ติดต่อพูดคุยกันได้ในเฟซบุ๊คเพจนะคะ
https://www.facebook.com/srisurangwriter
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2549
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
4 กรกฏาคม 2549
 
All Blogs
 
ดารกากลางใจ






ผู้แต่ง ศรีสุรางค์
isbn 9749325656
ปกอ่อน 140 หน้า
จัดพิมพ์โดย คนรู้ใจสำนักพิมพ์
จัดจำหน่ายโดย สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี
พิมพ์ครั้งที่ 1-3 สิงหาคม-กันยายน 2548




ตัวอย่างเนื้อเรื่อง


บทที่ 1 พยาบาลพิเศษ




เขาลืมตาขึ้นมาพบกับนางฟ้า

อา...ใช่แล้ว สวยประมาณนี้เลย ถูกใจอย่างจัง

ตาโตสีดำหวาน คิ้วโค้งเรียว จมูกมนเล็ก ปากอิ่มที่ดูนุ่มนิ่ม หน้าสะอาดผ่องแผ้วไม่มีเครื่องสำอาง

ผมดำหยักรวบสูงไว้ข้างหลัง เปิดให้เห็นลำคอขาวเนียน รูปร่างโปร่งแต่ก็มีส่วนโค้งสวยในที่ที่ควร เอวเล็ก มือเรียว

เป็นเพราะหล่อนยืนอยู่ข้างเตียงที่ค่อนข้างสูง เขาจึงมองลงไปได้แค่ต่ำกว่าเอวเล็กน้อยเท่านั้น ประมวลข้อมูลที่เห็นจากสายตาแล้ว แม่น้องสาวคนนี้เกิดมาเพื่อตรงสเป็คเขาอย่างแท้จริง

เขาสูดหายใจลึกแล้วผ่อนออกเบาๆ นี่เขากำลังฝันใช่ไหม หรือว่าจริง

หลับตาแล้วลืมตาดูอีกที อืม...เหมือนจริง

เขาเคยฝันซ้อนฝันมาก่อน ฝันว่าตัวเองกำลังฝัน แล้วตื่นขึ้นมา..ซึ่งก็เท่ากับยังอยู่ในฝันนั่นแหละ..แล้วทึกทักเอาว่ามันจริงซะเหลือเกิน ฝันว่า..ฝันว่าถูกผีอำ แล้วก็พยายามตื่นสุดชีวิต ดิ้นรนร้องตะโกนสวดมนต์ผสมด่าจนตื่นขึ้นมาได้ หอบแฮกๆ เหงื่อท่วมตัว มองเห็นวิญญาณตัวเขียวๆ ยังยืนอยู่ตรงมุมห้อง เขาคว้าหนังสือที่หัวเตียงขว้างมันพลางสวดคาถาไล่ผีอุตลุต กะใช้หนังสือแทนข้าวสารเสก แต่ว่าผีไม่ยอมไปกลับพุ่งเข้ามาบีบคอเขา เขาดิ้นรนหน้าเขียว หายใจไม่ออกอยู่ตั้งนานกว่าจะตาย พอตายแล้วกลับรู้สึกเบาสบาย แล้วก็ตื่นขึ้นมาในห้องนอนตัวเองตอนสายมาก

ฝันซ้อนฝันจนมั่วไปหมดเลย

ตอนนี้ก็คล้ายๆ กัน เพราะเขารู้สึกตัวว่ากำลังนอนอยู่บนเตียง ในโรงพยาบาล เตียงแคบๆ สูงๆ สีขาว มีนางฟ้าในชุดเสื้อเชิ้ตสีครีมพับปลายแขนแค่ศอก กับกางเกงยีนส์ยืนเกาะเตียงก้มดูเขาอย่างเป็นห่วงเป็นใย

หล่อนไม่ใช่พยาบาล เขารู้เพราะหล่อนไม่ได้แต่งชุดกระโปรงขาว หรือชุดเครื่องแบบของผู้ช่วยพยาบาล และเขาต้องกำลังฝันอยู่แน่ เพราะเขาไม่รู้จักผู้หญิงแสนสวยคนนี้...

การฝันซ้อนฝันจะมีบางสิ่งที่จะทำให้เราจับผิดตัวเองได้ ว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริงนะ นี่คือฝัน อย่างที่เขาฝันสู้กับผีนั่นไง เขาเคยรู้คาถาไล่ผีสักบทเสียที่ไหน แต่กลับสวดขึ้นมาได้เป็นฉากๆ ยาวๆ เสียด้วย การมีความสามารถแบบเหนือจริงนี่ละอย่างหนึ่งที่ทำให้บอกตัวเองได้ว่ากำลังฝัน

หรือไม่ก็อีกอย่าง ที่เขากำลังเป็นอยู่ตอนนี้ ก็คือการ ‘รู้จักคนแปลกหน้า’ ซึ่งก็คือการที่เราพบใครสักคนที่มีหน้าตาไม่เหมือนกับใครที่เรารู้จักมาเลย แต่พอเราพบเขาเข้า เรากลับรู้สึกลึกๆ ว่ารู้จักเขา รู้ว่าเขาเป็นใคร บางทีถึงกับรู้สึกว่าเขาเป็นญาติสนิท เป็นพี่เป็นน้อง เป็นเพื่อนชื่อนั้นชื่อนี้ของเราไปเลย นั่นแหละที่เขากำลังรู้สึกอยู่ เขาจำหน้าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ ไม่รู้สึกว่าเคยพบมาก่อนเลย แต่ในใจลึกๆ รู้สึก ‘คุ้นเคย’

เขาพยายามเปิดริมฝีปากที่แห้งผากออกจากกันและพยายามพูด แต่กลับได้ยินเสียงครางแหบๆ ไม่เป็นภาษาออกมาคำหนึ่ง

เจ้าหล่อน สาวสวยในฝันที่กำลังยืนอยู่ข้างเตียงชะโงกเข้ามาใกล้ขึ้นอีกจนเขาได้กลิ่นหอมจางๆ ที่ไม่สามารถบอกได้ชัดว่าเป็นกลิ่นผมหรือกลิ่นแก้ม ว้าว...รู้สึกดีจังเลย หัวใจที่เต้นจังหวะหลับสนิทตื่นขึ้นมาเต้นจังหวะแซมบ้า เป็นครั้งแรกเลยที่เขาฝันแล้วรู้สึกถึงหัวใจตัวเองเต้นได้

“รอน เจ็บมากมั้ย”

รอน...เธอเรียกเขาว่ารอนหรือ เอ...จำไม่ได้เลยว่าตัวเองชื่อนี้

‘..รอนอะไร..’ เขาพยายามพูดแต่เสียงพึมพำต่ำๆ ที่ออกจากคอมามันไม่เป็นคำ

“อะไรนะคะ คุณถามอะไร”

เขาพยายามอีกครั้ง “ผมเป็นอะไร” คราวนี้ค่อยรู้เรื่องขึ้นมาหน่อย

หล่อนไม่ตอบแต่ดวงตาคู่สวยรื้นน้ำตาขึ้นมาทันที

“คุณเจ็บมาก” เสียงหวานใสนั้นสั่น “อย่าเพิ่งพูดอะไร หรือคิดอะไรมากเลยนะคะ พยายามพักก่อน ถ้าหิวน้ำบอกภู่”

ภู่หรือ ?

ความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาเมื่อชายหนุ่มพยายามขยับศีรษะ ทำให้เขาถึงกับหมดแรงไปชั่วครู่ เขาสำรวจที่มาของความเจ็บ ศีรษะ ชายโครง ขาซ้าย โอย...เขาปวดจนรู้สึกคลื่นไส้ ครั้งนี้ฝันของเขาเหมือนจริงมากๆ ชักจะมากเกินไปเสียแล้ว

นี่มันแย่กว่าตอนถูกผีอำ เพราะนอกจากขยับตัวไม่ได้แล้วยังเจ็บอีกด้วย ตอนนอนอยู่เฉยๆ ไม่สู้เท่าไหร่ แต่พอพยายามขยับตัวจะรู้สึกเหมือนมีรถถังมาทับอยู่บนอก ในท้องเหมือนมีเตาถ่านหินที่กำลังส่งไอน้ำร้อนๆ เสียดเข้ามาที่ซี่โครง แล้วในหัวก็เหมือนเพิ่งถูกไม้หน้าสามฟาดมา อ๋อ มันไม่คล้ายอาการเมาค้างเลยสักนิด นั่นเขาบอกได้แน่ ถ้านี่เป็นอาการเมาค้างละก็เขาจะต้องเป็นคนเมาค้างที่ตกตึก 7 ชั้น หรือถูกรถไฟฟ้าชนตกรางลงมาที่พื้นแล้วถูกรถเมล์ทับอีกที นั่นพอจะเป็นไปได้ เพราะตอนนี้เขาเหลือบเห็นเฝือกอันเบ้อเริ่มที่ขาข้างนั้นเข้าแล้ว

