บล๊อกสวยสมวัย MercuryBooks
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
16 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
ปาฏิหาริย์รักฯ บทที่ 6 โดย...บัดดี้

แสงสว่างอบอุ่น ลาดไล้ไปตามระเบียง เล็ดลอดเข้าไปในห้องพักเล็กๆ นกกระทุงที่เกาะอยู่บนต้นไม้ข้างห้องส่งเสียงร้องแหลม ปลุกให้หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นรับอรุณรุ่ง เธองัวเงียลุกขึ้นนั่ง นิ่วหน้าด้วยความรู้สึกปวดแปลบที่หัว ภาพที่ปรากฏต่อสายตาคือห้องพักของตัวเอง เฟอร์นิเจอร์ยิ่งดูเก่าคร่ำขึ้นไปอีกเมื่อต้องแสงอาทิตย์สะท้อนเงาลงบนพื้นไม้ในห้อง


                ชาลิสายกมือขึ้นกุมหัว ความรู้สึกปวดจี๊ดที่ขมับทั้งสองราวกับมีตัวประหลาดกำลังอาละวาดอยู่ในนั้น หญิงสาวค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นนั่ง ผ้าห่มคลุมกายเลื่อนลงและทำให้เธอต้องตะลึงเมื่อพบว่าตัวเองอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ไม่มีเสื้อผ้าอาภรณ์สักชิ้นติดกาย ด้วยความตกใจ หญิงสาวรีบคว้าผ้าห่มกลับขึ้นคลุมร่างกายส่วนสงวน เธอพยายามนึกให้ออกว่า เกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน ทำไมเธอถึงมานอนแก้ผ้าอยู่บนเตียงในห้องพักนี่ ภาพลางๆ ของเมธที่เธอเห็นเมื่อวานตอนที่นั่งอยู่ที่ชายหาด เขามาหาเธอ และเธอวิ่งตามเขาลงทะเลไป ความคิดสะดุดลงเมื่อเสียงประตูเปิดออก


                “ตื่นแล้วเหรอ เด็กน้อย เอ้า นี่เสื้อผ้า ใส่ซะ” เขาพูดพลางยื่นพับผ้ามาให้


                “นาย!!” หญิงสาวตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก ไม่กล้าคิดว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน


                “รับไปสิ แล้วก็ใส่ซะ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก นอนล่อนจ้อนมาทั้งคืน” เขาวางกองผ้าลงบนที่นอน ยักคิ้วให้ ก่อนเดินออกจากห้องไป


                ชาลิสาคว้าเสื้อผ้ามาอย่างงงๆ และเดินทุลักทุเลเข้าห้องน้ำพร้อมกับผ้าห่มพันกาย สะดุ้งเมื่อน้ำเย็นๆ กระทบลงบนผิว และยิ่งรู้สึกขนลุกซู่ไปทั่วทั้งตัวเมื่อคิดถึงใบหน้าอ่อนหวานที่ยิ้มล้อเลียนเมื่อครู่ นึกตำหนิตัวเองในใจที่คิดไม่ออกว่าเกิดอะไรกับตัวเองเมื่อคืน


                “ฉันทำบ้าอะไรไปเนี่ย ทำไมจำอะไรไม่ได้เลยนะ” เธอบ่นกับตัวเองออกมาดังๆ เมื่อใส่เสื้อผ้าและกลับออกมาจากห้องน้ำ ทรุดนั่งลงริมเตียง


                สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือ เมธมารับเธอและเธอเดินลงทะเลตามเขาไป เกือบจะไปถึงตัวเขาแล้วด้วยซ้ำ เธอควรจะอยู่ใต้ทะเลนั่น แต่ทำไมถึงมานอนอยู่บนเตียงแบบเสื้อผ้าไม่มีติดตัว นายนั่นต้องมีส่วนเกี่ยวข้องแน่ๆ แต่เขาทำอะไรเธอล่ะ ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นทันที เมื่อคิดว่าเขาอาจจะมีอะไรเกินเลยกับเธอ น่าอายอะไรอย่างนี้ เธอเพิ่งจะพบเขาแค่สองวันเท่านั้น ยังไม่เคยพูดคุยกันดีๆ เลยสักครั้งด้วยซ้ำ แม้แต่ชื่อก็ไม่รู้จัก


