แบร์แนแด็ท....น่ารัก....น่ารัก ขี้ลืม.....ขี้ลืม ...... หนังปายหนายหว่า buy แล้ววbuyอีก......... faith, hope and charity เฟศบุ๊ค http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
29 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
Leonardo di ser Piero da Vinci : เลโอนาร์โด ดา วินชีthe man who wanted to know everything

[Leonardo wrote:] Whoso curbs not lustful desires puts himself on a level with the beasts. One can have no greater and no lesser mastery than that which one has over one's self. . . . It is easier to resist at the beginning than at the end.


ภาพเหมือนตนเอง-1512 (Biblioteca Reale ตูริน)

Leonardo di ser Piero da Vinci เป็นหนึ่งใน "Renaissance man"
เลโอนาร์โด ดา วินชี จากการเป็นคาทอลิกตั้งแต่เกิด
From: Sherwin B. Nuland, Leonardo da Vinci (A Penguin Life), Lipper/Viking/Penguin Putnam Inc.: New York City, NY (2000), page 12:

One day... of 1452, a prosperous eighty-year-old landowner set down a few details of a recent notable event in his family: "A grandson of mine was born, son of Ser Piero my son, on April 15... His name was Lionardo." There follow the name of the priest who baptized the little boy and a lit of ten people present at the ceremony.



รูปปั้น ดาวินชี ที่เมืองฟลอเรนซ์

ด้วยความฉลาด และความเป็นศิลปินของเค้า บางครั้งเค้าก็ออกนอกลู่นอกทาง ก่อนตาย แต่เป็นน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า ก็ทราบ ตอนใกล้สิ้นใจ เค้าได้รับศีลอภัยบาป

1519 - April 25. Dictates his will.
May 2: Dies at Cloux and is buried in the cloister of the Church of St. Florentin in Amboise.

เค้าเป็นคู่กัด ไม่เคิลแองเจโล ในเรื่องของศิลปะ ใช้เทคนิคนี้เหรอ ชั้นใช้เทคนิคนี้ เอาสิ ทำให้เกิดงานศิลปะที่ยิ่งใหญ่ เกิดขึ้นมากมายในยุคนั้น ที่จะพูดถึงคือ

(The Last Supper) (1498)

ใช้เทคนิดแข่งกัน
Fresco เป็นวิธีการวาดรูปแบบหนึ่งที่ศิลปินชาวอิตาเลียนในยุคเรอเนซองส์ชอบใช้ ศิลปินจะวาดภาพและลงสีบนผิวปูนที่ยังเปียกอยู่ทำให้เนื้อสีสามารถซึมเข้าไปรวมเป็นเนื้อเดียวกับปูน ด้วยวิธีการเช่นนี้จะทำให้สีสันของภาพติดทนนานและไม่หลุดร่อนออกมา หลายๆ ภาพมีอายุมากกว่าสี่ห้าร้อยปีแต่สียังสดใดอยู่

ภาพ "The Last Supper" แสดงพระเยซูและสานุศิษย์ ๑๒ คน ขณะรับประทานอาหารค่ำมื้อสุดท้ายก่อนที่พระเยซูจะถูกตรึงบนไม้กางเขน และพระเยซูได้ตรัสว่าหนึ่งในสานุศิษย์ ๑๒ คนของพระองค์ได้ทรยศต่อพระองค์แล้ว

ภาพวาดนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดภาพหนึ่งของโลก ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวนับล้านคนแวะมาชื่นชมภาพนี้ และตลอดเวลานานหลายศตวรรษที่ผ่านมานี้ ภาพได้เสื่อมสภาพลงไปมาก เพราะถูกทำลายด้วยความชื้นจากผู้เข้าชมและมีฝุ่นปกคลุมผิวหน้าของภาพ มีผลทำให้สีที่ Leonardo ระบายไว้ได้ลอกออกมาบ้าง และเมื่อภาพได้รับความ ชื้นมาก พื้นที่บางส่วนของภาพได้ถูกเชื้อราปกคลุม นายช่างที่ได้รับการว่าจ้างให้บูรณภาพให้คงอยู่ในสภาพเดิม จึงใช้วิธีระบายสีทับลงไป การ "บูรณะ" เช่นนี้ มีผลทำให้คนหลายคนสงสัยว่า ภาพ "The Last Supper" ที่เห็นในปัจจุบัน กับภาพที่ Leonardo วาดในอดีตนั้นคงไม่เหมือนกันแน่เลย