เอ้อ...แล้วตกลงมันเป็นรอนอะไร ชื่อของเขาน่ะ

เขาลุกขึ้นยืนด้วยนิ้ว แล้ววิ่งออกกำลังกายด้วยนิ้วชี้กับนิ้วกลาง เพื่อทดสอบว่ามือทั้งสองข้างยังใช้การได้ดีหรือไม่ และพบว่าแขนทั้งสองข้างของเขาปลอดภัย มือข้างซ้ายมีเข็มน้ำเกลือเสียบอยู่ และเฝือกที่ขาก็ไม่ได้ลามมาถึงต้นขาด้วย นับว่าสถานการณ์ยังพอมีด้านดีอยู่บ้าง

มือนุ่มๆ ของหล่อนจับมือข้างขวาของเขาไปกุมไว้ สายตาแปลกใจนิดหนึ่งที่เห็นนิ้วเขาวิ่งออกกำลัง โอ เขาพยายามจะร่าเริงต่อสู้กับความเจ็บปวดจนวิงเวียนที่รู้สึกอยู่ในขณะนี้ แต่มันกำลังจะไม่ได้ผล เพราะลึกๆ แล้วเขาเริ่มกลัวว่า ที่จริงเขากำลังตื่นอยู่ และการตื่นขึ้นมาโดยจำชื่อตัวเองไม่ได้นั้นมันน่ากลัวมาก

“คุณสลบไปตั้งวัน คุณหมอบอกว่ากระดูกซี่โครงกับหน้าแข้งร้าว แต่นั่นไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ นอกจาก...”

...สมองกระทบกระเทือน... ใช่แน่ๆ เลย เขาถึงจำชื่อตัวเองไม่ได้

“หัวคุณกระแทกแรงมาก คุณหมอพบจุดเลือดออกข้างในนิดหน่อยด้วย รู้สึกมือชารึเปล่าคะ”

เดาไม่ผิด แสดงว่าสมองเขายังไม่ถึงกับเดี้ยง พิการ เสียหายอย่างหนัก เขาขยับมือเท้าได้แต่มันก็ชักรู้สึกชานิดๆ เหมือนกันพอหล่อนบอก ที่ขมับด้านซ้ายของเขาเต้นตุบๆ พร้อมๆ กับความปวดมึน

รอนอะไร มันต้องเป็นรอนอะไรสักอย่างไม่ใช่รอนเฉยๆ เขาอยากส่องกระจกขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน เพื่อดูว่าตัวเองมีผมสีทองตาสีฟ้าหรือเปล่า จะได้รู้ว่ารอนนี่มากจาก โรนัลด์ หรืออะไรเทือกนั้นใช่มั้ย แต่สิ่งที่เขาร้องขอไปก็คือ

“ผมหิวน้ำจัง”

สำเนียงภาษาไทยชัดเจน และเสียงทุ้มเหมือนนักพากย์หนังบทพระเอกทำให้เขางงจนขนลุก คุณพระคุณเจ้านั่นเสียงเขาหรือ นั่น...เสียง...ของเขาจริงๆ หรือ เขาอยากขอเป็นเสียงแหบๆ แบบตอนแรกจะดีกว่ามั้ย มันดูแมนและเซ็กซี่กว่าเสียงนักพากย์ที่กำลังดัดเสียงหล่อนี่มากๆ เลย ความรู้สึกขนลุกทำให้เขาไม่กล้าพูดอีก

หญิงสาวในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์หันจากเขาไปที่โต๊ะหัวเตียง รินน้ำจากเหยือกใส่แก้วใสแล้วใส่หลอดยื่นเข้ามาให้เขาใกล้ๆ เขาพยายามเอียงหน้านิดๆ ให้ดื่มน้ำได้สะดวกขึ้น แล้วก็รู้สึกเหมือนกะโหลกกำลังร้าว เกือบได้ยินเสียงลั่นเปรี๊ยะ แล้วก็เสียงสมองไหลออกมาตามรอยร้าวได้เลย โอ ก๊อด โลกของเขาดับมืดลงวูบหนึ่งโดยมิได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

“รอน !” เสียงอุทานอย่างเป็นห่วงและมือเย็นๆ ที่แตะแก้มเขาทำให้แสงสว่างกลับมาอีกครั้ง เขาดื่มน้ำไปไม่กี่อึกเจ้าหล่อนก็ดึงหลอดออกห่าง

“คุณหมอบอกให้ค่อยๆ จิบค่ะ อย่าเพิ่งทานเยอะ”

