บล๊อกสวยสมวัย MercuryBooks
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
19 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 

ปาฏิหาริย์รักฯ บทที่ 7 โดย...บัดดี้

บทที่ ๗.

อิสระยืนมองสภาพกันชนหน้ารถของตัวเองที่ถูกชนจนเป็นรอยบุบกว้าง สีถลอกของรถที่ชนรถของเขายังติดอยู่บนรอยแผล ย้อนกลับมามองนามบัตรที่อยู่ในมือเขาอีกครั้ง

“จัสมิน เฮอร์เนส” ชื่อของเจ้าของนามบัตรเขียนภาษาอังกฤษไว้ด้วยตัวหนังสือสีน้ำเงินเข้มบนพื้นกระดาษสีขาวครีมเรียบๆ เขาอ่านทวนโน๊ตเล็กๆ ที่เขียนไว้ด้วยลายมือหวัดสวยแต่เป็นภาษาไทย ติดไว้พร้อมกับนามบัตร

“ขอโทษที่ถอยชนรถคุณ กรุณาติดต่อเบอร์โทรศัพท์ตามในนามบัตร ดิฉันจะจัดการเรื่องค่าเสียหายให้” เขาครุ่นคิด คนประเภทไหนนะที่ขับรถชนรถคนอื่นแล้วทิ้งนามบัตรไว้แบบนี้ น่าแปลกจริงทั้งชื่อทั้งนามสกุลเป็นฝรั่ง แต่กลับเขียนภาษาไทยได้ลายมือสวยขนาดนี้ สงสัยจะอยู่เมืองไทยมานาน หรือไม่ก็อาจจะมีสามีคนไทยช่วยเขียนให้

อิสระไม่คิดเลยว่าตัวเองจะโชคร้ายขนาดนี้ แค่จอดรถแล้วเดินเข้าห้างไปซื้อขนมเจ้าโปรดของเพื่อนสนิทเพียงไม่ถึง 15 นาที ออกมาก็พบว่ารถตัวเองโดนชนซะแล้ว แถมคู่กรณียังเผ่นหนีหน้าไปด้วย ดีนะที่ยังพอแสดงความรับผิดชอบโดยการทิ้งเบอร์ติดต่อไว้ให้ คนสมัยนี้ เริ่มแปลกขึ้นทุกวันจริงๆ เขาเก็บนามบัตรลงกระเป๋าเสื้อ ขึ้นรถแล้วขับออกไป

นาฬิกาข้อมือบอกว่าเลยเวลานัดกับ “อรอนงค์” เพื่อนสนิทของเขามาเกือบสิบห้านาทีแล้ว เขารู้จักกับอรอนงค์มาตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เคยเกือบจะคบกันเป็นแฟน แต่ไปๆ มาๆ เหมือนต่างคนต่างพอใจที่จะหยุดความสัมพันธ์ที่ระดับเพื่อนมากกว่า จนเดี๋ยวนี้ อรอนงค์แต่งงานไปแล้วกับรุ่นพี่อีกคนที่อิสระก็รู้จักดี แต่ไม่รู้ว่าทั้งคู่แอบไปคบหากันตอนไหน ปกติเขาจะเป็นคนรักษาเวลามาก ถ้าไม่เจอเรื่องอุบัติเหตุแบบไร้คู่กรณีเมื่อสักครู่ เขาคงไม่มาสาย ชายหนุ่มรีบเอารถเข้าจอดในที่จอดรถ แล้วพาตัวเองเข้าไปในร้านอาหารอันเป็นสถานที่นัดหมายอย่างรวดเร็ว

อรอนงค์โบกมือเรียก เมื่อเห็นเพื่อนชายเดินเข้ามาทางหน้าร้าน เขายิ้ม ยกมือทักทาย สายตาจับอยู่ที่ผู้หญิงอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เพื่อนสาว ใบหน้าขาวนวลนั้น แต่งแต้มไปด้วยสีสรรของเครื่องสำอางค์ที่ค่อนข้างเข้ม คิ้วโก่งได้รูปสวย ตาที่โตวาวอยู่แล้วถูกเน้นขอบให้ดูเข้มและดุขึ้น ปากบางถูกเคลือบไว้ด้วยลิปสติกสีแดงกุหลาบมันเงา สิ่งที่สะดุดใจของเขาที่สุดเห็นจะเป็นผมยาวสยายนั้น มันเหยียดตรงดำขลับเป็นเงางดงาม

