Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
27 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
แรงบันดาลใจดี ๆ จากมุมมองของ อ้อม สุนิสา

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม



ยกให้เป็นดีเจแถวหน้าของวงการคนหนึ่ง สำหรับสาวห้าว "อ้อม สุนิสา สุขบุญสังข์" ซึ่งแฟน ๆ ที่เคยฟัง อ้อม สุนิสา จัดรายการวิทยุ คงจะรู้สึกได้ว่า นอกจากสาวอ้อมจะพูดถึงเรื่องเพลงแล้ว บ่อยครั้งที่ดีเจสาวห้าวคนนี้ ได้เผยมุมมองของเธอที่มีต่อโลกใบนี้อย่างน่าสนใจไม่น้อย แถมยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนฟังหลายคนได้แนวคิดดี ๆ ไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตอีกด้วย

วันนี้ เราลองมาฟังแนวคิดดี ๆ ในแบบฉบับของ อ้อม สุนิสา ที่มาบอกเล่าเรื่องราวผ่านรายการ ดิ ไอดอล คนบันดาลใจ ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี กันค่ะ

ดีเจมากความสามารถคนนี้ เล่าถึงนิสัยตัวเองว่า ตั้งแต่เด็ก ๆ ตัวเองเป็นคนใช้อารมณ์ แบบปากตรงกับใจ ซึ่งสิ่งนี้ก็ทำให้เกิดปัญหา เพราะจริง ๆ แล้ว ก่อนอื่นควรจะใช้สมองก่อนจะทำอะไร เพื่อที่คนอื่นจะได้ไม่เสียใจ

"ปัญหาของอ้อมคือ คิดอะไร หน้าออกเลย คำพูดออกต่อ เพราะเราเข้าใจคำว่า …. คนเราต้องปากตรงกับใจ แต่...เราตีความมันแบนเกินไป มันตรงไปหน่อย คือปากตรงกับใจไม่ผิด แต่ควรมีสมองคิด ประวิงเวลา แล้วค่อยแสดงออกมา คนอื่นจะได้ไม่เสียใจ ... แต่มันรู้ช้าไปแล้วไง" อ้อม เล่า

ส่วนจุดเริ่มต้นของการเข้าวงการบันเทิงนั้น มาจากตอนที่ อ้อม ได้ไปแคสงาน และได้มีโอกาสเข้าไปแคสติ้งนางเอกภาพยนตร์เรื่อง "ห้าวเล็ก ๆ" ซึ่งตอนนั้น อ้อม บอกว่า เพิ่งจะพลาดจากการสอบเอ็นทรานซ์มา ตอนนั้นเลยคิดว่าอยากจะทำอะไรก็ทำ และพอแคสติ้งผ่าน เธอก็ตัดสินใจทำงานในวงการบันเทิงควบคู่ไปกับการเรียนนิเทศศาสตร์ที่แม่เลือกให้ไปเสียเลย

และในช่วงเวลานั้นเอง ก็เป็นช่วงเดียวกับที่เธอได้ออกอัลบั้มแรกในชีวิต และไม่คิดไม่ฝันว่า อัลบั้มแรกของเธอจะส่งให้ชื่อของ "อ้อม สุนิสา" กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วบ้านทั่วเมืองกับ เพลง "ถอยดีกว่า" และ "อย่ายอมแพ้" ที่สาวอ้อมบอกว่า เหมือนกับเป็นเพลงที่แต่งขึ้นมาเพื่อตัวเองที่เอ็นทรานซ์ไม่ติด แต่ยังต้องปลอบใจคนอื่นด้วยเพลงตัวเองซะงั้น