                หญิงสาวสำรวจร่างกายตัวเองและเตียงนอนอย่างจริงจังอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีร่องรอยใดๆ บ่งบอกถึงกิจกรรมที่หวั่นวิตก หวังสุดหัวใจว่าเธออาจจะคิดมากไปเอง เขาคงไม่ได้ล่วงเกินเธออย่างที่คิด แต่ความกระดากทำให้ไม่กล้าออกไปเผชิญหน้าเขาในตอนนี้ ถึงไม่มีอะไรเกินเลย แต่ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ใครสักคนถอดเสื้อผ้าที่ห่อหุ้มร่างกายเธอออก และเป็นไปได้อย่างมากว่าจะเป็น...เขา


                เมื่อนั่งทำใจจนคิดได้แล้วว่า ถ้าเรื่องมันจะเลวร้ายถึงขั้นที่เธอมีสัมพันธ์อะไรกับนายนั่นจริง เขาต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายละอาย เพราะเค้าลักลอบเธอ และเธอจะเล่นงานเขาให้ถึงที่สุดเลยทีเดียว ชาลิสาลุกพรวด ก้าวจ้ำออกจากห้องไป


                เขาไม่ได้อยู่ที่เก้าอี้ตรงระเบียง เธอเดินลงบันไดไปข้างล่าง ก็เห็นเขากำลังง่วน ก้มๆ เงยๆ อยู่กับกะละมังใบเล็กที่ลานปูนใต้เรือน เธอเดินเข้าไปอย่างเอาเรื่อง กอดอกพูดขึ้นด้วยเสียงห้วนแข็ง


                “ฉันมีเรื่องต้องคุยกับนาย” เขาเงยหน้าขึ้นส่งสายตาเป็นประกายให้เธอ อย่างไม่สะทกสะท้าน


                “มีอะไร ว่ามาสิ”


                “เรื่องเมื่อคืน...” หญิงสาวลังเลนิดหนึ่งก่อนจะพูดต่อ “ฉันกลับมานอนที่ห้องได้ยังไง”


                “ฉันอุ้มเธอมาไง”


                “แล้ว...เออ...แล้วมันยังไงอีก” เธออยากรู้ว่า เขานอนกับเธอหรือเปล่า แต่กระดากเกินกว่าจะถามออกไปตรงๆ


                “เธอจะถามว่าอะไรกันแน่ เด็กน้อย” เขายืดตัวขึ้นเต็ม หัวเขาสูงเกือบถึงพื้นเรือน จนต้องค้อมตัวนิดๆ นั่นทำให้ใบหน้าของเขา เข้าใกล้เธอมากขึ้นไปอีก หญิงสาวผงะแต่ยังพยายามทำใจดีสู้


                “ฉันแค่อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน” หญิงสาวแทบจะตะโกนคำถามนี้ออกไป เพราะต้องการกลบเกลื่อนอาการใจเต้นรัว


                “ถ้าจะถามว่า ฉันมีเซ็กส์กับเธอหรือเปล่าละก็...เปล่า” เขาตอบเสียงเรียบนุ่มนวลแต่หนักแน่น หญิงสาวผ่อนลมหายใจออกอยากโล่งอก แต่ต้องกลั้นใจ เม้มปากตัวเองแน่น เมื่อเขาพูดต่อว่า


                “ฉันไม่อยากลงนรก แต่ที่เธอต้องมานอนแก้ผ้าอยู่บนเตียงเนี่ย เพราะเธอเองนั่นแหละ เป็นบ้าอะไรเดินลงทะเลไป คิดจะฆ่าตัวตายหรือไง ดีนะที่ฉันเห็นเลยช่วยขึ้นมาได้ทัน เธอหมดสติ ฉันก็เลยพาเธอไปส่งที่ห้อง แต่เสื้อผ้าเธอเปียกหมด ก็เลยต้องถอดมันออก เนี่ยนะ เป็นเพราะเธอเองที่ไม่รู้จักเตรียมเสื้อผ้ามา” เขายังคงรักษาน้ำเสียงราบเรียบ พูดเรื่อยเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา ติดรอยยิ้มระบายอยู่บนเรียวปาก ราวกับขบขันเสียเหลือเกินกับเรื่องเข้าใจผิดนี้ ไม่ได้สังเกตเลยสักนิดว่า หญิงสาวตัวสั่นด้วยความโกรธ กัดปากตัวเองแน่นจนซีด


