ช้างน้อย ชวนคุย ตอน หนึ่ง จักรวาร Touch Me Concert

	“ เปลวเทียนให้แสง รามคำแหงให้ทาง ” คำขวัญประจำมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ลูกพ่อขุนทุกคนคุ้ยเคยเป็นอย่างดี ช้างก็หนึ่งในลูกพ่อขุน เป็นสิงห์ทองรุ่น 44 ตลอดเวลาที่เรียนสรรพวิชาจากที่นี่ ช้างภาคภูมิใจเสมอ ไม่เคยอายที่จะบอกว่าตัวเองจบมาจากที่ไหน ที่สำคัญช้างไม่เคยรู้สึกด้อยกว่าคนที่จบมาจากมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงเลย รามคำแหงสอนไม่ได้สอนลูกศิษย์ให้เป็นแต่เพียงแค่คนเก่ง หากแต่ยังสอนให้เป็นคนดี พร้อมคืนกลับสู่สังคม หลายคนเมื่อมาเรียนจะพบว่าการเข้ามาเรียนนั้นง่าย แต่การจบออกไปนั้นยาก แม้ปริญญาจะเป็นเพียงกระดาษใบนึง ไม่ว่าอย่างไร 4 ปีที่ช้างเรียนราม ถึงจะเหนื่อยแค่ไหน วันที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร วันที่สวมชุดครุย วันที่อาจารย์ประกาศชื่อช้างดังก้องไปทั่วหอประชุม วันที่ได้ยืนต่อพระพักตร์สมเด็จพระเทพ รับปริญญามาแนบกาย วันที่พ่อแม่เห็นความสำเร็จของลูก เป็นนาทีที่สำคัญที่สุดในชีวิตช้าง จนคิดว่าชั่วชีวิตนี้คงไม่มีอะไรมาลบเลือนภาพเหล่านี้ไปจากความทรงจำได้เลย หลังจากเรียนจบช้างก็ดูจะห่างไกลจากรามคำแหงไปเพราะชีวิตยังต้องเดินไปข้างหน้า หายไปทำงานมาพักใหญ่ในที่สุดก็ได้กลับมาเยือนถิ่นเดิมอีกครั้ง คราวนี้ช้างแวะมาอินดอร์สเตย์เดี้ยมหัวหมากในงาน หนึ่ง จักรวาร TOUCH ME CONCERT หากยังจำกันได้พี่หนึ่งพึ่งจะแถลงเปิดอัลบั้มไปเมื่อไม่นานมานี้เอง ซึ่งในงานดังกล่าวมีพี่คิ้มเป็นพิธีกรนั่นเอง นับจากวันนั้นเป็นเวลา 2เดือนกว่า หลังจากผ่านเลื่อนมาหนึ่งครั้ง วันนี้ก็ถือเป็นฤกษ์ดีเปิดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของพี่หนึ่งเสียที ตอนเช้าไปธุระแถวพารากอน เพื่อนในกลุ่มที่ทำงานเก่าจะแต่งงาน ไม่รู้จะดีใจรึอิจฉามันดี อายุไล่เลี่ยกัน มันชิงแต่งกันไปปีละคนสองคน ในขณะที่หัวกระไดบ้านเรายังแห้งสนิทอยู่เลย หน้าตาไม่ดี นิสัยยังแย่ ผู้ชายที่ไหนจะเอาไปทำแม่พันธุ์บ้างมั๊ยเนี่ย เสร็จธุระนั่งเรือด่วนคลองแสนแสบพอมาถึงอินดอร์ก็หิวซกๆกันมาเชียล่ะ โชคดีว่าวันนี้มีเปิดท้ายขายของกินของใช้อยู่ตรงสนามหญ้าหน้าอินดอร์นี่เอง ไปเดินหาก๋วยเตี๋ยวลุยสวน สาคู ข้าวเหนียวไก่ย่าง น้ำมะนาว น้ำมะพร้าวกินเบาๆ ( มั่นใจมากว่าเบาๆ ) กินอิ่มก็เดินลัดสนามที่เต็มไปด้วยฝูงกระต่ายที่พากันกระโดดด๊อกๆออกจากกรงออกจากกระเป๋า ผ่านฝูงหมานานาพันธุ์ทั้งไทยเทศน์ บางตัวอย่างชิวาว่าสูงเลยตาตุ่มช้างมาหน่อยเดียวเอง เฟรนบลูด็อกก็น่ารัก ปั๊กก็น่าสน ชิเดิ้ล (ชิสุ+พุดเดิ้ล) ก็ดูดี ลาบราดอร์ โกลเด้น เซ็นเบอร์นาดก็น่ากอด เห็นแล้วคิดถึงหมายักษ์ที่บ้านจังเลย บรรยากาศรอบงานมีเพียงซุ้ม