Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
17 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 

โบรกแนะเลือกเก็บ 18 หุ้นอนาคตรุ่ง ดัชนีแกว่งตัวในกรอบ เน้นกลุ่มมีปันผลระหว่างกาล

ที่มา ข่าวหุ้นดอทคอม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ค่าเงินบาท ณ เวลา 9.48 น. อยู่ที่ 31.55 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้มีทั้งปรับตัวอยู่ในแดนลบและบวก นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ เริ่มมองหุ้นโดดเด่นใน Q3 และกลุ่มจ่ายปันผลระหว่างกาล เก็งกำไร 18 หุ้นได้แก่ ได้แก่ TISCO, JAS, AMATA, CK, CFRESH, KBANK, SAT, INTUCH, DTAC, CENTEL, MINT, STEC, SEAFCO, UPOIC, CPI, LST,TICON, MCOT

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) มองดัชนีบวกปานกลาง ให้ทยอยขายหุ้นที่ใกล้มูลค่าพื้นฐาน โดยระบุว่าKGI ประเมินตลาดหุ้นไทยวันอังคารบวกในกรอบจำกัด จะยังไม่ผ่านจุดสูงสุดเมื่อวานแถว 1,220 จุด ตลาดหุ้นเอเชียยังอยู่ในช่วงคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นทางการเงินของสหรัฐฯ ก่อนหน้าการแถลงของเบน เบอร์นานกี ต่อวุฒิสภาสหรัฐฯ ในคืนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่สหรัฐฯ รายงานตัวเลขค้าปลีกเดือน มิ.ย. ต่ำกว่าคาดค่อนข้างมาก ทำให้ตลาดหวังว่าจะมีออกมาตรการเพิ่มเติม นอกจากนี้แรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มธนาคาร ที่ดิน และสื่อสาร จะมีต่อไปเนื่องจาก 3 กลุ่มนี้มีแนวโน้มกำไรไตรมาส 2 แข็งแกร่งด้านข่าวสารเศรษฐกิจโลก IMF เมื่อวานปรับลดประมาณการ GDP โลกปี 55 จาก 3.6% เหลือ 3.5% โดยที่น่าสนใจคือ IMF ลดตัวเลขของจีนจาก 8.2% เหลือ 8.0% และของอินเดียจาก 6.8% เหลือ 6.1%

ด้านปัจจัยการเมืองในประเทศ ที่ประชุมพรรคเพื่อไทยเมื่อวานไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่าจะแก้รัฐธรรมนูญต่อไปอย่างไร และแนวโน้มเป็นว่าจะให้รออ่านคำวินิจฉัยกลางและคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการฯ ทั้ง 8 ท่านก่อน โดยข้อมูลดังกล่าวจะออกมาใน 2 สัปดาห์จากนี้ ซึ่งน่าจะเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่สภาฯ เปิดอีกครั้ง ดังนั้นจากนี้ถึงสิ้นเดือน ก.ค. ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ ทางการเมืองและตลาดหุ้นคงจะรับรู้ปัจจัยอื่นๆ แทน เช่นผลประกอบการไตรมาส 2 และข่าวสารจากต่างประเทศว่าด้วยนโยบายการเงินสหรัฐฯ และการแก้ปัญหาในยุโรป แต่สำหรับเรื่องยุโรปจะลากยาวกว่าที่คาดหลังจากศาลเยอรมันออกมากำหนดแล้วว่าจะตัดสินในวันที่ 12 ก.ย. (อีกเกือบ 2 เดือน) ว่าการให้กองทุน ESM เข้าเพิ่มทุนธนาคารพาณิชย์และซื้อพันธบัตรในตลาดรองนั้น ขัดต่อกฎหมายของเยอรมันหรือไม่

กลยุทธ์: สำหรับการเล่นสั้น แนะหาจังหวะตลาดบวกเพื่อลดพอร์ตหุ้น 50% ของที่มี ให้ขายหุ้นที่แนะนำมาเช่น BAY*, SIRI, AP, HEMRAJ* เนื่องจากราคาหุ้นเหล่านั้นขึ้นมาใกล้มูลค่าพื้นฐานแล้ว ส่วนหุ้นINTUCH* และ DTAC* แนะนำให้ถือต่อเนื่องจากแรงเก็งกำไรเงินปันผลระหว่างกาลจะยังอยู่ต่อไป ส่วนน้ำหนักพอร์ตที่เหลือให้ถือไว้เผื่อสหรัฐฯ มีสัญญาณกระตุ้นทางการเงินเร็วกว่าคาด ด้านพอร์ตลงทุน 3-6 เดือนให้ถือหุ้นต่อไป

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้อยู่ในกรอบจำกัด 1207-1220 กลยุทธ์การลงทุนSelective Trading

