Mother Teresa: In the Name of God's Poor (1997)

MOTHER TERESA


........แม้แต่คนดีก็สามารถทุกข์ยาก แม้แต่ผู้บริสุทธิ์ด้วย
พระเจ้าของคุณ เค้าทำสิ่งเลวร้ายอะไรในชีวิตเหรอ เค้าถึงมารับกรรมบนไม้กางเขน ความเจ็บปวดเช่นนั้น
พระองค์สิ้นพระชมน์บนไม้กางเขน เพื่อพิสูจน์ความรักอันยิ่งใหญ่ยิ่งกว่า พระองค์สิ้นพระชมน์เพื่อเรา


คุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา ที่ใครใครกะรัก จากจุดเริ่มต้นของคุณแม่ที่ช่วยเหลือคนยากจนในสลัม จากคุณแม่ไม่มีอะไรเลย เดินเข้าไปตัวเปล่าสอนหนังสือเด็กๆตามด้วยช่วยคนป่วยที่ใกล้จะตาย พูดง่ายๆๆตายแน่นอนไม่มีใครดูแล้ว และต่อเนื่องด้วยการช่วยเหลืออื่นๆๆที่ตามมา กับรางวัลที่คุณแม่ได้รับหลายๆๆรางวัลระดับโลก คุณแม่เอารางวัลไปขายเพื่อช่วยเหลือพี่น้องที่อ่อนแอ มันเป็ฯเรื่องปรกติที่คุณแม่เทเรซากะเจอการโจมตี อยากดัง มีชื่อเสียง แก้ปัญหาที่ปลาเหตุ......ไม่ใช่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ..... ในเรื่องการช่วยเหลือคน กะแหง๋มอะ (อันนี้ความเห็นส่วนตัวอะไม่มีอะไรเปอร์เฟ็คในสายตามนุษย์ )

U2 - Grace / Mother Teresa


เราชอบซีนนี้อะ ในปี 1982 กรุงเบรุต คุณแม่เทเรซาช่วยเด็ก 37คนจาการโจมตีของ กองทัพอิสราเอล กะกองกำลังปาเลสไตล์ คุณแม่ไปกะกาชาดสากลอะ



คณะของคุณแม่มีทำงานร่วมกับ 610 มิชชั่น ใน 123ประเทศ พี่เลี้ยงเด็ก 300คน มีซิสเตอร์ กว่า 4000คนในแต่ละปีจะเลี้ยงสมาชิกกว่า 500,000 ครอบครัว อาสาสมัคร กว่า 100,000 คน รักษาผู้ป่วยในสลัมกว่า 40,000 คน บ้านพักผู้ป่วยโรคเอดส์ บ้านพักผู้ถูกทอดทิ้งบ้านพักผู้เลิกเหล้า ที่พักสำหรับผู้หญิงที่ถูกทำร้ายและผู้อดยาก และช่วยเหลือผู้ประสบภัยในถิ่นต่างๆๆ


Source ://en.wikipedia.org/wiki/Mother_Teresa
//www.cancliniprints.com/pictures/mother_teresa_noposterorframe_enhanced.jpg
กับการ มาด้วยมือเปล่าของคุณแม่ เกือบโดนฆ่าในสลัม คุณแม่เจรจากับหน่วยงานราชการเพื่อต้องการความช่วยเหลือ....... กับการเคารพความเชื่อของพี่น้องต่างความเชื่อ ......และอยู่ร่วมกันได้....... ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

CalCutta India 1946 กัลกัตตา อินเดีย ปี 1946 ยังไม่ได้รับเอกราชจากอังกฤษ ความยากจน ความอดอยาก ความไม่เข้าใจกันของพี่น้องต่างความเชื่อ การจลาจล

ท่านมหาตมะคานธี เดินทาง ไปที่ต่างๆๆของอินเดีย ขอร้องให้พี่น้องอินเดีย มีความรักกัน ด้วย สันติวิธี

