Bloggang.com : weblog for you and your gang
สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับพี่ๆและเพื่อนๆทุกคนที่เปิดเข้ามาอ่านที่บล็อคของออนนะคะ..อ่านแล้วรบกวนช่วยคอมเม้นและแสดงความคิดเห็นด้วยจ้า.. นี่คือเรื่องจริง..ชีวิตจริงค่ะ..ของผู้หญิงคนนึง..ขอบคุณมากนะคะที่แวะเข้ามา
Group Blog
ชีวิตจริงของฉัน
คำขอร้องของแม่...ผู้หวังดี
เมื่อฉันเป็นแม่คน..และมีภาระมากขึ้น
เรื่องร้ายๆ..ที่ต้องเจอ
Pattaya...City สวรรค์ในอก>>ของหลายๆคน แต่คือนรกในใจสำหรับฉันตลอดมา
มีนาคม 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
8 มีนาคม 2554
เคราะห์ซ้ำ..กรรมซัด (เมื่อสิ่งที่เจอ..มันเกินจะรับไหว)
All Blogs
เมื่อต้องเลือกในสิ่งที่ไม่มีสิทธิ์เลือก
กรรมอะไรของครอบครัวเรา....ขอให้ทุกอย่างจบสักที
เรื่องแบบนี้ยังมีอีกหรอ...ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
ครั้งแรก...แต่ขออย่าให้เป็นครั้งสุดท้าย
ทุกหยาดเหงื่อ...เพื่อแม่
ชีวิตไม่สิ้น..ก็ดิ้นกันไป (ตราบใดที่ฉันยังมีลมหายใจ)
ขอเวลาทำใจหน่อย...ตั้งตัวไม่ทัน
เคราะห์ซ้ำ..กรรมซัด (เมื่อสิ่งที่เจอ..มันเกินจะรับไหว)
เคราะห์ซ้ำ..กรรมซัด (เมื่อสิ่งที่เจอ..มันเกินจะรับไหว)
หลังจากที่ฉันได้ผ่านการเป็นแม่คนและได้เรียนรู้ทุกอย่างด้วยตัวเอง นั่นคือสิ่งที่ทำให้ฉันได้รู้ถึงความรักของคนเป็นแม่และทำให้ฉันรักแม่มากขึ้น แต่ก็มีบ้างบางครั้งที่ฉันเที่ยวสนุกกับเพื่อนบ้างตามวัย แต่ฉันก็ยังมีความรับผิดชอบต่อภาระทุกๆอย่างเหมือนเดิม ช่วงบ่ายของวันหนึ่งแม่โทรศัพท์เข้ามาหาฉันด้วยน้ำเสียงแปลกๆ"ออนตอนนี้พ่อโดนไฟช๊อตนอนอยู่โรงพยาบาล..รีบมานะลูก" แต่ฉันคิดว่าพ่อคงจะไม่เป็นไรมากจึงไม่ได้รีบร้อนอะไรเลย แต่พอมาถึงฉันต้องตกใจกับภาพที่เห็น_แม่นั่งร้องไห้และมีเพื่อนที่ทำงานพ่อนั่งรอหน้าห้องฉุกเฉินเต็มไปหมด ฉันก็ถามว่าตอนนี้พ่อเป็นยังไงบ้างและเกิดอะไรขึ้นกับพ่อ? และเพื่อนพ่อก็เล่าว่า..พ่อกำลังเดินไปห้องผักช่างบริเวรในโรงงาน แต่พอเดินผ่านห้องเครื่องควบคุมไฟเพื่อที่จะไปปิดเครื่องอะไรสักอย่างนึงข้างในนั้น (ซึ่งปกติพ่อก็ทำหน้าที่อย่างนี้ทุกวัน) ก็โดนไฟช๊อตอยู่สักครู่แล้วก็ล้มลงกับพื้น..