ดีอะไรอย่างนี้ คอเขายังแสบเหมือนกระดาษทรายอยู่เลย

“คุณ...เอ่อ...” เป็นอะไรกับผม โอย เป็นเพราะเสียงนั่น และการที่นึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ควรถามคำถามที่น่าตกใจมากสำหรับหล่อนออกไปตอนนี้ เขาก็เลยหยุดเสียก่อนจะถามออกไป หล่อนต้องรู้จักเขาดี หญิงสาวคนนี้กำลังเป็นห่วงเขามาก ถ้าเขานอนพักอีกสักหน่อยบางทีอาจจะนึกออกขึ้นมาเองโดยไม่ต้องถามให้หล่อนตกใจมากไปกว่านี้ก็ได้

“คะ ?” เธอตอบสนองคำพูดที่ค้างคาของเขา “ภู่อยู่ที่นี่ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” คงพยายามจะเดาสิ่งที่เขาจะถามแต่มันไม่ใกล้ความจริงเลย “ภู่โทรหาคุณแม่คุณกับพี่ริมแล้วค่ะ ท่านจะมาถึงวันนี้บ่ายๆ พี่ริมจะไปรับท่านที่สนามบินแล้วพามาที่นี่เลย น้องแรมแวะมาเมื่อวานน่ะค่ะ วันนี้ก็ว่าจะมา....ภู่โทรไปบอกน้องแรมนิดดีกว่านะคะ ว่าคุณรู้สึกตัวแล้ว”

ชื่อทั้งหมดที่หล่อนเอ่ยมาเหมือนแสงสว่างฉายวาบผ่านความมืดมิดเข้ามา คล้ายฟ้าแลบแปลบหนึ่งในสมองของเขา ก่อนจะมืดวูบลงเช่นเก่า เขารู้สึกคุ้นๆ แต่ก็ยังจำไม่ได้เลยจริงๆ ว่าเคยมีพี่-น้อง ชื่อคล้องจองกันอย่างนั้น เอาละ อย่างน้อยตอนนี้เขาก็รู้อย่างนึงว่า รอน เป็นภาษาไทย

หญิงสาวเดินหายออกไปนอกม่าน เขามองสำรวจไปรอบห้อง มันเป็นห้องคนไข้ที่ใหญ่โต มีโซฟายาวพร้อมโต๊ะกลางและเก้าอี้เท้าแขนชุดหนึ่งอยู่ริมหน้าต่าง ทีวีและเครื่องเล่นวีซีดีอยู่ตรงปลายเท้าเขา ด้านขวาของเตียงห่างออกไปเป็นตู้เก็บของและห้องน้ำ ที่ผนังข้างทีวีมีประตูห้องเป็นม่านเนื้อหนักสีครีมยาวจรดพื้นติดต่อกับห้องอีกห้องหนึ่งที่หญิงสาวเดินออกไปเพื่อโทรศัพท์ เขาคิดว่ามันอาจเป็นห้องรับแขกที่มีเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร อาจมีโต๊ะอาหารเล็กๆ และห้องน้ำสำหรับผู้มาเยี่ยมไข้อีกห้องหนึ่ง ชายหนุ่มรู้สึกคล้ายจะเคยเห็นห้องชุดแบบนี้มาก่อน แต่จำไม่ได้ว่าเขาเคยเห็นในฐานะผู้เยี่ยมไข้หรือว่าคนไข้

พอหล่อนออกไป ห้องที่เคยดูปลอดภัยและอบอุ่นเมื่อครู่ก็เกิดอ้างว้างขึ้นมากะทันหัน อุณหภูมิห้องดูเหมือนจะลดฮวบลงไปประมาณ 2 องศา การจำอะไรเกี่ยวกับตัวเองไม่ได้เลยทำให้รู้สึกเหมือนกับอยู่ตัวคนเดียวในโลกและไม่มีพื้นจะยืนหรือที่จะนอนอย่างมั่นคง หญิงสาวไม่ได้ทิ้งเขาไว้ตามลำพังนานนัก ครู่เดียวหล่อนก็เดินกลับเข้ามา สร้อยข้อมือสีเงินของเธอส่งเสียงกรุ๋งกริ๋งเหมือนมีกระพรวนลูกเล็กแขวนอยู่ น่าเอ็นดูจริง ห้องรู้สึกไม่เงียบเกินไปแล้ว

“ภู่ ผมอยากดื่มน้ำอีก”

เขายอมทนขนลุกกับเสียงพระเอกของตัวเองแล้วเริ่มอ้อนหล่อนทันทีที่เห็นหน้า

“ค่ะ” เธอรับคำและให้เขาดื่มน้ำอีกหน่อย “คุณหมอบอกว่าถ้าคุณไม่คลื่นไส้ก็ให้ทานได้มากขึ้นหน่อย”

