แบร์แนแด็ท....น่ารัก....น่ารัก ขี้ลืม.....ขี้ลืม ...... หนังปายหนายหว่า buy แล้ววbuyอีก......... faith, hope and charity เฟศบุ๊ค http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
31 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 

No Direction Home: Bob Dylan (2005): A Martin Scorsese Picture


กำกับโดย Martin Scorsese. With Bob Dylan, BJ Rolfzen, Dick Kangas.

No Direction Home Trailer


คิดถึงเพลง massege sound เพลงที่แฝงความหมายไว้ ยอมรับตรงๆว่า เรื่องของ บ๊อบดีแลน เรารู้น้อยมาก ถ้าเพื่อนๆรู้รบกวนเสริมให้ด้วยค่ะ


พูดถึงเพลงเพื่อชีวิตสมัยนั้น ออกแนวโฟล็ค คันทรี่ แฮะแฮะ นี่ยุค มิลลิเนียม 2009 แล้วว..... แนวเพลงแนวแนวสมานฉันท์ รักกัน รักกัน เดาว่าอาจจะเป็นแนว เทคโนแดนซ์ หรือไม่ก็ แร๊ฟกวี ฮิฟฮ๊อฟ หรือไม่ก็สแคร็ซแผ่น แคว๊กแคว็ก..... ร่ายกวีก็ได้ ขออภัยความเห็นส่วนตัวจริงๆๆงะ อาจเจอ hand ตบ หรือ Teen ตบ เอาก็ได้


กับความฝันของเค้า ออกเดินทางและตามหา เหมือนการเดินทางของกวี เพื่อกลับบ้าน หลังจากที่จากมานานแล้ว กับการผจญภัยระหว่างทาง



กับเพลงแรก Like A Rolling Stone
แสดงที่ Newcastle England May 2 1966

No Direction Home Bob Dylan



เวลาหลายอย่างทำให้เหมือนกับหยุดเวลานั้นได้ ...แน่นอนแต่คุณก็ไม่รู้ว่าใครหยุดเวลาได้
บ๊อบเล่นกีตาร์ตอนอายุ 10 ขวบ พ่อเค้าซื้อไว้ กับวิทยุมะฮอกกานีเครื่องใหญ่ เครื่องเล่นแผ่นเสียง 78 รอบอยู่ด้านบน เค้าเปิดเพลงขึ้นมา มันคือเพลง คันทรี่ เพลง Drifing too far from shore เค้าฟังเพลงนี้รู้ว่าเค้าเหมือนเป็นคนอื่น

Hibbing Minisota 1950 เมืองฮิบบิ้ง รัฐมินิโซต้า ปี 1950
บ๊อบเล่าว่า มันก็เหมือนเมืองอื่นๆ ในปี 1940-1950 เมืองชนบทอยู่ตรงใหนหาแผนที่เจอหรือเปล่าก็ไม่รู้ มีถนนสายหลักเส้นเดียวสามช่วงตึก

กับเหมืองเหล็ก คงเหลือแต่ความตกต่ำ และเสื่อมถอย กะงี้แหละ ที่ดินส่วนใหญ่เป็นไร่นา หรือไม่ก็โดนบริษัทเหมืองทำลายรุกรานจนพังพินาศ ร้อนก็ร้อน เวลาหนาวก็หนาว เราไม่มีเสื้อผ้าดีๆใส่เหมือนสมัยนี้ กะใส่เสื้อ 2-3 ชั้น ที่ที่ทุกคนทำงานคือเหมืองตั้งอยู่บริเวณสุดเขตเมือง

ความหนาวจน...ให้คุณทำชั่วไม่ได้ เป็นเหมือนกันทุกคน ไม่มีใครคิดจี้ปล้น ...ไม่มีปรัชญา ...ไม่มีรูปแบบภาษา ...หรืออุดมการณ์ใดใดให้ขัดขืน

พ่อของบ๊อบกับลุง ขายเครื่องไฟฟ้า ..งานแรกของบ๊อบคือกวาดหน้าร้าน กับการฝึกวินัยทำงานหนัก และประโยชน์ของการมีงานทำ

กับจุดเริ่มต้น เค้าเห็นคณะละครสัตว์เข้ามาในเมือง เห็นคนแต่งหน้า จอร์ทวอร์ชิงตันหน้าดำ นโปเลียนหน้าตาแปลกๆ เค้าเห็นคนทำงานไม่ได้ทำอย่างเดียว คนนี้ต้องทำสองอย่าง หรืออะไรแบบนั้น (กะเล่นกีตาร์ไป เป่าเม้าท์ออร์แกนไปงะ)

03/26 Bob Dylan - No Direction Home (Japanese Subtitles)


เพลง Cold Cold Heart เพลงคันทรี่ย์ยุคนั้นอะ ของ Hank Willams แฮงค์ วิลเลี่ยม

สมัยก่อนต้องรอฟังรายการวิทยุจากที่อื่นๆของประเทศกะต้องรอสัญญาณเข้ามาอะ กะห้าหมื่นวัตน์ของสถานีผ่านชั้นบรรยากาศเข้ามา

กับเพลงที่เค้าฟังตอนเด็กๆ

จอร์นี่ เรย์ Johnnie Ray เสียงเค้าแปลกๆเหมือนท่องคาถา คล้ายกับว่า ตอนร้องเพลงเค้าต้องร้องไห้ไปด้วย

รายการดนตรีที่ดังม๊ากในสมัยนั้น รายการ Grand Ole Opry ดำเนินรายการโดย เว๊บ เพียช

กับเปิดเพลง There stand the glass
หมุนคลื่นวิทยุไป เพลงของ Muddy Waters มัดดี้วอร์ลเตอร์ แนวแจ๊สแจ๊ส บลู บลูงะ

เสียงพวกนั้นมีอิทธิพล ....ต่อบ๊อบ ดีแลน ......ไม่ใช่ว่าใครร้อง......แต่เป็นเสียงต่างหาก The Sound

บ๊อบเริ่มฟังวิทยุ ....และเริ่มเบื่อวิถีชีวิต ที่Hibbing Minisota เค้าอยากเข้าเรียนโรงเรียนทหาร เวสปอยส์ แต่กะเข้าไม่ได้

และศิลปิน วง Gen Vincent and the Bluecaps แนวร๊อคแอนด์โรล สมัยนั้นอะ
บ๊อบ เค้าฟังร๊อคแอนด์โรล ครั้งแรก เค้ากะบอกว่า คล้ายๆกับเพลงคันทรีย์ที่เค้าฟังอยู่

บ๊อบโตขึ้นมา ตั้งวงดนตรี 2-3 โรเบิร์ด BJ Rolzen อยู่ชั้นเดียวกับผม และยังมีรายการให้โชว์ฝีมือ คนที่ฟังเค้าเล่นนึกว่าเค้าจะระเบิดเปียนโน คนฟังนึกว่าอยากจะทำลายมัน มันเป็นสิ่งที่แปลกม๊ากๆๆในสมัยนั้น ครูใหญ่ต้องปิดม่าน ไล่เค้า

บ๊อบ เล่าว่า ...สมัยนั้นไม่มีใครชอบ ร๊อคแอนด์โรล คันทรี่ และริทึ่มแอนด์บลู

เพลงที่ได้รับความนิยมคือ How much is that Doggie in the Window?