อาหารไม่มีในคอนแวนให้นักเรียน200กิน ของแม่ชีเทเรซาซึ่งประจำอยู่ คณะ Loreto โลเรโต สอนหนังสือในคอนแวนต์อินเดีย แม่ชีเทเรซาออกไปหาอาหารข้างนอกท่ามกลางความจราจล ได้อาหารกลับมาจากการช่วยเหลือของทหารอังกฤษ ..........การจราจลก่อให้เกิดฝูงชนที่บาดเจ็บหนีหลบเข้าไปในคอนแวนต์แม่ชีเทเรซาช่วยเอาไว้

คุณแม่เทเรซา โดนบาทหลวงคุณพ่อ ท้วง ไม่มีเหตุผลที่ต้องออกไป หน้าที่ประการแรกของเรามีต่อโรงเรียนน๊ะซิสเตอร์ เราทุกคนอยู่ภายใต้แรงกดดันน๊ะซิสเตอร์ พ่อคุณกับแม่ชีแล้ว ซิสเตอร์ควรจะนั่งภาวนาเร็วกว่าที่คิดเอาไว้ ไตร่ตรองให้รอบคอบค้นพบความสนุกในการทำงานอีกครั้ง

คุณแม่เทเรซา: คุณพ่อพูดถูก แต่ชั้นต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อทำให้ชีวิตคนจนดีขึ้น เราช่วยเหลือทุกคนทีทุกข์ยากความเชื่อใหนๆไม่ต่างกันสำหรับพระเจ้า

แม่ชีเทเรซา :พระเจ้าพูดกับชั้นผ่านคนขอทาน ท่านบอกว่าผมหิวน้ำ ค่ะคุณพ่อ ชั้นเคยได้ยินเสียงเรียกของพระเจ้าตอนอายุ 13 เข้ามาเป็ฯแม่ชี ตอนนี้ท่านเรียกชั้นอีกครั้งให้ตามท่านเข้าไปในสลัม "the call within the call กระแสเรียกภายในของกระแสเรียก "
บาทหลวงคุณพ่อ :เธอเป็นแม่ชี เธอออกไปข้างนอกไม่ได้

แม่ชีเทเรซา :เป็นสัญญาณสัญญาณที่อยู่ในเสียงเรียก........ มหาตมะคานธีกล่าวกับชาวคริสเตียนว่า"ถ้าคุณต้องการช่วยทำตัวกลมกลืนเป็ฯพวกเดียวกับเค้าทำงานร่วมกับเค้า เราจะทำยังไงถ้าเราอยู่หลังกำแพงนี้


Source ://www.traditioninaction.org/RevolutionPhotos/Images%20(101-200)/154_MotherTeresaGandhi.jpg

บาทหลวงคุณพ่อ:เธอไม่อยากเป็นแม่ชีอีกแล้วหรือไง
แม่ชีเทเรซา :ไม่ใช่ค่ะคุณพ่อ โบส์ถคือชีวิตของชั้น ชั้นแค่ต้องการขออนุญาติไปทำงานข้างนอก

Archbishop's Residence ที่พำนักของ อาร์ทบิชอบ

อาร์ทบิชอบ:ผมเคยได้ยินแม่ชีที่เห็ฯภาพลวงตาเพราะอากาศร้อนเหมือนกัน
เรื่องนี้มันน่าขันสิ้นดี
บาทหลวงคุณพ่อ:เธอเชื่อว่าพระเจ้านำทางให้เธอไปยังแหล่งสลัม
คุณแม่อธิการ:ดิฉันคิดว่าแม่ชีเทเรซาจริงใจค่ะท่าน เพียงแต่เธอไม่เข้าใจผลกระทบของมันนั้นเอง มันจะทำให้คอนแวนต์เสียการปกครอง ถ้ามีแม่ชีคนใดคิดตามแม่ชีเทเรซาละทิ้งหน้าที่ละ ระเบียบของโลเรโต้คือ ก็อยู่ภายในเท่านั้น