ใน พ.ศ. ๒๕๒๒ รัฐบาลอิตาลีได้เริ่มงานซ่อมแซมและบูรณภาพ "The Last Supper" อย่างจริงจัง และ เมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ที่ผ่านมานี้ ภาพวาดของ Leonardo ก็ได้เผยโฉมให้โลกเห็นอีกครั้งหนึ่ง และโลกก็ได้ประจักษ์ว่าผลงานบูรณะที่ใช้เวลา ๒๐ ปีนี้เป็นผลงานเนรมิตของวิทยาศาสตร์ในศตวรรษที่ ๒๐ และงานศิลปะในสมัยศตวรรษที่ ๑๕ ร่วมกัน

เพื่อพิทักษ์รักษาภาพที่ประมาณค่ามิได้นี้ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ผู้เข้าชมทุกคนจะต้องผ่านกระบวนทำความสะอาด โดยให้ยืนในห้องปรับอากาศที่มีอุปกรณ์กำจัดฝุ่น และจุลินทรีย์จากเสื้อผ้าจนหมดจดก่อน จึงจะได้รับอนุญาตให้เข้าชมภาพ

ช่างอนุรักษ์คนสำคัญของโครงการนี้เป็นสตรีที่มีนามว่า Pinin Brambilla เธอต้องรับภาระกำจัดสีที่ช่างบูรณะต่าง ๆ ในอดีตได้เคยระบายไว้ให้หมด เพื่อให้โลกได้เห็นสีที่ Leonardo ได้ระบายไว้จริง ๆ งานบูรณะชิ้นนี้ได้รับความร่วมมือจากสถาบัน Central Institute for Restoration ในวงเงิน ๓๐๐ ล้านบาท

เสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับผลงานที่สำเร็จแล้วมีทั้งบวกและลบ จิตรกรหลายคนมีความเห็นว่า Brambilla ได้สกัดสีที่ Leonardo ได้ระบายไว้ออกมาด้วยมากเกินไปทำให้ภาพศีรษะของพระเยซูเลือนรางเหลือแต่ส่วนที่เป็นเส้นผมและเคราเท่านั้นที่ปรากฏชัดเจน นอกจากนี้ ภาพที่บูรณะแล้วยังซีดและไม่คมชัดอีกต่างหาก แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะอีกหลายคนที่กล่าวยกย่องงานบูรณะนี้ว่าเป็นการบูรณะระดับเซียนทีเดียว

ในความเป็นธรรมนั้น ใคร ๆ ก็รู้ว่างานบูรณภาพ ๆ นี้มีปัญหาที่ไม่ธรรมดาเพราะ Leonardo ใช้วิธีการระบายสีบนผนังที่ไม่เหมือนใคร จิตรกรทั่วไปมักจะใช้สีน้ำระบายไปบนปูนปลาสเตอร์ขณะเปียก ๆ สีจึงติดไปบนผนังทันทีเวลาผนังแห้ง แต่ Leonardo ใช้สีน้ำมันระบายลงไปเป็นชั้น ๆ บนปูนปลาสเตอร์ เทคนิคนี้ทำให้เขาสามารถแสดงรายละเอียดของภาพได้ดีขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ภาพจะประสบปัญหาความชื้น และเมื่อได้มีการพบว่าที่ระดับลึกใต้ผนังลงไป ๘ เมตร มีแอ่งน้ำใต้ดินอยู่ สีน้ำมันที่ Leonardo ใช้ระบายก็เริ่มแตกสะเก็ด เมื่อเขาระบายเสร็จไม่นาน