บ๊อบวิจารณ์ว่า ...มันไม่ใช่ชีวิตจริงของเรา ...แต่ชีวิตจริงของเราก็สิ้นหวังมาตั้งแต่ต้นแล้ว เพราะ...ความกลัว

กะสงครามพอดีอะ ...ระเบิดบอมส์อยู่เรื่อยๆๆๆ ...เค้าสอนให้คุณหลบใต้โต๊ะเรียนอย่างไร บ๊อบโตมาในยุคนั้น...มันเลยสร้างความหวาดระแวง

Robert Zimmerman ในปี 1959 กับการบันทึกเสียงของเค้า บ๊อบเค้าตื่นเต้นมากอยากรู้ว่าเสียงของบ๊อบเองเป็นอย่างไร

กับแฟนสาวคนแรกของเค้า กลอเรียGloria Story และคนต่อมาชื่อแอคโคEcho บ๊อบไปร้องเพลงใต้หน้าต่าง และบ๊อบบอกว่า สาวสองคนนี้ เป็นคนนำ....ความเป็ฯกวีของผมออกมา

เจมส์ดีน, แบรนโด ดาราภาพยนต์สมัยนั้นอะ ...มันไม่ได้ทำลายอดีตทั้งหมด ไม่ใช่ว่าพวกเค้าปรากฎตัวและมีสิ่งใหม่เกิดขึ้น ...เวลาเหมือนกับสิ่งที่ลบอดีต จริงๆๆแล้วกาลเวลาคือการพัฒนา

กับการแสดงที่ Newcastle England May 2 1966
กับคำวิจารณ์ มันยอดเยี่ยมมาก หรือไม่ก็ว่า มันแย่มากที่เค้าพยายามกำลังขายตัวเอง
มันเป็นเพลงขยะ หรือ เล่นได้แย่มากกับการแสดงครั้งที่ 2 ของเค้า หรือไม่เห็นวิญญาณของ
บ๊อบดีแลนที่แสดงออกมา พวกเค้าชอบแผ่นเก่าๆของบ๊อบ ดีแลน แบบ Freewhelling
การแสดงครั้งนี้เน้น ฮาร์โมนิการ์สดมากเกินไป เค้าลืมจังหวะกีตาร์ไปหลายหน

Bob Dylan- Mr.Tambourine Man


พอจบ ม.ปลาย บ๊อบ ดีแลนด์กะออกจากบ้านอะ เค้าพยายามเข้าร่วมกับ โรเบิร์ด BJ Rolzen ที่เค้าคิดว่าเค้าคือ Bobby Vee เพลงฮิตตอนนั้นของเค้าคือ Suzie Baby


บ๊อบดีแลนด์ เล่าว่า คือคืออดีตของดนตรี ไม่มีใครพูดถึง ไม่มีที่จะกลับไป มีมีใครให้พักพิง เค้ามาถึงมหาวิทยาลัยมินิโซตา เมืองมิเนอาโปลิส เค้าสมัครไว้ กะไม่ได้เข้าเรียน เค้าเล่นดนตรีทั้งคืน


Praised be man ขอสรรเสริญมนุษย์
He is existing in milk, and living in lilies
ที่กำลังคงอยู่ในน้ำนม และดำรงค์ในดอกลิลลี่
And his violin music และเสียงไวโอลีนนี้ ดังก้องจาก
takes place in milk and creamy emptiness
ความว่างปล่าวในน้ำนม และครีม
Praised be the unfolded inside petal
ขอสรรเสริญกลีบดอกไม้ที่ยังไม่แย้มบาน

flesh of tend'rest thought
แห่งความคิดอันอ่อนหวาน
Praised be delusion; the ripple
ขอสรรเสริญระลอกคลื่นแห่งการหลงผิด
Praised be the Holy Ocean of Eternity
ขอสรรเสริญมหาสมุทธอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนิรันกาล
Praised be I, writing,
ขอสรรเสริญแก่ตัวข้าผู้ซึ่งเขียน
dead already, and dead again
ผู้ตาย ครั้งแล้วครั้งเล่า

บ๊อบดี แลนด์เล่าว่า...ผมหล่นไปห้วงบรรยากาศที่ Kerouac กล่าวไว้ ว่าโลกทั้งโลกกำลังบ้า และคนกลุ่มเดียวที่สนใจสำหรับเขา พวกคนบ้า คนประสาท คนบ้าที่จะพูด ต้องการทุกๆอย่างในเวลาเดียวกัน และบ๊อบดีแลนด์ รู้สึกว่าเค้าเป็นคนบ้าเหล่านั้น

John Jacop Niles มันแปลกที่บ๊อบดีแลนด์ เคยได้ยินเพลงของ Jacop ที่ใหนสักแห่ง บ๊อบเล่าว่า ผมไม่รู้ว่าดนตรีโฟล์ก มีอิทธิพลต่อผม

odetta - Water Boy



Odetta Holmes dies at 77; folk singer championed was an African-American singer, actress, guitaris
...บ๊อบเล่าว่าเธอเล่นจังหวะแบบหนักเบาปนกัน แบบที่คุณจังหวะไม่ต้องใช้กลอง เหมือนจังหวะผสมแบบ เท็กซ์เม็ก...พอผมได้ยินจังหวะนั้น ...ผมเอาจังหวะนั้นมาใช้ได้กับทุกๆอย่าง

ถ้าเข้าไปในตู้ฟังเพลงบ๊อบกระฉับกระเฉงมาก บ๊อบได้ยินเพลงครั้งสองครั้งเค้ากะจำได้ ตอนๆเด็กบ๊อบยอมแลกเครื่องดนตรีไฟฟ้า แลกกับ กีตาร์ออร์คูซสติก ...ดีแลน เปลี่ยนชื่อตาม กวี ดีแลน โทมัส the poet Dylan Thomas


Piety sings คุณธรรมเปล่งเสียง
Innocence sweetens my last black breath
ความไร้เดียงสาทำให้ลมหายใจสุดท้ายที่ดำมืดของข้ากลับอ่อนหวาน
Modesty hides my thighs in her wings
ความอ่อนน้อมซ่อนข้าไว้ใต้ปีกของเธอ
And all the deadly virtues
และคุณธรรมที่สมบรูณแบบทั้งหลาย
plague my death!
สร้างความวิบัติให้ความตายแก่ข้า

