คืนนี้ วันนั้น (เวอร์ชั่นซาลาเปา)

	คืนนี้ วันนั้น (เวอร์ชั่นซาลาเปา)อ่านชื่อเรื่องแล้วอย่างพึ่งนึกขำว่าเราจะเขียนถึงขั้นตอนวิธีการทำซาลาเปาแต่อย่างใด เราแค่กำลังเรียบเรียงถึงสิ่งใหม่ๆที่เราและพี่ๆน้องๆไปเจอกันมาก็เท่านั้น คนเบื้องหน้าอย่างพวกเราที่คอยจับตามองรายการนู้น รายการนี้ สนุกสนานกับการรับชมรับฟัง เบื้องหน้าที่เราเห็นกันจนชินตา แต่วันนี้เรามีโอกาสไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์เบื้องหลัง รายการ คืนนี้ วันนั้น ที่พี่คิ้มเป็นพิธีกร พวกเรารวมตัวกันอีกครั้งหน้าสตูดิโอ JSL ก่อนอื่นต้องขอบคุณความกรุณาของพี่ขวัญที่ช่วยเป็นธุระให้น้องๆ ส่วนพี่แก้วที่มาไม่ได้ก็อุตส่าห์ให้แมสเซนเจอร์หอบคุ๊กกี้กล่องใหญ่จากโรงแรมสุดหรูมาฝากพี่คิ้มเช่นเคย เราถือพะรุงพะรังลงจากรถ ทักทายพี่ๆเพื่อนๆและน้องๆ เรียบร้อย สักพักพี่ทีมงานก็เดินมารับและบอกให้รอในห้อง อ้อ..ลืมบอกไปว่าวันนี้มีการอัด 2 เทป เทปแรกเป็นพี่เช็ค สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ พิธีกรคนเก่ง แห่งทีวีบูรพา และอีกเทปเป็นพี่แอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตร หนึ่งในดีว่าของเมืองไทย “พี่กบ ขอบคุณนะคะ” พี่กบ เป็นหนึ่งในทีมงานที่น่ารัก ฝากพวกเราไว้กับพี่ทีมงานอีกคน พี่กบเดินพาเราเข้าไปในสตูเพื่อเอาคุ๊กกี้ไปให้พี่คิ้มก่อน แต่ดูเหมือนพี่คิ้มกำลังยุ่งๆอยู่กับการจำเนื้อเพลง “ไม่เป็นไรคะพี่กบ เดี๋ยวรอก่อนก็ได้”ไม่นานพี่กบก็เดินมาเรียกพวกเรา“หลบหน่อยคะ ให้แฟนคลับพี่คิ้มเข้าก่อนคะ” พี่กบเดินพาพวหเราแหวกวงนักศึกษาที่ยืนออหน้าประตู “แฟนคลับนั้งแถวหน้าเลยจ๊ะ”พี่กบร้องบอกให้ ป๊อย จัดที่ใหขอพูดถึง ป๊อย หน่อยละกัน.. ป๊อยเป็น สาวน้อยในร่างผู้ชายกำยำ หุ่นล่ำกระปุ๊กลุก ไม่ต่างจากถังแก๊ซของ ปตท ทำหน้าที่จัดระเบียบคิวต่างๆในการปรบมือ ส่งเสียงกรี๊ด ด้วยลีลาและท่าทางที่ตลกขบขันสามารถเรียกเสียงหัวเราะ ทำให้บรรยากาศการรอไม่น่าเบื่อ ป๊อยมักจะออกสเต็ปแย่งซีนคนบนเวทีตลอดเวลา ป๊อยเป็นคนที่มีศิลปะในการชักจูงใจให้คนอื่นทำตามที่ป๊อยสั่งได้เป็นอย่างดี สาวน้อยผู้น่ารักคนนี้เลยเป็นขวัญใจพวกเราตลอดการรับชมรายการ รวมถึงเป็นขวัญใจทีมงานและพี่คิ้มด้วย จนพี่คิ้มตั้งฉายาว่า ตุ๊ดไก่สกัด ให้กับ ป๊อย “เอาของไปให้พี่คิ้มกัน” พี่กบกวักมือเรียกเรา พี่ขวัญส่งถุงของขวัญเล็กติดมือเรามาด้วย พี่กบเดินพาเราตรงไปยังห้องแต่งตัว ซึ่งอยู่หลังฉากนั่นหล่ะ “หวัดดีคะ พี่ไก่” เราเอ่ยทักพิธีกรหญิงประจำรายการ “เฮ้ย มาได้งัยเนี่ย” “ข้าวตูด่ามันซิ” นั่นงัยเจอหน้าตูปั๊บด่าตูปุ๊บ วุ้ยป้านิ!! “เฮ้ย ผีหลอก มาทำไมเนี่ย” พี่ข้าวตูทัก ก่อนที่จะบ่นเราไปมากกว่านี้ เรายื่นถุงใบใหญ่เท่ากระสอบปุ๋ยที่พี่แก้วฝากมา เพื่อเป็นการปิดปาก ที่ไหนได้บ่นเราหนักกว่าเดิมอีก “โอ้โห พี่จะทำยังงัยกะพวกแกดีเนี่ย” “เรื่องซื้อของให้พี่เนี่ย ไม่ต้องซื้อแล้วนะ” หลังจากนั้นก็ก้มมองของที่อยู่ข้างใน “พี่แก้วฝากมาอ่ะ” เราเอาชื่อพี่แก้วเป็นเกราะทันที และก่อนที่จะเปลี่ยนจากบ่นเป็นด่า เราเลยควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋า เพื่อต่อสายให้คุยกันเอาเอง พอหาเจอมือเจ้ากรรมดันสั่น..น..นนๆ!! ขอสารภาพตรงนี้เลยว่าถึงแม้เราจะเจอพี่คิ้มบ่อยแล้ว แต่ทุกครั้งก็ยังตื่นเต้น ประหม่ามือไม้สั่น เป็นประจำ “ไอ้เปิ้ลแกจะสั่นทำไม ดูมันซิข้าวตู” พี่คิ้มฟาดแขนเราดังเพี้ย!! โอ๊ย นึกเจ็บอยู่ในใจแต่เก็บไว้ก่อน ฮืม!! “ต่อสายให้พี่คุยกับพี่แก้วซิ” สั่งตูอีกน่ะ “ฮัลโหล แก้ว คราวหน้าไม่เอาแล้วนะ เงินเดือนหมดกันพอดี มันแพงนะเนี่ย” “พี่กำลังลดความอ้วนอยู่ เกิดอดใจไม่ไหวกินหมดจะทำไง” พี่คิ้มร่ายยาวเลยทีนี้ “พี่ว่าเค้กของ.....อร่อยกว่านะ” พี่คิ้มเผลอเอ่ยชื่อร้านเค้กเจ้าประจำ “แต่มันแพง พี่ซื้อกินเองได้นะ ” “เนี่ยเดี๋ยวพี่กำลังจะนัดเด็กๆไปกินข้าว แล้วยังงัย แก้ว มากินด้วยกันนะ” พี่คิ้มชวนพี่แก้ว ปลายสายจะว่ายังไงเราไม่รู้เหมือนกัน แต่เห็นคุยออกรสออกชาติ ในขณะที่เรายืนใจตุ๊มๆต่อมๆ เพราะกลัวว่าเงินในมือถือจะหมดซะก่อน (ลืมเติมเงินอย่างแรง หุหุหุ) คุยกันเสร็จสรรพ พี่คิ้มส่งโทรศัพท์คืน ให้เราแต่พี่คิ้มยื้อไว้อีก ก่อนจะหยิบกลับไปดูรูปหน้าจอ “เอางี้เลยหรอ” พี่คิ้มเงยหน้ามองเรา ไม่ต้องสงสัยรูปหน้าจอ รวมทั้งเสียงเรียกเข้าเป็น เจนนิเฟอร์ คิ้ม ทั้งนั้น “ก็ถ้าโทรศัพท์หนูหาย เค้าก็คืนพี่หล่ะ” เรายอกย้อน “มากันกี่คน” “กินข้าวรึยัง” “โดดงานมาหรอ” “มีนั้งรึยัง”พี่คิ้มยิงมาเป็นชุด เราอึกอักนิดหน่อยก็ตรงที่ดันถามว่าโดดงานมารึเปล่า อยากให้คนอ่านได้เห็นสีหน้าตอนถามคำถามนี้จัง ดุมากก!! เราตอบแค่บางคำถาม ก่อนจะเดินออกมาจากห้องนั้น กลับเข้าสตู เทปแรกเริ่มทำการบันทึก อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า พี่เช็ค สุทธิพงษ์ มาเป็นแขกบรรยากาศเลยเข้มตามหน้าพี่เช็ค แล้วเพลงที่พี่คิ้มต้องร้องก็ติดๆขัดอยู่ 8 เทป กว่าจะผ่านไปได้ เรานั้งดูทีมงานที่วิ่งวุ่น ตั้งแต่ตากล้อง ช่างไฟ ผู้กำกับเวที รวมถึงป๊อย