หุหุ ผมมันไม่ใช่คนดีครับ
Group Blog
Lyric
Schedule
จากใจนาย สอระ
Fishing
lullaby
Memory
ของฝาก / แหล่งฝากท้อง
ของรักของหวง
BB Gun
<<
กุมภาพันธ์ 2551
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
27 กุมภาพันธ์ 2551
อายหมา
All Blogs
The Cure - lullaby
ลา ลาก่อน จำจร จะต้องขอลา
ภาพ สุริยะคราส ที่ผ่านมา ครับ
สวัสดี ปีใหม่ 2553 นะครับ ชาว blog gang ทุกท่าน
ขอพระองค์ทรงพระเจริญครับ
หุหุ สอระ ไปแอ่วเหนือครับ
วัดพนัญเชิง กับ ตลาดน้ำคลองสระบัว ณ.วัน ปิยะ ครับ
ทานเจแล้วครับผม
ฝนตก (ไหนว่าจะหนาว)
10 อันดับ ยอดคนอัจฉริยะที่สุดของโลก
บ้านผมก็มี ลูกเห็บแปลกๆ (หุหุ ตามกระแสซ่ะหน่อย)
ผีเสื้อ กับ เพลง
พา เฮงเฮง มาทักทายครับ
เก็บไว้คิด copy เขามานะครับ
วิธีดำรงความเป็นหนุ่มสาว --> copy มาครับ
ปั่นจักรยานออกกำลังกายครับ
หุหุ Tag จาก คุณ เกศสุริยง ครับ
หัวใจลำเอียงรึเปล่า ? Copy มาอีกเด้อ
หุหุ ผู้จัดการ เอ้า! เป็นก็เป็นครับ
สิ่งที่ควรมีตลอดชีวิต copy มาเด้อ
คู่แท้ ต้นหญ้า กับกาลเวลา (เป็นเรื่องจริงที่ทุกคนมัก.ทำอย่างนั้น)- Copy มาเด้อ
บทความดีๆ copy มาอีกแล้วครับ
ฟิตสมอง ก่อนจะสาย ( Copy เขามาครับ )
ขอความช่วยเหลือด้วยครับ ว่าด้วยเรื่องสอระ กับ นำโชค
ทิศทางกับหนทาง --> (copy มาเด้อ)
รู้ไหม...? ทำไมน้ำตกถึงสวย. -->(Copy เขามาครับ )
อันเนื่องมาจากเจ้าตัวนี้ครับ
วันนี้ฝนตก
หุหุ ผมชอบรูปนี้ครับ
รักได้...แต่เจ็บให้เป็น (หุหุ ขยัน copy )
บันได 5 ขั้น สู่ชีวิตใหม่ ที่มีค่าและเป็นสุข ( Copy เขามาครับ)
น้องแมวแฝงต้นมะขาม
หน้าที่สำคัญกว่าลมปาก ( Copy มาอีกแล้ว)
ขยะ... ที่อยู่ในใจ (copy มาเด้อ)
เสียใจกับอุบัติเหตุเมื่อเช้าครับ
ไปนมัสการ ศาลเจ้าแม่กวนอิมครับ
น้องหมา นอน กายกรรม
นวัตกรรม ใหม่ หุหุ หลอดไฟมีประจุลบ
ไหว้สักการะศาลพระภูมิ ที่ทำงานครับ
พระจันทร์ยิ้ม (เยาะ)
ไป walk rally ครับ
หุหุ ลอยกระทง
ขอลาไป Big Trip ครับ