“ถ้าแต่งหน้าอ่อนลงกว่านี้หน่อย แล้วจับใส่ชุดไทยโบราณ คงเหมือนนางในวรรณคดีเลยนะเนี่ย” เขาคิดเล่นๆ กับตัวเอง ขณะเดินตรงเข้าไปหาทั้งสองสาว

“ขอโทษทีที่มาสาย พอดีมีอุบัติเหตุนิดหน่อย”

“ไม่เป็นไรหรอก พวกเราสั่งอาหารไว้รอแล้ว เดี๋ยวก็คงมาเสิร์ฟจ้ะ”

“ซื้อขนมปังเจ้าอร่อยมาฝากอรด้วย” เขาพูดพลางยื่นถุงขนมส่งให้อรอนงค์ หญิงสาวกล่าวขอบคุณ ทำเสียงตื่นเต้นดีใจจนเกินเหตุ เขาไม่ได้เล่าเรื่องอุบัติเหตุต่อจากนั้น เพราะเห็นคนที่นั่งข้างเธอ นั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่

“อุ้ย! มัวแต่ห่วงกิน ลืมแนะนำ” อรอนงค์ทำท่าเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้

“นี่ มะลิ เพื่อนอร เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ตั้งแต่สมัยเรียนประถมแน่ะ แล้วก็นี่ คุณหมออิสระสุดหล่อจ๊ะ อิสระสมชื่อด้วยนะ” อรอนงค์หันซ้ายขวาแนะนำชายหนุ่มหญิงสาวที่นั่งขนาบเธออยู่ โดยแอบกระซิบที่ข้างหูเพื่อนสาวในประโยคสุดท้าย

“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการค่ะ”

“สวัสดีครับ” เขาตอบสั้นๆ แล้วถือโอกาสมองหน้าเธออย่างเต็มตา ยิ่งมองใกล้ เห็นบุคลิกการพูดจา ก็ยิ่งเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ทั้งสวยและมั่นใจในตัวเองมากทีเดียว

“ความจริงเราเคยคุยกันแล้ว” มะลิส่งยิ้มให้เป็นครั้งแรกตั้งแต่เขาเดินเข้ามา

“เพื่อนคนนี้แหละที่อรเคยให้เบอร์โทรอิสไว้ คนที่มีปัญหาเรื่องเพื่อนที่ทำงานเขาเหมือนจะไม่สบายน่ะ”

“ครับ ผมจำได้ แล้วตอนนี้เธอดีขึ้นหรือยัง”

“ก็ยังเหมือนเดิมค่ะ” หญิงสาวตอบสายตาสลดลงนิดหนึ่ง “ฉันก็เลยอยากพบคุณ อยากให้ช่วยแนะนำหน่อยว่าควรจะทำไงดี”

“ผมคงต้องบอกเหมือนคราวที่แล้วว่า คุณต้องพาเธอมาพบผม หลังจากได้คุยกับเธอแล้ว ผมคงให้คำปรึกษาได้ดีกว่านี้”

“ฉันรู้ แต่นั่นแหละค่ะ ปัญหา คือสาเขาไม่ยอมมาท่าเดียว ไม่ว่าจะเกลี้ยกล่อมยังไง”

“ถ้าเธอไม่ต้องการมา ผมก็คงช่วยอะไรไม่ได้” ชายหนุ่มพูดเรียบๆ แต่กลับทำให้คนฟังชักสีหน้าอย่างไม่พอใจ อารมณ์ขุ่นอันเนื่องจากต้องมานั่งรออีกฝ่ายที่มาสาย บวกเข้ากับคำพูดราบเรียบราวกับจะบอกว่า ‘ธุระไม่ใช่’ ทำให้มะลิตอบกลับเสียงห้วนจนเกือบเหมือนตวาด

“คุณนี่เป็นหมอประสาอะไรนะ! ไม่มีจรรยาบรรณเอาซะเลย ปฏิเสธทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มทำอะไรสักนิด”