เพราะบริเวรนั้นมีน้ำนองอยู่เล็กน้อยพอดีไฟมันรั่ว..แล้วพ่อไปจับเครื่องพอดี ตอนนี้หมอกำลังปั๊มหัวใจพ่ออยู่เพราะระหว่างทางที่นำส่งโรงบาลนั้นพ่อหยุดหายใจไป10นาที..ฉันปล่อยโฮออกมานั่งร้องไห้ใหญ่เลย สักครู่หมอก็เดินออกมาบอกให้ญาติทำใจเพราะปั๊มยังไงหัวใจก็ไม่ขึ้น แม่ฉันร้องไห้ดังขึ้นและขอร้องให้หมอปั๊มหัวใจพ่อต่ออีก5นาที หมอจะทำอย่างไรก็ได้ขอให้พ่อฟื้นแม้มันจะเสี่ยงขนาดไหนก็ขอให้ลองทำให้หมดทุกทาง หมอบอกมีทางเดียวต้องเอากระแสไฟแรงช๊อตพ่อคืนแต่เสี่ยงมาก แม่ก็ยอมแม้จะเสี่ยงขนาดไหนก็ตาม เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงหมอออกมาอีกครั้งและบอกว่าปั๊มหัวใจพ่อขึ้นแล้ว แต่ไม่รับรองว่าพ่อจะปกติเหมือนเดิมหรือเปล่าเพราะระหว่างที่พ่อหยุดหายไปสมองก็ขาดอ๊อกซิเจนเยอะ จากพวกเรารีบเข้าไปดูพ่อข้างในห้องฉุกเฉิน ตอนนั้นพ่อยังไม่ฟื้นและไม่รู้ว่ามีสายอะไรเต็มไปหมดบนตัวพ่อและยังมีเครื่องช่วยหายใจอีก ฉันเห็นแล้วสงสารพ่อมากๆแต่ก็ไม่สามารถจะช่วยอะไรได้ และพยาบาลก็เข็นพ่อเข้าไปในห้องICU ฉัน แม่ และน้องชายต้องนั้งรออยู่หน้าห้องเพราะว่าเข้าเยี่ยมได้เป็นเวลา-วันนึงมี3รอบ รอบละ1ชั่วโมงและเข้าได้รอบละ3คน/1ผู้ป่วย ฉันกับน้องจึงต้องออกมาเพื่อที่คนอื่นจะได้เข้าไปดูอาการพ่อบ้าง มีเพียงแต่แม่ที่ยืนเฝ้าคอยดูพ่อตลอดเวลา1ชั่วโมง แต่แม่ก็ไม่ลืมหน้าที่ความเป็นแม่เลย แม่ยังดูแลพวกเราอย่างดีด้วยแม้แม่จะทุกใจขนาดไหน วันเวลาผ่านไป3วัน3คืนพ่อก็ยังไม่รู้สึกตัวเลย..พ่อยังคงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ+เจาะคอเอาสายยางแย่เข้าไปเพื่อที่ไว้หยอดอาหารผ่านทางสายยาง+ใส่แพ็มเพ๊อตด้วย สภาพพ่อในตอนนั้นเหมือนเจ้าชายนิทราที่ได้แต่นอนดิ้นไป-มาโดยที่ไม่รู้สึกตัว ในตอนนั้นทุกๆคนคิดว่ายังไงพ่อก็คงไม่รอดแน่ๆทุกคนพยายามทำใจ จนคืนที่4ตอนเที่ยงคืนแม่พาฉันและน้องชายไปไหว้และบนคุณย่าโม"ว่าขอให้คุณย่าโมช่วยดลบันดาลให้พ่อหายดี..จะถวายผลไม้+เพลงโคราชแก้บนด้วย" รวมทั้งปู่ก็ไปบนหลวงพ่อที่นับถือว่าขอให้ลูกชายปู่ฟื้นและหายดี แล้วจะให้พ่อบวชแก้บนให้ เช้าวันต่อมาเรามานั่งรอหน้าห้องICUตั้งแต่2โมงเช้าทั้งที่เข้าเยี่ยมได้11.00น. แต่ระหว่างที่นั่งรอแม่ก็จะคอยโทรเข้าไปถามพยาบาลในห้องICUว่าอาการพ่อเป็นยังไงบ้าง เหมือนปาฎิหารย์มีจริงพ่อเริ่มรู้สึกตัวและขยับแขน+ขาได้..