|
หลายเดือนก่อน ในช่วงฤดูแห่งความรัก ช้างเคยพาทุกๆคนไปสนุกกับสาวชุดแดงกับหนุ่มนักแซ็ก ทุกคนยังจำกันได้บ้างไหม ตอนนั้นช้างได้หัวเราะทั้งน้ำตา แต่คราวนี้หวังว่าน้ำตาคงไม่หลั่งซ้ำรอยเดิมอีกนะ
หนูอยู่ไหนแล้ว เสียงพี่แอนแว่วมาทางเคเบิ้ลขององค์การโทรศัพท์ พี่ หนูอยู่กับเบลล์ เดี๋ยวตามเข้าไปคะ ช้างตอบกลับเหมือนเครื่องรับโทรศัพท์อัตโนมัติ พร้อมกับซดน้ำต้มยำโฮกๆ อยู่ที่ร้านบ้านไร่กาแฟ ต้นซอยเอกมัย แน่นอนล่ะว่าเราต้องหาอะไรรองท้องก่อนจะต้องเปิดศึกดวล
.???
หนังรอบท้องเพิ่มขึ้นมาหลายนิ้ว เดินพาเบลล์ชะนีซิดนีย์กับเก้ ข้ามฝั่งมาท้าความตายกันด้วยรถแมงกะไซค์ จุดหมายปลางทางอยู่ข้างหน้าไม่ไกลมากนัก พี่วินก็พาเข้าไปจอดซะข้างในเชียว อ๊าย อาย ว่ะ..ฮึ้ย..ย..
ไปถึงหน้าร้านพี่ขวัญยืนยิ้มแป้นแล้น ก่อนจะส่งบัตรรับเพื่อน (เออ
มีด้วยเว้ย บัตรรับเพื่อน) พี่ๆการ์ดหน้าเข้ม ประทับสัญญาลักษณ์ของร้าน แบบที่มองไม่เห็นได้ด้วยตา แอบโชว์โง่นิดหน่อย พี่คะ มันไม่ติดอ่ะ มันเรืองแสงครับน้อง แง่ว < >
เดินตามกันเข้าไป เจอะกับพี่แอนกับโต๊ะที่ห่างจากเวทีไม่กี่ก้าว อึบๆ นี่แน่ะ
.(พูดด้วยกิริยา คว้าอากาศ) ใกล้ซะจนหายใจรดนักร้องกันได้เลยล่ะ
3 ทุ่มกว่าเอง คนยังโหลงเหลง เดาว่าพี่คิ้มกับพี่โก้คงกำลังเตรียมตัวขึ้นที่ลานเบียร์หน้า central world เป็นแน่ ส่วนเราก็รอกันต่อไป น้ำสีอำพันตราผู้ชายเดินย่องตรงหน้ามีผู้ร่วมชะตาแค่เพียง 3 ท่าน อีก 2 อย่างพี่แอนและช้าง ขออุดหนุนน้ำดำรสซ่า เหมาะกับวัยจะดีกว่า
หมดแก้ว !!! ไอ้เบลล์ สิงห์นักดื่มผู้ดุดัน คะยั้นคะยอผู้ร่วมชะตากรรม ด้วยอาชีพที่การันตีมันมาจากที่นู่น มันเลยคว้าเอามาชงซะเอง ฮิ!! รุ่นนี้ต้องเข้มๆ มาหนักโซดา-โค้ก ไม่ได้หรอก มันไม่เร้าใจ (เบลล์
มันว่างั้นนะ)
ทางร้านก็กระหนำเปิดเพลงพอให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ถี่ขึ้น แต่ โต๊ะข้างๆดิ้นกระแด่วๆ กินเนื้อที่ อิบ
หาย คนที่จะโดนกระทบชิ่งจากน้องสันขวานหน้าใสโต๊ะข้างๆเห็นจะเป็น พี่แอน ทั้งกระถิบหนีก็แล้ว มองหน้าก็แล้ว น้องนางยังเฉย.. เห็นทีจะต้องเล่นไม้แข็ง
หนี
.ก็ได้ว่ะ โฉบมาซุกกายข้างๆเบลล์ ที่เอาร่างกายอันสูงทะมึนปกป้องพี่แอนอย่างเต็มที่ มาแล้วว..ว
ไม่ใช่นักร้องขวัญใจแต่อย่างใด แต่เป็นเวลาที่ผ่านไปไวเหมือนโกหก 5 ทุ่ม จวนเจียนจะเที่ยงคืน นั่งฟังดนตรีไปได้ไม่เท่าไหร่ ก็มีสาวๆ หุ่นอั้นๆ มาเรียกคะแนนจากแขกผู้ทรงเกียรติทั้งหลาย