บางทีบ๊อบอาจเปลี่ยนชื่อ ตามเชื้อชาติยิวของเค้า มินิโซต้ามีประวัติศาสตร์ที่ใหญ่เกี่ยวกับการกีดกันยิว

น้ำเสียงของบ๊อบไม่ได้ดีที่สุด หรือแย่ที่สุด เค้าหิวกระหายไม่ว่าเงินหรือชื่อเสียง ประสบการณ์ การได้ออกแสดง Woody Guthrie มีน้ำเสียงเฉพาะตัว มีอย่างอื่นในน้ำเสียงของเค้า มันไม่เป็นสิ่งธรรมดาเลยสำหรับ... หูของบ๊อบ

เสียงของ Woody Guthrieนี้ฆ่าพวกนาซี เค้าเป็นพวกหัวรุนแรง เพลงของเค้ามีทัศนคติที่รุนแรง .......แบบนี้แหละที่บ๊อบอยากร้อง...ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน ...และเรียนรู้ว่า Woody Guthrie มีความเป็นอยู่อย่างไร



Jesus Christ - Woody Guthrie


Bob Dylan - Jesus Christ


เพลงนี้ไม่โบราณสำหรับบ๊อบ สำหรับบ๊อบคิดว่า มันเกิดขึ้นเวลานี้

Bound for Glory โดย Woody Guthrie ได้ให้หนังสือที่เค้าแต่งแก่บ๊อบ บ๊อบเข้าถึงหนังสือนี้มากกว่าเรื่อง On the Road



และกับเพลงนี้ของบ๊อบ
Leopard Skin Pill Box Hat


ได้รับคำชมว่ามันเยี่ยมมาก เค้าแค่ทำในสิ่งที่เค้ายากทำ กับคนที่ว่าแย่แฟนคลับบอกว่า ถ้าไม่ชอบก็ออกไปซ๊ะ....บ้างก็บอกว่ามาดูดนตรี ไม่ใช่ มาดูPoP Group

you came to see Dylan not a group.
Not a pop group.


บ๊อบพยามจำเพลงที่เล่นออกมา และตามหาว่าใครคือ วูดดี้ กรูธรีย์ Woody Guthrie แผ่นเสียงของ Woody เกือบจะหาไม่ได้ ในร้านแผ่นเสียงไม่มีขายเลย

Paul Nelson นักปราชญ์ด้านดนตรีโฟล์ค ...แต่เค้าไม่ได้เล่นดนตรีเลย
เค้ามีแผ่นเสียงเพียบ บ๊อบไปบ้านเค้าและไปฟังแผ่นเสียง Paul แผ่นเสียงบ้านเค้าหายไป 25 แผ่นส่วนมากเป็นเพลงที่บ๊อบฟัง Paul คิดว่าบ๊อบเอาไป

บ๊อบบอกว่า แผ่นเสียงเหล่านั้นเหมือนงมเข็มในมหาสมุทธ หายากม๊ากกก ถ้าคุณเป็นคนดนตรีอย่งผม คุณต้องหาประโยชน์จากมัน

Paul กล่าวไปหัวเราะไป..เค้าไปตามหาบ๊อบที่เรียนอยู่ ใครๆๆก็บอก...ว่าต่อไป เด็กคนนี้ต้องดังแน่เลย

บ๊อบมุ่งมั่นไปทางตะวันออก ตามหา Woody Guthrie บ๊อบยังไม่รู้เลยว่า Woody ยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า แต่บ๊อบมั่นใจ ....Woody อยู่ในโรงพยาบาล บ๊อบได้ไปเยี่ยมเขา

สมัยก่อน เวลาเดินทาง โบกรถ ขอติดรถไป เป็นเรื่องที่ยังทำกันอยู่ ...บ๊อบมีกระเป๋าใบหนึ่งกับกีตาร์ ...มีเงิน 10 เหรียญ ติดกระเป๋า

Joan Baez - It Ain't Me, Babe (Live 1965)



ผู้หญิงที่เสียงเพราะๆๆร้องเพลง Blowing in the wind, Donna Donna Etc.....

Bob Dylan & Joan Baez Blowing in the wind



ผู้หญิงคนนี้.... ทำให้บ๊อบงงมาก.... เหมือนกับว่า.... โลกของมุมมองของผมแตกต่างออกไป ...เธอเป็นแนวโฟล็ค อย่างเต็มตัว ...เล่นกีตาร์ได้เก่งมาก ...บ๊อบเห็นเธอในทีวี ...บ๊อบต้องการเธอเป็นนักร้องคู่

JFK.... SPEED

Let the word go forth
from this time and place...
ขอให้ข่าวแพร่ไปจากที่นี้น๊ะเวลานี้
to friend and foe alike...
ทั้งผองมิตร และศตรู
that the torch has been passed
to a new generation of Americans.
ว่าคบไฟได้ถูกส่งผ่านให้คนอเมริกันรุ่นใหม่
Ask not what your country can do for you.
จงอย่าถามว่าประเทศให้อะไรกับคุณบ้าง
Ask what you can do for your country.
จงถามว่าคุณทำอะไรให้กับประเทศบ้าง


บ๊อบมาถึงวอร์ชิงตัน ปี 1948 ยุคโบฮี่เมียน in Greenwich Village.คุณสามารถที่จะหากวี งานสร้างสรรศิลปะ อิสระจากพันธนาการ แสวงหา FREEDOM


I can't stand my own mind
ผมทนกับความคิดของตนไม่ได้
America, when will we end the human war?
อเมริกาเมื่อไหร่จะยุติสงครามมนุษย์
Go fuck yourself with your atom bomb.
ไปตายกับระเบิดปรามณูของแกเถอะ
I don't feel good; don't bother me
ฉันไม่มีอารมณ์อย่ามายุ่ง
I won't write my poem
ผมจะไม่เขียนกวีอีก
until I'm in my right mind
จนกว่าผมจะปรกติ

เป็นครั้งแรกในการลงหนังสือพิมพ์ the first poetry reading
in one of these sort of coffee shop/bars...


