"Try to be the one, not someone"
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
22 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 
ตะวันตกนิยมในวรรณกรรมเรื่องสี่แผ่นดิน



วรรณกรรมเรื่องสี่แผ่นดินเปรียบเสมือนจารึกทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัริย์ เรื่องราวได้รับการถ่ายทอดจากตัวละคร โดยเฉพาะ "แม่พลอย" ซึ่งเป็นตัวละครเอกของเรื่อง นอกจากนี้แล้ว วรรณกรรมเรื่องนี้ยังเป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมไทยและระบอบการปกครองของประเทศสยาม ความสัมพันธ์กับชาติตะวันตกนั้นก็มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงนี้มิใช่น้อย เรื่องราวต่างๆถูกถ่ายทอดผ่านปลายปากกาของ มรว คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้อย่างดีเยี่ยม สมแล้วกับการที่วรรณกรรมเรื่องสี่แผ่นดินจะเป็นวรรณกรรมร่วมสมัยที่ทำให้ผู้อ่านได้รับรู้ถึงสิ่งต่างๆตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน



----------------------------------


« ตะวันตกนิยม » ในวรรณกรรมเรื่อง สี่แผ่นดิน


ผู้เขียนเข้าใจว่าคนไทยแทบจะทุกคนคงรู้จักวรรณกรรมเรื่อง สี่แผ่นดิน อยู่ไม่มากก็น้อย สี่แผ่นดินเป็นบทประพันธ์เอกของหม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช ผู้ประพันธ์ได้สร้างตัวละครเอกขึ้นมาเพื่อใช้เป็นตัวแทนถ่ายทอดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 เรื่อยไปจนถึงรัชสมัยของรัชกาลที่ 8 แห่งราชวงศ์จักรี เรื่อง สี่แผ่นดิน นี้จึงจัดเป็นงานวรรณกรรมร่วมสมัยที่สามารถถ่ายทอดเหตุการณ์สำคัญๆทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทยได้อย่างงดงามและสมบูรณ์แบบมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ การเปลี่ยนแปลงการปกครอง การพัฒนาประเทศ ตลอดจนขนบธรรมเนียมที่ดีงามของชีวิตชาววัง เป็นต้น นอกจากเรื่องราวต่างๆเหล่านี้แล้ว แก่นเรื่อง « ตะวันตกนิยม » ยังเป็นจุดที่โดดเด่นมาก ฉะนั้น ผู้เขียนจึงขอนำเสนอบทวิเคราะห์ทางด้านนี้ เพื่อที่ผู้อ่านจะเข้าใจได้ดียิ่งขึ้นว่า อารยธรรมตะวันตก นั้นได้เข้ามามีส่วนสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของประเทศเราได้อย่างไร โดยอาศัยการ วิเคราะห์ผ่านปลายปากกาของหม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช


อิทธิพลของตะวันตกนั้นได้เข้ามามีบททบาทอย่างมากต่อการพัฒนาประเทศไทยเรา รวมไปถึงต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในสมัยก่อนมาก ในเรื่อง สี่แผ่นดิน นั้น อิทธิพลของตะวันตกดูจะเริ่มแผ่เข้ามาในประเทศสยามตอนต้นรัชกาลที่ 5 เพราะก่อนหน้านี้ ชาติตะวันตกเช่น โปรตุเกส และฮฮลลันดาก็ได้เริ่มเข้ามาทำการค้าขายกับสยามตั้งแต่ รัชการที่ 3 แล้ว ต่อมาในรัชกาลที่ 4 เรื่อยต่อมาถึงรัชกาลที่ 5 เป็นยุคแห่งระบอบจักรวรรดิ์นิยมเรืองอำนาจ การล่าอาณานิคมของสองประเทศมหาอำนาจในขณะนั้นคือ อังกฤษและฝรั่งเศส ได้แผ่อิทธิพลเข้ามาถึงแหลมอินโดจีน รัชกาลที่ 5 ทรงใช้กุสโลบายเพื่อรักษาประเทศสยามส่วนมากเอาไว้ให้พ้นจากการเป็นเมืองขึ้นของประเทศตะวันตก สิ่งหนึ่งที่รัชกาลที่ 5 ทรงใช้ก็คือ การเร่งปรับปรุงประเทศสยามให้ทันสมัยทั้งในด้าน การศึกษา การเมืองการปกครอง เป็นต้น ในเรื่อง สี่แผ่นดิน กล่าวไว้อย่างชัดเจนเลยว่า เมื่อครั้นที่องค์พระพุทธเจ้าหลวงเสด็จพระราชดำเนินประพาสยุโรปเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์นั้น ได้สร้างความแปลกใจให้กับเหล่าข้าราชสำนักและราษฏรเป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยมีพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใหนเสด็จพระราชดำเนินประพาสไกลถึงเพียงนี้มาก่อน อย่างมากก็แค่เมืองสิงคโปร์ มาลายู หรือเมืองแขกอินเดียเท่านั้น ในการเสด็จพระราชดำเนินประพาสยุโรปในครั้งนี้ คุณเปรม ซึ่งในขณะนั้นทำหน้าที่เป็นมหาดเล็ก ได้ตามเสด็จด้วย จุดประสงค์หลักในการเสด็จพระราชดำเนินประพาสยุโรปนั้นก็เพื่อไปดูวิทยาการต่างๆที่ก้าวหน้า แล้วก็นำกลับมาพัฒนาประเทศสยามให้เจริญรุ่งเรืองทัดเทียมนานาอารยะประเทศอื่นๆ


