เลือกสุนัขอย่างไรไม่เสี่ยง





เลือกสุนัขอย่างไรไม่เสี่ยง



ก่อนตัดสินใจซื้อลูกสุนัข ลูกสุนัขที่ดีนั้น นอกจากลักษณะจะถูกต้องและตรงตามสายพันธุ์นั้นๆแล้ว สุขภาพด้านร่างกายและจิตใจก็สำคัญ มากพอๆกัน การเลือกลูกสุนัขแต่ละตัว จึงมีความสำคัญมาก

ขั้นแรกการไปเลือกซื้อลูกสุนัขนั้น ควรดูสถานที่เลี้ยง,คอก,ฟาร์มสุนัข ที่เราไปดูด้วยว่า สะอาดแค่ไหน และมีกลิ่นเหม็นหรือไม่ เพราะแสดง ถึงการเอาใจใส่ในการเลี้ยงของคอกหรือฟาร์มสุนัขนั้นๆ ถ้า สรกปรกเหม็นก็อาจเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคต่างๆได้ และการซื้อลูกสุนัข เราก็ไม่จำเป็นต้องซื้อทันที ในครั้งแรกที่ไปดู (ควรไปดูอย่างน้อยสองถึงสามครั้ง) เพราะเรายังไม่รู้ว่า ลูกสุนัขที่เราจะซื้อนั้น กำลังเป็นโรคติดต่ออะไรอยู่บ้าง และกำลังอยู่ ในช่วงที่ ไม่แสดงอาการหรือไม่ เช่นกำลังเริ่มมีอาการขั้นต้นของโรคหัด เริ่มมีน้ำมูกใสเป็นหวัด แต่ยังไม่แสดงอาการถึงขั้น ขี้มูก,ขี้ตาเขียว จนเห็นได้ชัด หรือกำลังเริ่มมี อาการลำไส้อักเสบขั้นต้น คือถ่ายเหลวเป็นมูก แต่ยังไม่แสดงอาการถึงขั้น ถ่ายเป็นเลือดและร่างกาย ยังไม่อ่อนแอ ลูกสุนัขเหล่านั้น ก็ยังคง วิ่งเล่นและกินอาหาร ได้ตามปกติ

ซึ่งอาการขั้นต้น ของโรคบางอย่าง ก็ดูยากมาก ถ้าคุณไม่ได้เลี้ยงสุนัขมานานและคุ้นเคยกับโรคแหล่านี้ ก็ยากที่จะสังเกตได้ ถ้าเราซื้อ ลูกสุนัขที่อยู่ในช่วงนี้มา พออยู่กับเรา 5-7 วัน อาการของโรคต่างๆก็จะแสดงให้เห็น ได้ชัดเจนขึ้น เพราะร่างกาย ลูกสุนัขเริ่มอ่อนแอ ทำให้เราต้องเอามารักษา เสียทั้งเวลา และค่าใช้จ่าย รวมถึง เสียความรู้สึกดีๆไปด้วย และในบางกรณี ก็ตาย หรือถ้ารอดก็ได้ลูกสุนัขที่ไม่สมบรูณ์ (ลูกสุนัขพันธุ์ใหญ่ถ้าสะดุด ด้วยอาการป่วย อาจทำให้สุนัขแคระ,แกรน และไม่สมบรูณ์ได้)