บาทหลวงคุณพ่อ: เธอมีคำโต้แย้งที่จับใจนัก เธอบอกว่า เราจะเห็นหน้าเด็กๆๆคนยากไร้ในอินเดีย เราจะเห็นพระเยซูเจ้า เธอเรียกว่าการปลอมตัวในฐานะของผู้ทุกข์ยาก

อาร์ทบิชอบ:ครั้งที่แล้วก็มีแม่ชีขอออกจากคอนแวนต์ ผมให้เวลาหนึ่งปี และแล้วหนึ่งปีเธอก็มาขอบคุณผม ที่ไม่ถือสา บอกให้แม่ชีเทเรซาเขียนจดหมายถึงผมปีหน้า ต่อจากนั้นเราจะไม่พูดเรื่องนี้อีก


Source ://www.mariancatechist.com/assets/people/frhardonvisitsmotherteresah.jpg
Indian Independence day 1947 วันประกาศเอกราชของอินเดียปี 1947

แม่ชีเทเรซาเห็นคนแก่ป่วยข้างถนนกำลังจะตาย.......ตายแน่ๆๆๆ พาไปโรงพยาบาล โรงพยาบาลไม่รับ แม่ชีเทเรซานั่งอุ้มคนป่วยหน้าโรงพยาบาล ไม่ไปใหน พยาบาลกะยอมรับผู้ป่วย

แม่ชีเทเรซาได้รับจดหมายตอบรับ ......พระเป็ฯเจ้าทราบว่าต้องการอะไร
บาทหลวงคุณพ่อ:พระประสงค์ของพระเจ้าโดยแท้ เธอจะได้รับภาระกิจ ภายนอกคอนแวนต์ได้ภายใน 1 ปี ยังออกจากโลเรโต้ในฐานะแม่ชีได้ และยังคงอยู่ในระเบียบ ท่านอาร์ทบิชอบให้เธอบันทึกกิจกรรมทั้งหมด สิ่งที่เธอทำให้คนจนในกัลกัตตา ต้องการความช่วยเหลือมาก

กับก้าวแรกที่ตำบลโมดิจิว The Slums of Moti Jihl.....สอนหนังสือเด็กๆๆตามด้วยชาวบ้านเรียกไปดูคนป่วยใกล้จะตายติดเชื้อหลายคนทั้งเหม็นทั้งสกปรก ..........เรียบร้อย คุณแม่เทเรซาหน้ามืดเป็นลมเลย

ซิสเตอร์สเตฟานีมาให้คำแนะนำคุณแม่เทเรซา คุณเป็นลมและกินข้าวน้อยไปน้ำตาลในเลือดก็ต่ำต้วย .........คุณไม่รู้เหรอคุณทำงานในสภาพที่คุณทำอยู่เนียะ คุณต้องกินอาหารสามมือและพักผ่อนให้เพียงพอ ...........คุณไม่ใส่ตัวเองเลยมีแต่ช่วยคนอื่น คุณไม่ใส่ใจตัวเองเลยน๊ะค่ะซิสเตอร์เทเรซา แต่คือการทำให้คุณไม่เป็นประโยชน์กับใครอีกต่อไป .........ชั้นผ่านเรื่องนี้มาหมดแล้ว จะทำงานอย่างงี้คุณต้องมีกฎที่เข้มงวดและมีระเบียบที่เข้มงวด

คุณแม่เทเรซา: คุณอยู่ในกากัลตาซักพักได้มั๊ยสอนชั้นได้มั๊ย

ซิสเตอร์สเตฟานี:สอนทำแผล ฉีดยา สอนทำคลอด .....คุณต้องพักผ่อนซักชั่วโมงต่อวัน และพักผ่อนหนึ่งวันต่ออาทิตย์ การทำงานในสภาพเช่นนี้ความสมดุลย์เป็นสิ่งที่จำเป็น......การป้องกันการแพร่เชื้อของเชื้อโรคเสื้อผ้าทั้งหมดต้องซักทุกวัน