America, when will you be angelic?
อเมริกาเมื่อไหร่คุณจะเป็นคนดี
When will you take off your clothes?
เมื่อไหร่จึงจะยอมเปลื้องผ้า
When will you look at yourself
through the grave?
เมื่อไหร่ถึงจะมามองตัวเองผ่านหลุมศพ
When will you be worthy
of your million Trotskyites?
เมื่อไหร่จะมีค่าพอต่อสาวกTrotskyites เป็นล้านๆคน
America, why are your libraries
full of tears?
อเมริกาทำไมห้องสมุดเธอจึงร่ำไห้
America, when will you send
your eggs to India?
อเมริกาเมื่อไหร่คุณจะส่งไข่ไปอินเดียบ้าง
I'm sick of your insane demands.
ฉันเบื่อขอเรียกร้องบ้าๆของเธอ
When can I go into the supermarket
เมื่อฉันเข้าไปในร้านค้า
and buy what I need with my good looks?
แลกซื้อสิ่งต้องการได้ด้วยหน้าตาดี

In Washington Square สถานที่วันอาทิตย์ผู้คนมาคุยมาเล่นดนตรี แสดงตัวตนออกมา คนเสพกะทุกชนชั้น เดินไปมามาเที่ยวดูสิ่งแปลกๆ

บ๊อบ ดีแลน ในนิวยอร์ก บ๊อบเล่าว่า ผมมาถูกที่ มีที่เล่นหลายที่ คนแล้วคนเล่าไม่มีใครได้ออกแผ่นเสียง ...คุณต้องทำให้คนประทับใจ...นักร้องเก่งๆๆเยอะมาก ..บ๊อบทำให้คนจำได้...เล่นเพลงของ Woody Guthrie ใส่หมวกใบเล็ก มีสายรัด ทำอะไรจริงจัง

บ๊อบ Present ยื่นนามบัตรชื่อ Woody Guthrie เขียนว่า"ผมยังไม่ตาย"I ain't dead yet," "และเป็นลายมือของ Woody จริงๆบ๊อบยืนยัน บ๊อบอยากเป็น Woody เลียนแบบท่าทางของเค้า

Bob Dylan Desolation Row Live 1966



...ตอนนั้นบ๊อบรู้ว่า Woody Guthrie อยู่ที่ใหน เค้าจับรถเมล์ไปที่มอลริสทาวน์ Morristown........บ๊อบพบว่า ......มันเป็นโรงพยาบาลบ้า
เค้าจับwoody เข้าโรงพยาบาลโรคจิต ..เศร้ามากเลย ...เพราะ woody แค่กลัว
woody ขอให้บ๊อบเล่นเพลง ...บ๊อบกลับจาก มอลลิสทาวน์ ...มันมาถึงทางแยกแล้วต้องทำอะไรสักอย่างหนึ่ง ...บ๊อบแต่งเพลง บ๊อบไม่อยากเป็น...สิ่งที่ทิ้งขว้างเหมือน Woody Guthrie...

บ๊อบแต่งเพลงถึง Woody Guthrie กับความสำนึกในบุญคุณของเค้า

Bob Dylan: Song to Woody/ It's Alright Ma. 30th Anniversary




กับการทำงานของบ๊อบ เค้าแต่งเพลงได้ดี ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ บ๊อบเล่นตามคลับ มีแมวมองมาตามคลับเสมอ แต่ไม่มีใครสนใจ.......เพลงยุคนั้น กะต้องทำนองซึ๊งๆๆๆ ไพเราะฟังได้นานๆๆ อย่าง Columbia

สำหรับเพลงโฟล์ค...ใสสะอาด ขายไม่ได้กำไร ตามความสมบรูณ์ของดนตรีอย่างแท้จริง โฟล์คทางด้านการตลาดก็มี ส่วนมากติดชาร์ททางเพลง ป๊อบ ...แล้วอีกด้านหนึ่งของโฟล์คแสดงถึงสติปัญญา แรกๆผู้จัดการพาเค้าไปสมัคร บ๊อบโดนดูแลเหมือน สุกรเหมือนสุนัข ผู้จัดการถึงกะบอกว่า โอ้พระเจ้าเราพาเค้ามาผิดที่ ใครๆก็ปฎิเสธิเค้า โยนเค้าออกถนน บ๊อบและผู้จัดการรู้สึกแย่มากจริงๆๆ ส่วนมากค่ายเพลงบอกว่า...พวกเค้าไม่อัดเพลงประหลาดอะ

และโคลัมเบีย เรคคอร์ด Columbia Records กับการอัดเสียงครั้งแรก บ๊อบใช้เพลงที่บ๊อบรู้ แต่ไม่ได้แสดงบ่อยๆๆ เค้าอยากอัดแผ่นเสียงมาจากหัวเค้า จะดูว่าเกิดอะไรขึ้น เค้าขอเพลงของ เอริค มาร้องในเพลง House of the Rising Sunในแบบของบ๊อบ

Bob Dylan - House Of The Rising Sun (No Direction Home)



กับการเซ็นต์สัญญา กับColumbia Records ที่ใครใครก็กระหายอยากเข้าไป
แนวคิดคือ แต่งจริงจากของจริง อย่าหวังว่ามันจะทำเงิน พวกเราทุกคนเหมือนลูกหลาน Woody บ๊อบเรียกดนตรีของเค้าว่า แนวดนตรีร่วมสมัย เพลงทัศนคติเกี่ยวกับชีวิตที่คุณยืมมาใช้ได้ สร้างเพลงจากตรงนั้นได้ บ๊อบเขียนทุกๆที่ที่บ๊อบไป รถไฟใต้ดิน ร้านกาแฟ หรือที่ใหนก็ตาม หรือขณะที่คุยกะคนอื่น บ๊อบ กะต้องรักษาภาษาแบบเค้าไว้

เค้าเริ่มแสดงดนตรีไปทั่ว ตามบ้านมีกวี หนังสือมหากาฟณ์ บ๊อบอ่านในสิ่งที่บ๊อบเจอ มันเป็นการตื่นขึ้นของสัญชาติญาณ กับวิกฤติจรวดที่คิวบา ความรู้สึกตอนนั้น ผู้คนคิดว่าทั่วโลกกำลังพบจุดจบ บ๊อบแต่งเพลงไม่ใช่เหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง..มันยิ่งกว่านั้น

แนวคิดพื้นบ้านได้กระจายออกไป และใครกะทำเพลงได้ บ๊อบเล่าว่า ผมไม่ได้ทำอะไร ผมทำแบบที่เคยมีมาก่อน
อัลบัมชุดที่สอง ก็มีคนเริ่มสนใจ อัลเบริด โกรสแมน ผู้จัดการเข้ามา เค้าคือผู้รู้จักทำเงินให้นักร้อง เค้าได้ส่วนแบ่ง เค้าทำแบบนี้ตลอด กับคอนเสริท บ๊อบได้รับการต้อนรับ และขึ้นอันดับเพลงฮิต

แนวคิดของบ๊อบและเพื่อนๆๆดนตรีโฟล์คที่เหมือนกันคือ
พวกเค้าอยากเปลี่ยนโลก ไม่มีแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เราต้องทำบางอย่างเพื่อหยุดมัน พวกเค้าเชื่อจริงๆๆว่าพวกเค้ามีส่วน ในเรื่องของการเขียนเพลง

กับเทศกาลดนตรี

bob dylan & joan baez - god on our side (newport 63') 3/16


Joan Baez and Bob Dylan: "With God On Our Side"