ถึงแม้ยังไม่เห็นด้วยตาแต่ก็ดีใจกับสิ่งที่ได้ยิน พอได้เวลาเยี่ยมพวกเรารีบเข้าไป_พ่อรู้สึกตัวแล้วจริงๆด้วย แต่พ่อมองพวกฉันเหมือนกับงงอะไรสักอย่างนึง พวกเราถามว่าจำได้ไหมว่านี่ใคร?..พ่อสายหน้าและก็ไม่พูดอะไร ฉันร้องไห้ทันทีที่พ่อส่ายหน้าว่าจำอะไรไม่ได้เลย พูดแค่เพียงแต่เจ็บ เจ็บอย่างเดียว แต่พวกเราก็พยายามเล่าทุกอย่างให้พ่อฟัง พ่อก็ค่อยๆนึกออกบ้างเล็กน้อยในบางเรื่อง พอวันต่อๆไปอาการเริ่มดีขึ้นและหมอก็อนุญาติให้ออกจากห้องICUแล้วพ่อก็มานอนพักที่ห้องพิเศษเดี่ยว แม่ดูแลปรนนิบัติพ่ออย่างดีทุกอย่าง (แม่เป็นผู้หญิงที่ดีและรักทุกคนในครอบครัวมาก) หลังจากที่พ่อออกจากโรงบาลก็ต้องหยุดพักงาน2เดือนเพราะต้องไปกายภาพบำบัดทุกวัน อาการพ่อเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ(ครอบครัวเรามีความสุขอีกครั้ง) และพวกเราก็ไปแก้บน จนกระทั่งเวลาผ่านไป1ปี.....ตอนนั้นแม่ฉันเริ่มมีอาการแปลกๆอยู่บ่อยพอสมควร จนฉันพาแม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แม่ตรวจอาการนานมากเกือบจะทั้งวันเลยก็ว่าได้ ฉันกับลูกนั่งรออยู่ที่โซฟานุ่มๆของโรงบาล+กับแอร์เย็นๆทำให้ฉันหลับ แต่ฉันก็ต้องสะดุ้งตื่นเมื่อแม่เดินมาสะกิดและเรียกชื่อฉัน แม่หน้าซีดมากเหมือนกับแม่มีอะไรอยู่ในใจ ฉันก็ถามแม่ว่าเป็นไงบ้าง..หมอเค้าว่างัย? แม่ฉันเงียบอยู่ครู่นึงและตอบกลับมาว่า" แม่เป็นโรคมะเร็งเต้านม..พรุ่งนี้หมอนัดแม่มาตัดเต้านมข้างซ้ายทิ้ง" ฉันอึ้งไปสักพัก..ยอมรับว่าตอนนั้นฉันตกใจ+กับความสงสารแม่มากเหลือเกิน หลังจากนั้นเรากลับบ้านกันแต่แม่มีท่าทางที่เปลี่ยนไปมาก..ดูแม่เศร้าๆยังไงบอกไม่ถูก เมื่อมาถึงที่บ้าน..แม่ก็โทรไปบอกยาย(เวลานั้นยายก็คงจะรู้สึกเหมือนฉัน_แต่ยายร้องไห้ด้วย) และเมื่อน้องและพ่อกลับบ้านมาแม่ก็เล่าให้น้องชาย+พ่อฟัง ทุกคนเงียบแต่ก็เก็บอาการไว้เพราะไม่อยากให้แม่ต้องคิดมาก วันถัดมาพ่อไปส่งแม่ทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลแล้วพ่อก็ไปทำงานต่อ วันนั้นฉันก็ต้องทำงานหยุดไม่ได้เพราะเมื่อวานหยุดไปแล้ว แม่เข้าห้องผ่าตัด13.00น.