พา หงษ์ฟ้า ไปต่อภาษีประจำปีครับ
เจเล่ หุหุ ไม่ใช่ครับ ทานเจ
ไปอบรม มาครับ
เรื่อยเปื่อย ครับ
หุหุ ผมติดขนมปังครับ
หุหุ กลอนที่ไม่ใช่กลอน ประตูครับ อันว่าด้วยผ้าเช็ดหน้า
หุหุ น้องพนักงาน ผม ถูกปล้นครับ
ฝนจะตกทำไมกันครับ คุณฝน
หุหุ ป่วยจนได้สิเรา
พา JJ เข้าศูนย์บริการที่ 100000 กิโลครับ
Gone with the wind : น้ำตกโกรกอีดก กับ ความล้มเหลวของสอระ
อันเนื่องมาจาก ไปสัมมนา
หุหุ เมื่ออารมณ์ เอาชนะเหตุผล แบบถล่มทลาย
น้องนก ทำไมทำกับพี่ อย่างนี้ล่ะครับ
เมื่อต้องเลือกระหว่างอารมณ์กับเหตุผล
วันสงกรานต์ ของสอระ
บันทึก ณ.วันคล้ายวันเกิด
หุหุ กาแฟเพื่อสุขภาพครับ (อันนี้ผมพึ่งจะรู้นะนี่)
ขับ/ขี่ รถกันดีๆนะครับ 2
รักเท่าเดิมแต่เพิ่มผูกพัน (Copy มาครับ)
ข้อคิดจาก กบ (Copy มาอีกนั้นแหละ)
คำสอนของแม่ (Copy มาอีกนั้นแหละ)
หนึ่งภาพแทนคำล้านคำพูด (Copy มาอีกทีนะครับ)
ไฟลามทุ่ง ลาม มาซ่ะใจหาย
ขับขี่ระวังกันนะ ครับผม
เหตุแห่งความฝัน
อายหมา
เมื่อผมต้องเดินกลับบ้าน ครับ
หุหุ เมื่อผมปั่นจักรยานจากวังน้อยไป Lotus นวนคร
หุหุ คิดถึงวันที่หมอกมากมาย กาลครั้งหนึ่ง ณ.วังน้อย ครับ
หุหุ เมื่อผม ถูก มันทั้ง หวย และ ล็อตเตอรี่
กาลครั้งหนึ่ง ลอยกระทง ณ.วังน้อย
เรื่องยุ่งๆของคนบนหิ้ง (ตอนที่ 2)
เรื่องยุ่งๆของคนบนหิ้ง (ตอนที่ 1)
Tag ครับ Tag
เจ้าแม่อุลตร้า กับ น้องหมาตัวนั้น
กาลครั้งหนึ่ง Metalex
เมื่อผมจะถ่ายรูปแมงมุม
ขออภัย ช่วงนี้ป่วยอยู่นะครับ
Tag จาก หนูนีล หุหุ (แท็คนี้คัดจากหน้าตาค่ะ เอิ๊กกก)
ก็ลอกเขามาอีกแล้วล่ะครับ (เรื่องเล่าจาก Internet)
จงเชื่อมั่นในสิ่งที่คุณทำ (เรื่องเล่าจาก Internet)
6 วิธีรักษา ความนับถือตัวเองในออฟฟิศ ( เรื่องเล่าจาก Internet )
เฮง เฮง ขอบคุณจากใจ ครับผม
เฮง เฮง จะผ่าตัดพรุ่งนี้ครับผม
หุหุ รักจะซิ่ง รับผลที่ตามมาให้ได้นะ
Tag เกี่ยวกัยหน้าตาครับ (หุหุ หน้ามันเลือกได้ ซ่ะเมื่อไหร่กันเล่า?)