และเมื่อภาพสลายไป การบูรณภาพก็ได้ดำเนินมาเป็นระยะ ๆ จิตรกรที่บูรณะได้ใช้สีเคมีต่าง ๆ และใช้เทคนิคหลายรูปแบบ จนผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะหลายคนมีความเห็นว่า การ "บูรณะ" ได้ทำลายภาพมากกว่าได้บูรณภาพ เช่น ในงานบูรณะ พ.ศ. ๒๒๖๙ ช่างบูรณะได้ใช้สีที่มีโซดาไฟระบาย และใน พ.ศ. ๒๓๑๓ ผู้บูรณะคนหนึ่งได้ขูดสีที่ Leonardo ระบายออกไปอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เป็นต้น

งานบูรณะครั้งหลังสุดนี้ได้เริ่มดำเนินการใน พ.ศ. ๒๕๒๒ หลังจากที่ได้มีการตรวจพบว่า สีที่นักบูรณะคนก่อน ๆ ได้ระบายไว้นั้น มีสารเคมีหลายชนิดที่กำลังกัดกร่อนสีที่ Leonardo ได้ระบายไว้ Brambilla จึงได้เริ่มการบูรณะอย่างมีหลักการ โดยเธอได้ใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องดูสีที่ Leonardo และนักบูรณภาพคนก่อน ๆ ใช้ ภายใต้แสงอัลตราไวโอเล็ตและแสงอินฟราเรด ทำให้เธอรู้ว่าสีดั้งเดิมเป็นสีอะไร และสีเสริมใหม่เป็นสีอะไร จากนั้นก็ใช้มีดคมที่มีด้านเล็กขูดสกัดสีที่นักบูรณะเก่า ๆ ระบายไว้ออกทีละชิ้น ๆ และเธอก็ได้เห็นรายละเอียดของภาพเพิ่มมากขึ้น เช่น ภาพของดอกไม้ที่ม่าน ภาพขนมปังบนโต๊ะอาหารและเห็นทิวทัศน์เบื้องหลังของพระเยซูชัดเจนยิ่งขึ้น

มาบัดนี้ผู้ที่ได้เข้าชมภาพต่างก็พอใจกับงานบูรณะของ Brambilla มาก และทุกคนก็ทำใจได้ว่า ถึงแม้เราจะไม่มีวันได้เห็นภาพดั้งเดิมที่ Leonardo วาดไว้ ๑๐๐% เต็มก็ตาม แต่ขณะนี้ก็ได้เห็นภาพต้นฉบับมากกว่าในอดีตมาก และเมื่อการพิทักษ์ปกป้องภาพเป็นไปอย่างรัดกุมและระมัดระวังเช่นนี้ เราก็มั่นใจว่า ภาพ The Last Supper จะอยู่คู่โลกอีกอย่างน้อยก็ ๕๐๐ ปี

ผู้เขียน : ศ. ดร.สุทัศน์ ยกส้าน ภาคีสมาชิก ประเภทวิทยาศาสตร์กายภาพ สาขาวิชาฟิสิกส์ สำนักวิทยาศาสตร์



ประวัติของเค้า

Leonardo da Vinci เกิดเมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๑๙๙๕ ที่หมู่บ้าน Vinci ในแคว้น Tuscaney ของอิตาลี บิดาชื่อ Ser Piero Antonio da Vinci เป็นคหบดีที่มีฐานะมั่งคั่ง แต่มีมารดาเป็นหญิงชาวนาชื่อ Catarina เมื่อมารดาหย่าบิดาไปแต่งงานใหม่ ชีวิตของ Leonardo ในวัยเด็กจึงตกอยู่ในความดูแลของบิดา



