บทปลงสังขาร ๓
ฟังฟางผมเผ้า แก่แล้วทุกประการ
ตามือหูหนัก ร้ายนักสาธารณ์
มิเป็นแก่นสาร ใช่ตัวของเรา
- แผ่พื้นเปื่อยเน่า เครื่องประดับกายเรา
โสโครกทั้งตัว แข้งขามือสั่น
เส้นสายพันพัว เห็นน่าเกลียดกลัว
อยู่ในตัวเรา
- ให้มึนให้เมื่อย ให้เจ็บให้เหนื่อย
ไปทั่วเส้นขน แก่แล้วโรคา
เข้ามาหาตน ได้ความทุกข์ทน
โศกาอาวรณ์
เหมือนดอกไม้โรย ไม่มีเกสร
แก่แล้วโรคา เข้ามาวิงวอน
ได้ความทุกข์ร้อน ทั่วกายอินทรีย์
- ครั้นสิ้นลมปาก กลับกลายหายจาก
เรียกกันว่าผี ลูกรักผัวรัก
เขาชักหน้าหนี เขาว่าซากผี
เปื่อยเน่าพุพอง
- เขาเสียไม่ได้ เขาไปเยี่ยมมอง
เขาบ่ได้ต้อง เกลียดกลัวนักหนา
- เขาผูกคอรัด มือเท้าเขามัด
รัดรึงตรึงตรา เขาหามเอาไป
ทิ้งไว้ป่าช้า เขาหามเอาไป
สู่เหย้าเรือนพลัน
ยื้อคร่าพัลวัน ทรัพย์สินของตน
ขนมาปันกัน ของเขาทั้งนั้น
ไม่ใช่ของเรา
- เมื่อตนยังอยู่ เรียกว่าของกู
เดี๋ยวนี้เป็นของเขา แต่เงินใส่ปาก
เขายังล้วงเอา ไปแต่ตัวเปล่า
เน่าทั่วสรรพางค์
- อยู่ในป่ารก ได้ยินเสียงนก
กึกก้องดงยาง ได้ยินหมาใน
ร้องไห้ครวญคราง ใจจิตอ้างว้าง
วิเวกวังเวง
- มีหมู่นกแขวก บินมาร้องแรก
แถกขวัญของตน เหลียวไม่เห็นใคร
อกใจวังเวง ให้อยู่ครื้นเครง
รำพึงถึงตัว
ทิ้งไว้น่ากลัว ยิ่งคิดยิ่งพลัน
กายสั่นระรัว รำพึงถึงตัว
อยู่ในป่าช้า
- ผัวมิ่งสินทรัพย์ ยิ่งแลยิ่งลับ
ไม่เห็นตามมา เห็นแต่ศีลทาน
เมตตาภาวนา ตามเลี้ยงรักษา
อุ่นเนื้ออุ่นใจ
- ศีลทานมาช่วย ได้เป็นเพื่อนม้วย
เมื่อตนตายไป ตบแต่งสมบัติ
นพรัตน์โพยภัย เลิศล้ำอำไพ
อัตตะกิเลสมากมี
ประเสริฐโฉมศรี นางฟ้าแห่ล้อม
ห้อมล้อมมากมี ขับกล่อมดีดสี
ฟังเสียงบรรเลง
- บรรเลงสมบัติ แก้วเก้าเนาวรัตน์
นับน้อยไปหรือ คุณพระทศพล
ที่ตนนับถือ พระธรรมนั้นหรือ
สั่งสอนทุกวัน
- พระสงฆ์องค์อารีรัก มาเป็นปิ่นปัก
พระกรรมฐาน เอออวยสมบัติ
นพรัตน์โอฬาร ดีกว่าลูกหลาน
ประเสริฐเพริศเพรา
- ลูกผัวที่รัก บ่มิเป็นตำหนัก
รักเขาเสียเปล่า เขามิตามช่วย
เพื่อนม้วยด้วยเรา ไปหลงรักเขา
เห็นไม่เป็นการ
บำเพ็ญศีลทาน จะได้ช่วยตน
ให้พ้นสงสาร ลุถึงสถาน
ได้วิมานทอง
จะต้องจำจอง เป็นห่วงตัณหา
เข้ามารับรอง ตายไปจะต้อง
ตกจตุราบาย