อ๋อ เขาไม่คลื่นไส้หรอก แค่วิงเวียน (และเจ็บปวดแทบตาย) เท่านั้นแหละ และอาจไม่ได้วิงเวียนเพราะบาดแผลที่ศีรษะก็เป็นได้ ถ้าการอยู่ใกล้หญิงสาวสวยๆ สักคนจะเป็นอันตรายต่อหัวใจได้ เขาก็คิดว่ากำลังมีอาการที่ว่าอยู่หน่อยๆ แล้ว

เขาปวดจนไม่อยากขยับตัวเลยซักนิด ได้แต่ลืมตามองดูหล่อน หญิงสาวคนเดียวในห้องที่เขาไม่รู้ว่าเป็นใคร

แก้มเนียนๆ นั้นบางใสเหมือนกระเบื้องเคลือบสีชมพู แล้วพอหล่อนลากเก้าอี้มานั่งลงใกล้ๆ เขาก็เพิ่งเห็นชัดๆ ว่าขนตาหล่อนงอนสวยรับกับดวงตากลมโตคู่นั้นเหลือเกิน ดวงตาสีดำแวววาวที่มองดูแล้วเหมือนหลงเข้าไปในห้วงจักรวาลอันไพศาล มีดาวสวยๆ ระยิบระยับชวนให้ลอยเคว้งคว้างหลงวนอยู่ข้างในจนหาทางออกมาไม่ได้

“อีกไม่นานน้องแรมก็คงมาถึงค่ะ รอนรู้สึกเป็นยังไงบ้าง”

เสียงนุ่มๆ ของหล่อนเบา ฟังแล้วแสนสบายคล้ายเพลงกล่อม

“ปวดหัว ปวด..ท้อง” เขาหลับตาลง

“ปวดมากมั้ย”

อยากจะตอบว่า ปวดหัวใจมากกว่าครับตอนนี้ โธ่เอ๋ย ในชีวิตเพิ่งจะเคยได้พบผู้หญิงสวยตรงสเป็คแบบสุดๆ แต่กลับป่วยหนักจนทำอะไรแทบไม่ได้แม้แต่จะพูดยาวๆ

“ทนได้ครับ”

หญิงสาวกลับทำสีหน้าแปลกๆ เมื่อได้ยิน หรือเขาพูดอะไรผิดไป ไม่เหมือนเคย แย่ละซี

ความสงสัยในใจเขาทวีขึ้นทุกๆ นาที เมื่อตื่นมาแรกๆ จำอะไรไม่ค่อยได้ก็ยังไม่รู้สึกเป็นอะไรเท่าไหร่ แต่ยิ่งนานไปการคิดอะไรไม่ออกเลยทำให้เขาอึดอัดแทบคลั่ง หล่อนอยู่ตรงนี้ ใกล้เหลือเกิน จ้องมองดูเขา พูดกับเขา ขณะที่เขาแทบไม่รู้ว่าควรจะตอบหล่อน‘แบบไหน’ เขารู้จักกับหล่อนแบบไหน หล่อนเป็น ‘อะไร’ กับเขา ถ้าเขาไม่รู้หรือจำไม่ได้จะพูดหรือจะทำตัวถูกต้องได้ยังไง

“ไม่ต้องห่วงเรื่องงานนะคะ ภู่ให้พี่นัชเลื่อนทุกอย่างออกไปหมดแล้ว” หล่อนพูดแล้วหยุดรอเขา เมื่อเห็นเขาไม่ถามหรือว่าอะไรก็พูดต่อว่า “ภู่บอกไปว่าสามอาทิตย์ก่อน”

เขาไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว งานอะไร อย่าบอกนะว่างานแต่งงานของเขากับหล่อน จะช็อกตาย เลื่อนไปสามอาทิตย์งั้นหรือ งานอะไรเลื่อนไปสามอาทิตย์ได้ เขาทำงานอะไรงั้นหรือ ทำไมถึงรู้สึกยังกับยังไม่มีงานทำ ถ้าหล่อนบอกเขาว่าไม่ต้องกังวลเรื่องสอบยังดูคุ้นเคยกว่ามากเลย แล้วพี่นัชนี่ใคร

ชายหนุ่มมึนไปหมด ทุกๆ อย่างดูแปลกไปมาก ทั้งชื่อ ทั้งเสียง ดูไม่เหมือนตัวเอง เหมือนเขาหลุดเข้าไปอยู่ผิดที่ผิดทาง ไม่มีอะไร ‘คลิ๊ก’ เลยสักอย่าง ยกเว้นเธอคนนี้คนเดียว