เมื่อครั้งคุณเปรมได้ตามเสด็จพระราชดำเนินประพาสยุโรปนั้น ก็ได้เห็นความเจริญรุ่งเรืองมากมาย เมื่อกลับมาถึงยังพระนคร คุณเปรมก็ได้นำสิ่งที่ได้รู้ได้เห็นมาใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การดื่มเหล่าฝรั่ง การใช้กล้องสูบยาเส้น การสวมหมวก หรือการขี่ม้า เป็นต้น การเลียนแบบวัฒนธรรมของชาติตะวันตกของคุณเปรมนั้นเป็นสิ่งที่แปลกตาสำหรับผู้คนทั่วไปในสมัยนั้น แม้แต่ พลอย ภรรยาของคุณเปรม ยังกับถึงเอ่ยปากถามและต้องใช้เวลาปรับตัวให้ชินกับ « พฤติกรรมเลียนแบบฝรั่ง » ของสามีตนเองอยู่พักใหญ่ แต่ความแปลกตานี้ไม่ได้เป็นสิ่งที่เลวร้ายในสายตาของชาวสยาม ทั้งนี้เนื่องจาก การเลียนแบบฝรั่งนั้นเป็นการทำตาม « พระราชนิยม » เสียมากกว่า กล่าวคือ ในสมัยก่อนนั้น เขตพระราชวังเปรียบเสมือน ศูยน์กลางของอำนาจการปกครองสูงสุด ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีต้นกำเนิดมาจากในวังแทบทั้งสิ้น ในเมื่อคุณเปรมทำหน้าที่เป็นมหาดเล็กรับใช้เบื้องพระยุคลบาทของล้นเกล้า การที่เจ้านายทรงนิยมอย่างไร ก็ถือเป็นการสมควรที่ข้าหลวงทุกคนในราชสำนักทุกคนควรทำตาม นอกจากนั้น ในสายตาของคนไทยในขณะนั้น ประเพณีแบบตะวันตกนั้นยึงถือว่าเป็นเรื่องของความศิวิไลซ์ ความเจริญรุ่งเรือง และการเข้าสังคมอีกด้วย ในจุดนี้เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ความเป็น « ตะวันตกนิยม » นั้นเริ่มจากในพระราชสำนักก่อน