การที่ซิสเตอร์มาทำงานในสลัมพี่น้องต่างความเชื่อในสลัม ถามว่ามาทำไม เผยแพร่พระเจ้าเหรอ คุณมาเอาวิญญาณพวกเค้าเหรอ เราไม่ต้องการคำอธิบายของคุณ เราคงโง่ถ้าเชื่อเรื่องโกหก .........แกตายซ๊ะเถอะอย่าอยู่เลย......... ซิสเตอร์เทเรซาเกือบถูกฆ่าอะ เด็กหนุ่มที่ซิสเตอร์ช่วยไว้ในคอนแวนต์ตอนช่วงจลาจลมาห้ามทัน

ซิสเตอร์จัดทำที่พักผู้ป่วยที่ใกล้ตายในสลัม....ตายแน่นอน...........นี้จะเป็นที่พักผู้ป่วยอย่างสวยงาม..........ตายอย่างมีศักดิ์ศรี

กับความเชื่อที่แตกต่างกัน.......เราอยู่รวมกันได้

คุณแม่เทเรซาต้องการน้ำให้ผู้ป่วยใกล้ตาย แต่ธรรมเนียมประเพณีฮินดูแตกต่าง คนฮินดูเชื่อว่า เข้าใกล้คนใกล้ตายไม่ได้เพราะไม่บริสุทธิ์ .......ร่างกายไม่ใช่สิ่งสำคัญวิญญาณต่างหากละ ........ถ้าคนนั้นต้องทรมานเป็ฯโชคชะตาของเค้าเป็ฯเวรเป็นกรรมของเค้า .........พวกเราแทรกแทรงน๊ะ

คุณแม่เทเรซา: มองว่าเค้ายังไม่ตายเราช่วยเค้าหายเจ็บปวดได้ มันทรมานมาก คุณแม่เทเรซานำน้ำมาให้คนป่วยใกล้ตายกิน บอกว่าการรับน้ำจากแม่น้ำแกงเจส เป็ฯพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ของฮินดู

Mother Teresa


จู่ๆๆเจ้าหน้าที่ทางราชการมาขับไล่พี่น้องในสลัมมอนติจิว ที่ทิ้งขยะที่ใหญ่ในเมืองชาวบ้านอยู่ได้กะเก็บขยะขายจากกัลกาตา ซิสเตอร์เทเรซามาขอร้อง

พวกเค้ามีความผิดอย่างเดียวคือจน......มันหลีกเลี่ยงไม่ได้


Source ://www.cardinalseansblog.org/wp-content/uploads/2007/09/teresa1.jpg
เด็กๆๆในคอนแวนต์ที่คุณแม่เทเรซาเคยสอน เป็นพวกวรรณสูง มีตังค์ เรียนจบออกมาช่วยคุณแม่เทเรซา ทำงานช่วยคนยากจน

พระคุณเจ้าอาร์ทบิชอบ:นี้มันอะไรกัน เด็กผู้หญิงวรรณะสูง วิ่งเร่เป็นช่วยคุณแม่เทเรซา ผมจะออกคำสั่งให้หยุด เห็ฯชัดๆการทดลองนี้กำลังควบคุมไม่ได้
คุณแม่อธิการ:ระบบเรารวนไปหมดแล้ว
บาทหลวงคุณพ่อ:พระคุณเจ้าครับ ควบคุมไม่ได้ครับ ซิสเตอร์เทเรซาเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆๆมากกว่า ขอเวลาหนึ่งปีให้เธอได้ลองก่อน