YAMAHA มาออกบูธให้ร่วมสนุก ส่วนรอบนอกนักกีฬาทั้งบาส บอล เล่นกันเหงื่อแตกเหงื่อแตน ประตูเปิดให้เข้าตอน ทุ่มนึงเข้าไปนั่งรอกว่าคนจะมากันเสียเวลาไปนาน จนเกือบสองทุ่มคอนเสิร์ตถึงได้เริ่ม เดินเข้าแถวเปิดกระเป๋าถือรอท่าให้พี่การ์ดเช็คความเรียบร้อย “ เดี๋ยวครับน้อง ” ช้างกำลังจะก้าวเดินไปข้างหน้า แต่พี่การ์ดดันดึงกระเป๋าไว้ นึกในใจ ตายห่านล่ะ กรูไม่ได้พกอาวุธมานี่หว่า แล้วเรียกทำไมเนี่ย เดินถอยหลังไปสองก้าว พี่การ์ดคนเดิม เอาแท่งตรวจวัตถุระเบิดลงไปเขี่ยๆในกระเป๋าช้าง แบบกึ่งขยะแขยงกึ่งกลัวๆกล้าๆ “อย่ากินในฮอลล์นะครับ” หน้าช้างแตกดังโพล๊ะ !! ลืมไปว่าในกระเป๋ามีซากไก่ยางที่เหลือกินจากตอนมาถึงอยู่ด้วย ด้วยความขี้งกกินกันไม่หมดจะทิ้งก็เสียดาย ช้างเลยเก็บเอาไว้กะจะไปให้หมายักษ์ที่บ้าน พี่การ์ดดันมาเจอเข้าซะก่อน “ ไม่กิน ค่ะ ” ตอบแบบอายๆ แหม..พี่การ์ดก็หนูจะไปกินได้ยังไง มันขาดข้าวเหนียวกับแจ่ว จะไปได้รสชาติอะไรล่ะ เข้าไปนั่งข้างในได้สักครู่ เปิดเวทีด้วยเพลง Touch me เพลงในจังหวะสนุกสนาน ในแบบฉบับของ Groove ที่นำ Beat box เข้ามาช่วยเพิ่มสีสรรให้สนุกมากยิ่งขึ้น ช้างได้ที่นั่งข้างเวทีซึ่งฮวงจุ้ยไม่ดีเลย โดนลำโพงบังไปครึ่งเวที โปรเจ็คเตอร์ก็มีตัวเดียวอยู่กลางเวที ก็ดันมองไม่เห็นอีก อะไรจะอาภัพขนาดนี้ นะคนเรา พี่หนึ่งโซโลเพลงแรกจบก็ลุกขึ้นแนะนำตัวตามประสาคนพูดน้อย ต่อด้วยแขกรับเชิญคนแรกที่พี่คิ้มบอกไว้ว่าแค่ได้ยินเสียงก็ Fin แล้ว พี่เบน ชลาทิศ กับเพลง คนข้างล่าง เรื่องเสียงไม่ต้องพูดถึงเพราะดีมากจนอธิบายไม่ถูก ลูกเล่นในเพลงก็แก่กล้ามากอีกเช่นกัน เพลงที่สองพี่เบนถอดเสื้อคลุมหยิบเอาเพลงโอ๊ย โอ๊ย มาคร่ำครวญ ฟังแล้วใจจะขาด เพลงสุดท้ายพี่เบนคุยกับพี่หนึ่งบนเวทีว่า เมื่ออัลบั้มที่ผ่านมา ( Ben Impressions ) ได้พี่หนึ่งมาเป็นโปรดิ๊วเซอร์ จับเอาเพลงหลายๆเพลงที่ดังมารวมกันผ่านการเรียบเรียงใหม่ กับเพลงดังๆอย่าง สุดใจ ต้นฉบับ พี่ปู พงษ์สิทธิ รักที่พึ่งผ่านพ้นไป Groove rider ไม่มี P.O.P เพลงคืนใจ Vacation Brand และเพลงสุดท้ายนี้เองที่ได้รับการคัดเลือกให้มาถ่ายทอดแบบสดๆให้ได้ฟังกัน แขกรับเชิญคนต่อไปมาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านั้นพี่หนึ่งพาเราไปพบกับน้องป่าน หนึ่งในสมาชิกวง Vietrio หอบเอาเชลโล มาบรรเลงท่ามกลางแสงสวยๆ และเมื่อแสงไฟส่องไปที่เปียโนหลังงามที่ตอนนี้มีร่างของ ตอง ภัครมัย ทอดเรือนกายอยู่บนนั้น และ Introเพลง เธอยังรักฉันไหม ก็ดังขึ้น สำหรับเพลงช้ากินใจในสไตล์ Musical Orchestra ที่ได้น้ำเสียงหวานปนเศร้ามาช่วยสื่ออารมณ์ เล่นเอาเงียบเพื่อฟังเสียงน้ำตาของตองกันทั้งฮอลล์ เพลงจบอารมณ์ยังไม่จบ ตองลงมาปาดน้ำตาแล้วพูดแค่ว่า “อยากถามเขาคนนั้น