การกลับไปดูครั้งต่อไป ควรเว้นระยะเวลาซัก สองถึงสามวัน แล้วค่อยกลับไปดูอีกครั้ง เพื่อสังเกต อาการของลูกสุนัข ตัวเดิม ถ้ายังแข็งแรงเหมือน ครั้งแรก ที่ไปเจอ ก็ค่อยตัดสินใจซื้อ แต่ก็ไม่เป็นการรับประกัน 100% ว่าลูกสุนัขตัวนั้นจะไม่เป็นโรคติดต่อใดๆ เลย เมื่อเราเอากลับมา เป็นเพียงการ ป้องกันขั้นแรก ที่จะไม่เลือกลูกสุนัขที่มี โอกาส เสี่ยงจะเป็นโรคมาเท่านั้น (ลูกสุนัขบางตัว อาจต้องใช้เวลาไปดู สามถึงสี่ครั้งและเว้นช่วงระยะห่างซักสองถึงสามวัน เพื่อความแน่ใจ ว่าปลอดภัยจริงๆ และต้องทำใจไว้ก่อนเลย ว่าอาจจะไม่ได้ลูกสุนัขตัวนั้นๆมา เพราะคนอื่นอาจแย่งซื้อไปก่อน แต่ก็ยังดีกว่าเสี่ยงซื้อในทันที ที่เจอลูกสุนัขครั้งแรก (ลูกสุนัขราคาแพงไม่ใช่ เครื่องรับประกันว่าจะไม่มีหรือไม่เป็นโรค ลูกสุนัขราคาแพงก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคได้เท่าๆกับสุนัขราคาถูกทั่วๆไป)

และในบางครั้ง โรคติดต่อก็ไม่ได้มาจากฟาร์มหรือคอกสุนัขแต่เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น คนซื้อลูกสุนัข ก็อาจเป็น พาหะนำโรคไปสู่ฟาร์ม,คอกหรือลูกสุนัขได้เช่นกัน ตัวอย่าง คนซื้อลูกสุนัข ไปดูลูกสุนัข หลายฟาร์มหลายคอก สัมผัสลูกสุนัขหลายตัว บางตัวอาจอยู่ในช่วงเพาะเชื้อหรือเป็นพาหะ เมื่อคนซื้อจับหรือเล่นกับลูกสุนัขเหล่านั้นแล้ว ลูกสุนัขเลียมือ หรือสัมผัสน้ำมูกน้ำลาย โดยไม่รู้ตัวหรือไม่ได้ล้างมือด้วยยาฆ่าเชื้อ แล้วคนซื้อก็มาจับ ลูกสุนัขที่ฟาร์มอื่นหรือคอกอื่นต่อๆไป คนซื้อก็เป็นเป็นพาหะใน การพาโรคจากฟาร์มหนึ่งไปอีกฟาร์มหนึ่งได้ (ฟาร์มหรือคอกบางแห่งไม่ให้ ลูกค้าจับลูกสุนัข เพราะกลัวโรคที่จะมากับคนซื้อ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงติดโรค ถึงจะถูกลูกค้าว่าหรือบางราย ก็ไม่ซื้อเลยก็มี ก็ยังดีกว่าเสี่ยงกับโรคติดต่อเหล่านี้)

การสังเกต ขั้นต้น การไปดูลูกสุนัขแต่ละครั้ง ควรใช้ระยะเวลานานพอสมควร ควรให้เจ้าของฟาร์ม ปล่อยลูกสุนัขวิ่งในคอก หรือสถานที่ๆลูกสุนัขคุ้นเคย แล้ว เลือกตัวที่เราสนใจ ให้เขาปล่อยทิ้งไว้แล้ว เก็บตัวอื่นๆออกไป แล้วสังเกต อาการไปเรื่อย ๆ นั่งรอจนกว่าลูกสุนัขจะหลับ(ชวนเจ้าของฟาร์มคุยไปเรื่อยๆ ถ้ามีโอกาส)แล้วดูว่า มีอาการชักกระตุก เวลาลูกสุนัขหลับ สนิท หรือไม่ อาการกระตุกมากน้อย ขนาดไหน ถ้ามีอาการกระตุกมาก ถึงขั้นชักกระตุก หนังหัว,มุมปากกระตุก ขากระตุกเหมือนกำลังวิ่ง แสดงว่า กำลังเป็นโรคหัดหรือเคยเป็นโรคหัดมาก่อน (ในลูกสุนัขพันธุ์ใหญ่ ร่างกายเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อลูกสุนัขหลับสนิทอาจมีอาการกระตุกได้บ้างเล็กน้อยเท่านั้น)และ อาจนั่งรอจนลูกสุนัข ถ่ายอุจจาระ สังเกตว่าท้องเสียหรือไม่ ถ่ายเหลวเป็นน้ำ,มีเมือก, มีเลือดปน,มีสีดำ,น้ำตาลดำ,มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวหรือเหม็นคาวหรือไม่ ลูกสุนัขที่สุขภาพดี ต้องถ่ายเป็นก้อนเป็นรูปทรงและไม่แข็งหรือเหลวจนเกินไป อุจจาระต้องไม่มีเมือกหรือเลือดปน และต้องไม่เหม็นคาวหรือเหม็น มาก จนผิดปกติ ขั้นตอนต่อไปควรดู