Source ://jerrybrown.org/files/JerryIndiacots.jpg
คุณแม่เทเรซา จะรับสมัครคนช่วยเหลือ
บาทหลวงคุณพ่อ:วาติกันไม่อนุมัติตั้งแต่ปี 1850 งานของธอจะถูกพวกสัตบุรุษทำแทน ลูกทำนำเสนอโครงการของลูกนำเอกสารขึ้นมา อธิบายว่าทำไมลูกต้องการคำสั่งใหม่ เขียนรายละเอียดของระเบียบ
คุณแม่ยื่นเอกสารที่ทำไว้แล้วให้บาทหลวงคุณพ่อ

October 1950 6 months Later ตุลาคมปี 1950 6เดือนต่อมา
คุณแม่เทเรซา ได้รับจดหมาย ยอมรับจากวาติกัน ยอมรับคณะของคุณแม่ คณะเมตาธรรม และนักบวชหญิงร่วมคณะ

คุณแม่เทเรซาเห็ฯสักการะสถานของพี่น้องฮินดูที่ไม่ได้ใช้แล้วชื่อ temple into the Kalighat Home for the Dying, บ้านสำหรับผู้ป่วยที่ใกล้จะตาย คุณแม่ไปขอใช้สถานที่กับทางราชการ ........กับการไม่เข้าใจกันของพี่น้องฮินดูมีการต่อต้าน ประท้วง หน้าสักการะสถาน ........ฝ่ายหนึ่งเป็ฯที่ศักดิ์สิทธิ์ อีกฝ่ายหนึ่ง ที่นี้แหละไม่ได้ใช้น้ำไฟพร้อม คนป่วยเข้าอยู่ได้ทันที

เจ้าหน้าที่ทางราชการออกมาไกล่เกลี่ยให้ ........ผมสัญญาแล้วว่าจะต้องขับไล่ผู้หญิงคนนี้ไป และผมจะทำผมจะไล่ทันที ......ที่ผมเห็นพ่อแม่คุณพี่น้องคุณและภารยาพวกคุณ มารักษาที่นี้ .......เราทำงานกันทุกวันแทนคุณแม่เทเรซาที่กำลังทำอยู่


นักข่าวอเมริกันมาเห็นสภาพ .......คิดเอาเองงะ สิ่งที่คุณต้องทำก็คือเปิดตาของคุที่หูของคุณและเปิดใจ .......เขียนเรื่องคนจนเถอะ ......ผมต้องติดเชื้อแน่เลย ในสงครามก็หนักน๊ะ ......นี่ คุณแม่เทเรซาบอก เรามีบ้านสำหรับที่กำลังจะตาย เราอยากได้บ้านที่มีชีวิตบ้านสำหรับเด็กๆๆที่ไม่มีบ้านอยู่ เราเริ่มต้นกันจากศูนย์ ........คุณรู้มั๊ยเราต้องการอะไรคลีนิคเคลื่อนที่ไง ...........ผมจะไปหามาจากที่ใหนละ........คุณแม่เทเรซาชั้นไม่ รู้

นักข่าวผมมีแค่ 10เหรียญเอ้าคลีนิคเคลื่อนที่ .........เพื่อนนักข่าวเอ้าผมก็มี 10 เหรียญสำหรับคลีนิคเคลื่อนที่

December 1979 25 Years Later ธันวาคม ปี 1979 25ปีต่อมา

นักข่าวคนชาวอเมริกันคนเดิมกะมา คุณแม่ครับผมมาร่วมแสดงความยินดีด้วยครับ คุณแม่ได้รับรางวัลโนเบล โอ๊วว เรากำลังหางานใหม่อยู่พอดีถ้าคุณสนใจ ผมแก่แล้วครับคุณแม่ หลังจากที่ผมรับรู้ความเศร้าที่ล้ำลึก ความทุกข์ที่เพิ่มขึ้น

ดูนี่สิ นี้คือ ........ด๊อกเตอร์คุณหมอรามา เค้าเคยเป็นเด็กในชุมชน ..........เค้าเคยได้รับการรักษาโรคเรื้อน เพราะเราสามารถนำตัวเค้ามาได้ จากคลีนิคเคลื่อนที่ เงินจำนวนม๊าก ..........ได้รับการเปลี่ยนแปลงชีวิตจากเค้าและคนอื่นๆๆ