ว่ายังรักตองอยู่บ้างไหม..” ตั้งแต่ที่งานเปิดอัลบั้มแล้ว เราจะสังเกตุได้ว่าตองค่อนข้างจะอินกับเพลงนี้มากๆ พี่หนึ่งเองก็บอกว่าเพลงแต่ละเพลงแต่งขึ้นมาเพื่อคนๆนั้น หากไม่ใช่ตองเพลงนี้อาจจะไม่มีน้ำตาก็อาจเป็นไปได้ ลงจากหลังเปียโนแล้ว ไม่ทันน้ำตาจะแห้งตองก็เอาเพลงเก่าอย่างอยู่ดีๆก็อยากร้องไห้ เพลงอยากให้ฉันยืนอยู่ข้างเธอบ้างไหม มาร้องด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เข้าโหมดเศร้าช้างล่ะปรับตัวไม่ทัน พอดีไม่ได้พกโหมดนั้นมาจากบ้านเสียด้วยซิ เอามาแต่โหมดกรี๊ดๆ ไปคอนเสริต์ทีไรเจ็บคอทุกที แขกรับที่ช้างตั้งหน้าตั้งตารอคอยออกมาไวกว่าที่คิด นึกถึงแม่มัมๆก็มา ในเพลง รักยังไม่ต้องการ คนกรี๊ดกันท่วมท้น ติดใจแม่มัมตั้งแต่รายการคืนนี้ วันนั้น ตามต่อมาเรื่อยๆ จนมาถึงคอนเสิร์ตคราวนี้ ลีลาขาแดนซ์ของแม่มัมสะท้าน เซ็กซี่เหลือรับประทาน แถมมีหนุ่มแดนเซอร์มาให้จกอีก แม่มัมเต้นใจขาดเลย “ ตบมือ ให้ผัวดิฉันด้วยค่ะ คริ คริ ” แม่มันขอเสียงปรบมือจากคนดูให้พี่หนึ่ง ไม่รู้ไปเป็นผัวเมียกันตอนไหน เดาว่าต้องมีใครสักคนเมายากันยุงแน่นอน “ พี่มัมพาศิลปินแห่งชาติมาด้วย เดี๋ยวให้ไปเชิญมาหน่อย ” พี่หนึ่งผลักแม่มัมไปหลังเวที ก่อนที่จะดนตรีเพลงจ้ำม่ำจะขึ้นมากลบเสียงหัวเราะของคนดู “ จ้ำม่ำเสียจริงนะน้องเอ้ย ไม่เคยเห็นใครจ้ำม่ำเท่า...” เสียงแมนมาก่อนตัว นึกว่าอาชาย เมืองสิงห์ ที่ไหนได้ แม่มัมนั่นหล่ะ เผยธาตุแท้ซะอย่างั้น พี่หนึ่งกับแม่มัมบอกว่าสมัยก่อนเล่นมุขนี้ด้วยกันบ่อยๆ เอ่อ..ฮาดี คนดูหัวร่องอหายกันตามๆกัน “ ปรบมือให้ผัวคนที่สองของดิฉันด้วยนะคะ (หัวเราะเบาๆ ในลำคอ) ” ผัวลำดับที่สองของแม่มัมตกไปเป็นของมือกลองอย่างพี่ดั๊ก แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวตามพี่หนึ่งมาติดๆ งานนี้ต้องยกนิ้วโป้งหัยแม่มัมเพราะก่อนหน้าคอนเสิร์ตจะเริ่มเพียงวันเดียว แม่มัมยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลเนื่องจากอาหารที่ทำมาเลี้ยงนักร้อง นักดนตรีทำพิษ แม่มัมยังบอกอีกว่า อาเจียรออกมาต่อหน้าพี่หนึ่งแถมยังจู๊ดๆอีกต่างหาก เล่นเอาเกือบแย่เหมือนกัน หมอพึ่งให้ออกมาตอนทุ่มนึงของวันคอนเสิร์ตเอง “ จะไม่มาก็ไม่ได้ ถ้าไม่มาเขาก็จะไม่ให้ตังค์ แถมยังปรับอีก 3 เท่า ” น้ำเสียงทีเล่นทีจริงของแม่มัม ทำเอาคนดูขำกันไม่หยุด สปิริทแรงกล้าทีเดียว อาชีพนักร้องบางทีก็เจ็บไม่ได้ ตายไม่เป็นเหมือนกัน น่าเห็นใจ มีเรื่องที่พี่คิ้มเล่าครั้งที่ไปดูที่รายการ คืนนี้ วันนั้น เทปพี่แอมว่า พี่คิ้มรับงานไว้ที่นึง เป็นช่วงที่ยังไม่ถึงคิวพี่คิ้มๆเลยไปแวะเข้าห้องน้ำห้องท่าเสียหน่อย ธุระเดินไปได้ครึ่งทาง มีเสียงแว่วตามหาตัวพี่คิ้มซะแล้ว ด้วยความรีบร้อนจัดๆ พี่คิ้มรีบออกมาจากห้องน้ำ แต่ลืมดูความเรียบร้อย ทีมงานมาพาไปยืนข้างเวที จังหวะที่พี่คิ้มก้าวเท้าออกไป พี่หนึ่ง จักรวารของเรา ถึงกับต้องลุกมากระซิบว่า “ เจ้ๆ กระโปรงเหน็บอยู่ในกางเกงใน ” พร้อมกับเอามือดึงลงให้ พี่คิ้มบอกว่าอายสุดจะอาย แต่โชคดีไปว่าใส่แบบ hot plant กึ่งเต็มตัว โชคดีที่คนกันเองเห็นซะก่อน ไม่งั้นอายกว่านี้แน่ 555 อีกรายนึงในวันเดียวกัน พี่แอม คนนี้เห็นบอกว่าเข้าไปในห้องน้ำแล้ว กำลังจะปลดพันธนาการทีมงานเจ้ากรรมตามหาเรียกไปเตรียมตัวอีกเช่นกัน เป็นอันว่าธุระที่ว่าก็ยกยอดไปเกือบชั่วโมง แต่ละคนน่าเห็นใจเป็นที่สุด ตัดกลับมาที่แม่มัม “เพลงต่อไป ที่ดิฉันจะร้อง เชื่อว่าทุกคนคงจำกันได้ ” เป็นเพลงไหนไปเสียไม่ได้ถ้าไม่ใช่เพลง เติมใจให้กัน เพลงนี้ถูกหลายคนเอาไป Cover เพราะบ้าง พอฟังได้บ้าง เท่าที่รู้ๆมีคนทำมาแล้วกว่า 7-8 เวอร์ชั่น ที่ไม่รู้อีกเท่าไหร่ ไม่แน่ใจ สำหรับช้างชอบอยู่สองคน แม่มัมกับพี่โจ้ วงพอส ส่วนที่พี่ก้อง สหรัฐร้องนั้นไม่ใช่ว่าไม่เพราะ แต่มันเป็นเวอร์ชั่นที่เคยมอบให้รุ่นพี่สมัยเรียนคนนึง เลยพอฟังพี่ก้องร้องแล้วหน้ารุ่นพี่คนนั้นจะลอยมา ตุ๊บป่องๆ<---คนหรืออะไรน่ะ? (ฮือๆ แอบเข้าเรื่องตัวเองอีกจนได้) พอเพลงนี้ดังขึ้นไม่มีคนไหนในฮอล์ร้องไม่ได้ ยกเว้นแต่จะไม่ร้องเสียเอง แม่มัมเอามาถ่ายทอดได้ดีเหมือนเดิม มีใส่อารมณ์ขันเล่นกับคนดู หยอกเย้ากันน่ารักเชียวล่ะ พอร้องจบแม่มัมก็เล่นมุขเรียกเสียงหัวเราะอีก ช่วงที่แม่มัมออกมาคนดูหลายคนจากที่นั่งเงียบๆ กอดอก จับมือแฟนอยู่ก็เปลี่ยนมาเป็นปรบมือ ปิดปากขำกันไป ส่งท้ายแม่มัมกันด้วยเพลงชาติกระเทยไทย อ่ะแน่....อย่าคิดเชียวว่าจะร้อง I will survive อย่าคิดเชียวว่าจะร้อง ฉันก็เป็นผู้หญิง และอย่าคิดเชียวว่าจะร้อง ต้องสู้ถึงจะชนะ ( <---ป่านนี้พี่เจิน เจิน จะเป็นยังไงบ้างน้า เด็กๆเคยเต้นเพลงพี่เขาตอนงานโรงเรียน สมัยประถมด้วย ) แต่ทั้งหมดที่พูดมาแม่มัมร้องเกริ่นให้ฟังทู๊กเพลงซิเอา “ ใช่ซิค่ะ ดิฉันมันไม่ใช่ผู้หญิง ” แสร้งทำน้ำเสียงสั่นเครือ “ ไอ้ที่เห็นมันไม่ใช่นม แต่มันเป็น........ถุงเท้า” คนดูยังหัวเราะอยู่ “ ลองจับดูซิค่ะ คุณหนึ่ง แข็งเหมือนหัวเข่าเลย ” พี่หนึ่งรีบชักมือออกก่อนจะถึงเต้าพี่มัม คนดูฮาครืนกันใหญ่เลย “ อยากให้เขารู้....ว่ามันเจ็บ....เจ็บเพียงไหน...” เพลงสุดท้าย แสงไฟส่งแม่มัมให้เด่นท่ามกลางผู้ชมนับพัน ไม่อยากคิดเลยว่าคอนเสิร์ตเดี่ยวของแม่มัมในเดือนพฤศจิกาที่จะถึงนี้ที่มีชื่อว่า มัมโชว์แมน จะสนุกขนาดไหน ( ช้างไม่พลาดแน่นอน อิอิ) ดูเดี่ยวๆกันไปแล้ว สำหรับแขกรับเชิญต่อไปมากันเป็นกลุ่ม หนุ่มเหนือทั้ง 5 คน ETC <--ทำเสียงแอ็กโค่เยอะๆ 555 ETC ส่งสองหนุ่มมือคีย์บอร์ด พี่โซ่ พี่บีมาดวลเพลงกับพี่หนึ่ง