เป็นไปได้ไหมว่าที่จริงเขาตายแล้ว หรือโคม่าอยู่ที่ไหน แล้ววิญญาณออกจากร่างมาเข้าร่างผู้ชายคนนี้แบบสลับร่างกัน ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาก็ต้องมีความทรงจำเดิมของร่างเก่าด้วยสินะ เหมือนอย่างในละครไง เอ... หรือไม่ก็เป็นหนุ่มหล่อรวยเจ้าของมรดกพันล้าน สูญเสียความทรงจำกะทันหันทำให้หลงรักนางพญาบาลแสนดีที่เขาเคยมองข้ามสมัยที่เป็นคุณชายจอมหยิ่ง แบบในนิยายเลย โอ๊ย ตายแล้ว เขาอ่านนิยายของผู้หญิงแบบนั้นด้วยเหรอ หรือว่าเขาดูละครมากเกินไป.... เขาดูละครด้วย ! ให้ตายเถอะขุนแผน นั่นไม่เท่เลยซักนิดเดียว

นี่ต้องผิดแน่ๆ เป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรง ที่จริงเขาต้องเป็นหนึ่งในหน่วยรบคอมมานโด อรินทราช ออกปฏิบัติการลับแล้วถูกผู้ก่อการร้ายทำร้ายจนสูญเสียความทรงจำ เขาต้องชำนาญการใช้อาวุธทุกชนิด ขับเครื่องบินได้ทุกแบบ มีสายตาเย็นชาและสวมเสื้อเกราะกันกระสุนเป็นเครื่องแบบ นั่นต้องใช่แน่ๆ เพราะเขายังมีความทรงจำของการถอดประกอบปืนไรเฟิลติดกล้องใส่ลงในกระเป๋าเอกสาร และการหูอื้อจากการกราดปืนกลมือเข้าใส่ค่ายผู้ก่อการร้ายใกล้ชายแดนอยู่เลย

ทันใดนั้นภาพหนึ่งผุดขึ้นมา เป็นความทรงจำที่ชัดเจนจนเขาแน่ใจว่ามันเคยเกิดขึ้น เสียงม้า เสียงช้าง เสียงกลองรบดังสนั่น ภาพตัวเองอยู่บนหลังม้ากำลังควบอย่างเร็วเข้าใส่..... แล้วภาพก็ขาดหายไป

ชาติก่อนเขาเคยเป็นนักรบ รอน ลูกพระพาย

ตลกเกินไปแล้ว

อะไรบางอย่างนุ่มๆ ที่หลังมือดึงเขากลับมาจากความคิดสับสนวุ่นวาย ชายหนุ่มทอดสายตาลงมอง แล้วก็ต้องกลั้นหายใจ หัวใจเต้นโลดขึ้นมาถึงคอ หล่อนกำลังจุมพิตหลังมือเขา ริมฝีปากนุ่มๆ นั้นสัมผัสเขาด้วยความรัก แล้วจากนั้นมือนิ่มๆ ก็ประคองมือเขาขึ้นไปแนบแก้ม แก้มสีชมพูใสเหมือนกระเบื้องเคลือบที่เขาจ้องมองแทบน้ำลายหกอยู่เมื่อครู่....นุ่มเหลือเกิน

แล้วสายตาที่เต็มเปี่ยมด้วยความรู้สึกที่มองตอบเขาก็ทำให้เขาแทบหายใจไม่ออก ในอกเหมือนอ่างน้ำวนที่กำลังหมุนเดือนพล่าน ชัดเจนแทบไม่ต้องสงสัยอีกแล้ว จากกิริยาท่าทางจากทุกอย่างทั้งหมดบอกได้ชัดจนเกินพอ...หล่อนเป็นผู้หญิงของเขา เธอคนนี้ที่แสนสวยจนทำให้หัวใจเขาพลิกคว่ำเพียงแค่ได้เห็น เป็นผู้หญิงของเขา

จะมีใครโชคดีอย่างนี้ วันหนึ่งตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองมีแฟนแสนสวยตรงสเป็คสุดๆ ที่รักเขามากโดยไม่ต้องพากเพียรพยายามจีบอยู่เป็นปีๆ

และจะมีใครโชคร้ายอย่างนี้ มีคนรักที่แสนน่ารักน่ากอด ที่รักตัวเองมากมายจนรู้สึกได้ในอากาศระหว่างกัน แต่กลับจำอะไรในอดีตที่คงจะต้องสนุกสนานหวานฉ่ำนั้นไม่ได้เลย !