เรื่องเล่าจาก Forward Mail (หุหุ หากินง่ายนะ เรา)
Red Alert 2+ Yuri หุหุ
เรื่องเล่าจาก Forward Mail (อีกแล้ว)
เราไม่ได้.....ไม่รักกัน..... ซะหน่อย (หุหุ FW Mail ครับ)
ความรักเจ้าเอย หุหุ
ต้นมะนาวครับ (หุหุ เพลงเน้อ)
เบื้องบนฟ้าจะกดลงมา เบื้องต่ำน้ำจะกลบภูผา ล้างมารครองเมือง (เพลงครับ เพลง)
กาลครั้งหนึ่งเมื่อสาวน้อยบุกห้องนอนของสอระ
บางสิ่งที่ตามหา ไขว่คว้านานเหลือเกิน
ดูดาว (หุหุ ก็เพลงอีกนั้นแหละ)
ความชัดเจนในคืนดาวดับ (หุหุ เพลงครับ เพลง)
เช้าวันจันทร์ที่แสนจะวุ่นวาย
สักครั้งก่อนตาย อะไรทำนองนั้น (หุหุ Tag จากหนูนีล)
เราสามคน (หุหุ ไม่ใช่เพลงนะครับ)
หุหุ อยากมีประชาธิปไตย ครับ
เมื่อสอระผู้นี้ต้องหลอกคนเป็นร้อย ความทรงจำที่ยังไม่ลืม
หุหุ ท่าทางช่วงนี้จะทำทั้งบุญและบาปไม่ขึ้น ครับ
เมื่อความตายเข้ามาทักทาย
อย่าบอกว่าเธอเสียใจ ก่อนนั้นไม่เคยจะสนใจ (เพลง ครับ เพลง)
ถึงใครคนหนึ่ง (เพลง ครับ เพลง)
หุหุ ไม่รู้ว่าทันหรือรู้จัก กันบ้างหรือเปล่า
อยู่ในชั่วโมงต้องมนต์ ชั่วโมงที่ใจไหวหวั่น
แท็กโสดในซอย (ยิก ยิก) จาก หนูนิล
ทำบุญกับเพื่อนเถอะ ดีที่สุดแล้ว
ผมกับลูกวัวตัวนั้น ในคืนฝนตก
Tag จากคุณ Zalapao ครับ
Tag จาก หนูนีล (กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว)
The Cure " Just Like Heaven "
Song from my memory
เมื่อรักฉันเกิด อ้าว!ไม่ใช่อีกแล้ว โดน Tag ต่างหาก
น้องหมาใครครับนี่
วันอาทิตย์แอบพักหนึ่งวันนะครับ
ลาพักสงกรานต์ นะครับ
ฮึกเหิม (แบบเต็ม)
กลับบ้านเร็ว หุหุ
ความในใจ
อายหมา
" อายหมามัน "
(Copy มาอีกทีนะครับผม )
ที่วัดแห่งหนึ่งในกรุงฯ เรานี่เองมีพระหมอดูที่มีชื่อเสียงเลื่องลือว่าดูหมอ แม่นมาก พระหมอดูรูปนี้นี้เป็นผู้ที่มากไปด้วยเมตตา ท่านใช้วิชาโหราศาสตร์ในการปลดเปลื้องความทุกข์ ของชาวบ้านด้วยการปลอบประโลมหรือเตือนสติให้ผู้มาดูหมอกับท่านอยู่ในลู่ทางของพุทธศาสนิกชนที่ดี คือไม่ให้ทุกข์จนทอดอาลัย หรือไม่ให้ลิงโลดคอยแต่โชคลาภที่จะมาถึงจนประมาทไม่ทำมาหากินเลย
นอกจากนี้ท่านก็ไม่ห่วงวิชา เวลาท่านดูหมอให้ชาวบ้านก็มักจะมีพวกลูกศิษย์ลูกหาหา ทั้งพระทั้งฆราวาสมานั่งเรียนวิชาจากท่าน หลายครั้งท่านจะให้พวกลูกศิษย์ประเภทพอมีความรู้ทางโ หราศาสตร์ใช้การได้แล้วทดลองผูกดวงของญาติโยมที่มาดูหมอ โดยท่านจะตรวจความถูกต้องอีกทีหนึ่ง เวลาท่านทำนายทายทักก็อธิบายถึงอิทธิพลของดวงดาวและเรือนของภพของภูมิต่างๆ ตลอดจนหลักการพยากรณ์และเกร็ดความรู้ต่างๆไปด้วย