1)ตา รอบดวงตาไม่แฉะไม่มีขี้ตาและไม่มีน้ำตาไหลเยิ้มจนเห็นได้ชัดเพราะการมีน้ำตาไหลเยิ้มอาจบอกได้ว่าสุนัขเคืองตา เกิดจากหนังตาม้วน หรือ ขนตาแทงลูกตา(ขนน้ำตา) ดูสีขน รอบดวงตา ดูร่องน้ำตา ว่าสีขนเปลี่ยนไปหรือไม่ เช่น มีสีอมเหลือง,อมเขียว เพราะอาจบอกได้ว่ากำลังเป็นโรคบางอย่างอยู่

2)จมูก ต้องไม่แห้ง,แตก ควรชื้น,นิ่มและเย็น และต้องไม่มีน้ำมูกข้น หรือน้ำมูกสีขุ่น,ขาว หรือมีสีอมเหลือง,อมเขียว การมีน้ำใสๆไหลออกจากจมูกหรือกระเด็นออกจากจมูกบ้างถือเป็นเรื่องปกติ (แต่ถ้าไหลเยิ้มมากๆ อาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคหวัดหรือหัดได้ วิธีดูว่ามากไปหรือไม่ ให้ดูที่ขนรอบๆปีกจมูก ว่าเปียกหรือไม่ ถ้าชื้นจนเปียกก็ไม่น่าเสี่ยงและรอบจมูก มีขี้มูกแห้งติดบ้างหรือไม่ ขนบริเวณจมูก สีเปลี่ยนไปหรือไม่ เช่นสีอมเหลือ,อมเขียวแสดงว่ากำลังเป็นโรคบางอย่างอยู่) ดมกลิ่นลมหายใจด้วยว่าเหม็นหรือไม่ ถ้าเหม็น อาจมีปัญหาติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้

3)ปาก รอบปากริมฝีปากต้องไม่แหว่ง ปากและน้ำลายต้องไม่มีกลิ่นเหม็น ลิ้นต้องไม่แตก ไม่ซีดขาว ไม่เป็นฝ้าขาวเป็นดวงๆหรือเป็นเม็ดขึ้นที่ลิ้น หรือ ลิ้นผิดรูปร่าง,ลิ้นแหว่ง,ลิ้นขาด เพราะฟันสบกันไม่พอดี และลิ้นควรมีสีแดงอมชมพู

4)ฟัน ต้องสบกันพอดี หุบปากแล้วฟันต้องสนิทกันตามมาตรฐานสายพันธุ์ (การดูฟันในสุนัขอายุน้อย ไม่มีประโยชน์ จากประสบการณ์ ที่เลี้ยงมา อาจดูได้คร่าวๆ พอเป็นแนวทาง เท่านั้น เมื่อโตแล้วเปลี่ยนแปลงได้อย่างมาก ตอนเด็กฟันสบกันพอดี เมื่อโตแล้ว กราม เบี้ยวหุบปากไม่ได้ ก็มี หรือเมื่ออายุน้อย ฟันไม่สบกัน ฟันล่างยื่นมาก เมื่อโตเต็มที่แล้ว ฟันกลับสบกันได้สวย เป็นแชมป์มาแล้วก็ดี ขึ้นอยู่ที่สายเลือดเป็นหลัก พ่อ,แม่ ฟันเป็นอย่างไร ลูกก็เป็นอย่างนั้น (ดูใน มาตราฐานสายพันธุ์)