The Mona Lisa

ขณะเป็นนักเรียน เด็กชาย Leonardo ชอบซักถามปัญหาต่าง ๆ จนครูจนปัญญาตอบ และถึงแม้จะเป็นคนเรียนหนังสือเก่ง ร้องเพลงเพราะ และแต่งโครงกลอนได้ดี แต่ Leonardo กลับโปรดปรานการเขียนภาพ และวาดภาพเป็นที่สุด เมื่อบิดาเห็นแววศิลปินของบุตร จึงได้นำบุตรของตนไปฝากเรียนวิชาวาดภาพกับจิตรกรชื่อ Verrocchio ที่มีชื่อเสียงมากในสมัยนั้น Leonardo ได้แสดงความสามารถในการวาดภาพจนอาจารย์รู้สึกชื่นชม และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยคนสนิทของอาจารย์ที่มีหน้าที่วาดภาพต่าง ๆ ที่อาจารย์ไม่มีเวลาวาดให้เสร็จ นอกจากจะสนใจวาดภาพแล้ว Leonardo หนุ่มยังสนใจศิลปะการปั้นรูปอีกด้วย


Virgin of the Rocks, London.

โลกรู้จัก Leonardo ว่าเป็นจิตรกรคนแรกของโลกที่เข้าใจความสำคัญของแสงและเงาในการวาดภาพ Leonardo ได้ใช้ความเข้าใจนี้ในการวาดภาพของเขา ทำให้ภาพที่เขาวาดแตกต่างจากภาพวาดของจิตรกรอื่น ๆ ในอดีตคือ ดูสมจริงและเป็นธรรมชาติกว่ามาก

นอกจากจะเล็งเห็นบทบาทของแสงในการวาดภาพแล้ว Leonardo ยังได้ขวนขวายศึกษาธรรมชาติของแสง สรีรวิทยาของสัตว์ การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ และคลื่นน้ำอีกด้วย


ภาพกายวิภาคที่ก้าวล้ำยุคสมัยไปมาก ที่เรารู้จักกันในนามของ "วิทรูเวียนแมน" (Vitruvian Man)


นับเป็นบุญของมนุษยชาติที่ Leonardo ได้เขียนความนึกคิด จินตนาการ ข้อสังเกตและความรู้ทั้งหลายที่เขามี ลงในสมุดบันทึกที่มีความหนากว่า ๑,๐๐๐ หน้า ในสมุดบันทึกเล่มนั้นมีภาพวาดของระเบิดนาปาล์ม เรือรบ มนุษย์กบ เทคนิคการป้องกันน้ำท่วม วิธีสร้างปืนใหญ่ เครื่องจักรไอน้ำ เรือดำน้ำ เฮลิคอปเตอร์ ร่มชูชีพ รถถัง เครื่องปรับอากาศ เกียร์ รูปเกลียว ใบพัดเครื่องบิน ฯลฯ อย่าลืมนะครับว่า Leonardo เขียนแผนภาพของอุปกรณ์เหล่านี้ ๔๐๐ ปีก่อนที่โลกจะรู้จักเทคโนโลยีเหล่านี้ นักวิชาการที่ได้ศึกษาสมุดบันทึกเล่มนี้ เห็นพ้องกันว่า Leonardo มีวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลเกินผู้คนยุคนั้นเป็นศตวรรษ




A page from Leonardo's journal showing his study of a foetus in the womb.

นอกจากจะเป็นคนที่มีจินตนาการระดับอัจฉริยะแล้ว Leonardo ยังเป็นคนที่มีสายตาคมกริบถึงขนาดเห็นการแตกกระจายของคลื่นเป็นเกลียว ๆ และฟองน้ำได้อย่างชัดเจนถึงขนาดว่าภาพคลื่นที่เขาวาดดูเหมือนกับภาพคลื่นที่กล้องถ่ายรูปปัจจุบันถ่ายยังไงยังงั้น

