ไทรโยคใหญ่
ลองเปลี่ยนบรรยากาศมานอนแพบ้าง ครั้งนี้เราไปเมืองกาญจน์กัน ที่แรกเป็น "อุทยานแห่งชาติไทรโยค" เป็นครั้งแรกที่ได้มาที่นี่ ช่วงที่ไปคงเป็นช่วงใบไม้คงผลัดใบ ต้นไม้ใหญ่ใบหายหมดแต่ก็สวยดี ด้านหน้ามีร้านรวงขายของ ผ่านไปยังที่ทำการอุทยาน แล้วก็เดินชมเส้นทางธรรมชาติ มีป้ายบอกชัดเจน เดินสะดวกดี เตรียมขนมนมเนยนิดหน่อยเป็นเสบียงระหว่างเดินทาง
สีสันของกล้วยไม้ตัดกับผืนป่า อยู่แถว ๆ หน้าที่ทำการอุทยานเห็นกล้วยไม้สีสวยดี
อุทยานแห่งชาติไทรโยค สภาพส่วนใหญ่เป็นภูเขาหินปูน ประกอบไปด้วยผืนป่าเบญจพรรณและป่าดิบแล้ง และขึ้นชื่อว่ามีค้างคาวที่ตัวเล็กที่สุดในโลกคือค้างคาวกิตติและปูราชินีซึ่งเป็นปูน้ำจืดชนิดใหม่ของโลกอาศัยอยู่ เสียดายไม่ได้เห็น สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ไทรโยคเคยเป็นค่ายพักแรมของทหารญี่ปุ่น ปัจจุบันยังมีร่องรอยเตาหุงข้าวและซากเตาไฟ
บริเวณอุทยาน มีจุดให้กางเต้นท์และบ้านพักไว้บริการ ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวมีนิทรรศการ ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว และก็ของที่ระลึก
ระหว่างทางเดินชมธรรมชาติรอบ ๆ ตัว มีต้นไม้ ดอกไม้ น้ำตกเล็ก ๆ ลักษณะเป็นธารน้ำไหล เจอเถาวัลย์ขนาดใหญ่พาดลงมาก่อนจะไปถ้ำแก้ว มีป้ายชี้พอไปถึงปากถ้ำดูมันมืด ๆ ไม่กล้าเข้าไปเลยได้แค่ปากถ้ำ
ตรงนี้รก ๆ หน่อย ตอนลงจากถ้ำ
มาถึงบริเวณจุดชมวิว ฟ้าดูครึ้ม ๆ ทำท่าเหมือนฝนจะตก นั่งเล่น รับลมสบาย ๆ ต้นไม้ก็เขียว น้ำก็เขียว สดชื่นดี ซักพักก็มีเรือแล่นผ่านมา
มีม้านั่งยาวจัดไว้ให้นั่งพักชมวิว ตรงนี้เงียบดียังไม่ค่อยมีคนมา ไม่นานเท่าไหร่ได้ยินเสียงเด็กสามคนมาเล่นน้ำตรงข้างฝั่ง
แพนักท่องเที่ยวต่างชาติแล่นผ่านมา ต่างก็ชื่นชมและถ่ายรูปบรรยากาศรอบ ๆ
ย้อนกลับมาที่สะพานแขวนไทรโยคที่พาดผ่านแม่น้ำแควน้อย สองริมฝั่งเต็มไปด้วยแพที่พัก ร้านอาหาร และก็เรือล่องนำชมแม่น้ำแควน้อย เดินข้ามสะพานแอบมีเสียวนิดนึงมันเป็นสะพานไม้แล้วเวลาเดินยวบยาบยังไงไม่รุ ก่อนจะข้ามไปเค้ามีป้ายเตือนห้ามวิ่งหรือโยก ห้ามลงเล่นน้ำ แล้วก็สะพานชำรุดห้ามข้ามเกิน 5 คน
ไปถึงอีกฝั่งสามาถนั่งชมน้ำตกไทรโยคใหญ่ได้เต็มตา