ลืมบอกไปว่า งานวันนี้จะมีการประกวด Play Girl โหวตหาสาวที่เหมาะสมกับตำแหน่งเพียงหนึ่งเดียว รางวัลเป็นอะไรไม่ยักกะรู้ แต่พี่ขวัญก้มหน้าก้มตาโหวตๆๆๆๆ
กร๊อบ
โอ้ว ยืนมานานตั้งแต่หัวค่ำ กระดูกสันหลังลั่น สภาพไม่คล่องเอาซะเลย เครื่องดื่มบนโต๊ะพร่องไปไวเหมือนเวลา ดูหน้าคนกินแล้วแดงกร่ำเชียว ส่วนเบลล์ บอกมาคำเดียวว่า บาย มั่ก
นี่ก็เที่ยงคืนแล้ว วงดนตรีถูกเปลี่ยนมือ หลังม่านรูด (ที่ไม่ใช่ ม่านรูด อย่างว่า) มีความเคลื่อนไหวจากผู้คนที่ดูเงาแล้วคงเป็นพี่ๆทาเคชิ คงพึ่งมาถึงกันหมาดๆ และอยู่ในช่วงกำลังเซ็ตทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง
รอได้ครู่ใหญ่ เสียงแซ็กก็เล็ดลอดออกมาให้เราทั้งหมดได้เป็นครั้งแรก ส่งสัญญาณว่า ผ่านกำลังจะรูดอีกครั้ง เพื่อต้อนรับศิลปินที่ทุกคนรอคอย (มานาน
มาก) ช้างสละเรือขึ้นไปยืนบนเหล่าเต้ง เพราะน่าจะเป็นทำเลที่ถ่ายรูปสวยกว่า ( งานถ่ายรูปที่ช้างทำทุกครั้ง มีไว้สำหรับประกอบ blog และแบ่งปันคนในกลุ่มที่พลาดท่าเสียทีมาไม่ได้ อย่าสงสัยไป ว่าทำไมต้องถ่ายทุกงาน)
Retro Nouveau ที่สนุกถูกเล่นพร้อมกับม่านที่เปิดออกรับเสียงปรบมือของผู้เฝ้ารอ ได้ยินแล้วหายเหนื่อย พี่โก้โค้งคำนับเสียงนั้น พร้อมกับบทเพลงที่ถูกถ่ายทอดมาเป็นระยะๆ บ่อยครั้งที่เราจะได้ยินแค่เพียงเสียงแซ็ก แต่น้อยมากที่จะได้ยินถอยคำเจรจาจากปากของพี่โก้ ถึงจะพูดน้อยแต่ถ้ากับคนดูคนฟัง พี่โก้จะหนักไปทางใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยที่คนดูส่งมา หลายเพลงที่เป็นของพี่โก้จึงมีเสียงตอบรับเป็นอย่างดี อาทิเช่น ภาวนา / เพราะเธอใช่ไหม เป็นต้น
พอหมดช่วงของพี่โก้ ทุกคนในร้านก็ได้ต้อนรับ พี่คิ้ม ในเพลง คิดถึงเธอทุกทีที่อยู่คนเดียว แม้เสียงจะดูอู้อี้ไปสักหน่อย แต่มันไม่สำคัญเท่าเวลาที่เราได้อยู่ร่วมกันตรงนี้ เชื่อว่าเพลงของพี่คิ้มจะสร้างความรู้สึกที่แตกต่างออกไปทุกครั้งที่หยิบมาถ่ายทอด
มรึง !! กรูชอบ คิ้ม ว่ะ ชะนีที่จับกลุ่มอยู่ข้างหลัง พ่นน้ำลายข้ามหัวช้าง อีกหนึ่งสิ่งที่ได้ยินแล้วจะต้องแอบอมยิ้มอยู่คนเดียวเสมอ ปลื้มพอประมาณแล้วก็หันไปมองและตั้งใจฟังที่พี่คิ้ม
ภาพที่เห็น เสียงที่ได้ยิน ครึกครื้นเหลือเกิ๊น แม่คุณเอ้ย ยิ่งต่างชาติที่มานั่งเอ๋อหรอ กับ ชะนี พี่คิ้มยิ่งคึกเป็นการใหญ่ จัดการฟุดฟิตฟอไฟ I am good not expensive โหววว .. แรงนะยะ
How much?? พ่อฝรั่งตาน้ำข้าว ตอบกลับมาแบบไม่ต้องคิด พี่คิ้มเช็ดปากเล็กน้อยก่อนตอบกลับไปสั้นๆว่า I like that
..Oh
.I love it..!! ไม่ถือสา
.แต่คาดว่าจะรู้สึก
..