เห็นแล้วเหนื่อยแทน สิ่งที่เราได้เห็นอีกอย่างคือ ความพยายาม ความยากลำบาก ในการเป็นพิธีกรของพี่คิ้ม ตลอดเวลาผู้กำกับเวทีต้องส่งสันญญาณเตือนพี่คิ้มเรื่องมุมกล้องบ้าง เรื่องสคิปบ้าง เลยเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ง่ายเลย กว่าจะออกมาสนุก คนดูจะรู้บ้างมั๊ยว่ามันเคร่งเครียดพอสมควร ไหนต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจ ของหลายๆฝ่าย เทปแรกเริ่มอัดตอนบ่าย 2 กว่าจะเสร็จ เกือบ 6 โมง ช่วงพักเบรคพวกเราออกไปหาอะไรกิน สั่งอาหารเรียบร้อยพี่จิ๊บ (วงทาเคชิ) มาร่วมวงด้วย คุยกันเฮฮาตามประสาพี่ๆน้องๆ สักพักน้องอิมซึ่งตามมาทีหลัง ส่วนปาล์มบอกให้เราเอาการ์ดที่เจ้าตัวอุตส่าห์เขียนจากใจด้วยลายมือ ไปให้พี่คิ้ม เราเดินตรงไปที่ห้องแต่งหน้า “พี่ไก่ ปาล์มให้เอามาให้” ยื่นซองน้ำตาลให้ไป “มีมานะเนอะ”พี่คิ้มรำพึง เราชี้มือออกไปนอกห้อง ขณะที่ปาล์มอยู่ตรงเป้าหมายที่เราชี้ พี่คิ้มกวักมือเรียกน้องสาวเราเข้าไป “เฮ้ย มาทำไรเนี่ย เด็กโรงเรียนบ้านนอก” พี่คิ้มลุกขึ้นทักน้องเรา “โรงเรียนหนูอยู่แถวนี้อ่ะ” ปาล์มอ้าง “เห็นตามไปที่ไหนมันก็บอกอยู่แถวนั้นตลอดหล่ะ” ปาล์มทำตัวลีบๆ เขินๆ พี่คิ้มเดินไปหยิบซาลาเปาส่งให้เรา “เอาไปแบ่งกันกินนะ” พวกเรากลับมาที่โต๊ะแบ่งซาลาเปาให้ทุกๆคนกิน พี่จิ๊บก็มาวนเวียนแซวน้องๆอยู่นั่นหล่ะ คว้าซาลาเปาในมือเรา (เอาแต่หมูไปด้วยนะ) เข้าปากซะงั้น พอเริ่มอัดเทป 2 ทีมงานก็จัดที่ไว้ให้ตามเคย เดินตรงไปนั้ง บนเวทีเป็นพี่แอม เสาวลักษณ์กำลังซักซ้อมคิว แถมมี ญารินดา ที่มาดเซอร์เหลือเกินมาซ้อมเช่นกัน ส่วนพี่คิ้มก็ซ้อมเพลง ทางเดินแห่งรักกับทิน ตะกุกตะกักนิดหน่อย แต่เทปนี้ลื่นไหลใช้เวลาอัด 2 เบรก จน 3 ทุ่ม พี่แอมน่ารักมากๆ แซวทีมงาน คนดู รวมถึงลงมานั้งข้างๆกลุ่มพวกเรา ยิ้มหวานให้ถ่ายรูป น่าเสียดายที่พวกเราต้องกลับบ้านก่อนจะอัดจบ เพราะมีเยาวชนของชาติต้องรีบกลับบ้าน เห็นมั๊ยว่าสิ่งที่เราเห็นอาจไม่เป็นอย่างที่เราคิด เบื้องหน้าที่สนุก แต่เบื้องหลังแลกมาด้วยความตั้งใจของหลายๆฝ่าย ฝากให้ทุกคนดูรายการ คืนนี้ วันนั้น ที่พี่คิ้มตั้งอกตั้งใจกับงานนี้มากๆ และอยากให้รู้สึกสนุกไปกับเสียงเพลงและเนื้อหาของรายการ ไปพร้อมๆกัน ร้อยเรียงเรื่องราว โดย ช้างน้อย นำเสนอ โดย บูเก้ Apple & Bouquet Productions...

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2551		5 comments
Last Update : 30 มกราคม 2553 14:55:46 น.
Counter : 700 Pageviews.
Share Tweet