5)หู ทดสอบว่าหูหนวก หรือไม่ ปล่อยลูกสุนัขวิ่งแล้วเรียก หรือทำเสียงดังดูว่าลูกสุนัข สนใจหรือไม่ ทำเสียงข้างหูเบาๆ แล้วดูว่าลูกสุนัขรับรู้ได้เท่ากันทั้งสองข้างหรือไม่ (วิธีทดลอบง่ายๆ เอาพวงกุญแจเขย่า ข้างหูเบาๆ ทีละข้างและดูว่ามีการตอบสนองหรือไม่) ในรูหู ต้องไม่มีขี้หู ดมแล้วไม่เหม็น ผิวด้านในบริเวณใบหู ต้องไม่แห้งตกสะเก็ดหรือเยิ้มแฉะ หรือมีรอยฟกช้ำเป็นแผลเป็นตุ่มหนอง ลูกสุนัขต้องไม่เกาหู,สะบัดหูบ่อยๆ หรือเอาหู ถูพื้นบ่อยๆ แสดงว่าหูอักเสบ คันหูหรือมีเห็บ,หมัดหรือมีไรอยู่ในหู

6)อวัยวะเพศ ดูว่ามีหนองหรือมีกลิ่นหรือน้ำอะไรไหลและซึมออกมาบ้างหรือไม่ สีขนรอบๆต้องไม่ มีสีอมเหลือ,อมเขียว แสดงว่ากำลังเป็นโรคบางอย่าง)ในสุนัขเพศผู้ คลำดูลูกอัณฑะ ว่าครบหรือไม่ (ในสุนัขอายุน้อยก็อาจยังคลำไม่พบ)

7)รูทวาร ต้องปิดสนิท ไม่มีเศษ อุจจาระแห้งติดอยู่ และดูสีขนรอบๆต้องไม่เป็น สีอมเหลือ,อมเขียว ถ้ามีแสดงว่ากำลังท้องเสียหรือเป็นโรคบางอย่าง)และลูกสุนัขต้องไม่เอาก้นไถพื้น ถ้าลูกสุนัขชอบเอาก้นไถพื้น แสดงว่า มีพยาธิ หรือท้องผูก อึติดก้น

8)เท้าทั้งสี่ข้าง ดูเล็บว่า มีเล็บคุด,เล็บงุ้ม แทงเข้าเนื้อหรือไม่ และดูด้วยว่า ง่ามนิ้วเท้าทั้งด้านบนและด้านล่าง แห้งตกสะเก็ดหรือเปื่อย,มีกลิ่นเหม็นหรือไม่ ดูที่ใต้อุ้งเท้า ว่าแห้งและแข็งหรือไม่ (ถ้าแข็งไม่นิ่มแสดงว่ากำลังมีอาการของ โรคหัดหรือเคยเป็นโรคหัดมาก่อน การยืนและลักษณะขาที่ถูกต้อง (ดูใน มาตราฐานสายพันธุ์)

มุมขาหลัง ขาหลังสำคัญมากในสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่มีน้ำหนักตัวมาก และเกี่ยวไปถึงการเดินและวิ่งด้วย
มุมขาหลังไม่ดี คือมุมขาหลัง ตึง เป็นเส้นตรง(ตามรูปที่1)ลูกสุนัขจะเดินและวิ่งไม่สวยอาจเกิดอุบัติเหตุง่ายและอาจบ่งบอกถึงการเป็นโรคข้อสะโพกห่างในอนาคต
มุมขาที่ดี ควรหย่อยพอสมควร(ตามรูปที่2)การเดินหรือวิ่ง การถ่ายน้ำหนักจะดีกว่า (ดูใน มาตราฐานสายพันธุ์)