แล้วมาวันหนึ่งมีชายวัยกลางคนแต่งตัวซอมซ่อพาลูกชาย ๒ คนมาหาพระดูหมอดูที่ว่านี้ ชายวัยกลางคนนี้เล่าว่า เขายากจนเหลือเกินไม่มีปัญญาหาเลี้ยงลูกทั้งสองได้ ก็เลยจะยกลูกคนหนึ่งให้กับญาติที่บ้านเดิมที่กาญจนบุรีเป็นบุตรบุญธรรมเขาเสียคนหนึ่ง
เพราะหากอยู่ด้วยกัน ๓ คนพ่อลูกก็อาจจะอดตายได้ ที่มาหาพระก็เพื่อให้ช่วยดูดวงว่าควรจะยกลูกคนโตหรือ ลูกคนเล็กให้ญาติเลี้ยงดี เรียกว่ามาอาศัยบารมีของโหราศาสตร์ให้ช่วยเลือกทีเถิด
พระหมอดูท่านนั้นหลังจากผูกดวงเรียบร้อยแล้ว ท่านพูดว่า
" ที่สำคัญต้องดูนิสัยใจคอเด็กจากตนุเศษเสียก่อน เจ้าคนพี่ ตนุเศษคือ ศุกร์ในเรือนจันทร์ มันอ่อนหวาน มีอารมณ์แช่มชื่น หัวอ่อนว่าง่าย และศุกร์ตนุเศษเป็นศรี มักรักดีใฝ่ดี แม้ร่วมอังคารก็ไม่แรง เพราะเป็นนิจไปเสียแล้ว ศุกร์เป็นทั้งตนุลัคน์และตนุเศษ เป็นคนเปิดเผย สุจริต เมื่อตนุเศษมาอยู่ในภพกัมมะ มันรักเอาใจใส่การงานดี
"ส่วนเจ้าน้องชายนั้นตนุเศษคืออังคารในเรือนอาทิตย์ ใจมันกล้าหาญร้อนแรง อยู่ข้างจะไม่เรียบร้อย ยิ่งติดเรือนอาทิตย์ ถ้าจะดื้อแล้วมันก็จะรั้นเอาการทีเดียว ยิ่งร่วมมฤตยูมันดึงดันแบบเอาหัวชนฝา ยิ่งกว่านั้นราหู ตัวอารมณ์อยู่เรือนอังคาร ทำให้อังคารตัวนี้วู่วามขาดความยับยั้ง แต่ถ้ายามดี มันขยันหมั่นเพียรอาสาการงานดีเพราะตนุเป็นอุตสาหะ คนที่ตนุลัคน์เป็นอุจจ์นั้น ไม่ค่อยยอมลงใครง่าย ๆ หรอก ดังนั้น ถ้าจะให้ใครไปอยู่กับคนอื่นก็คงต้องตัวพี่ชายนั้นแหละ เนื่องจากการไปอยู่อาศัยอยู่กับคนอื่นนั้นเด็กมันต้องอัธยาศัยดี อ่อนน้อม ขยันขันแข็ง ใช่คล่อง เขาถึงจะเมตตา"
เวลาท่านดูหมอแล้วละก็ ท่านจะฟันธงโป๊ะเชะไปเลย ไม่มีอ้อมค้อม อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ทำนายกำกวมแบบกั๊กเหมือนหมอดูหรือพวกใบ้หวยพวกนั้นที่เขานิยมทำ ๆ กัน เมื่อได้ฟังดังนั้น เจ้าคนพี่ก็ปล่อยโฮสะอื้นฮัก ๆ ทำเอาคนทั้งหลายบนกุฏิระส่ำระส่ายด้วยความเวทนา เจ้าเด็กน้อยตัวนี้ก็หันไปสั่งเสียกับพ่อว่า
" พ่อขายผมได้เงินมาแล้ว พ่อต้องให้น้องเข้าโรงเรียน แล้วทำบุญให้แม่ด้วย "
เท่านั้นแหละ พระหมอดูท่านหันไปตวาดถามอีตาพ่อทันทีว่า
" นี่แกจะขายลูกหรือ ? "
อีตาพ่อโกหกมาแต่แรกแล้ว จึงต้องสารภาพว่า
" คนจีนในตลาดเขาไม่มีลูก เขาขอเด็กไปเลี้ยง จะให้ค่าเลี้ยงดูเก้าร้อยบาท ตั้งใจจะเอาเงินก้อนนี้ไปทำทุนหาเลี้ยงเจ้าคนที่เหลือต่อไป "
พูดแล้วก็กระสับกระส่าย ถือโอกาสลากลับเลยทีเดียว พระหมอดูท่านพยายามระงับจิตใจเอาไว้แล้วก็พูดเบา ๆ ว่า