“อ้าวก็ถ้าคนไข้ไม่ต้องการรักษา ผมจะไปบังคับเขาได้ยังไงละครับ” แม้จะตกใจนิดๆ กับอารมณ์ที่ขึ้นเร็วของหญิงสาวแต่เขาก็ยังรักษาน้ำเสียงให้ราบเรียบ และยิ่งทำให้มะลิเห็นชัดขึ้นว่า เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรกับความเป็นความตายของเพื่อนรุ่นน้องของเธอเลย

“คนเขาไม่สบาย คุณเป็นหมอก็ควรมีจิตวิทยาหน่อยสิ”

“ผมใช้มันรักษาคนไข้ครับ ไม่ได้ใช้รักษาเพื่อนคนไข้”

“นี่คุณหาว่าฉันประสาทเหรอ”

“คุณพูดเองนะ”

“เดี๋ยว! เดี๋ยว! เดี๋ยว! หยุดดดดดด”

อรอนงค์รีบห้ามทัพก่อนเสียงจะดังไปมากกว่านี้ จนคนในร้านแตกตื่นหนีกระเจิดกระเจิง

“ใจเย็นๆ ทั้งคู่เลย ค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากัน”

“ก็เธอฟัง คุณหมอคนดีของเธอพูดสิ ไร้น้ำใจ ไม่มีมนุษยธรรม”

“จะมากเกินไปแล้วคุณ” ชายหนุ่มเริ่มมีน้ำโหขึ้น จากการประณามความใจร้ายของเขา คุณเธอคิดเองสรุปเองทั้งนั้น

“พอแล้ว โอย ฉันจะบ้าแทน ใจเย็นก่อนน่ามะลิ ฉันรู้เธอร้อนใจ ดื่มน้ำเย็นๆ ก่อนนะ” คนกลางพูดพลางส่งแก้วน้ำเย็นให้เพื่อน ลูบไหล่ให้อารมณ์สงบลง ก่อนหันไปเจรจากับอีกฝ่าย

“หมอ ในกรณีแบบนี้ ถ้าคนไข้ไม่ยอมมา ให้มะลิพาหมอไปหาคนไข้ได้ไหมล่ะ นัดกินข้าวกันสักมื้อ หมอได้พูดคุยกับเขาตัวเป็นๆ อาจจะพอได้ร่องรอยบ้าง”

“ผมเป็นหมอนะอร ไม่ได้เป็นนักสืบ” ชายหนุ่มตั้งแง่

“น่านะ หมอ ช่วยมะลิเค้าหน่อย เป็นห่วงเพื่อนเขาจริงๆ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้

“จะเอาไงก็ตามใจ บอกไว้ก่อน ผมช่วยได้เท่าที่ “น้ำใจ” ของผมจะมีให้ได้เท่านั้นแหละ” เขากระแทกคำว่าน้ำใจใส่หญิงสาวหน้าสวยที่นั่งจ้องเขาด้วยสายตาคมกริบ

“โอเค งั้นก็เอาตามนี้ มะลิจะนัดเขาได้เมื่อไหร่ล่ะ” อรอนงค์หันไปถามอีกฝ่าย

“ฉันยังโทรติดต่อชาลิสาไม่ได้เลย ไม่รู้หายตัวไปไหน ปิดมือถือ ไม่ไปทำงาน ไม่ได้ลา ที่คอนโดก็ไม่อยู่”

“กลับไปบ้านเขาที่ต่างจังหวัดหรือเปล่า”

“โทรไปเช็คแล้ว ไม่อยู่เหมือนกัน”

“สงสัยจะกลัวคุณจับส่งโรงพยาบาลบ้ามั้ง” ชายหนุ่มตั้งใจพูดประชดมะลิ มากกว่าหมายความตามนั้นจริงๆ ยิ่งเห็นเธอหงุดหงิด เขายิ่งรู้สึกชอบใจ

“หมอ ไม่เอาน่า” อรอนงค์ต้องร้องปราม ลอบเห็นสายตาเอาเรื่องจากเพื่อนสาวที่นั่งข้างๆ ก่อนที่สงครามจะก่อตัวขึ้นอีกระลอก เธอรีบพูดขึ้น