และเข้าไปนานมากๆ ออกมาอีกทีประมาณ18.00น. น้องชายฉันโทรมาบอกฉันและพ่อว่าแออกจากห้องผ่าตัดแล้ว วันนั้นฉันจึงขอที่ทำงานกลับก่อนเวลา2ช.ม.คือ6โมงเย็นนั่นเอง เมื่อไปถึงโรงบาลก็เห็นแม่นอนหลับอยู่..ทุกๆคนนั่งเฝ้าแม่อยู่โซฟาข้างเตียง(แม่นอนห้องพิเศษแบบคู่..แต่บังเอิญอีกเตียงไม่มีผู้ป่วย) จนเวลาผ่านไปประมาณ4ทุ่ม..แม่ตื่นขึ้นมาท่าทางแม่เจ็บปวดและทรมาณมาก แม่ก็เล่าให้ฟังว่าหมอตัดก้อนเนื้อร้ายที่หัวแม่ออกด้วย..ประมาณ3จุดและก็ตัดเต้านมข้างซ้ายทิ้ง แม่พูดไปก็น้ำตาไหลทำให้ฉันและน้องต้องร้องไห้ตาม แม่ต้องนอนพักโรงพยาบาลอยู่3-4วัน(แต่โชคดีที่มีบัตรประกันสังคมจ่ายค่ารักษาให้ครึ่งนึง) ฉันต้องหาเงินสำหรับไว้จ่ายค่าส่วนเกินให้ทางโรงบาล หลังจากนั้นแม่ก็กลับมาพักฟื้นที่บ้านระยะนึง แล้วแม่จึงออกไปหางานทำเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระพ่อ มันเป็นเวรเป็นกรรมอะไรที่ทำให้เกิดเรื่องร้ายๆขึ้นในครอบครัวของฉัน ทั้งพ่อและแม่ต้องเจ็บตัวเข้าโรงบาล ถ้าเลือกได้ขออย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับใครอีกเลย
Create Date : 08 มีนาคม 2554
Last Update : 8 มีนาคม 2554 22:36:20 น.
11 comments
Counter : 485 Pageviews.
Share
Tweet
เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอให้สิ่งดีๆเข้ามาแทนที่ในเร็ววันนะคะ
โดย: kk IP: 83.248.84.246 วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:23:20:38 น.
โถ น้องออน น่าสงสารจังเลย พี่อ่านละก็ละเหี่ยใจ
ตอนแรกตกใจมากเรื่องที่พ่อน่้องออนโดนไฟฟ้าช๊อท แล้วก็โดนปั้มหัวใจอย่างแรก แล้วก็จำลูกๆไม่ได้น่ะ พี่นึกเลย ภาพในอดีตตอนแม่พี่เข้า รพ แล้วแม่พีก็เสียมันเข้ามาในหัวพี่เลยน่ะ เศร้าจริง
แต่พี่ดีใจด้วยนะ ที่พ่อกลับมาเหมือนเดิมแล้ว ออนโชคดีนะที่ไม่เสียใครคนหนึ่งไป อยู่ครบแบบครอบครัวแบบนี้ น่าอิจฉา
เรื่องนี้ที่ออนเล่าไม่รู้นานแค่ไหนแล้ว ยังไงก็ขอให้แม่น้องออนหายไวๆจ๊ะ
หญิงเก่ง
โดย: Thip (
Siriporn&Flemming
) วันที่: 9 มีนาคม 2554 เวลา:0:03:59 น.
ยังตามอ่านและเป็นกำลังใจให้นะคะ
โดย:
เศษไม้ใบหญ้า
วันที่: 9 มีนาคม 2554 เวลา:0:18:11 น.