เขารู้สึกผิดขึ้นมาอย่างรุนแรงที่จำไม่ได้แม้กระทั่งว่าหล่อนมีชื่อจริงว่าอะไร รู้จักกันมานานแค่ไหน และที่สำคัญ เป็นเพื่อนคนพิเศษ เป็นแฟน เป็นคู่หมั้น หรือว่า เป็นภรรยา ของเขากันแน่ !

“รอน ปวดหัวมากหรือคะ”

เขาหลับตาลง เขาปวดหัวมากจริงๆ ตอนนี้ ความรู้สึกทุกอย่างรุมเร้าจนเหมือนมันจะล้นเกินออกมาได้ แล้วความมืดก็กลายมาเป็นเพื่อนเขาอีกครั้ง









Create Date : 04 กรกฎาคม 2549
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2556 10:38:08 น. 22 comments
Counter : 821 Pageviews.

 
โอ้ จ้าว
เนื้อหาน่าสนใจมาก
อ่านแค่นิดเดียวยังติดใจ
แปลกใหม่สุดๆ
รับรอง
ถ้ามีเวลา
ไปซื้อมาอ่านแน่

ชอบหลายเด้อ



โดย: mercury IP: 58.8.70.249 วันที่: 31 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:58:12 น.  

 
วันนี้ ไปสอยมาจากงานอัมรินทร์บุ๊คแฟร์แล้วค่ะ หน้าปกน่ารักดี....อ่านจบเมื่อไหร่จะเข้ามาคุยใหม่นะคะ


โดย: LoveSonick วันที่: 20 มิถุนายน 2550 เวลา:22:40:59 น.  

 
คุณ mercury - ขอบคุณมั่กมากค่า ดีใจที่ชอบนะคะ อย่าลืมอุดหนุนกันนะค้า emo

คุณ LoveSonick - ว้าว...ขอบคุณที่อุดหนุนหนังสือค่ะ emo


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:30:27 น.  

 
โอ้ตายหละ ของป้าหนอนก็ติด ของ Clear Ice ก็ชอบ ไหนจะ ninaM แล้วยัง book mark แล้วยังต้องเพิ่มศรีสุรางค์ คนชื่อเหมือนเข้าไปอีก โอยเหนื่อยค่ะ


โดย: ศรีสุรางค์ (bearby ) วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:29:45 น.  

 
คุณ ศรีสุรางค์(bearby) - อิอิ...


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:49:32 น.  

 
อิอิ เนี่ยชอบใจหรือสมน้ำหน้าจ๊ะ


โดย: ศรีสุรางค์ (bearby ) วันที่: 5 สิงหาคม 2550 เวลา:13:15:24 น.  

 
คุณ bearby - ดีใจสิคะที่รู้ว่ามีคนอ่าน
หัวเราะเพราตัวเองก็เป็นแฟนนิยายของทุกคนที่กล่าวชื่อมาเหมือนกันเลยค่ะ ...อิอิ


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:9:39:06 น.  

 
อ่านเรื่องนี้แล้วชอบมากค่ะ ซื้อไว้เล่มหนึ่ง แต่ตอนนี้ ฮือๆ... หายไปไหนก็ไม่รู้ เสียดายที่สุดเลย..


โดย: ช่อม่วง IP: 202.28.35.3 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:40:16 น.  

 
คุณ ช่อม่วง - ขอบคุณค่ะที่อุดหนุนหนังสือ ดีใจที่ชอบนะคะ emo


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 2 ธันวาคม 2550 เวลา:9:31:23 น.  

 
น่ากรี๊ดมากๆค่า
เดี๋ยวตามไปซื้อบ้าง


โดย: เจ้าชายสีฟ้า (sendho ) วันที่: 19 ตุลาคม 2551 เวลา:10:08:34 น.  

 
emo

คุณ เจ้าชายสีฟ้า - ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 23 ตุลาคม 2551 เวลา:14:37:04 น.  

 
หาหนังสือมาอ่านจนจบแล้วค่ะ ชอบจัง ^-^
อ่านไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว ความคิดพระเอกเค้าน่ารักดี


โดย: sanrak IP: 202.44.210.41 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:43:49 น.  

 
emo

คุณ sanrak - ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ
ดีใจจังที่ชอบนะคะ


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 8 พฤศจิกายน 2551 เวลา:8:30:17 น.  