ชมทางด้านข้าง แล้วก็ตัดสินใจนั่งเรือชมวิว ได้เข้าไปใกล้ ๆ น้ำตกไทรโยคใหญ่ที่กำลังไหลลงแม่น้ำแควน้อย ละอองน้ำกระเซ็นเข้าตัวเก็บกล้องก่อนดีกว่า
น้ำตกไทรโยคใหญ่เกิดจากแหล่งน้ำที่่อยู่ในอุทยานไทรโยค มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "น้ำตกเขาโจน" เป็นแหล่งน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ เพราะมีน้ำไหลตลอดปี ลักษณะของน้ำตกเป็นการไหลของแหล่งน้ำที่อยู่บนภูเขาในอุทยานแห่งชาติไทรโยคตกลงหน้าผาจะมีการไหลไปรวมกับแม่น้ำแควน้อยลักษณะเหมือนกระโจนลงมาจึงเป็นที่มาของชื่อของน้ำตกเขาโจน
นั่งเรือชมธรรมชาติและซึมซับบรรยากาศในวันสบาย ๆ อีกหนึ่งวัน ไม่ต้องคิดถึงอดีตไม่ต้องคิดถึงอนาคต ... ละทิ้งไว้ ณ ขณะหนึ่ง
สีสันของต้นไม้ ป่า ดูเหมือนจะแห้งแล้ง แต่ก็แอบแซมไปด้วยความสดใส
ละสายตามาที่สิ่งมีชีวิตตัวน้อย เจ้านกดูจะเพลิดเพลินมิใช่น้อย
ที่ไทรโยคใหญ่ เราเลือกพักกันที่ "แพพันทวี" เป็นแพเอกชน มีกิจกรรมหลายอย่างแล้วแต่จะเลือก เล่นน้ำ ล่องแพ คาราโอเกะ ร้องรำทำเพลง ให้อาหารปลา ส่วนตอนเช้าถ้าตื่นเช้าหน่อยก็ไปใส่บาตรได้ หรือจะนั่งเรือชมแม่น้ำแควน้อยกันอีกรอบก็ไม่เป็นไร
บรรยากาศชิล ๆ ปล่อยใจไปกับสายน้ำ ปล่อยอารมณ์ไปกับสายลม
ส่วนหนึ่งของกิจกรรมผู้ที่มาเที่ยวไทรโยคใหญ่ ฝาหรั่งถูกปล่อยลอยคอเล่นน้ำ น่าสนุกดี
รับอรุณยามเช้า อาบแสงแดดอุ่น ๆ ให้อาหารปลาบริเวณรอบ ๆ แพ กระโดดแย่งอาหารกันใหญ่
ออกจากไทรโยคใหญ่ แวะ "วัดสุนันทวนาราม" บรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ เป็นที่ปฏิบัติธรรม แลเห็นป้ายเตือนสำหรับผู้ที่จะเข้าวัด อ่านแล้วก็ขำดี ดีที่แต่งตัวถูกระเบียบเลยไม่ต้องรู้สึกผิด ^^
แวะร้านกาแฟร้านหนึ่ง "คุณหญิง" เห็นคุณสมบัติแล้วน่าลิ้มลอง
อาหารกลางวันฝากกันไว้ที่ "เรือนลาดทอง" เลือกเมนูง่าย ๆ มักกะโรนีกุ้ง
ชมวิวทิวทัศน์ขณะทานอาหารกัน
ต้นตาลและทิวเขา ไปกันหลายคนหน่อย นั่งจับจองชั้นบน กับบรรยากาศดี ๆ ที่เรือนลาดทอง
ทริปสั้น ๆ สองวันหนึ่งคืนที่ไทรโยคใหญ่ ถือเป็นการพักผ่อนที่ดีทีเดียว ได้เสพธรรมชาติ เพลิดเพลินกับล่องแพท่ามกลางสายน้ำ เดินเล่นชมนกชมไม้ตามเส้นทางธรรมชาติ ผ่านสถานที่ ๆ เป็นประวัติศาสตร์ และก็จากมาพร้อมกับความสุขในอีกรูปแบบหนึ่ง ^^