มันปลุกเร้าจิตวิญญาณในช่วงนั้น บ๊อบว่า ต้องมุ่งมั่นไปให้ไกลเท่าที่เค้าทำได้

Bob Dylan - Blowing In The Wind




บ๊อบกับสื่อ ......และทัวส์คอนเสริทของเค้าที่ยุโรป

เค้าบอกกะสื่อว่า......ผมคือผู้ประท้วงครับ การเดินขบวนที่วอชิงตันดีซี ในปี 1963 เดือนสิงหาคม นักสู้ตัวจริง ท่านมาร์ติน ลูเธอร์คิง ยังคงเป็นประธานพิธี นั้นคือความหวังที่เป็นจริง ของจิตสำนึก ..มวลชนสามารถเปลี่ยนประวัติศาสตร์ได้ ......เราทุกคนเกิดมาเสมอภาคกัน....ทุกวันนี้บ๊อบยังซึ๊งคำนี้อยู่ ....และบ๊อบก็มาร้องเพลงที่นี้ด้วย

Martin Luther King "I have a dream"


JFK November 28 1963 ถูกลอบสังหาร การสูญเสียนั้นทำให้คนทั้งชาติปวดร้าว สูญเสีย December 1963 สหเสรีภาพฉุกเฉินของพลเมือง คือกลุ่มคนมุ่งมั่นจริงๆ ฝักใฝ่การเมืองแนวหน้า อุดมคติ และฝันให้เกิดความเท่าเทียม ความยุติธรรม กับรางวัลที่บ๊อบได้รับ เค้าอายุ แค่ 21 กับความอึดอัดของเค้า บ๊อบกล่าวว่า ...ผมไม่มีกีตาร์ แต่ผมเล่าได้ ขอบคุณสำหรับรางวัลทอมเพ็นส์ แทนที่ทุกคนจะลงไปคิวบา ประการแรกทุกคนยังหนุ่ม กว่าผมจะหนุ่มใช้เวลานานทีเดียว ผมภูมิใจที่ผมอายุน้อย ขอให้ทุกคนที่อยู่ที่นี้นึกถึงความหนุ่มแน่น

และเค้าเดินสายแสดงคนเสริททั่วประเทศ ฝูงชนแออัดเข้ามาหาบ๊อบ เค้ากลายเป็น Idol
กับคำวิจารณ์ของสื่อ บทกวีเพลงของบ๊อบดีแลน เกิดจากความเจ็บปวด ต่อสภาพอันเศร้าสลดของมวลมนุษย์ปัจจุบัน เค้าเป็นตัวแทนเสียงของคนหนุ่มสาวในยุคนั้น ยุคนั้น

ตามด้วยสงครามเวียดนาม การเคลื่อนไหวไม่หยุด กับเพลงเพื่อชีวิต เราทำตาม ความรู้สึกผิดชอบ โรคตามมาก็คือ...เราไม่รู้จะฟังใคร ...หรือความเฉื่อยชา...ที่เรารับฟังใครจะพูดอะไร และเมกาต่อต้านประท้วงสงคราม ..ยุคนั้นทุกคนถูกบังคับให้เลือกข้าง ต่อต้านสงคราม กะไม่เข้าข้างรัฐบาล เข้าข้างคิง คนดำ กะต่อต้านคนขาว

Bob Dylan - Subterranean Homesick Blues


บ๊อบ กับสื่อที่ยุโรป บางครั้งบ๊อบกะหัวเสียกับคำถามของสื่อ สื่อแค่ถามว่า คุณสนใจเนื้อเพลงมั๊ย บ๊อบกะฉุน คุณเคยถามแบบนี้กับสี่เต่าทองมั๊ย มันคือคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ และปาปารัสซี่บ๊อบวิ่ง สื่อก็วิ่งตามด้วย

หลายเพลงของบ๊อบ กลายเป็นเพลงฮิตของวงอื่น เช่นเพลงที่วง The Byrds เอาไปร้อง
The Byrds-Mr. Tambourine Man


เด๊อะเตอร์เติล ซอนนี่และเชอร์มีเพลงฮิตจากบ๊อบ มีคนเขียนเพลงคล้ายๆๆบ๊อบ แต่บ๊อบกะโอเค
หรือ I got me babe ล้อเลียนที่บ๊อบเขียน

บ๊อบได้รับการทดสอบหน้ากล้องโดย แอนดี้ วอร์ฮอร์ andy warhor

และบ๊อบกะทัวส์ยุโรป เค้าอยากกลับบ้านไม่ไปใหนทั้งนั้นอีกแล้ว หลังจากอุบัติเหตุมอร์เตอร์ไซด์ บ๊อบดีแลน ยังแต่งเพลงและอัดเสียงต่อไป แต่เป็นเวลา 8 ปี เค้าไม่ไปแสดงที่อื่น

ในยุคของบ๊อบ ดีแลน มีIdol ที่ดังในยุคนั้นอีก กะคือ โจแอล ไบแอช นักร้องคู่หูบ๊อบ และก็ ปีเตอร์ , พอล และ แมรี่

Blowing The Wind - Peter, Paul and Mary


500 Miles - Peter, Paul & Mary


อ่าเพลง Blowing The Wind คุณครูชอบเปิดให้ฟังงะ เลยเอามาแปลตามใจตัวเองะ อย่าถือสาน๊ะ เค้าพูดถึง ต่อต้านสงครามเวียดนามปู๊นนนนนนนนนน


Blowing In The Wind
การเคลื่อนไหวในสิ่งที่ เกือบจะเกิดขึ้น
In The Wind ([IDM] เกือบจะเกิดขึ้น (มักใช้ในทางวรรณคดี), See also: กำลังจะเกิด)

How many roads must a man walk down

มีถนนมากแค่ไหนที่มนุษย์เดินดินอย่างเราต้องเดินไปทาง

Before they call him a man
ก่อนที่พวกเขาเรียกเราว่าเป็นมนุษย์

How many seas must a white dove sail
มีทะเลมากมายแค่ใหนที่นกพิราบขาวต้องล่องเรือ

Before she sleeps in the sand
ก่อนที่คุณจะเผลอหลับในผืนทราย

How many times must the cannonballs fly
มีเวลามากแค่ไหนที่กระสุนปืนใหญ่พุ่งไปอย่างรวดเร็ว

Before they are forever banned
ก่อนที่พวกเขาได้ถูกห้ามไปตลอด


The answer, my friend, is blowing in the wind
คำตอบเหรอ เพื่อนของฉัน ........นั้นคือ การเคลื่อนไหวในสิ่งที่ เกือบจะเกิดขึ้น


The answer is blowing in the wind
คำตอบ คือ การเคลื่อนไหวในสิ่ง ที่ เกือบจะเกิดขึ้น