                เขาถือดียังไงมาถอดเสื้อผ้าเธอออก แล้วยังมากล่าวโทษเธอที่ไม่เตรียมเสื้อผ้ามาให้ดี เขาถือวิสาสะ ฉวยโอกาสกับร่างกายเธอ แล้วยังกล้าพูดว่าไม่อยากตกนรก เรื่องมันกำลังจะเป็นไปด้วยดี เธอควรจะได้อยู่คู่กับผู้ชายที่เป็นสุดที่รัก แต่เขาทำลายโอกาสนั้น เขาควรจะลงนรกไปจริงๆ ชั่วช้า บ้าบอที่สุด ความกระดากเมื่อครู่กลับแปรเปลี่ยนเป็นความแค้นเคือง


                “นายนั่นแหละบ้า เธอตะโกนสุดเสียง


                “บ้า! แล้วก็เลวมาก! กล้าดียังไงมาทำอย่างนี้กับฉัน นายไม่มีสิทธิ ฉันจะลงทะเลไปตายมันก็เรื่องของฉัน นายพาฉันกลับมาทำไม ทุกวันนี้ ฉันก็เหมือนตายอยู่แล้ว ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันไปกับเขา ฉันฝันถึงความตายของตัวเองทุกคืน ทำไมไม่ปล่อยให้มันเป็นจริง” หญิงสาวกรีดร้องออกมา มือทั้งสองข้างทุบตีเขาเหมือนบ้าคลั่ง ความโกรธแค้นระคนความสับสนว้าวุ่นในใจกลั่นเป็นน้ำตาไหลรินลงมาจากสองตา


                ชายหนุ่มรวบตัวเธอเข้ามากอดไว้แน่น หญิงสาวดิ้นรนพยายามทุบตีทำร้ายเขาให้ได้มากที่สุด แม้จะอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงนั้นก็ตาม น้ำตาและเสียงสะอื้นไห้เหมือนเก็บกักมาแรมปี ตอนนี้เขื่อนที่กั้นมันไว้พังทลายลงอย่างง่ายดาย ปากเธอพร่ำรำพัน


                “ไอ้บ้าเอ๊ย...ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันตาย...”


                เขาลูบหลังเธอขึ้นลงเบาๆ เพื่อปลอบ กระชับกอดให้แน่นขึ้นอีกเมื่อร่างในอ้อมแขนนั้นสั่นหอบ ส่งเสียงครางโหยไห้ราวกำลังจะขาดใจ กระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูเธอ


                “ร้องออกมาให้พอ ชาลิสา ปลดปล่อยมันออกมา”


                เมื่อได้ร้องไห้จนสาแก่ใจแล้ว ชาลิสาก็เริ่มรู้สึกถึงไออุ่นในอ้อมกอดนั้น กรุ่นกลิ่นกายเขาช่างทำให้เธออิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก มันคุ้นเคยและก่อให้เกิดความรู้สึกเป็นสุขและสงบอย่างที่เธอโหยหามาตลอดชีวิต ประหลาดเหลือเกินที่เธอรู้สึกคุ้นกับมันมาก เหมือนเป็นความทรงจำในส่วนลึกของจิตใจที่ถูกปลุกกระตุ้นให้ตื่นและแจ่มชัดขึ้น


                แล้วยังน้ำตานั่นอีก กี่ร้อยกี่พันครั้งที่เธอพยายามอย่างหนักที่จะปลดปล่อยมันออกมา แต่ก็ไร้ผล มาถึงตอนนี้ มันกลับไหลออกมาเองง่ายดายอย่างประหลาด และนั่นก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเก้อเขินมากขึ้นไปอีก ดูสิ ทีแรกเธอต้องการจะมาหาเรื่องเอาผิดกับเขาที่ล่วงเกินเธอ แต่ไปๆ มาๆ กลับมายืนร้องไห้เหมือนเด็กให้เขาปลอบ