ความสามารถในการวาดภาพของเขายังถูกนำมาใช้ในการศึกษาสรีรวิทยาของกล้ามเนื้อคนด้วย โดย Leonardo ใช้ศพคนจริง ๆ ในการวาดภาพกล้ามเนื้อ การศึกษาระบบโลหิตในร่างกายคน ทำให้ Leonardo เกือบพบหน้าที่ที่แท้จริงของหัวใจ



Studies of the action of running water.
เมื่อมีอายุได้ ๓๐ ปี เขาได้อพยพไปทำงานที่ Milan ขณะทำงานประจำที่นั้นเขาได้ออกแบบผังเมืองใหม่ได้ออกแบบสร้างระบบทดน้ำ และลำเลียงน้ำสำหรับเมือง ได้ศึกษาปรากฏการณ์ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง และเมื่อมีอายุได้ ๔๒ ปี เขาก็ได้เริ่มวาดภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดภาพหนึ่งของโลกคือภาพ "The Last Supper" บนผนังของโบสถ์ Santa Maria della Grazie ในเมือง Milan โดยใช้เวลานาน ๓ ปี


Virgin and Child with St. Anne


Leonardo da Vinci tomb in Saint Hubert Chapel (Amboise).

“ The man Leonardo
alone above all others

surpasser of Phidias

conqueror of Apelles

and over every one

of their victorious followers!
”

Source : //www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?Search=1&ID=477

//en.wikipedia.org/wiki/Leonardo_da_Vinci



Create Date : 29 กรกฎาคม 2550
Last Update : 29 กรกฎาคม 2550 22:38:21 น. 9 comments
Counter : 2507 Pageviews.

 
ภาพที่เป็นผู้หญิงน่ะ Mona Lisa จริงไหมคับที่ว่า เค้าบอกว่าเป็นภาพตัวของลีโอเอง อีกแง่มุมหนึ่ง เพราะลีโอเอนซ้ายอ่ะคับหรือที่ว่าเป็น ชายรักชาย แต่เหมือนผมจะจำไม่ผิด ลีโอนี่ก็มีเมียเยอะด้วยใช่ไหมคับเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนภาพ ความรักทำให้ลีโอวาดภาพออก ถ้าลีโอเลิกกะแฟนเค้าก็เศร้าทำให้เขียนภาพไม่ออก อิอิ ข้อมูลเยอะ มีแต่เวลาไปอ่านหนังสือมาก็จำแบบคราวๆๆก็เลยมาแบบเนียะแบบเป็นข้อมูลที่ไม่แน่ เอาจริงจังไม่ได้ เอาเป็นว่าอ่านให้สนุกๆๆๆไปแล้วกันเนอะ


โดย: noomrangerha วันที่: 29 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:51:17 น.  

 
ภาพที่เป็นผู้หญิงน่ะ Mona Lisa จริงไหมคับที่ว่า เค้าบอกว่าเป็นภาพตัวของลีโอเอง อีกแง่มุมหนึ่ง เพราะลีโอเอนซ้ายอ่ะคับหรือที่ว่าเป็น ชายรักชาย แต่เหมือนผมจะจำไม่ผิด ลีโอนี่ก็มีเมียเยอะด้วยใช่ไหมคับเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนภาพ ความรักทำให้ลีโอวาดภาพออก ถ้าลีโอเลิกกะแฟนเค้าก็เศร้าทำให้เขียนภาพไม่ออก อิอิ ข้อมูลเยอะ มีแต่เวลาไปอ่านหนังสือมาก็จำแบบคราวๆๆก็เลยมาแบบเนียะแบบเป็นข้อมูลที่ไม่แน่ เอาจริงจังไม่ได้ เอาเป็นว่าอ่านให้สนุกๆๆๆไปแล้วกันเนอะ



โดย: noomrangerha วันที่: 29 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:51:17 น.


ตอบถูกต้องค่ะ เดี๊ยวหาข้อมูลให้ค่ะ

ขอพระเป็นเจ้าอวยพรค่ะ
อาแมน


โดย: Bernadette วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:02:36 น.  