How many years must a mountain exist
กี่ปีมากแค่ไหนที่ภูเขาต้องยังคงอยู่


Before it is washed to the sea
ก่อนมันถูกซักล้างลงไปในทะเล

How many years can some people exist
กี่ปีมากแค่ไหนที่ผู้คนบางคนยังคงอยู่

Before they're allowed to be free
ก่อนที่พวกเขายอมให้นั้น....คืออิสระ


How many times can a man turn his head
มีเวลามากแค่ไหนที่มนุษย์สามารถเปลี่ยนความคิดของเค้า


And pretend that he just don't see
และแสร้งทำว่าเค้าไม่ต้องเห็ฯ

The answer, my friend, is blowing in the wind
คำตอบเหรอ เพื่อนของฉัน ........นั้นคือ การเคลื่อนไหวในสิ่งที่ เกือบจะเกิดขึ้น

The answer is blowing in the wind
คำตอบ คือ การเคลื่อนไหวในสิ่งที่ เกือบจะเกิดขึ้น


How many times must a man look up
มีเวลามากแค่ใหนที่มนุษย์แก้ไขให้ดีขึ้น

Before he can see the sky
ก่อนที่เค้าเห็นท้องฟ้า

How many years must one man have
กี่ปีมากแค่ใหนที่มนุษย์คนหนึ่งต้องมี

Before he can hear people cry
ก่อนที่เค้าได้ยินผู้คนร้องไห้...เสียน้ำตา

How many deaths will it take till he knows
กับความตายมากแค่ไหนมันใช้ไปจนกระทั่งเค้ารู้


That too many people have died
สิ่งนั้นผู้คนจำนวนมากมายเช่นกันได้สิ้นใจ

The answer, my friend, is blowing in the wind
คำตอบเหรอ เพื่อนของฉัน ........นั้นคือ การเคลื่อนไหวในสิ่งที่ เกือบจะเกิดขึ้น

The answer is blowing in the wind
คำตอบ คือ การเคลื่อนไหวในสิ่งที่ เกือบจะเกิดขึ้น

แถมต่อไว้ฟังเอง
Bob Dylan - Forever Young (live)



Joan Baez - Amazing Grace (Live)







 

Create Date : 31 ธันวาคม 2551
21 comments
Last Update : 10 มกราคม 2552 20:26:06 น.
Counter : 2811 Pageviews.

 

สุขสันต์วันปีใหม่ ขอให้มีความสุขกาย สบายใจ ปราศจากทุกข์โศก โรคภัยทั้งหลายทั้งปวง

 

โดย: ความเจ็บปวด 31 ธันวาคม 2551 16:42:06 น.  

 


สุขสันต์วันปีใหม่ ขอให้มีความสุขกาย สบายใจ ปราศจากทุกข์โศก โรคภัยทั้งหลายทั้งปวง



โดย: ความเจ็บปวด วันที่: 31 ธันวาคม 2551 เวลา:16:42:06 น.

ตอบ สุขสันต์วันปีใหม่ค่ะ

 

โดย: Bernadette 31 ธันวาคม 2551 18:29:52 น.  

 

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

 

โดย: CrackyDong 31 ธันวาคม 2551 18:36:21 น.  

 


สวัสดีปีใหม่ค่ะ



โดย: CrackyDong วันที่: 31 ธันวาคม 2551 เวลา:18:36:21 น.

ตอบ สวัสดีปีใหม่ค่ะ

 

โดย: Bernadette 31 ธันวาคม 2551 19:45:25 น.  

 

แวะมาทักทายจ้า ^^

 

โดย: นะ(รก) 31 ธันวาคม 2551 22:41:46 น.  

 

แวะมาทักทายจ้า ^^



โดย: นะ(รก) วันที่: 31 ธันวาคม 2551 เวลา:22:41:46 น.

ตอบ สวัสดีปีใหม่จ้า

 

โดย: Bernadette 1 มกราคม 2552 6:32:32 น.  

 

Wishes you have a Merry Christmas & Happy New Year 2009



ขอให้มีความสุขมากกว่าความทุกข์เสมอนะคะ
ขอให้สุขภาพดี เข้มแข็งทั้งกายและใจค่ะ
ขอส่งความสุขและ ความปรารถนาดีต่อกันผ่านตัวหนังสือ ส่งไปถึงใจ
ส วั ส ดี ปี ใ ห ม่ ค่ ะ

 

โดย: Charlotte Russe 1 มกราคม 2552 9:48:22 น.  

 

ขอให้มีความสุขมากกว่าความทุกข์เสมอนะคะ
ขอให้สุขภาพดี เข้มแข็งทั้งกายและใจค่ะ
ขอส่งความสุขและ ความปรารถนาดีต่อกันผ่านตัวหนังสือ ส่งไปถึงใจ
ส วั ส ดี ปี ใ ห ม่ ค่ ะ



โดย: Charlotte Russe วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:9:48:22 น.

ตอบ สวัสดีปีใหม่ค่ะ แง๊บบบ พูดไม่เก่ง รักน๊ะตะเอ๊งง

 

โดย: Bernadette 1 มกราคม 2552 12:47:40 น.  

 

ดีแลน ตอนหลังเขาศรัทธาในพระเจ้ามากนะแบร์ ไว้จะหามาเล่าให้ฟัง

สารคดีนี้เรามีแล้ว แต่ยังไม่ได้ดู ค่อยเสริมตอนดูจบนะ

สวัสดีปีใหม่จ้า แบร์

 

โดย: mr.cozy 1 มกราคม 2552 23:51:28 น.  

 

ดีแลน ตอนหลังเขาศรัทธาในพระเจ้ามากนะแบร์ ไว้จะหามาเล่าให้ฟัง

สารคดีนี้เรามีแล้ว แต่ยังไม่ได้ดู ค่อยเสริมตอนดูจบนะ

สวัสดีปีใหม่จ้า แบร์



โดย: mr.cozy วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:23:51:28 น.

ตอบ ได้ได้ รอๆๆ รบกวนเสริมให้ด้วยงั๊บบ เดี๊ยวเราไปหามาอ่านด้วยยย

 

โดย: Bernadette 2 มกราคม 2552 7:50:23 น.  

 

บ๊อบเค้าเติบโตจากชุมชนชาวยิว กะชาวยิวงะ
for a period during the late 1970s and early 80s, Bob Dylan publicly became a born-again Christian.
เค้ากะเป็นคริสเตียน ที่นี้ คร่าวๆๆก่อนงะ ฟามเห็ฯส่วนตัวเราจริงๆๆงะ

อ่า เป็น Idol ขวัญใจ ของคนทั่วโลก ลูกของบ๊อบกะเป็นยิว ต่อมา บ๊อบกะบอกว่า
The New York Times on September 28, 1997, journalist Jon Pareles reported that "Dylan says he now subscribes to no organized religion."