                หญิงสาวผละตัวเองออกจากอ้อมกอดนั้น สูดหายใจเข้าปอดลึกๆ ใช้หลังมือป้ายคราบน้ำตาที่หลงเหลืออยู่บนแก้ม พูดแก้เก้อไปว่า


                “ฉันไม่เป็นไรแล้ว นายจะไปทำอะไรก็ไปทำเถอะ”


                “ฉันทำเสร็จแล้ว” เขาพูดพลางชูกางเกงในสีขาวตัวจิ๋วของเธอที่อยู่ในมือ ส่งยิ้มหวานมาให้


                “ว้าย หญิงสาวรีบคว้ามันมาจากมือเขา


                “ก็ซักเสร็จพอดี กำลังจะเอาไปตาก”


                 “ไม่ต้อง! ฉันจัดการของฉันเอง” ว่าพลางก้มลงคว้ากะละมังที่มีเสื้อผ้าชุดเก่าของเธอบิดแห้งไว้ เดินดุ่ยไปอีกด้านหนึ่งของเรือน ที่มีเชือกขึงทำเป็นราวสำหรับตากผ้า พลางนึกแปลกใจว่าทำไมนะ ความรู้สึกรังเกียจหรือโกรธเขาที่ลุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเธอ มันช่างไม่จีรังและจางหายไปเร็วนัก


                ชาลิสาเดินเรื่อยไปตามชายหาด เรือหาปลาสี่ห้าลำลอยอยู่กลางท้องทะเล มองดูเล็กนิดเดียวจากชายฝั่ง แม้จะเป็นเวลาเที่ยงวัน แต่เมฆก้อนโตหลายก้อนบนท้องฟ้าก็ทำให้พื้นดินเบื้องล่างร่มแดด ลมทะเลพัดเสื้อผ้าฝ้ายสีฟ้าอ่อนและกางเกงชาวเลสีครีมที่เธอใส่ลีบติดตัว เผยให้เห็นสัดส่วนเรือนร่างที่สมส่วนของหญิงสาว


                เธอเดินเรื่อยมาจนถึงต้นโกงกางใหญ่ที่ขึ้นอยู่ริมทะเล รากของมันกางไปรอบต้นสมชื่อ ดูเหมือนหญิงสาวในกระโปรงบานกำลังเริงระบำอยู่บนบนพรมสีขาว ชาลิสาหยุดยืนอยู่ที่ใต้ร่มโกงกาง เธอคิดถึงชายหนุ่มที่พาเธอมาที่นี่ ความรู้สึกคุ้นเคยมันติดอยู่ในใจเธอจนสลัดไม่ออก แม้เธอจะแน่ใจว่าไม่เคยพบหน้าเขามาก่อนในชีวิต


                เขามาส่งเธอแล้วบอกว่าจะอยู่ต่อเพื่อทำธุระ ธุระของเขาคืออะไรนะ เกี่ยวกับเธอหรือเปล่า ไม่น่าจะใช่ เขาทำงานอะไรกันแน่ เดี๋ยวเขาก็หายไป แล้วเดี๋ยวก็กลับมากวนประสาทเธออีก อย่างเมื่อตอนที่เธอตากผ้าเสร็จ เดินออกมาก็ไม่เห็นเขาแล้ว สักประเดี๋ยวเขาก็กลับมาพร้อมถาดอาหารเช้า แล้วก็ปล่อยให้เธอกินอยู่คนเดียว ตั้งแต่ตอนนั้นเธอก็ไม่เห็นเขาอีกเลย ทำไมเขาตั้งใจบริการดูแลเธอขนาดนี้ หรือว่าจะหวังทิป แต่ดูๆ ไป เขาก็ไม่เหมือนคนงานร้านอาหารทั่วๆ ไปเลย แถมหน้าตาก็ไม่มีเค้าโครงว่าจะเหมือนป้าวรรณานั่นเลยสักนิด แถมยังเรื่องที่เขาเสี่ยงอันตรายไปช่วยเธอจากทะเลอีก มันจะเกินหน้าที่บริกรไปหน่อยหรือเปล่า