“มะลินึกไม่ออกเลยหรือว่าเขาจะไปไหนได้”

“ความจริงก็พอเดาได้เหมือนกัน ไม่แน่ใจหรอก แต่คิดว่าจะลองไปตามดู”

“ที่ไหนล่ะ”

“เกาะหลง อยู่แถวประจวบฯ น่ะ สาเขาเคยขอแผนที่ไว้ แต่เราบอกให้เขาบอกเราด้วยถ้าจะไป กะว่าจะไปเป็นเพื่อน คิดอยู่ว่าเขาอาจจะหนีไปคนเดียว”

“งั้นก็ลองไปตามดูที่เกาะหลงไหมล่ะ หมอว่างอยู่ไม่ใช่เหรอช่วงนี้”

“เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน คุณผู้หญิง ผมไม่มีบริการนอกสถานที่นะครับ”

“ไม่ต้องหรอกอร ฉันจะลงไปเอง ถ้าเขาอยู่ที่นั่น เดี๋ยวจะพากลับขึ้นมากรุงเทพฯ เอง”

“ความจริงเกาะหลงนี่ อรเคยได้ยินชื่อบ่อยๆ นะ รู้สึกเขาจะดังเรื่องปะการังนี่นา เห็นว่าเป็นแนวปะการังที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเซียเลยนะ หมอพักร้อนอยู่ ไม่สนใจเหรอ”

“ไม่ต้องเอาเรื่องดำน้ำมาล่อผมหรอก ถึงผมจะพักร้อนแต่ก็มีรายการของตัวเองแล้ว”

“เกรงใจคุณหมออิสระเขาน่าอร ฉันไปคนเดียวดีกว่า” มะลิไม่ได้เกรงใจอย่างที่อ้าง แต่ไม่อยากจะร่วมเดินทางกับอีตาหมอนี่มากกว่า

“แต่รายการผมมันปรับเปลี่ยนได้ เดี๋ยวผมหาช่วงว่างสักสี่ห้าวันลงไปเกาะหลงพร้อมกับพวกคุณก็ได้” ไม่รู้เป็นยังไง ยิ่งยัยผู้หญิงตาดุ หน้าสวยแต่ปากเสียนี่พูดปฏิเสธเท่าไหร่ มันยิ่งกระตุ้นให้เขารู้สึกว่าจะต้องไปให้ได้

“งั้นเป็นอันว่าตกลง หมอนัดมาเลยว่าวันไหน” อรอนงค์รีบสรุป

“แต่...ฉันอยากรีบไป บอกตรงๆ ฉันเป็นห่วงสา ไม่อยากให้เขาอยู่คนเดียว กลัวจะทำอะไรไม่คิด”

“ผมเคลียร์คิวให้คุณได้อยู่แล้ว”

หญิงสาวคิดอยากจะหาอะไรมาตบให้รอยยิ้มที่ติดอยู่มุมปากของหมอบ้านี่ ให้มันยุบกลับเข้าไปจริงๆ ถ้าประกายตามีเสียงก็คงเป็นเหมือนเสียงกระบี่ที่ฟาดฟันกันโดยไม่มีลดละ ไม่มีใครยอมใคร มีแต่อรอนงค์เท่านั้นที่ทำท่าตื่นเต้นดีใจเกินเหตุที่อิสระยอมตกลงร่วมเดินทางไปด้วย

หลังจากรับประทานอาหารกันอย่างเงียบๆ โดยไม่มีศึกระหว่างสองฟากของชามแกงส้มชะอมไข่ จานปีกไก่ทอด ยำรวมมิตรทะเล และกับข้าวอื่นๆ เรียบร้อยแล้วมะลิก็เป็นฝ่ายขอตัวกลับก่อน

“ยังไง ฉันก็ขอขอบคุณคุณหมอไว้ล่วงหน้าเลยละกันที่ช่วย”

“แค่น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ” เขายังคงเน้นคำว่าน้ำใจประชดเธอเป็นการส่งท้าย