นักข่าวปี่แตกกด้วยความ.........ปิติ

คุณแม่เทเรซา.........คนจนพวกนี้ ที่คุณแม่เรียกว่า .....ผู้ที่ได้รับพร


มาจากความล้มเหลวของอาชญากรสังคม .......ไม่ดีกว่าแก้ไขสาเหตุคุณแม่ ........แทนที่จะรักษาที่ปลายเหตุ

คุณแม่เทเรซา........ต้องมีใครช่วยเหลือคนจน

นักข่าว: รางวัลโนเบลสร้างสามัญสำนึกของโลกได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง ..........เราสามารถหลั่งน้ำตาเพราะว่ามีคนอย่างคุณ เพราะความใส่ใจที่ขาดคลาน และเมื่อเราได้กล่าวสุนทรพจน์ ก็กลับไปมีชีวิตอย่างเดิมไม่สนอะไร........คุณแม่จะทำให้คนจนเป็นนักบุญตัวแทนสัญญาลักษณ์ของพระเจ้าไม่ได้..........เพราะเค้าไม่ใช่พระเจ้าจะมีประโยชน์อะไรที่คิดอย่างนั้น

เราเป็ฯนี้พวกเค้าทุกอย่าง ..........คุณคิดแบบคนตะวันตก.........คุณคาดหวังมากไปจากความเมตตาของคนจน

นักข่าว:คุณแม่คาดหวังการให้อภัยอย่างไม่สิ้นสุด คุณแม่ให้อภัยความรุนแรง การคอรับชั่น ทำไมคุณแม่ไม่โกรธละ

คุณแม่เทเรซา :โกรธสิ โกรธบ่อยมากเมื่อพบเด็กถูกทอดทิ้ง โกรธที่พบรามาครั้งแรกที่สภาพไม่ใช่มนุษย์ โกรธเมื่อเห็นเด็กผู้หญิงถูกทำทารุณ ข่มขืน ระหว่างสงคราม แต่ต้องให้อภัย ..........ไม่งั้นจะทำงานได้ยังไง........ชั้นให้อภัย........แต่ชั้นไม่ยอมรับ..........คุณนักข่าวฮาเปอร์รบกวนช่วยป้อนข้าวคนป่วยได้มั๊ยค่ะ

นักข่าว: เค้าว่าอะไรน๊ะช่วยแปลให้ฟ้งหน่อย
ซิสเตอร์ที่ทำงาน: เค้ากำลังให้พรคุณน๊ะค่ะ
นักข่าว: แต่ผมซื้อเค้าได้เป็นล้านๆๆครั้งเลยน๊ะ
ซิสเตอร์ที่ทำงาน:ใช่แต่คุณจะซื้อพรของเค้าไม่ได้หรอก

ผมไม่เคยคิดเลยว่าผมทำได้ เมื่อเราข้ามเส้นมาแล้ว ถ้าคุณแม่เทเรซาไม่ได้ช่วยคนที่จะตายบนข้างถนนขึ้นมาก็ไม่ได้ช่วยคนอีกนับพันคนขึ้นมา

Oslo, Norway December 1979
คุณแม่เทเรซารับรางวัลโนเบล King นอร์เวย์เชิญคุณแม่เทเรซางานเลื้ยง คุณแม่เทเรซาขอเปลี่ยนเป็นเงินเพื่อให้คนที่จนเด็กที่หิวโหยในกัลกัตตา มันพอเป็นอาหาร 100มื้อในหนึ่งปี