                ชาลิสาสั่นหัวสลัดความคิดต่างๆ เกี่ยวกับเขาออกไป เมื่อนึกมาถึงตอนที่เขาอุ้มเธอกลับไปบนห้องพัก เธอเดินย้อนกลับไปที่บ้านพัก คิดไว้ว่า ไม่เห็นจำเป็นต้องสนใจเลย เขาอยู่ส่วนเขา เธอก็จะอยู่ส่วนเธอ ต่างคนต่างอยู่ แต่เอ๊ะ เขาชื่ออะไรนะ เธอยังไม่เคยถามชื่อเขาเลยนี่นา


                หญิงสาวเดินมาเกือบถึงบ้านพัก ก็มองเห็นคนที่เธอกำลังนึกถึง เขายืนอยู่ใต้ร่มไม้ที่มีชิงช้าผูกอยู่ ห่างจากตัวบ้านพักไปไม่ไกล ข้างกายเขาเป็นหญิงสาวรูปร่างดี เธอมองไม่เห็นหน้าเพราะสองหญิงชายแนบใบหน้าชิดกัน ชาลิสาพยายามเพ่งมองจ้องเพื่อให้แน่ใจว่าสายตาเธอไม่พลาด ใบหน้าของสองคนแนบชิดเหมือนกำลังแลกจุมพิตกัน แค่คิดก็ทำให้เธอรู้สึกขยะแขยงเขาขึ้นมาทันที สักพักทั้งคู่ก็ผละแยกจากกัน


                ผู้หญิงคนนั้นดูสวยสง่ามาก ตาคมกลมโตแวววาว แก้มอิ่มรับเข้าพอดีกับคิ้วคาง โดดเด่นที่สุดคงเป็นจมูกโด่งเป็นสันเหมือนแขกขาว หุ่นอวบนิดๆ ไม่ได้อ้วนจนไม่มีทรง ผมหยิกเป็นลอนสีน้ำตาลเข้ม ขับให้ใบหน้าเธอผ่องผาดขึ้นไปอีก เธออยู่ในชุดเดรสสีตองอ่อนเข้ารูป ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างสนิทสนม หญิงสาวคนนั้นเหลือบมาเห็นเธอแวบหนึ่ง แล้วก็มองเมินไปไม่สนใจ พูดคุยกับเขาต่อไป เขาไม่ได้หันมามองเธอด้วยซ้ำ


                ชาลิสาก้าวยาวให้พ้นจากบริเวณนั้นโดยเร็ว เธอไม่อยากเป็นก้างขวางคอใคร อันที่จริงเขาจะสนิทกับใครก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเธอสักนิด ต่างคนต่างอยู่ก็ดีแล้ว แต่ก็น่าสงสัย พวกเขาเป็นอะไรกันนะ คงจะรู้จักสนิทสนนกันมานานแล้วด้วยซ้ำ “เอ๊ะ! บอกว่าไม่ต้องสนใจ” หญิงสาวต้องเตือนตัวเองอีกครั้งในใจ และก้าวเดินให้เร็วขึ้นอีก


 “สวัสดี ไลลา ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” ชายหนุ่มทักเสียงดัง ก่อนจะเดินมาถึงหญิงสาวหน้าสวยที่นั่งรออยู่บนชิงช้าใต้ร่มไม้


                “ใช่ ก็คุณมัวไปอยู่เสียที่ไหนล่ะ” หญิงสาวตอบ ลุกขึ้นและส่งยิ้มหวานมาให้


                ทั้งคู่โผเข้ากอดกันเป็นการทักทายตามประเพณี แล้วหลับตาชิดศีรษะเข้าหากันสักพัก เมื่อแยกออกจากกัน หญิงสาวหัวเราะขึ้นเบาๆ


                “คุณดูแย่มากเลยเมื่อเทียบกับครั้งที่แล้วที่เราพบกัน”


                “ครั้งนี้สถานการณ์มันแตกต่างจากครั้งที่แล้วมากน่ะ”


                “หนักขนาดนั้นเลยหรือ”