ตลาดรวมอยู่ในภาวะรอปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น อาจทำให้เกิดความผันผวนมากขึ้น ขณะที่มีการเก็งกำไรผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ และข้อมูลเศรษฐกิจของต่างประเทศที่ดูเหมือนจะย่ำแย่ลง เช่น ยอดค้าปลีกที่อ่อนแอกว่าคาดของสหรัฐ หรือแม้แต่การปรับลดคาดการณ์จีดีพีโลกปีหน้าของ IMF ลงสู่ระดับ 3.9% จาก 4.1% ที่เคยประเมินไว้เมื่อเดือนเม.ย. อย่างไรก็ดี การที่ภาพศก.ดูอ่อนแอลง แม้จะสร้างแรงกดดันต่อภาพใหญ่ แต่ก็ได้เพิ่มความคาดหวังของตลาดต่อการออกมาตรการกระตุ้นศก.จากประเทศต่างๆ ตามมาด้วย ดังนั้น จึงยังไม่เห็นภาพการขายทิ้งในสินทรัพย์เสี่ยงออกมา ในทางตรงกันข้าม ต่างชาติยังคงสลับการซื้อและขายทำกำไรในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง โดยวานนี้กลับเข้าซื้อสุทธิเล็กน้อยในตลาดหุ้น และถือสถานะซื้อสุทธิในตลาดอนุพันธ์ จึงมองภาพรวมทางบวกยังไม่เสียหาย แม้จะมีย่อตัวบ้างระหว่างวัน มองกรอบวันนี้จำกัดระหว่าง 1207-1220

กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นยังคงเก็งกำไรต่อได้ เน้นการเลือกหุ้นรายตัวแนวต้าน : 1220-1227 แนวรับ : 1207-1200

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 50% : เงินสด 50%

ถือต่อในพอร์ต : TISCO, JAS, AMATA, CK,CFRESH, KBANK, SAT

บล.กสิกรไทยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดสหรัฐฯ เปิดเผยยอดค้าปลีก มิ.ย.ลดลง 0.5% ลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันเทียบกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% นอกจากนี้ IMF คงคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกปีนี้ที่ 3.5% แต่ลดคาดการณ์สำหรับปีหน้าลงเหลือ 3.9% (จาก 4.1%) ส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามเรามองแรงขายทำกำไรดังกล่าวเป็นเรื่องปกติหลังตลาดหุ้นขึ้นแรงในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน หุ้น ADVANC THCOM JAS TRUE AOT BECL TISCO KK TCAP GL ASK TK THANI ที่เราพูดถึงบ่อยในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาค่อนข้างโดดเด่นกว่าตลาดรวมเพียงแต่เราขอปรับกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นข้างต้นดังนี้ กลุ่มสื่อสารและขนส่งกลับมาเน้นเก็งกำไรเชิงตั้งรับหลังหุ้นปรับขึ้นมามาก หรือเก็งตัว laggard เช่น TRUE JAS SAMART SAMTEL หุ้นธนาคารเล็กและเช่าซื้อ ยังน่าจะโดดเด่นกว่าธนาคารขนาดใหญ่แม้หลังงบออก เนื่องจากคาดผลประกอบการแข็งแกร่งและมีปันผลระหว่างกาลที่ดีกว่า

กลยุทธ์การลงทุนแม้อาจเผชิญความผันผวนช่วงสั้น เรายังให้น้ำหนักดัชนีขึ้นทดสอบ 1246 หรือสูงกว่า (โดยคงเป้าสิ้นปีที่ 1350 จุด) นอกจากการเก็งกำไรช่วงสั้นในหุ้นสื่อสาร ขนส่งและเช่าซื้อแล้ว สำหรับนักลงทุนเราคาดว่าไตรมาส 3/55 จะเป็นช่วงที่หุ้นโรงแรม (CENTEL MINT) รับเหมาก่อสร้าง (STEC CK SEAFCO) และปาล์มน้ำมัน (UPOIC CPI LST) ทยอยแสดงความโดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนักลงทุนอาจเริ่มทยอยสะสมหุ้นที่จ่ายปันผลระหว่างกาลดี หุ้นแนะนำ STEC TICON MCOT

สำหรับนักลงทุนระยะกลางเมื่อ 15 มิ.ย. เราเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีก 10% เป็น 60% และยังเตรียมเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีก โดยยังคงประเมิน downside ของ SET Index ที่ 1050 จุด หุ้นที่อาจพิจารณาทยอยสะสม ได้แก่ TICON TCAP KK TISCO EGCO RATCH PS AP SIRI QH PF PTTGC PTT KTB NMG RS




 

Create Date : 17 กรกฎาคม 2555
0 comments
Last Update : 17 กรกฎาคม 2555 10:09:05 น.
Counter : 3028 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Wanlay_kukkuk
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




Friends' blogs
[Add Wanlay_kukkuk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.