ฉันรับรางวัลนี้เพื่อเกียรติยศแห่งพระเจ้า และแน่นอนผู้ที่หิวโหยผู้สิ้นไร้ ผู้ไร้ที่พักพึง ผู้พิการ ผู้ที่ตาบอด ผู้ที่ไม่มีใครต้องการ ไม่มีใครสนใจผู้ที่ต่ำต้อย ในนามของพวกเค้า ขอรับรางวัลนี้ เพราะมันนำมาสู่ในความรัก ระหว่างคนรวยและคนจน เพราะในที่นี้เราประกาศความรัก พวกเค้าเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาด้วยพระหัตถ์แห่งพระเจ้า มอบความรักและถูกรักเช่นกัน ถ้าเราหันหลังให้กับคนจนเท่ากับเราหันหลังให้กับพระเจ้า และในช่วงเวลาแห่งความตายเราจะถูกตัดสิน ด้วยสิ่งที่เราทำเพื่อและแก้ ขอพระเจ้าคุ้มครอง
และ President Ronald Reagan presents Mother Teresa with the Presidential Medal of Freedom at a White House ceremony, 1985




Source ://i1.drr.net/6546582/1/a1.l465.m1.t1,q100/B3AAE5BE6066A991CF192837A562D5FB/6546582-465px.jpg

คุณแม่เทเรซาเป็นชาวอัลบาเนีย
She took her first religious vows as a nun on May 24, 1931. At that time she chose the name Teresa after Thérèse de Lisieux, the patron saint of missionaries ท่านเป็นซิสเตอร์ May 24, 1931 ท่านเลือกชื่อนักบุญเทเรซา แห่งเลซิเอร์Thérèse de Lisieux a little flowers เป็นชื่อนักบุญประจำตัวท่าน




Source ://www.getreligion.org/wp-content/photos/MotherTeresa_Time.jpg
//www.congressionalgoldmedal.com/images/MotherTeresaTimeMag.jpg

MOTHER TERESA Funeral Highlight


Source ://en.wikipedia.org/wiki/Mother_Teresa

อันนี้ความเห็ฯส่วนตัวเราเองงะ..........ขออภัยด้วยค่ะ

ถ้ามองอย่างทางโลกมนุษย์...........

ยุคนั้น.......ข่าวสงครามเย็น วีระบุรุษแห่งการเรียกร้องเยอะเจงเจง ......ไม่ว่าอเมริกาใต้ สงครามเวียดนาม เหตุการณ์ฉนวนการ์ซาร์ อาฟริกาใต้เรียกร้องอิสระภาพ หรือเกาหลีเหนือใต้..........ยุคฮิบปี้


วันๆๆๆสื่อนักข่าว..........เสนอข่าวแนวนี้แทบทุกๆๆๆวัน


ถามว่าประชาชนเบื่อมั๊ยกับข่าวนี้........เสนอทุกๆๆวันประชาชนเฉยๆๆแล้วอะ


นักข่าวอเมริกัน........เจอแม่ชีเทเรซาที่อินเดีย .........เสนอข่าวนี้เข้าไปกลายเป็นจุดสนใจทั่วโลก........คนหันมาสนใจ ........เพราะข่าวแตกต่างจากที่เห็นเป็ฯประจำอะ

สื่อเล่นถึงกับมีการวิจารณ์แม่ชีเทเรซาว่า......ต้องการสื่อ อยากมีชื่อเสียง ทำไมไม่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ มาแก้ปัญหาที่ปลายเหตุทำไม

สื่อกะไม่ได้มองว่า งานที่คุณแม่เทเรซาทำ ถ้าไม่มีใครทำแล้วใครจะทำ จากสิ่งเริ่มต้นเล็กๆๆน้อยๆๆ เป็ฯจุดประกายให้ใครหลายๆๆคนมาร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกันทำงะ

ความเห็ฯส่วนตัวเราจริงๆๆ ไม่ถูกใจใครขออภัยด้วยค่ะ

Create Date : 07 กรกฎาคม 2551		21 comments
Last Update : 7 กรกฎาคม 2551 7:35:47 น.
Counter : 3315 Pageviews.
Share Tweet