                “ไม่อย่างนั้น ผมคงไม่ต้องมาอยู่ที่นี่ในสภาพแบบนี้หรอก แต่เธอต้องการการช่วยเหลือจริงๆ แล้วก็โดยด่วนด้วย ผมไม่สามารถเข้าถึงจิตใจเธอได้เลย เธอปฏิเสธผมตลอดเวลา”


                “อืม ฉันเข้าใจ แต่คุณยังจำกฎทุกข้อได้ดีใช่ไหม”


                “แน่นอน”


                “ดีแล้ว ระวังตัวด้วยล่ะ เอ...ฉันพูดผิด ต้องบอกว่า ระวังเธอให้ดีล่ะ” ไลลาหัวราะเสียงใส ชายหนุ่มเพียงแต่ยิ้มรับ


                “ฉันคิดว่า ฉันเห็นผู้หญิงของคุณเพิ่งผ่านมาทางนี้”


                “เธอเห็นเราไหมท่าทางเขากระตือรือร้นขึ้นมา


                “แน่นอน คุณเปิดตาเธอให้เห็นคุณ เธอก็ต้องเห็นฉันด้วยนั่นแหละ เฮ้! ระวังท่าทางของคุณหน่อย เห็นแล้วฉันรู้สึกไม่ค่อยวางใจเลยจริงๆ ”


                “โธ่ ก็อย่างที่ผมบอกสถานการณ์มันไม่ค่อยปกติ ผมแค่ไม่อยากให้มีเรื่องยุ่งเท่านั้น”


                “เอาเถอะ ถ้าต้องการความช่วยเหลือก็บอกละกัน”


                “แน่นอน คุณเป็นที่ปรึกษาที่ผมทั้งรักและเคารพอย่างที่สุดทีเดียว” ชายหนุ่มยิ้มปะเลาะ


                “ปากหวานแบบเนี้ย น่ากลัวจริงๆ” เธอยิ้มให้เขาอย่างเอ็นดู


                “ฉันต้องไปแล้ว ไว้เจอกันใหม่นะ อ้อ! เกือบลืม ระวังอัลเบิร์ตด้วย ฉันได้ยินว่าเขาอยู่แถวๆ นี้”


                “ขอบคุณมาก ไลลา ผมจะระวังตัว”


                ทั้งสองกอดอำลากันอีกครั้ง ก่อนชายหนุ่มจะเดินแยกไปทางบ้านพักเรือนสูง หญิงสาวมองตามเขา สายตาเธอเต็มไปด้วยความห่วงใย “เขาจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์ล่อแหลมนี้ได้ไหมนะ” เธอคิดในใจ






Free TextEditor


Create Date : 16 กรกฎาคม 2553
Last Update : 28 สิงหาคม 2553 9:35:22 น. 0 comments
Counter : 351 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sorwor
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ต้นเหตุแห่งการยินดีที่ได้รู้จักกันนั้น เริ่มที่เว็บฟอร์ไรท์เตอร์ดอทคอมจากการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางงานเขียนนวนิยาย ทำให้พวกเรา สว. (สาวสวยสมวัย) เกิดความคิดที่จะรวมตัวกันจัดทำบล๊อกขึ้นมาเพื่อเผยแพร่งานที่พวกเราเขียนเอง งานที่พวกเราทำด้วยใจรักและรักเหลือเกิน อยากให้เพื่อนๆ ได้อ่านและอยากได้คำติชมจากเพื่อนๆ เพื่อเป็นกำลังใจและนำพัฒนาทางการเขียนต่อไป


ฝากข้อความถึง"สวยสมวัย"







ซัน
โรแมนติก-อบอุ่น
ราคา 220 บาท



น้ำชารสสตรอเบอร์รี่
รัก-โรแมนติก
ราคา 190 บาท



ปางเสน่หา
โดย น้ำดอกไม้ (บัดดี้)
สนพ.พลอยชมพู




งานเขียนใน “สวยสมวัย”
เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน
ได้รับความคุ้มครองตามกฏหมาย
ตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
...........................
คิดเอง เขียนเอง
และสร้างความภาคภูมิใจ
ให้กับตัวเองกันเถอะค่ะ


Friends' blogs
[Add sorwor's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.