดง เอาเป็นเล่ม เป็นตัวเป็นตนไปเลยจะดีกว่าค่ะ