แต่ที่ประทับใจกันสุดๆต้องเป็นตอนที่พี่หนึ่ง จักรวาล โซโลเปียโนเป็นเสียงกีตาร์คลาสสิก เนียนหาใดจะกล่าว คนดูปรบมือให้ความพริ้วเลย จากนั้นอีกพี่หนึ่ง ETC ก็มาร้องเพลงเธอคือใคร เป็นเพลงแรก ถัดมากับเพลงในอัลบั้ม Touch me ที่สุดแสนจะ Sexy ในเพลง จะอยู่กับฉันทั้งคืนได้ไหม เพลงที่ผสานความเป็น POP กับ R&B ไว้ด้วยกันอย่างดี ประกอบเสียงเปียโนในท่อนโซโล่ หากใครได้ยินเพลงนี้ แล้วไม่อยู่ต่อให้มันรู้ไป ! ขั้นด้วยการพูดคุย เห็น ETC โดยพี่โซ่เล่าว่า สมัยยังเป็นละอ่อนเจียงใหม่ ทั้งวงต้องนั่งรถทัวร์เพื่อมาดูพี่หนึ่งเล่นเปียโน จนในที่สุดก็ฝากเนื้อฝากตัวเป็นศิษย์มีครูกันจนได้ พอมาในงานนี้ศิษย์ก็เลยขอดวลกันเสียหน่อย พี่หนึ่ง ETC อย่างที่รู้กันว่าจริงๆแล้วเป็นมือกลองหน้าตาดีประวง หลังๆก็ได้พี่ดั๊ก Funk Machine มาช่วยเล่นให้ แต่คราวนี่ต้องยกคืนให้พี่หนึ่งชั่วคราว ฟอร์มวงกันเรียบร้อยก็ดวลกันในเพลง Ain't it funk เพลงเร็วในสไตล์ Funky จังหวะมันส์ด้วย Rhythm Drums and Bass ดูแล้วฝีมือแต่ละคนไม่น้อยหน้ากันสักนิดเลย พอเล่นจบยังไม่ทันหายเหงื่อแตก พี่หนึ่ง ETC ก็ชวนให้พี่หนึ่ง จักรวารร้องเพลงสักเพลงนึง ตอนแรกพี่หนึ่ง จักรวารมียึกยัก แต่เสียงปรบมือจากคนดูดังดักคอจนพี่หนึ่งต้องร้องจนได้ “ อ่านปากของฉันนะ ว่ารัก.........” ท่อนที่หายไปคนดูพร้อมใจกัน “ .....รักหนึ่ง ” แบบนี้คนไม่อยากร้องค่อยมีกำลังใจหน่อย ท้ายสุดสำหรับหนุ่มๆ ETC มอบเพลง สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าหัวใจ ให้กับแฟนๆ โดยที่พ่อโอเล่ แอบเอาเสียงน้องโอวามาเปิดในท่อน “ จั๊ดๆจาดีด้าดีจั๊ด...” ตัวไม่มาเสียงมาก็น่ารักแล้ว เข้ามาถึงกลางคอนเสิร์ตกันแล้ว บรรยากาศยังอบอุ่นเหมือนเดิม มีคนเดินกันเผ่นพล่านบ้างพอรกหูรกตา บนเวทีเด็กๆจากศูนย์รวมน้ำใจ คลองเตย 50 ชีวิต มาร่วมกันร้องเสียงประสานในเพลง A Whole New World Ost.การ์ตูน อาละดิน โดยมีนักร้องจากเวที KPN Music ปีทีผ่านมาทั้ง 5 คน ที่แต่ละคนก็เสียงดีกันทุกคนทั้งนั้นมาช่วยน้องๆ จบเพลงนี้เข้าโหมดซึ้ง พี่หนึ่งเล่าว่าที่เลือกน้องๆจากที่นี่เป็นเพราะพี่หนึ่งโตจากสลัมคลองเตย โตมาด้วยความฝันที่ว่าอยากเล่นเปียโนเก่งๆ อยากแต่งเพลง อยากมีคอนเสิร์ตใหญ่เป็นของตัวเอง จากวันที่คุณพ่อของพี่หนึ่งพาไปรู้จักกับเครื่องดนตรีชนิดนี้ พี่หนึ่งก็จะได้รับคำขอร้องให้เล่นเพลงลุกกรุง ให้คุณพ่อฟังบ่อยๆเวลาคุณพ่อเลิกงานกลับมา ใครจะเชื่อว่าวันนึงเด็กจากสลัมจะมายืนอยู่ตรงนี้ แล้วเสียงพี่หนึ่งก็ขาดหายไป เป็นเพราะน้ำใสๆไหลอาบแก้มอยู่นั้นเอง “ ผมขอขอบคุณพ่อกับแม่ที่ทำให้ผมมีวันนี้ ” เสียงพี่หนึ่งกลายเป็นสะอึกสะอื้นทันทีที่กล่าวถึงคุณแม่ที่มานั่งชมอยู่ ณ ที่นี้ด้วย ช้างได้แต่อึ้งๆ แล้วบอกกับตัวเองว่า