 
ยังหาซื้อหนังสือไม่ได้เลยค่ะ เห็นมีข่าวมีเข้าไปสั่งซื้อทางสนพ.โดยตรงค่าส่งก็แพงจังเลย คงต้องร้องเพลงรอต่อไปemo


โดย: เจ้าชายสีฟ้า (sendho ) วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:8:21:02 น.  

 
emo

คุณ เจ้าชายสีฟ้า - ต้องขอโทษด้วยนะคะ
ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน เพราะหนังสือออกมานานแล้ว ส่วนมากเค้าเก็บจากร้านไปแล้วด้วย
emo
อืม...เคยได้ยินว่า สั่งที่ร้านซีเอ็ดได้นะคะ แม้ว่าหนังสือหมดสต็อกของเค้าไปแล้ว ลองอีเมล์ไปที่นี่ดูค่ะ

mailto:e-commerce@se-ed.com

อาจจะสั่งได้โดยไม่ถูกคิดค่าส่งแพงนัก
emo


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:09:32 น.  

 
emo

อ่า...ลงอีเมล์เกินไปนิดนึง

e-commerce@se-ed.com ค่ะ

emo


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:11:59 น.  

 
อ่า รู้สึกว่าจะหาหนังสือคุณศรีสุรางค์ยากนะคะ เห็นเว็บอื่นบอกว่าขอซื้อกับคุณศรีสุรางค์ได้ เลยอยากรบกวนค่ะ ขอซื้อทุกเรื่องเลย ยกเว้นดาราแดงค่ะ กรุณาติดต่อกลับ supak.poj@hotmail.comนะคะ ขอบคุณมากค่ะ


โดย: คุณแม่ลูก2 IP: 114.128.42.205 วันที่: 5 เมษายน 2552 เวลา:0:38:31 น.  

 
emo

คุณแม่ลูก2 - อีเมล์ตอบไปให้แล้วนะคะ ขอบคุณมากๆ เลยที่สนใจผลงานหนังสือค่ะ


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 5 เมษายน 2552 เวลา:14:22:29 น.  

 
อ่านแล้วชอบมากเลยค่ะ เล่มบาง ๆ
แต่อ่านแล้วประทับใจตลอดเล่มเลยค่ะ
ขอบคุณมากที่แต่งหนังสือสนุก ๆ ให้อ่านค่ะ


โดย: สุ IP: 210.7.132.72 วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:13:13:25 น.  

 
emo

คุณ สุ - ขอบคุณมากเลยค่ะ ที่อ่านแล้วแวะเข้ามาฝากความคิดเห็นไว้
ดีใจที่ชอบนะคะ จะพยายามเขียนต่อไปค่ะ ^ ^


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:8:48:30 น.  

 
เพิ่งเห็นชื่อหนังสือค่ะ ยังมีขายที่ไหนคะ


โดย: เปรมา IP: 10.8.2.72, 202.28.169.166 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:24:37 น.  

 
emo

คุณ เปรมา - หนังสือเล่มนี้ ตอนนี้หมดแล้วล่ะค่ะ ต้องขอโทษด้วย
ล่าสุดเช็คกับร้านซีเอ็ด และสำนักพิมพ์ ก็บอกว่าหมดแล้วเช่นกัน
ถ้าสนใจคงต้องหาตามร้านมือสองน่ะค่ะ ^^


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:36:48 น.  

ศรีสุรางค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]












visit me at:
Srisurang's book recommendations, liked quotes, book clubs, book trivia, book lists (read shelf)




ประวัติผลงาน





สงวนลิขสิทธิ์

การนำส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดของงานเขียนในเว็บนี้ ไปเผยแพร่ ดัดแปลง เสนอขาย โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
Srisurang's bookshelf: read

หัวใจที่ถูกจอง รักนี้ (ไม่) มีสตรอว์เบอร์รี รวมมิตรแต้พานิช มายานาง เจ้าดวงใจ คนในผ้าเหลือง A Man in Saffron Robes

More of Srisurang's books »
Book recommendations, book reviews, quotes, book clubs, book trivia, book lists

My Goodreads bookshelf

Dream Lake
Rose
เหยื่ออธรรม
ประมูลหัวใจ
Something About You
ปทมาศวรรย์
อานาปานสติ วิถีแห่งความสุข
Celebrity in Death
The Madness of Lord Ian Mackenzie
รักหลงฤดู
สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่ เล่ม 1
จิตสดใสแม้กายพิการ
Love me, please...เพียงรักฝากใจ
พระสูตร ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค ภาค๑ และอรรถกถา Tipitaka The Pali Canon (Thai Translation) Book 15
Born in Sin
Dark Desire
ตุ๊กตา
นาคราช
ทวิภพ
Red River, Vol. 8


Srisurang's favorite books »
Friends' blogs
[Add ศรีสุรางค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.