          

9)การเดิน การวิ่ง ต้องปล่อยเดินหรือวิ่ง ในคอกหรือสถานที่ๆลูกสุนัขคุ้นเคย แล้วดูการเดิน,วิ่ง ว่าปกติหรือไม่ ไม่วิ่งไปล้มไป เดินหรือวิ่งแล้วล้มบ่อยๆ แสดงว่ามีอาการขาอ่อน เมื่อโตขึ้นอาจเกิดปัญหาได้ ถ้าลูกสุนัขวิ่งเล่นแล้วล้ม จะล้มต้องล้มทั้งตัว ไม่ใช่ขาข้างใดข้างหนึ่งทรุดแล้วล้มลง สังเกตเวลาล้มให้ดี และต้อง ไม่วิ่งหรือเดินเหมือนขาเจ็บ ขากระเพลก หรือเดินและวิ่ง เหมือนไม่เต็มเท้า เขย่ง ข้างใดข้างหนึ่ง แสดงว่าขาใดขาหนึ่งมีปัญหา ในลูกสุนัข อายุน้อย น้ำหนักยังไม่มาก ถ้าเดิน กระเพลก หรือขาเป๋ปัดไปปัดมา เมื่อโตขึ้นน้ำหนักตัวมากขึ้นอีกหลายเท่า (โตเต็มที่อาจหนักถึง85-90กิโลกรัม) อาการเดินกระเพลก หรือขาเป๋ปัดไปปัดมา ก็ยิ่งมากขึ้นอีกหลายเท่าเช่นกัน (อย่าเชื่อถ้าเขาบอกคุณว่าเดี๋ยวโตขึ้นก็หาย หรือตอนนี้ขาเจ็บอยู่เดี๋ยวอีกวันสองวันก็หาย ขาคือสิ่งที่สำคัญเที่สุด ในสุนัขพันธุ์ใหญ่ เดินไม่ได้ลำบากทั้งตัวสุนัขเองและเจ้าของ ถึงปัจจุบันจะสามรถ ผ่าตัดละแก้ไขได้เกือบทุอย่าง แต่ค่าใช้จ่ายก็ค่อนข้างสูงและเสียเวลามาก)
-การทิ้งน้ำหนัก การหยั่งเท้า จับลูกสุนัขยืนนิ่งๆ (หรือรอจนกว่าลูกสุนัขจะนิ่ง )แล้วยกขาขึ้นทีละข้าง เพื่อดูการถ่ายน้ำหนัก ลงขาของลูกสุนัข ลูกสุนัขทิ้งน้ำหนัก ลงขาทั้งสี่ข้างครบหรือไม่ และ มีขาไหนที่ลูกสุนัขไม่ลงน้ำหนักบ้าง ส่วนมากมักจะเป็นที่ขาหลัง ถ้าลูกสุนัขลงน้ำหนักขาหลัง หนักไปข้างเดียว หรือมากข้างน้อยข้าง อย่างรู้สึกได้ชัด แสดงว่าขาหลังอีกข้างอาจเจ็บ และอาจเป็นอาการข้อสะโพกหลวมได้ในอนาคต(การวิ่งที่ถูกต้อง ดูใน มาตราฐานสายพันธุ์)

10)ควรคลำสุนัขทั้งตัว ว่ามีก้อนเนื้องอกหรือแผลตามลำตัวที่ไหนบ้าง มักพบ ก้อนเนื้อ ในลูกสุนัขพันธุ์นี้ บ่อยครั้ง เพราะเป็นสุนัขที่เล่นแรงยั้งน้ำหนักตัวไม่ค่อยอยู่ จึงเกิดรอยฟกช้ำและแผลกระแทกจนเกิด ก้อนเนื้อ ได้ (สามารถ ผ่าออกได้ แต่ถ้าไม่มีเลยก็จะดี มาก)