อันนี้เข้าจายยยบ๊อบงะ

source ://en.wikipedia.org/wiki/Bob_Dylan

เพลงนี้ บ๊อบ ได้แรงบันดาลใจจาก
อิสยาห์ Book of Isaiah (21:5–9)
ขอยืม KJV ไบเบิ้ล งะ
คาทอลิกใช้ New Jerusalem Bible
//www.catholic.org/bible/

ภาระเกี่ยวกับถิ่นทุรกันดารเมื่อกษัตริย์เซนนาเคอริบจะบุกรุก

21:5 จงเตรียมสำรับไว้ จงเฝ้าอยู่บนหอคอย จงกิน จงดื่ม เจ้านายทั้งหลายเอ๋ย จงลุกขึ้นชโลมโล่ไว้ด้วยน้ำมัน
21:6 เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า "จงไป ตั้งยามให้เขาไปร้องประกาศสิ่งที่เขาเห็น"
21:7 เขาได้เห็นรถรบพร้อมกับพลม้าเป็นคู่ๆ รถเทียมลาเป็นคู่ๆและรถเทียมอูฐเป็นคู่ๆ เขาได้ฟังอย่างพินิจพิเคราะห์ อย่างพินิจพิเคราะห์ทีเดียว
21:8 แล้วผู้เห็นได้ร้องว่า "พวกเขามาดุจสิงโต ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ยืนอยู่บนหอคอยตลอดไปในกลางวัน ข้าพระองค์ประจำอยู่ที่ตำแหน่งของข้าพระองค์ตลอดหลายคืน
21:9 และ ดูเถิด รถรบพร้อมพลรบกับพลม้าเป็นคู่ๆกำลังมา" และเขาตอบว่า "บาบิโลนล่มแล้ว ล่มแล้ว บรรดารูปเคารพสลักทั้งสิ้นแห่งพระของเขา พระองค์ทรงทำลายลงถึงพื้นดิน"

5 They lay the table, spread the cloth, they eat, they drink. Up, princes, grease the shield!
6 For this is what the Lord has told me, 'Go, post a look-out, let him report what he sees.
7 He will see cavalry, horsemen two by two, men mounted on donkeys, men mounted on camels; let him watch alertly, be very alert indeed!'
8 Then the look-out shouted, 'On the watchtower, Lord, I stay all day and at my post I stand all night.
9 Now the cavalry is coming, horsemen two by two.' He shouted again and said, 'Babylon has fallen, has fallen, and all the images of her gods he has shattered to the ground!'


Bob Dylan - All Along the Watchtower (Live at Woodstock '94)




U2 cover Bob Dylan (All Along The Watchtower)
มี U2 ขวัญใจเราแจมด้วยยยย



ARTIST: Bob Dylan
TITLE: All Along the Watchtower
Lyrics and Chords


"There must be some kind of way out of here"
Said the joker to the thief
"There's too much confusion
I can't get no relief
Businessmen they drink my wine
Plowmen dig my earth
None of them along the line
Know what any of it is worth"

/ Am AmG F FG / :

"No reason to get excited"
The thief, he kindly spoke
"There are many here among us
Who feel that life is but a joke
But you and I, we've been through that
And this is not our fate
So let us not talk falsely now
The hour is getting late"

All along the watchtower
Princes kept the view
While all the women came and went
Barefoot servants, too
But outside in the cold distance
A wildcat did growl
Two riders were approaching
And the wind began to howl

Source ://www.guntheranderson.com/v/data/allalong.htm

 

โดย: Bernadette 2 มกราคม 2552 11:38:38 น.  

 

John Wesley Harding คืออัลบัมที่ 8 ของบ๊อบ ที่ โคลัมเบีย เรคคอร์ด ปล่อยออกมา

Produced โดย Bob Johnston มันคือการกลับมาของ ดีแลน ออร์ครูสติก มิวสิค acoustic music และรากเง้าของธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิม หลังจาก ที่ 3 อัลบัมเป็นอิเล็คโทรนิค ร๊อคมิวสิค กะปล่อยออกมา ในปี 1975 กะเรียกว่าเทปใต้ดินงะ

เพลง "All Along the Watchtower" ได้รับความนิยมสูงสุด

ในปี 2003 อัลบัมติดอันดับของนิตยาสารRolling Stone magazine's อันดับที่ 301 ของ 500เพลงที่ฮิตที่สุดตลอดกาล

การแสดงภาษาดนตรีจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ล โดยผ่านการแต่งเพลงของบ๊อบ ที่อ้างอิงอุปมาถึงมากกว่า และพระคัมภีร์เก่าOld Testament ที่เป็นสีสันในลักษณะของบทเพลง

John Wesley Harding - 03 I Dreamed I Saw St. Augustine




Bob Dylan - I Dreamed I Saw St-Augustine


Bob Dylan w Joan Baez i dreamed i saw st. augustine live


Bob Dylan Drifter's Escape


Bob Dylan - Frankie Lee And Judas Priest - Cardiff 2000

 

โดย: Bernadette 2 มกราคม 2552 12:10:55 น.  

 

John Wesley Harding - 07 Dear Landlord



song I Dreamed I Saw St-Augustine

In "I Dreamed I Saw St. Augustine", the narrator is addressed in his dreams by St. Augustine of Hippo, the bishop-philosopher who held the episcopal seat in Hippo Regius, a Roman port in northern Africa; he died in 430 A.D. when the city was overrun by Vandals. Riley notes that in "I Dreamed I Saw St. Augustine", Dylan twists St. Augustine's "symbolic stature to signify anyone who has been put to death by a mob." Throughout the song, the narrator's vision of St. Augustine reveals to him "how it feels to be the target of mob psychology, and how confusing it is to identify with the throng's impulses to smother what it loves too much or destroy what it can't understand." The opening lyrics are based on the labor union song "I Dreamed I Saw Joe Hill Last Night". The last line continues the "Joe Hill" theme, echoing the last line of Woody Guthrie's "Ludlow Massacre": "I said God bless the Mineworkers' Union, and then I hung my head and cried".


"All Along the Watchtower", inspired by a section in Isaiah dealing with the fall of Babylon. As Heylin writes, "the thief that cries 'the hour is getting late' is surely the thief in the night foretold in Revelation: Jesus Christ come again. It is He who says, in St. John the Divine's tract: 'I will come on thee as a thief, and Thou shalt not know what hour I will come upon thee' ... [Dylan would later] say of John Wesley Harding that he had been 'dealing with the devil in a fretful way'." "All Along the Watchtower" would soon gain great fame in a dramatic interpretation by Jimi Hendrix.