เป็นกำลังจัยใให้คะ เชื่อเถอะสักวันเราจะสบาย ทุกอย่างจะดีขึเน
โดย:
พลูด่างในอ่างดิน
วันที่: 9 มีนาคม 2554 เวลา:11:05:09 น.
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
โดย: อ๊อด IP: 110.164.107.154 วันที่: 9 มีนาคม 2554 เวลา:12:29:13 น.
แวะมาให้กำลังใจคนโคราชเหมือนกันค่ะ ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ เข้มแข็งไว้นะคะ
โดย:
yingkorat
วันที่: 9 มีนาคม 2554 เวลา:13:15:08 น.
ขอให้คุณแม่หายป่วยเร็วๆ สุขภาพดีวันดีคืนนะค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
โดย: cat IP: 92.206.83.1 วันที่: 10 มีนาคม 2554 เวลา:2:24:40 น.
เข้ามาอ่านแล้วสงสารจังเลยค่ะ อย่าหมดกำลังใจนะคะน้องออน คุณแม่ด้วย สามีพี่มีเพื่อนที่ผ่าตัดเต้านมเช่นกัน เธอมีสุขภาพดีมากค่ะ ตัดมายี่สิบกว่าปีแล้ว ยังเคยไปเที่ยวเมืองไทยกับแม่บุญด้วย โรคนี้อยู่ได้ด้วยกำลังใจค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้อีกคน
โดย:
Maeboon
วันที่: 10 มีนาคม 2554 เวลา:9:38:38 น.
อาการจำอะไรไม่ได้ เป็นเพราะช่วงที่สมองขาดอ๊อกซิเจนนะ
เหมือนพ่อเราเลย เคยโดนปั๊มหัวใจกลับมาเหมือนกัน
ตื่นมาก็ จำอะไรไม่ได้ แต่ตอนนี้ปกติแล้วว
เข้ามาอ่านแล้วเศร้าา สู้ๆนะคะ
ปล.. ตัวหนังสือติดกันมากๆ เลย อ่านยากจัง
โดย:
Sassy Imp
วันที่: 10 มีนาคม 2554 เวลา:22:57:33 น.
ขอบคุณพี่ๆทุกคนนะคะที่แวะเข้ามาอ่าน...และขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจที่มีให้ออนด้วย..
โดย: ออน IP: 223.206.126.95 วันที่: 11 มีนาคม 2554 เวลา:8:01:15 น.
ตามอ่านตลอดเลยจ้า น้องออน ยังไงก็สู้ๆนะ ถ้ามองว่าชีวิตเรา ทำไมช่างลำบากนัก ก็ขอให้น้องลองมองดูคนที่เขาด้อยกว่าเรานะจ๊ะ จะได้มีกำลังสู้ต่อ
เรายังดีที่มีโอกาสได้สู้ชีวิต แต่มีอีกหลายๆคนเช่นกันที่เขาอยากจะสู้กับชีวิต แต่ว่า ไม่มีโอกาสได้สู้
ไม่ได้รับโอกาสนั้นเลย น้องออน เข้มแข็งนะ
เป็นกำลังใจให้จ้า
โดย:
มะฮอกกานีใบใหญ่
วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:16:15:45 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ชีวิตยิ่งกว่าละคร
Location :
นครราชสีมา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
'); height: 538px">
ชีวิตของผู้หญิงคนนึง ที่มีประสบการณ์ชีวิตมากมายเกินอายุ ต่อสู้กับความลำบากของชีวิตและโชคชะตาฟ้าลิขิต
style type="text/css"><!--body{background:url(http://img266.imageshack.us/img266/7531/11a9875ug9.gif) repeat fixed center top;background-color:#;}--></style>
Friends' blogs
rumpuey
Webmaster - BlogGang
[Add ชีวิตยิ่งกว่าละคร's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.