" ก่อนที่จะกลับนี่ อยากจะเล่าอะไรให้ฟังไว้สักเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องพ่อและลูกที่เกิดขึ้นจริง ๆ เมื่อสมัยอาตมายังเป็นเด็ก ไม่ได้สรรค์แต่งมาพูดเทศนา ฟังแล้วจะไม่ยึดถือ เอาทิ้งไว้ชานกุฏินี้ก็ได้ "
เมื่อเห็นพ่อเด็กนิ่งเหมือนยอมรับฟังโดยดุษณี ท่านก็เริ่มเรื่องขึ้น
" เมื่ออาตมายังเด็ก อายุคราว ๆ เจ้าสองคนนี่แหละ โยมป้าแช่มแกเป็นสาวโสด แกขออาตมาซึ่งเป็นหลานมาเลี้ยงแกจับอาตมาบวชเณรที่วั ดตีนเลน เดี๋ยวนี้เขาเรียกวัดบพิตรภิมุข ส่วนตัวแกเองอยู่บ้านถัดวัดเข้าไป เป็นสะพานยาวตามที่ชานเลนลงริมแม่น้ำ อาชีพแกทำขนมฝรั่งขายส่งเจ้าจำนำอยู่ที่สะพานหัน ซึ่งส่งกันเป็นประจำทุกวัน การส่งขนมเจ้านำของแกแปลกประหลาดไม่เหมือนใคร คือใช้สุนัขเป็นผู้ส่งและรับเงินค่าขนมกลับมาเสร็จ
เจ้าสุนัขตัวนี้รูปร่างพิกล เป็นสุนัขตัวผู้สีขาวปลอด แต่ตอนบนศีรษะเหมือนใครเอาถุงสีดำมาคลุมไว้ แกเลยตั้งชื่อตามลักษณะของมันว่า " อ้ายโม่ง" วิธีส่งขนมฝรั่งของแก คือ พอทำเสร็จก็ใส่บรรจุลงในตะกร้าหวาย สำหรับถือไปจ่ายกับข้าว เอาผ้าปิดกันฝุ่นไว้ เขียนจดหมายบอกราคาเงินใส่ไปเสร็จส่งให้อ้ายโม่งคาบไปส่งเจ้าจำนำที่เชิงสะพานหัน
เมื่อเจ้าจำนำรับขนมฝรั่งครบก็เอาสตางค์ใส่ตะกร้าส่ง ให้อ้ายโม่งคาบกลับมา ปฏิบัติเช่นนี้มาทุกวัน ที่มันฉลาดรอบรู้ทำได้ดี ก็เพราะตอนมันเล็ก ๆ มันติดสอยห้อยตามโยมป้าไปส่งขนมฝรั่งเจ้าจำนำคนนี้เป ็นประจำทุกวัน ร่วมปีจนมันโตเป็นหนุ่มจำได้แม่น ระยะทางจากบ้านปลายสะพานยาวมาร้านจำนำที่สะพานหัน
นั้นมันไกลพอดู คือจากบ้านต้องผ่านวัดและเลี้ยวอ้อมโบสถ์ มาหลังโรงเรียนบพิตรภิมุข และเลียบตึกแถวริมคลองโอ่งอ่างมาจนถึงสะพานหัน ชาวบ้านสองข้างทางทุกบ้านรู้จักอ้ายโม่งดี เวลามันคาบตะกร้าขนมฝรั่งมา พอเมื่อยพักหน้าบ้านใครเข้า เขาก็แกล้งล้อมันว่าขอขนมฝรั่งกินหน่อย มันทำตาเขียวโกรธรีบคาบหนีไปหน้าบ้านอื่นทันที ถ้าเป็นเด็ก ๆ ทำวอแวเข้ามาคว้าขนมฝรั่ง มันจะฮื่อฮ่าทำท่าจะกัดเอาจริง ๆ ส่วนตัวมันเองสัตย์ซื่อถือขันติไม่เคยแตะต้องขนมฝรั่งในตะกร้าเลย และเวลาขากลับได้สตางค์มามันจะวิ่งแน่วไม่ยอมหยุดที่ ไหนกลับถึงบ้านทันที มันส่งมาแรมปี
อยู่มาวันหนึ่ง เกิดเหตุประหลาดขึ้น เจ้าจำนำรับขนมเขียนหนังสือมาต่อว่า ว่าขนมขาดไป ๒ อัน คุณโยมป้าแช่มไม่สงสัยอะไร คิดว่าตัวเองอาจเผอเรอนับผิดมากกว่าจึงพยายามนับถี่ถ้วนจนครบ แล้วส่งไปก็ถูกต่อว่ายังขาดเช่นเดิม โยมป้าคิดอะไรไม่ถูก หาเหตุผลอะไรไม่ได้ จะว่าหายระหว่างทางก็ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะ อ้ายโม่งมันรักษาหน้าที่เคร่งครัดมาตลอดเวลาร่วมปี ไม่เคยบกพร่อง เพื่อตัดปัญหา แกนับเกินไป ๒ อันเผื่อหาย ครั้งนี้ไม่มีการต่อว่า ว่าขาดอีก