Lyrically, those same two songs stand out from the rest of the album. They are warm, cheerful love songs, lacking any of the Biblical references found throughout the album. "If John Wesley Harding was the album made the morning after a dark night of the soul," wrote Heylin, "these two songs suggested a newly cleansed singer returning from the edge." Accentuating the difference is the use of pedal steel guitarist Pete Drake on both tracks. The overall sound of these two tracks sounds closer to country, anticipating the country rock movement to follow as well as Dylan's next album, Nashville Skyline.

Source ://en.wikipedia.org/wiki/John_Wesley_Harding_(album)

 

โดย: Bernadette 2 มกราคม 2552 12:32:02 น.  

 

John Wesley Harding - 01 John Wesley Harding


ในปี May 1954 บ๊อบเป็น Bar Mitzvah อย่างไรกะตามสำหรับช่วงระหว่าง ช่วงท้ายปี 1970s และยุคแรกปี 80sบ๊อบ became a born-again Christian. จาก เดือน January ถึง April 1979 บ๊อบ มีส่วนร่วมในการศึกษาคลาสไบเบิ้ล ที่ the Vineyard School of Discipleship in Reseda, Southern California.

Pastor(พระ,บาทหลวงคุณพ่อ) Kenn Gulliksen หวนให้ระลึกถึงว่า : "Larry Myers และ Paul Emond ไปเยี่ยมที่บ้านบ๊อบและดูแลช่วยเหลือบ๊อบ และบ๊อบ กล่าวว่า 'ใช่ จริงแท้แน่นอนผมต้องการพระคริสตเจ้าเข้ามาในชีวิตของผม และบ๊อบสวด และในวันนั้น บ๊อบตอบรับพระเป็นเจ้า "

ตั้งแต่อัลบัม เพลงคริสเตียน 3 อัลบัม บ๊อบ เล่าว่า ผู้สนับสนุนเค้าคือ the Chabad Lubavitch movement และ แม้ว่าการเคลื่อนไหวของสาธารณะ การมีส่วนร่วมในศาสนายิว รวมถึง the bar mitzvahs ของลูกชายเค้า ภายหลัง ข่าวเกี่ยวกับชาวยิวที่รายงานนั้น บ๊อบได้เคย ขึ้นแสดง เป็นเวลาเล็กน้อย กับวันหยุดศักดิ์สิทธิ์ต่างๆของชาวยิว ที่บ๊อบรับใช้ตาม ศาลาธรรมต่าง (โบส์ถยิวในที่ต่างๆๆ) เป็นต้นว่า บ๊อบตั้งใจ ไปเฉลิมฉลองชุมนุม ในงาน Beth Tefillah, in Atlanta, Georgia on September 22, 2007 (Yom Kippur) สถานที่บ๊อบเรียกว่า the Torah for the sixth aliyah

ในปี 1997 บ๊อบกล่าวกับ Newsweek

ที่นี้กับสิ่งที่ผมและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของศาสนา นี้คือความจริงที่ตรงไปตรงมา ผมค้นหาศาสนาและปรัชญาในบทเพลง ผมไม่ได้ค้นหามันจากที่ใดๆเลย บทเพลงเหมือนกับ มาทำให้ผมได้พักผ่อนบนภูเขา หรือ ผมเห็นแสงสว่าง นั้นคือศาสนาของผม

Source : //en.wikipedia.org/wiki/Bob_Dylan

 

โดย: Bernadette 2 มกราคม 2552 13:14:24 น.  

 

สวัสดีปีใหม่จ้า ขอให้มีความสุขมากๆและเป็นปีที่ดีของแบร์เน้อ

เราคงไม่ได้อัพบล็อกอีกนาน ปีนี้ค่อนข้างยุ่ง แต่จะเข้ามาอ่านเรื่อยๆนะ

 

โดย: DKRY 2 มกราคม 2552 16:13:51 น.  

 

สวัสดีปีใหม่จ้า ขอให้มีความสุขมากๆและเป็นปีที่ดีของแบร์เน้อ

เราคงไม่ได้อัพบล็อกอีกนาน ปีนี้ค่อนข้างยุ่ง แต่จะเข้ามาอ่านเรื่อยๆนะ



โดย: DKRY วันที่: 2 มกราคม 2552 เวลา:16:13:51 น.


ตอบ สวัสดีปีใหม่จ้า รอตะเองเขียนบล๊อคจ้า

 

โดย: Bernadette 2 มกราคม 2552 17:55:06 น.  

 

Happy New Year 2009
ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ

 

โดย: Toon16 2 มกราคม 2552 18:43:19 น.  

 

Happy New Year 2009
ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ



โดย: Toon16 วันที่: 2 มกราคม 2552 เวลา:18:43:19 น.

ตอบ สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้มีความสุขม๊ากกกกค่ะ

 

โดย: Bernadette 2 มกราคม 2552 19:51:09 น.  

 


อยากดู อยากดู จริงๆค่ะ
หวัดดีปีใหม่ค่ะ..สาวน้อยคนเก่ง

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]

 

โดย: เริงฤดีนะ 3 มกราคม 2552 21:15:45 น.  

 

อยากดู อยากดู จริงๆค่ะ
หวัดดีปีใหม่ค่ะ..สาวน้อยคนเก่ง
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 3 มกราคม 2552 เวลา:21:15:45 น.

ตอบ ลอกเค้ามางั๊บพี่นางฟ้า อิอิ

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

 

โดย: Bernadette 4 มกราคม 2552 6:57:49 น.  

 

โห เขียนไว้เมื่อต้นปี

หลายคลิปดีๆ สาปสูญไปในบัดนี้เสียแล้ว

แต่ที่กองไว้ก็มีตั้งเยอะนะขอรับ

 

โดย: Mr.Chanpanakrit 7 พฤศจิกายน 2552 18:49:24 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Bernadette
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




In the name of the Father, and of the Son, and of the Holy Spirit

The Ave Maria asks Mary to "pray for us sinners."

Amen

PaPa for all Father W e pray year of priests.



Card Michael Michai Kitbunchu, Archbishop of Bangkok, is the first member of the College of Cardinals from Thailand.

source :http://www.asianews.it/news-en/Michai-Kitbunchu,-first-cardinal-from-Thailand-3038.html

พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู คณะเชนต์ปอล part1

ฺBishop ฟรังซิส เซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พิธีรับPallium Metropolitans Bangkok Thailand >

สารคดี เทศกาลแห่ดาว สกลนคร Welcome
Sakonnakorn Christmas Thailand
Metropolitans Tarae Sakornakorn Thailand


Orchestra and four vocal Choir - *Latin* Recorded for the Anniversary of the Pope Benedict XVI April 19 This is the Anthem of the Vatican City. The Songs are called Inno e Marcia Pontificale ...

We are Catholic.

หน้าเฟส อัพรูป หาที่อัพรูปใหม่อยู่ http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3


MusicPlaylist
MySpace Music Playlist at MixPod.com

Friends' blogs
[Add Bernadette's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.