 
คุณ noomrangerha

ถ้าพูดถึงรูปโมนาลิซ่า ในแง่ของวิชาการ

คือ ไดนามิกเพ็นติ้ง คือ แสดงอารมณ์ได้หมดจดประมาณนั้นอะค่ะ เป็นภาพแห่งความสมบรูณ์แบบในการสื่ออารมณ์ออกมาค่ะ

Adjunct Professor at Brown University, has argued that the secret is in the dynamic position of Mona Lisa's facial muscles, where our mind's eye unconsciously extends her smile; the result is an unusual dynamicity to the face that invokes subtle yet strong emotions in the viewer of the painting.[26]


อันนี้คัดมาบางส่วนค่ะ



Detail of the background (left side)



Detail of the background (right side)



Detail of the eyes



Detail of the mouth



Detail of the face, showing the subtle shading effect of sfumato, particularly in the shadows around the eyes

Source : //en.wikipedia.org/wiki/Mona_Lisa


โดย: Bernadette วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:32:41 น.  

 
ถ้าในแง่วาดรูปจากตัวตนของเค้ามีส่วนค่ะ

เอ่อ

ที่รู้งะ

คือว่า เค้าเป็นรักร่วมเพศงะ

ตอนใกล้ตายยกทรัพย์สมบัติให้ลูกศิษย์ที่เค้ารักหมดเลยอะ



โดย: Bernadette วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:34:35 น.  

 
หรอ ขอบคุณครับ


โดย: noomrangerha วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:19:26 น.  

 
หรอ ขอบคุณครับ



โดย: noomrangerha วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:19:26 น.


ตอบ ดูสารคดีอะค่ะ


โดย: Bernadette วันที่: 3 สิงหาคม 2550 เวลา:10:14:59 น.  

 
ที่นี่ก็มีภาพสวยอีกแล้ว นึกถึงthe da vinci code


โดย: haro_haro วันที่: 17 สิงหาคม 2550 เวลา:14:33:14 น.  

 
วันนี้เพิ่งดู Ever after ไปมีดาวินชี่ด้วย
แวะมาอ่านค้า


โดย: January Friend วันที่: 18 สิงหาคม 2550 เวลา:20:04:35 น.  

 
วันนี้เพิ่งดู Ever after ไปมีดาวินชี่ด้วย
แวะมาอ่านค้า



โดย: January Friend วันที่: 18 สิงหาคม 2550 เวลา:20:04:35 น.


ตอบ ขอบพระคุณค่ะ เดี๊ยวไปหาดูค่ะ


โดย: Bernadette วันที่: 27 สิงหาคม 2550 เวลา:21:27:16 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Bernadette
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




In the name of the Father, and of the Son, and of the Holy Spirit

The Ave Maria asks Mary to "pray for us sinners."

Amen

PaPa for all Father W e pray year of priests.



Card Michael Michai Kitbunchu, Archbishop of Bangkok, is the first member of the College of Cardinals from Thailand.

source :http://www.asianews.it/news-en/Michai-Kitbunchu,-first-cardinal-from-Thailand-3038.html

พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู คณะเชนต์ปอล part1

ฺBishop ฟรังซิส เซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พิธีรับPallium Metropolitans Bangkok Thailand >

สารคดี เทศกาลแห่ดาว สกลนคร Welcome
Sakonnakorn Christmas Thailand
Metropolitans Tarae Sakornakorn Thailand


Orchestra and four vocal Choir - *Latin* Recorded for the Anniversary of the Pope Benedict XVI April 19 This is the Anthem of the Vatican City. The Songs are called Inno e Marcia Pontificale ...

We are Catholic.

หน้าเฟส อัพรูป หาที่อัพรูปใหม่อยู่ http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3


MusicPlaylist
MySpace Music Playlist at MixPod.com

Friends' blogs
[Add Bernadette's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.