“นี่นามบัตรฉัน ไว้คุณโทรบอกฉันด้วยว่าจะเดินทางเมื่อไหร่ ฉันพร้อมตลอด เร็วหน่อยก็ดีนะคะ อย่างที่บอก ฉันเป็นห่วงเพื่อน” มะลิพยายามข่มเสียงข่มใจให้สงบ ไม่สนใจกับคำกัดจิกของเขา ยังไงก็ยังต้องอาศัยเขาอยู่เรื่องชาลิสา ได้แต่ภาวนาว่าขอให้ไม่ต้องรบรากับอีตานี่จนตัวเองเป็นโรคประสาทไปด้วยก็พอ

ชายหนุ่มมองนามบัตรในมือแล้วต้องระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังๆ โลกใบนี้ ทำไมมันช่างกลมๆ เล็กๆ แบบนี้นะ

“สงสัยผมคงต้องคิดค่าบริการอัตราก้าวหน้าพิเศษสำหรับคุณโดยเฉพาะเลยนะเนี่ย มิสจัสมิน เฮอร์เนส” เขาว่าพลางหยิบนามบัตรในกระเป๋าเสื้อออกมาชูให้ดู

หญิงสาวทำหน้าปูเลี่ยนเมื่อเห็นนามบัตรตัวเองอีกใบที่ทิ้งไว้ที่หน้ารถที่เธอถอยชนจนกันชนแทบร่วง ก่อนจะรีบบึ่งรถมาที่นี่เพราะกลัวมาสาย ทำไมมันช่างจุดไต้ตำตอซะจริง

อรอนงค์ลอบมองอากัปกิริยาของคนทั้งคู่ แล้วก็แอบยิ้มกับตัวเอง

“ตาแหลมจริงๆ เลยฉัน คู่นี้สวรรค์สร้างแท้ๆ” เธอชมตัวเองในใจ




 

Create Date : 19 กรกฎาคม 2553
3 comments
Last Update : 28 สิงหาคม 2553 9:35:37 น.
Counter : 528 Pageviews.

 

เกิดอะไรขึ้นจ๊ะ

 

โดย: sakeena IP: 124.120.79.35 19 กรกฎาคม 2553 17:44:36 น.  

 

ขออภัยใหญ่หลวงคุณ sakeena
ขัดข้องทางเวลานิดหน่อย ฮาๆๆๆ
มาตามอัพที่โบ๋ๆ ให้แล้วนะคะ ^o^

 

โดย: buddy (sorwor ) 21 กรกฎาคม 2553 13:56:43 น.  

 

มาอัพให้แล้ว น่ารักจิงๆๆเลย มาจุ๊บที่นึง
ไปอัพมาร์ให้ด้วยนะ
แถมอีก 1 จุ๊บ
จุ๊บๆๆ

 

โดย: sakeena IP: 124.122.83.238 29 กรกฎาคม 2553 20:20:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


sorwor
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ต้นเหตุแห่งการยินดีที่ได้รู้จักกันนั้น เริ่มที่เว็บฟอร์ไรท์เตอร์ดอทคอมจากการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางงานเขียนนวนิยาย ทำให้พวกเรา สว. (สาวสวยสมวัย) เกิดความคิดที่จะรวมตัวกันจัดทำบล๊อกขึ้นมาเพื่อเผยแพร่งานที่พวกเราเขียนเอง งานที่พวกเราทำด้วยใจรักและรักเหลือเกิน อยากให้เพื่อนๆ ได้อ่านและอยากได้คำติชมจากเพื่อนๆ เพื่อเป็นกำลังใจและนำพัฒนาทางการเขียนต่อไป


ฝากข้อความถึง"สวยสมวัย"







ซัน
โรแมนติก-อบอุ่น
ราคา 220 บาท



น้ำชารสสตรอเบอร์รี่
รัก-โรแมนติก
ราคา 190 บาท



ปางเสน่หา
โดย น้ำดอกไม้ (บัดดี้)
สนพ.พลอยชมพู




งานเขียนใน “สวยสมวัย”
เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน
ได้รับความคุ้มครองตามกฏหมาย
ตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
...........................
คิดเอง เขียนเอง
และสร้างความภาคภูมิใจ
ให้กับตัวเองกันเถอะค่ะ


Friends' blogs
[Add sorwor's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.