ด้านจิตใจ

-ต้องไม่กลัว กล้าที่จะพบผู้คน,สัตว์และสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ กล้าเดินหรือวิ่ง ทันทีที่ปล่อย ไม่หลบมุมอยู่ตัวเดียว หรือซุกอยู่ตามมุมตลอดเวลาแสดงความเป็นมิตร ด้วยการวิ่งเข้าหาคน ส่ายหาง ต้องไม่วิ่งหนีคน (ลูกสุนัข ที่ชอบซุกตามมุมไม่เล่นและไม่สนใจสิ่งรอบข้าง อาจมีปัญหาตาฝ้าฟางหรือมองไม่เห็น)

-ต้องไม่ตกใจง่าย ต้องสนใจสิ่งรอบข้างและจิตประสาทต้องมั่นคง ไม่ตกใจอะไรง่ายๆ หรือ เห่าอย่างไม่มีเหตุผล ทดลอง เขย่าพวงกุญแจ ข้างๆ ถ้าลูกสุนัขไม่สนใจเลย แสดงว่าไม่สนใจสิ่งเร้า ฝึกยากหรืออาจหูหนวก ถ้าตกใจกลัว และวิ่งหนี แสดงว่า สุนัขตกใจง่าย ฝึกยาก ถ้านั่งและฟังเฉยๆ หันมองนิดหน่อยถือว่าเป็นปกติ พอใช้ได้ ถ้าหันมาทันที ที่ได้ยินเสียงและไล่กัดพวงกุญแจ แสดงว่าไม่ตกใจง่ายและสนใจสิ่งรอบข้างดี ลูกสุนัขพวกนี้ฝึกง่ายและชอบสื่อสารกับคน

-ต้องไม่ก้าวร้าว ไม่ดุจนเห็นได้ชัด สังเกต เวลากินอาหาร ไม่กัดหรือขู่ตัวอื่น หรือขู่เมื่อคนเข้าใกล้ (ถ้าโตขึ้นไม่ผ่านการฝึกที่เข้มงวด มีโอกาสจะดุค่อนข้างสูง)

*** ปัญหาด้านจิตใจ ยังเป็นรองเรื่องสุขภาพ นิสัย สามารถปรับ เปลื่ยน และแก้ไข ได้เสมอ ถ้าเจ้าของเอาใจใส่และหมั่นฝึกฝน สุนัขเกิดมาเพราะมนุษย์เป็นผู้สร้างและผสมพันธุ์ขึ้นมาแทบทุกสายพันธุ์ การเชื่อฟังและทำตามคำสั่งหรือการสื่อสารกับมนุษย์อยู่ในสายเลือดของสุนัขอยู่แล้วทุกตัว เสียเวลาฝึกนิดหน่อย เขาก็ทำตามที่เราต้องการ ได้เกือบทุกตัว


ข้อมูลทั้งหมด ได้จากประสบการณ์ จากการเลี้ยงสุนัขพันธุ์เซ็นต์เบอร์นาร์ด จากหลากหลายแหล่ง ที่มา หลากหลายสายเลือด เราเพาะพันธุ์ และเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้ เป็นระยะเวลานานกว่า10ปี ถ้าท่านซื้อสุนัขจากเรา กรุณาอ่านทำความเข้าใจและทำตามที่เราแนะนำ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหากับ สุนัขของท่าน(ป้องกันไว้ก่อนดีกว่าตามแก้ เพราะปัญหาบางอย่างเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ไม่มีทางแก้ไขได้)





(เฉพาะผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและลูกค้า The Spirit of Saintbernard)
Create Date : 09 กรกฎาคม 2551
Last Update : 14 สิงหาคม 2551 4:01:35 น. 0 comments
Counter : 455 Pageviews.

spiritofsaint
Location :
แพร่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




free web counter
Stu Nicholls | CSSplay | Professional series #2
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
9 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add spiritofsaint's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.