จากนั้นก็เป็นช่วงของเพลงแบบยาวๆ ยกเซ็ตคอนเสิร์ต Kim Rider มาทั้งกระบิ ทยอยกันเคลิ้ม แถมเพลง Hero ให้ได้ตระหนักกันอีกเพลง แต่เพื่อไม่ให้เป็นการซึ้งจนเกินไป มาแดนซ์กันหน่อยดีกว่า
เซ็ตเพลงเร็วก็ตามมาติดๆ อย่าง Music Lover / เช้าไม่กลัว / ลมหายใจ / Play girl อย่างเคยก็คงอดเต้นไม่ได้ ไม่ได้หมายถึง J.Kim Mania นะ กลับเป็นผู้คนที่เบียดเสียดกันแน่นร้านต่างหาก แต่พอเบรกเท่านั้นล่ะ พี่คิ้มก็ได้รับช่อดอกไม้สีแดงสด (ซึ่งมัน คือ ดอกลิลลี่ที่พี่คิ้มแพ้ ) จากชายนิรนามนายนึง อู้ว..ใครอ่ะ
สลับกันอีกครั้ง พี่โก้แตะมือหยิบเอาเพลง หยุด ของกรูฟ ไรเดอร์ เอามาให้ ลดดีกรีความร้อนจากช่วงของพี่คิ้ม
แม้ร่างกายของพี่คิ้ม พี่โก้จะไม่ทันหายเหนื่อยจากงานก่อนหน้า แต่ถ้าจะถามว่าให้กับทุกคนที่ซานติก้าเต็มร้อยมั๊ย สำหรับคนดู คนฟัง ช้างเชื่อนะว่า ได้เต็มหัวใจ
ทิ้งท้ายช่วงพูดคุยสนุกๆกันก็ตอนที่พี่หยามโดนพี่คิ้มแซว เรื่องหน้าตา (เช่นเคย) นี่ถ้าไม่มองหน้า นึกว่า เคน ธีรเดช นะเนี่ย พี่คิ้มพูดพลางเอากระดาษบังหน้าพี่หยาม ขำกันทั้งคนดูคนแซวเอง
ก่อนที่จะปิดงานกันด้วยเพลง สายลม ในช่วงเวลา ตี 1 กว่าๆ งานวันนี้ ไม่มากไป แต่ก็ไม่น้อย ไม่มีอะไรต้องกั๊ก ใส่กันแบบไม่ยั้ง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนคงได้ อิ่มแบบพอดี
ป.ล. แววตาและรอยยิ้มของพี่คิ้มและพี่โก้ ที่ถูกส่งมาทักทายให้คนที่โบกไม้โบกมือ อย่าง พี่ขวัญและเบลล์ นั้น มันได้สร้างอีกหนึ่งความอย่างมหาศาล วัดได้จาก เมื่อกลับมาถึงบ้านหรือว่าตอนตื่น เบลล์ นั่งดูรูปและวีดีโอ จนไม่เป็นอันทำอะไร จนช้างต้องแซว เป็นมากนะ
มรึง
เนี่ย
รูปเพิ่มเติมดูต่อได้ที่ Jennifer Kim@Santika 2008
ท้ายเรื่อง
ในทุกวันเราอาจจะใช้ร่างกายอย่างเกินพอดี นาฬิกาชีวิตหมุนทวนเข็มจนหลายสิ่งในร่างกายปรวนแปร แม้สุขภาพจะเป็นเรื่องของร่างกายก็เถอะ แต่อย่างน้อยเราน่าจะมีเวลาเพื่อตัวเองบ้าง สุขภาพร่างกายที่ดี ก็เหมือน ความดีนั่นหล่ะ ไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง ช้างมีวิธีคิดแบบชาวพุทธ เอาไว้เตือนสติ เมื่อไหร่ก็ตามที่กราฟของชีวิตถูกเหวี่ยงตก ลงไปจนซวนเซ เรียกวิธีนี้ว่า
การเจริญมรณสติในโอกาสต่างๆ ก่อนนอน-หลังตื่น : พิจารณาว่าวันนี้อาจเป็นวันสุดท้ายของเรา ก่อนเดินทาง : พึงระลึกไว้เสมอว่าความตายสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จึงควรเตรียมใจไว้เสมอ เมื่อรับรู้ข่าวอุบัติเหตุเภทภัย : ให้ใช้ข่าวนั้นเตือนใจว่า ไม่ว่าเวลาใด ที่ไหน ก็ตายได้ทั้งนั้น เมื่อไปงานศพ : เตือนสติว่า ความตายคือปลายทางของเราทุกคน เมื่อไปเยี่ยมคนป่วย : ให้ระลึกว่า สักวันร่างกายของเราต้องเสื่อมทรุดเช่นกัน เมื่อสูญเสียทรัพย์ : ให้ระลึกว่า นี่คือแบบฝึกหัดให้เรารู้จักปล่อยวาง เพื่อรับมือกับความตาย
เมื่อใดที่จำเป็นและเหนื่อย พึงคิดไว้เสมอว่า ของทุกสิ่งที่ได้มาด้วยแรงกาย ด้วยความอยาก ตอนตายก็เอาไปไม่ได้สักอย่างเดียว
ร้อยเรียงเรื่องราว โดย ช้างน้อย นำเสนอ โดย บูเก้ Apple & Bouquet Productions...
| |
[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]