จนสองสามวันต่อมา ความสงสัยของโยมป้าไม่มีสิ้นสุด ความอยากรู้สาเหตุ วันหนึ่งแกนับขนมมอบให้อ้ายโม่งไปแล้ว แกก็แอบสะกดรอยตามหลังอ้ายโม่งไปด้วย อ้ายโม่งออกจากบ้านตรงแหนวไม่เเวะที่ไหน ผ่านถนนในวัดตรงไปสู่โบสถ์ แต่ตอนจะเลี้ยวหลังโบสถ์ผ่านลานทรายไปทางริมคลอง โยมป้าเห็นอ้ายโม่งเลี้ยว
ข้างกำแพงโบสถ์เข้าไปหลังเจดีย์ซึ่งเป็นที่ลับตาคน สักพักอ้ายโม่งก็กลับออกมา และมุ่งหน้าไปตามเส้นทางส่งขนมตามเคย
โยมป้าแอบเข้าไปดู ปรากฏว่า หมาแม่ลูกอ่อนออกลูกโทน ( มีลูกตัวเดียว ) สีสันเหมือนอ้ายโม่งไม่มีผิด ไม่ต้องมีใครบอก..หรือจะต้องตรวจเลือดตรวจดีเอ็นอี ดีเอ็นเเซด ..( อันนี้พิมพ์เอง ) ก็รู้ว่าเป็นลูกอ้ายโม่งชัด ๆ และมีขนมฝรั่งที่แกทำวางไว้สองก้อน
นับแต่นั้นมา โยมป้าก็ต้องนับขนมฝรั่งให้เกินไว้ ๒ อัน เพื่อให้อ้ายโม่งได้ทำหน้าที่พ่อที่ต้องเลี้ยงดูลูก
เมียหมา ๆ ของมัน จนกระทั้งลูกหมาได้อายุหย่านมแล้ว โยมป้าจึงติดตามไปเอาสายเลือดของอ้ายโม่งมาเลี้ยงเป็นสมาชิกของครอบครัวเพิ่มขึ้น เรื่องนี้ชาวบ้านแถบนั้นเขารู้เรื่องโจษขานกันอยู่หลายปี คนเก่าแก่แถวนั้นเดี๋ยวนี้ยังคงพูดถึงอยู่เสมอ
พอพระหมอดูเล่าเรื่องจบลงคนบนกุฏิ ๖-๗ คนนิ่งเงียบกันหมด ต่างคนต่างคิด อัดอั้นตันใจกันไปหมด มีแต่เสียงเจ้าเด็กน้อยคนพี่ที่ถูกตัดสินให้จากพ่อไป ยังคงสะอื้นอยู่เบา ๆ เลยพาเอาเจ้าคนน้องที่พอรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง พลอยร้องไห้ตามพี่ชายไปด้วย
สักครู่ใหญ่พ่อเด็กกระเถิบเข้ามาพนมมือบอกลาแล้วก้มลงกราบ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาน้ำตาอาบแก้ม พร้อมกับกล่าวว่า
" ผมตัดสินใจไม่ขายลูกแล้วขอรับ อายหมามัน "
หมายเหตุ
- หุหุ เห็นว่าดี เลยCopy มาครับผม
Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2551 13:14:48 น.
0 comments
Counter : 634 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
สอระ
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
หุหุ ผมมันไม่ใช่คนดีซักเท่าไหร่หรอก ก็แค่คนเลวที่ยังหายใจคนหนึ่ง บนโลกที่แสนโสมม
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add สอระ's blog to your web]
Links
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.