มันไม่สำคัญหรอกว่าเราจะเกิดที่ไหน เป็นใคร รวยหรือจน ไม่มีอุปสรรคใดจะไม่ผ่านพ้นหากมีมานะแห่งตนอยู่ในตัว พี่หนึ่งเป็นอีกคนที่ช้างจะจดบันทึกไว้ในใจว่า เป็นคนดีและเป็นคนเก่งมากๆ ยังไม่วายแซวพี่หยาม มือกีตาร์ “ นี่ครับสยาม บ้านอยู่หลังเมรุวัดคลองเตยใน ” พี่หนึ่งไปจกน้องเด็กศูนย์รวมน้ำใจมาถามว่ารู้จักพี่หยามมั๊ย ปรากฏว่าเด็กส่ายหัวเดี๊ยเลย “ เฮ่ย หยามสงสัยบ้านจะอยู่ลึกเกินไป น้องเลยเข้าไปไม่ถึงแน่เลย” น้ำตาไหลยังตลกกลบเกลื่อนกันได้ “ ผมขอใช้พื้นทีบนเวทีนี้ เล่นเพลงที่เป็นตัวตนผมจริงๆกับเพื่อนรักที่โตมาด้วยกัน 2 คน เพื่อแม่ผมครับ ” พี่หนึ่งเชิญเพื่อนทั้ง 2 คนมาช่วย คนแรกเป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกันในสลัมคลองเตย พี่ธรรมรินทร์ ใจเพียร กับไวโอลีนคู่ใจ คนที่สองก็คือพี่ดั๊กของเรานี่เอง คราวนี้ไม่ได้มาตีกลองโชว์ แต่มาร้องนำ จริงๆพี่ดั๊กร้องเพลงเพราะโดยเฉพาะเพลงลูกทุ่ง ลูกกรุง หากใครยังจำได้ ในคอนเสิร์ตของพี่หนึ่งคราวที่แล้วที่ศูนย์วัฒนธรรม พี่ดั๊กก็ร้องเพลง คิดถึงพี่หน่อย จีบพี่คิ้มมาแล้ว วันนี้พี่หนึ่งควง Accordion หรือหีบเพลงมาเล่นด้วย ทั้ง 3 คนจะมาในบทเพลง ดาวจรัสแสง ของลุงก้าน แก้วสุพรรณ และแล้วพี่ดั๊กก็ไม่ทำให้ช้างผิดหวัง เนื้อเสียงเพราะคงเส้นคงวา 3คนเล่นรับสอดประสานทำเอาพี่หนึ่งเล่นไปน้ำตาไหลไปจนจบเพลง เมื่อทุกอย่างกลับสู้สภาพปกติโหมดความสนุกก็กลับมา แขกคนนี้เป็นคนที่ช้างก็พึ่งรู้จักและแอบหลงเสียงตั้งแต่วันงานแถลงข่าว นักร้องสาวร่างใหญ่ชาวฟิลลิปปินส์ คุณ Janice B.Javier เพื่อนพี่หนึ่งร่วมงานมาเป็นสิบปี ในเพลงที่คุณ Janice มีส่วนร่วมในการแต่งเนื้อร้องและรับหน้าที่เจ้าของเสียงเพลงนี้ด้วย กับ Stay With Me Tonight หรือชื่อไทยว่า จะอยู่กับฉันทั้งคืนได้ไหม นั่นเอง เป็นเพลงในแนว Smooth Jazz มีเสียงแซ๊กโซโฟนของพี่โก้มาเคล้าคลอทำให้เพลงเศร้าเข้าไปใหญ่ เสียดายพี่โก้ติดงานเลยไม่ได้มาช่วย เวลาทอล์กคุณ Janice ก็มีเส่นห์ พยายามเรียก พี่หนึ่งเป็นภาษาไทย แบบเพี้ยนๆเหน่อๆ แต่น่ารัก แถมเอ็นเตอร์เทนคนดูได้ดีมาก พูดคุยกันกับพี่หนึ่งตามประสาเพื่อนรู้ใจ คนนึงพูดภาษาอังกฤษขณะที่อีกคนพูดภาษาไทยล้วนๆ แต่เข้าใจกันได้ เออ...น่ารักดี คุณ Janice แซวว่าพี่หนึ่งเหมือน โอบาม่า เมืองไทย หันไปอีกทีมีขอ 100 บาทด้วย 55 เพลงที่สองคุณ Janice ขยับจังหวะขึ้นมาอีกนิดในเพลง Killing me Softly ของ Luther Vandross โอกาศนี้ได้เห็นคุณ Janice เต้นสนั่นเวที จับเอา Moon Walk ของ Michael Jackson มาโชว์จนคนดูส่งเสียงกรี๊ดกันใหญ่ ไม่แปลกใจเลยกับความเป็นมืออาชีพ บทจะซึ้งเศร้าก็ได้อารมณ์ บทจะสนุกก็สุดเหวี่ยง ไหนจะความเก่งกาจในเรื่องการแต่งเพลงอีก ในอัลบั้มนี้คุณ Janice ยังช่วยมา Feat. ในเพลง M y boyfriend อีก อืม...