จากนั้น อ้อม ก็ได้มีโอกาสเข้ามาที่แกรมมี่ และได้รับโอกาสจากพี่ฉอด สายทิพย์ ให้เป็นดีเจ ซึ่งตอนจัดใหม่ ๆ ก็มีทั้งคนที่ชอบ เพราะว่าเสียงเธอแปลกดี ส่วนคนที่ไม่ชอบ ก็ถึงกับด่าว่า เสียงเหมือนควายออกลูก ซึ่งเธอก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไรกับคำวิจารณ์แรง ๆ แต่กลับมองว่า คำวิจารณ์เหล่านั้นเป็นเหมือนกระจกสะท้อนตัวเอง

"มีคนว่าเสียงไม่ดี พูดไม่มีรู้เรื่อง คนใกล้ตัวบอกจะไปได้ไกลสักกี่น้ำ จริง ๆ ไม่มีใครชอบให้คนวิพากษ์วิจารณ์หรอก อ้อมก็ไม่ชอบ แต่แค่ต้องยอมรับ เราต้องถามตัวเองก่อนว่าเราเต็มที่หรือยัง แล้วสิ่งที่เขาพูดมันจริงหรือเปล่า เพราะการวิจารณ์ของคน มันเหมือนกับเป็นหน้าต่างส่องให้เราเห็นจริง ๆ แต่เราต้องฟังแล้ววางให้เป็น แล้วเราจะแก้ตรงนั้นยังไง ทดแทนยังไง มันเป็นหน้าที่ที่เราต้องค้นหา" อ้อม สุนิสา เล่าถึงวิธีรับมือกับคำวิจารณ์

เมื่อถามถึงอาชีพดีเจ ในมุมมองของ อ้อม สุนิสา เธอตอบทันทีว่า อาชีพนี้มันมีเสน่ห์มาก แม้จะพูดอยู่คนเดียว แต่เหมือนไม่ได้พูดคนเดียว บางครั้งเราไม่รู้หรอกว่าคนฟังมีหน้าตาอย่างไร แต่เขาจะมีอะไรมาบอกเราเสมอ และตอนนี้ เธอก็โฟกัสกับการทำงานดีเจเพียงอย่างเดียว แม้จะมีงานพิธีกรอะไรบ้างแต่ก็ไม่มาก ซึ่งเธอบอกว่า พอมาถึงวันหนึ่งต้องถามตัวเองก่อนว่า เราทำเพื่ออะไร ซึ่งคำตอบคือ ไม่ได้ทำเพื่อเงิน

"เงินมันทำให้เราอยู่ในสังคมได้ แต่ไม่ได้ตอบโจทย์เราทุกอย่าง ถ้าอยากใช้เงินเยอะ ก็ต้องหาเงินเยอะ เราก็ไม่ต้องใช้เงินเยอะ จะได้ไม่ต้องหาเยอะ เราจะเหนื่อยน้อยลง และถามว่าคุณค่าของเรา อยู่ที่ใครมองเรา จริงอยู่ เวลาอยู่ในสังคม เราต้องให้คนยอมรับในคุณค่าของเรา แต่สุดท้ายเรายอมรับคุณค่าในตัวเราเองหรือยัง เราพอใจตัวเราเองหรือยัง ถ้าเราพอใจแล้ว มันก็อาจจะพอได้ แม้จัดวิทยุจะได้เงินน้อยกว่าออกงานอีเวนท์ทีเดียว แต่เราก็หน้ามืดกับการจัดวิทยุมาก" อ้อม บอก

และที่ในช่วงหลัง แฟน ๆ มักจะได้เห็นสาวอ้อมลุกขึ้นมาทำอะไรเซอร์ไพรส์คนดู ไม่ว่าจะลุกขึ้นมาถ่ายแบบเปรี้ยว ๆ บ้าง สาว ๆ ใส ๆ บ้าง เจ้าตัวก็บอกว่า หากเป็นสมัยก่อน เธอคงไม่ลุกขึ้นมาทำแบบนี้ เพราะมีกรอบ มีกฎของตัวเองอยู่ แต่พอมาถึงจุดหนึ่ง สามารถตัดกรอบออกไปได้ ปล่อยไป มันก็เป็นเรื่องของความสนุกและความสุขในสิ่งที่ทำมากกว่า