มีแต่คนเก่งๆทั้งนั้นเลยที่มาช่วยพี่หนึ่ง “ Janice ร้องเพลงไทยได้มั๊ย ” พี่หนึ่งถาม “ ได้นิดหน่อย ” คุณ Janice ไม่พูดพร่ำ เลือกเพลงไทยสนุกอย่าง เชฟบ๊ะ แค่ขึ้น Intro มาคนดูก็กรี๊ดไปล่วงหน้าแล้ว ใครจะเชื่อว่าหุ่นอวบๆแบบนั้นพูดไม่ชัดแบบนี้จะกล้าเอาเพลงนี้มาร้อง ขนาดพี่คิ้มร้องในรายการคืนนี้ วันนั้น ยังต้องซ้อมตั้งหลายรอบ นี่พูดไทยก็ไม่ได้ยังกล้าอีก สิบปากว่ามันไม่เท่าตาเห็น ร้องไปได้ครึ่งเพลงเจ้าของเพลงตัวจริง พี่ฮาย อาภาพรในชุดเต็มยศก็มาช่วยกันบ๊ะ!! คิดดูเอาบึ้มทุกจุดมาเจอกันพื้นเวทีแทบเอาไว้ไม่ไหว 555 “ ดีใจจริงๆนะฮะ ที่ได้ร้องกับพังกำไล ” คุณ Janice โดนพี่ฮายจวกไปดอกแรก พี่หนึ่งหันไปถามคุณ Janice ว่า “ เข้าใจมั๊ย ” เป็นไปดังคาดว่าคุณ Janice ไม่รู้ แต่ขอหัวเราะไว้ก่อน จากนั้นพี่ฮายก็ส่งพังกำไล เอ้ย คุณ Janice เข้าหลังเวที พี่ฮายก็เหมือนเดิมคือเอาเพลงดังๆมาเมดเล่ย์ อย่าง น้องนอนไม่หลับ, ชอบม่ะ, เลิกแล้วค่ะ อารมณ์เสีย มาร้องพร้อมทั้งขนเอาแดนซ์เซอร์มาประชันกันบนเวที บางเพลงก็มีแม่มัม ตอง คุณ Janice มาเดินผ่านแว๊บไปแว๊บมา เรียกได้ว่าพี่ฮายเดิมๆจะดีกว่า ดูที่รายการคืนนี้ วันนั้น คอนเสิร์ตโก๊ะตี๋อย่างไรก็อย่างนั้นหล่ะ ผ่าน....อย่างแรง เรายังเหลือแขกรับเชิญคนสุดท้ายคนนี้ช้างเคยชอบ ( ทำไมมันชอบเขาไปทั่วล่ะเนี่ย) สมัยมัธยมเธอเซอร์ได้ใจมากมายกับปาล์มมี่นั่นเอง อาร์ตตัวแม่ของเด็กรุ่นช้างเลย มี่มาในเพลง Angel ของ Sarah Mclachlan ขอบอกว่าเพราะเหนือคำบรรยาย ขนลุกไม่ใช่เพราะปวดท้องเข้าห้องน้ำนะ มันเพราะจนขนแขนต้องลุกมาแสดงความรู้สึกกันเลย แถมแสงบนเวทีก็ก็สวยเสียด้วย จบเพลงมี่ก็หยุดคุยกับพี่หนึ่งได้ความว่า ร่วมงานกันแต่ไม่เคยคุยกันจนมาวันนี้ได้กลับมาร้องนี้อีกครั้ง “ พี่หนึ่งชอบมิกกี้เม้าส์มาก แต่ทำไมตัวนี้ ( ข้างๆเปียโน ) เล็กจัง มี่มีอะไรให้ ” มี่หายไปหลังเวทีกลับมาอีกทีหอบเอามิกกี้เม้าส์ตัวเท่าพี่หนึ่งมาให้ เล่นเอาพี่หนึ่งปลื้มไม่หยุด ที่พี่หนึ่งชอบมิกกี้เม้าส์มันมาจากที่ตอนเด็กๆ พี่หนึ่งดูทีวีขาวดำแล้วมีเจ้ามิกกี้เม้าส์เล่นเปียโนจนพัง ซึ่งมันก็เป็นแรงบันดาลใจให้พี่หนึ่งที่กำลังพึ่งจะหัดเล่นเปียโนอยู่เหมือนกัน พี่หนึ่งเลยชอบตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา แล้วมี่ก็จัดเพลงเศร้าอย่าง Your Are Not Alone ของ Michael Jackson เป็นเพลงต่อมา ดูเหมือนมี่จะติดใจเสียแล้ว “ขอร้องอีก 1..2..3..4 เพลงได้มั๊ยค่ะ ” มี่ขอพร้อมเสียงเชียร์จากคนดู ทั้งยังร้องเพลง LoveMe Tender ไปจับมือพี่หนึ่งเต้นไป จนพี่หนึ่งเขินเลย นึกถึงมี่ก็ต้องนึกถึงเพลงสนุก แต่ก่อนจะสนุกมี่เล่นชวนคนดูลุกให้หมด แหม...ช้างก็ขี้อายเสียด้วย ลุกคนแรกๆเลย อิอิ มี่จัดเพลงมันส์อย่าง อู๊ว / อยากร้องดังๆ / ติ๊กต๊อก 3 เพลงสนุกในอัลบั้มเก่าๆที่หลายคนคิดถึง งานนี้ข้างหลังช้างท่าทางจะเป็นแฟนคลับมี่ เห็นหอบดอกไม้ช่อโตไปบอกรักมี่หน้าเวทีด้วย 3 เพลงที่คนดูไม่ได้นั่งเลย เต้นตามมี่กันใหญ่ เรื่องความสนุกมี่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ช้างก็แค่โยกซ้ายขวาพอกรุบกริบ อายผู้ชายคนนั่งข้างๆ เขาเต้นสุดตัวจนช้างเกรงอกเกรงใจ ฝากข้างๆพี่เก้ก็บ่นตั้งแต่หัวงานยันท้ายงาน รำคาญอิ๋บอ๋าย ไม่รู้ใครทำให้นางเสียตังค์มาดู บ่นอยู่นั่นหล่ะ เราเดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว แขกรับเชิญทุกคนออกมายืนเรียงหน้ากระดาน กระดาษ paper-shoot ค่อยๆหล่นร่วงลงมา เสียงพี่หนึ่งขอบคุณแทรกมากับเสียงเพลง “ ขอบคุณคุณดาว KPN ที่ทำให้ฝันผมเป็นจริง ขอบคุณเพื่อนอู๋ สำหรับ Script ดีๆ ขอบคุณเครื่องดนตรีจากพี่แป๋วที่ให้ยืมมาบนเวทีนี้ เสร็จงานผมขอกลับบ้านนะครับ ขอบคุณคนดูทุกคนที่มาดูคตอนเสิร์ตครั้งสำคัญในชีวิตผม ที่สำคัญขอบคุณแม่มากๆครับ ผมรักแม่นะครับ ” คำขอบคุณมากมายที่พี่หนึ่งทยอยขอบคุณ ทุกๆคนที่พูดมาเป็นกำลังอันล้นเหลือให้พี่หนึ่ง แม้ว่าเราหลายคนจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่นี่เป็นก้าวสำคัญที่เราได้เปิดโอกาศให้คนดนตรีดีๆมีพื้นที่ยืน ไม่ใช่แค่ภูมิใจแต่ปาก แล้วไม่สนับสนุน สำหรับช้างไม่เสียดายเลยกับค่าบัตรมันเป็นจำนวนเงินที่เต็มใจจ่าย ขอบคุณพี่หนึ่งเช่นกันที่สร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในตัวช้าง ขอให้มีผลงานดีๆต่อไป ฝันไว้แค่ไหนไปให้ถึงนะพี่ !! ป.ล. หลังคอนเสิร์ตจบ พี่หนึ่งมายืนตัวเป็นๆให้ถ่ายรูปหน้า Black drop คนมุงกันเยอะมาก ช้างทำตัวเล็กที่สุดในชีวิตแทรกตัวเข้าไปขอถ่ายรูปกับพี่หนึ่ง ไม่น่าเชื่อว่าพี่หนึ่งจำช้างได้ แถมยังถามเรื่องพี่คิ้มกับช้างอีก ช้างอดตกใจไม่ได้เพราะอันที่จริงได้ใกล้ชิดกับพี่หนึ่งก็แค่ตอนรายการคืนนี้ วันนั้น กับตอนตามงานพี่คิ้ม ซึ่งก็ห่างมาค่อยข้างนาน พี่หนึ่งจำได้น่ารักจัง ออกจากงานยังไม่เลิกะพูดถึงพี่หนึ่ง จนคนไปด้วยเริ่มเอียน แหมก็คนมันปลื้มอ่ะ อิอิ ขอบคุณรูปสวย ๆ จาก //www.you2play.com/gallery/detail/id,198/Touch_Me_Concert_โดย_หนึ่ง-จักรวาร ดูรูปจากสมาชิก pantip เพิ่มเติมได้ที่ //www.pantip.com/cafe/chalermkrung/topic/C8208361/C8208361.html //www.pantip.com/cafe/chalermkrung/topic/C8214450/C8214450.html ร้อยเรียงเรื่องราว โดย ช้างน้อย นำเสนอ โดย บูเก้ Apple & Bouquet Productions...

Create Date : 29 สิงหาคม 2552		31 comments
Last Update : 29 สิงหาคม 2552 20:27:40 น.
Counter : 1211 Pageviews.
Share Tweet