นอกจากนั้นแล้ว หลายคนคงจำได้ว่า อ้อม สุนิสา เคยไปบวชชีอยู่พักหนึ่ง ซึ่งเธอบอกว่า สิ่งที่ได้รับรู้จากการบวชชีครั้งนี้เลยก็คือ "การไม่มี" เป็นการอยู่ที่ง่ายจริง ๆ เพราะการที่มีข้าวของมีอยู่ไม่กี่ชิ้น จึงไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาขโมยของ

"ตอนบวชก็เดินเท้าเปล่าไปบิณฑบาต ไม่ต้องใส่รองเท้า รองเท้าน่ะ เราซื้อมาให้เป็นนายเรานะ เพราะเราต้องหวง ต้องรักษา จะเหยียบอะไรที่มันแฉะ ๆ มากไม่ได้ เดี๋ยวหนังมันพัง แต่เท้าจริง ๆ มันมีค่าน้อยกว่ารองเท้าตรงไหนล่ะ มันยังต้องเหยียบที่แฉะเหมือนกัน ซึ่งมันก็สอนให้รู้ว่า สุดท้ายเหยียบแล้วมันก็แห้ง"

แต่จากการที่ อ้อม ไปบวชชี ก็อดไม่ได้ที่จะมีคนวิจารณ์ว่า อกหักหรือเปล่า ผิดหวังอะไรหรือไม่ ซึ่ง อ้อม ก็หัวเราะ แล้วเล่าให้ฟังว่า ชีวิตของทุกคนย่อมมีปัญหาเกิดขึ้น ซึ่งปัญหาของแต่ละคนก็มาได้หลายแบบ ทั้งเรื่องงาน ครอบครัว อกหัก แต่สำหรับเธอ สิ่งเหล่านั้นกลับไม่ใช่ปัญหา

"ปัญหาของ อ้อม คือ อ้อมมีความสุขซะจนอ้อมกลัวว่าจะอยู่กับความทุกข์ที่มันจะมาหลังความสุขไม่ได้ นี่คือปัญหาของอ้อม และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้อ้อมสนใจว่า เราจะเผชิญกับความสุขที่มันหายไป ที่มันอาจจะเป็นทุกข์ในวันข้างหน้าได้อย่างไร"

สุดท้ายนี้ อ้อม อยากให้คนจดจำเธอในฐานะที่เป็นคน ๆ หนึ่ง โดยย้ำว่า แต่ละคนย่อมมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน อย่าเพิ่งตัดสินอะไรจากที่มองเห็น โดยไม่ได้ถามว่าเราเป็นยังไง คิดอะไร

"สำหรับคนเรา การเปิดโอกาสเป็นสิ่งสำคัญ การได้รับโอกาสก็เป็นสิ่งสำคัญ อ้อมไม่ได้บอกว่า เป็นคนที่เปิดโอกาสให้กับทุกคนได้ เพราะเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง แต่แค่พยายามที่จะเปิด เพราะวันหนึ่ง อ้อมก็เคยได้รับโอกาสเหมือนกัน"

จากบทสัมภาษณ์ของ อ้อม สุนิสา เราคงเห็นแล้วว่า ดีเจสาวมากความสามารถคนนี้ สามารถแปรเปลี่ยนเรื่องราวในแง่ลบ ให้เป็นมุมมองในแง่บวกได้ง่าย ๆ และทุกคำพูดจากความคิดของเธอ ล้วนให้แง่คิดในการดำเนินชีวิตได้ดีจริง ๆ


Create Date : 27 ธันวาคม 2554
Last Update : 27 ธันวาคม 2554 22:09:47 น. 0 comments
Counter : 920 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Wanlay_kukkuk
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




Friends' blogs
[Add Wanlay_kukkuk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.