เมื่อราษฏรต้องสนอง « พระราชนิยม » ก็ทำให้วัฒนธรรมตะวันตกนั้นได้แพร่เข้าไปสู่สังคมของสามัญชนคนธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนชั้นขุนนาง ดังที่จะเห็นได้ว่า ในเรื่อง สี่แผ่นดิน นั้น คุณเปรมถึงกับขอร้องให้พลอยสนองพระราชนิยมเช่นเดียวกับตนเอง โดยการไว้ผมยาวแทนการเกล้าผมหรือผมสั้น คุณเปรมนั้นได้กล่าวอย่างชัดเจนว่า ขณะนี้ ในวังนั้น บรรดาเหล่าสตรีฝ่ายในได้ต่างพากันไว้ผมยาวกันทั้งนั้นตามแบบสมเด็จในพระพุทธเจ้าหลวง ซึ่งการไว้ผมยาวนี้ก็ได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตก นอกจากนั้น ความเป็นตะวันตกนิยมยังได้แทรกซึมเข้าไปถึงเรื่องของการดำเนินชีวิตของผู้คนด้วย แม้แต่ พลอย ก็ไม่อาจหนีกระแสนิยมนี้ไปได้ ยกตัวอย่างเช่น การแต่งกาย ผู้ชายนั้นจะต้องแต่งสากลยามออกงาน และฝ่ายหญิงควรเปลี่ยนจากการนุ่งโจงกระเบนเป็นการสวมกระโปรงแทนตามแบบตะวันตก นอกจากนั้น ยามออกจากบ้านควรสวมหมวก การแต่งหน้าเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นต่อหญิงสาว ประไพ ลูกสาวคนสุดท้องของคุณเปรมและพลอย เป็นตัวแทนของสาวรุ่นที่นิยมเลียนแบบตะวันตกได้เป็นอย่างดี เมื่อตอนที่ อั้น ลูกชายคนรอง กลับจากฝรั่งเศส ได้พาภรรยาชาวฝรั่งเศสที่ชื่อว่า ลูซิล กลับมาอยู่ที่พระนครด้วย ในแง่การวิเคราะห์แนว « Sémiotique » นั้น ฉากที่ลูซิลเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านของพลอยนั้นเป็นจุดเด่นมาก เพราะแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่า กระแสตะวันตกได้เข้ามาหาพลอยและผู้คนในบ้านถึงหน้าประตูเลยทีเดียว


การเข้ามาของลูซิลนั้นได้สร้างความเปลี่ยนแปลงต่อการดำเนินชีวิตของคนในบ้านครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกินหรือแม้กระทั่งเรื่องกริยามารยาทที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง มื้อเช้า คนในบ้านก็ต้องเปลี่ยนมารับประทาน ขนมปัง เนยและกาแฟแทนการตั้งโต๊ะอาหารแบบไทยๆที่มีข้าวและกับข้าวเป็นอาหารหลัก เมื่อครั้นพลอยไม่เข้าใจว่าทำไมจึงทานอาหารเช้าน้อยเพียงนี้ อั้น ลูกชายคนรอง ก็ได้อธิบายไว้อย่างชัดเจนว่า ในฝรั่งเศสนั้น เขาก็ทานกันอย่างนี้และแค่นี้ก็อยู่ท้องแล้ว เมื่อวิเคราะห์ผ่านตัวละครเรื่อง สี่แผ่นดิน นี้แล้ว เราจะเห็นว่าอิทธิพลของตะวันตกได้แผ่ขยายจากในวังออกมาสู่ชาวบ้านนอกวังอย่างชัดเจน แม้แต่การถ่ายรูป หรือในสมัยก่อนเรียกว่า การชักภาพ สี่แผ่นดินได้ชี้ให้เราเห็นว่า ความคิดของคนไทยแต่ดั้งเดิมในเรื่องการถ่ายรูปได้เปลี่ยนแปลงไป กล่าวคือ ในสมัยก่อนนั้น คนไทยไม่นิยมถ่ายภาพเพราะเชื่อว่าจะเป็นลางร้าย อาจถึงแก่ชีวิตได้ แต่อิทธิพลตะวันตกรวมถึงพระราชนิยมได้ทำให้คนไทยกล้าที่จะถ่ายรูปมากขึ้น โดยไม่สนใจว่า การถ่ายรูปนั้นจะเป็นลางร้ายหรือไม่ เพราะในเมื่อพระมหากษัตริย์ที่เป็นศูนย์กลางของชีวิตของชาวไทยทุกคนยังทรงกล้าถ่ายภาพ แล้วนับประสาอะไรกับคนธรรมดาสามัญอย่างคุณเปรม พลอย และลูกๆที่จะถ่ายไม่ได้


ความเป็น « ตะวันตกนิยม » ยังแสดงออกมาให้เห็นผ่านทางการศึกษา อั้นและอ๊อด ลูกชายคนรองและคนเล็กของคุณเปรมและพลอย ได้ออกเดินทางไปศึกษาหาความรู้ตั้งแต่ยังเล็ก ณ ประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส ก่อนออกเดินทาง คุณเปรมได้กล่าวกับพลอยว่า เมื่อถึงเวลาอันควร ตาอั้นและตาอ๊อดควรเดินทางไปยุโรปเพื่อไปศึกษาหาความรู้ แล้วนำกลับมาพัฒนาประเทศเราให้เจริญทัดเทียมกับประเทศในยุโรป อั้นเลือกไปศึกษาต่อทางด้านกฏหมาย ณ มหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ส่วนอ๊อดเลือกศึกษาทางด้านวรรณคดีที่มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ดที่มีชื่อเสียงของอังกฤษ การที่บรรดาเหล่าขุนนางนิยมส่งลูกหลานไปเรียนที่ยุโรปนั้นอาจเป็นเพราะต้องการสนองพระราชนิยมก็เป็นได้ เนื่องจากว่า หลังการเสด็จพระราชดำเนินกลับจากการประพาสยุโรปของรัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงเล็งเห็นแล้วว่า ประเทศสยามควรที่จะมีการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษาเพื่อพัฒนาชาวสยามให้มีความรู้และเจริญทัดเทียมชาวตะวันตก สิ่งนี้เองจึงเป็นที่มาของพระราชดำริในการก่อตั้งโรงเรียนมหาดเล็กขึ้น และต่อมาก็ได้สถาปนาเป็น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในรัชกาลที่ 6 แห่งราชวงศ์จักรี ในแผ่นดินของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 นั้น เป็นเสมือนพระราชนิยมในการส่งพระบรมวงศานุวงศ์ให้ไปทรงทำการศึกษาขั้นสูงในยุโรป ดังจะเห็นว่ามีเจ้านายหลายพระองค์ที่ทรงจบจากอังกฤษและฝรั่งเศส


กระแส « ตะวันตกนิยม » ที่มองผ่านวรรณกรรมเรื่อง สี่แผ่นดิน นั้น ทำให้เราเห็นว่า วัฒนธรรมตะวันตกได้แทรกเข้ามาอยู่ในการดำเนินชีวิตของชาวไทยมาแต่ครั้นโบราณกาล กระแสนิยมนี้ยังได้แผ่ซึมและหยั่งรากลึกลงมาถึงคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันนี้อย่างเห็นได้ชัด ความเป็น « ตะวันตกนิยม » นั้นก่อให้เกิดผลดีต่อบ้านเมืองของเรามากมาย อาทิเช่น ทำให้ประเทศสยามรอดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นของประเทศตะวันตก ทำให้เรามีระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษา เป็นต้น แต่กระแส « ตะวันตกนิยม » นี้ก็เปรียบเสมือนกับดาบสองคม เพราะประเทศไทยพัฒนาไปตามแบบอย่างตะวันตก เราเห็นอะไรที่เป็นตะวันตก เราก็ว่าดีไปหมดทุกอย่าง เราเยินยอกับความเจริญของตะวันตกมากจนกระทั่งลืมความเป็นไทย ความเป็นตะวันตกนิยมได้ทำลายความภูมิใจในความเป็นไทย เพราะผู้คนเห็นว่า การแต่งสากลและการสวมกระโปรงเป็นเรื่องของความศิวิไลซ์มากกว่าการนุ่งโจงกระเบน การรับประทานอาหารฝรั่งดูเป็นความโก้หรูมากกว่ารับประทานอาหารไทย กระแสตะวันตกนิยมก็เปรียบเสมือนกับสายนำที่ย่อมใหลจากที่สูงลงมาสู่ที่ราบเสมอ ทำไม ลูซิล ซึ่งมาอยู่กินในเมืองไทยจึงไม่จำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมและสภาพความเป็นอยู่ของชาวไทย แต่กลับกลายเป็นว่าคนไทยต้องปรับตัวให้เข้ากับฝรั่งเพื่อความศิวิไลซ์และความทันสมัย สี่แผ่นดินได้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เมื่อใดก็ตามที่กระแสตะวันตกนิยมฝังรากลึกในสังคมไทยมากขึ้นเท่าไร ความภาคภูมิใจในความเป็นไทยก็ลดน้อยลงมากไปเท่านั้น คำถามที่ผู้เขียนอยากจะทั้งท้ายไว้ก็คือว่า ประเทศไทยจะสามารถพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าอย่างวิถีไทยๆได้หรือไม่ ในยุคโลกาภิวัฒน์นี้ ดูเหมือนว่า คนไทยนั้นจะเปิดรับและผูกติดกับคำว่า « ตะวันตกนิยม » มากจนลืมคำว่า « ไทยนิยม » ไปหมดแล้ว ผู้เขียนไม่มีเจตนาในการให้รักชาติมากจนไม่มองดูโลกภายนอก หากแต่ต้องการให้บทความเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นภาพของกระแสตะวันตกนิยมที่มีอิทธิพลต่อคนไทยมาตั้งแต่สมัยก่อน เริ่มตั้งแต่ในวังจนมาถึงนอกวัง « ตะวันตกนิยม » ได้ฝังรากลึกอยู่ในการพัฒนาประเทศและในความคิดของคนไทย ผู้เขียนขอทิ้งท้ายไว้ว่า เราไม่จำเป็นต้องเอาของตะวันตกมาทั้งหมด หากแต่เลือกนำเอาสิ่งดีๆกลับไปพัฒนาชาติของเราให้เจริญรุ่งเรืองทัดเทียมนานาประเทศ ถึงแม้ว่างานวรรณกรรมเรื่อง สี่แผ่นดิน จะมีอายุยาวนาน แต่คุณค่าของงานที่สะท้อนภาพวิถีชีวิตของคนไทยในสมัยก่อนนั้นยังไม่เลือนลางไปกับกาลเวลาเพราะแก่นเรื่อง « ตะวันตกนิยม » นั้นยังมีบทบาทต่อแนวคิดของคนไทยจวบจนถึงปัจจุบันนี้ สมแล้วกับการยกย่องให้เป็นวรรณกรรมร่วมสมัยที่มีคุณค่ามากที่สุดเรื่องหนึ่งที่เรา ในฐานะคนไทย จะพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง


ซอร์บอนน์




"หนึ่งคำทักทายของท่าน คือล้านกำลังใจของเรา"





























Create Date : 22 สิงหาคม 2550
Last Update : 5 กันยายน 2550 2:07:15 น. 17 comments
Counter : 3959 Pageviews.

 
อ้าว ขอโทษนะครับที่มีข้อผิดพลาดทางเทคนิคบางอย่าง มือใหม่หนะครับ คือพอดีผมเขียนบทวิเคราะห์เรื่องสี่แผ่นดินเก็บเอาไว้ในรูปแบบของโปรแกรม Word ผมเซฟเอาไว้ในคอมพิวเตอร์ของผมแล้ว แต่พอจะโหลดมาใส่บล็อคนี้กลับทำไม่ได้หนะครับ คือผมไม่อยากจะมานั่งพิมพ์ซ้ำใหม่ทั้งหมดในบล็อคนี้หนะครับ ไม่ทราบท่านใดพอจะแนะนำได้ใหมครับ ขอบคุณล่วงหน้านะครับ


โดย: ซอร์บอนน์ (ซอร์บอนน์ ) วันที่: 22 สิงหาคม 2550 เวลา:3:46:56 น.  

 
แหะแหะ ! ผมไม่รู้วิธีหรอกครับ.....

แต่จะมารออ่านน่ะ ฮิฮิ.....


โดย: doctorbird วันที่: 22 สิงหาคม 2550 เวลา:7:55:30 น.  

 
ก๊อปปี้มาวางเฉยๆ ไม่ได้เหรอคะ??

แหะๆ ไม่รู้ไรดีไปกว่านี้ค่ะ

แต่จะมารออ่านต่อนะคะ


โดย: janeko วันที่: 22 สิงหาคม 2550 เวลา:11:08:45 น.  

 
ยินดีด้วยนะคะ ที่ทำได้สำเร็จแล้ว
เดี๋ยวตามมาอ่านรายละเอียดค่ะ ..


โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 23 สิงหาคม 2550 เวลา:20:04:10 น.  

 
ว้า!! โดนเจ้านายเรียกตัว

เข้ามาลงชื่อก่อน

เด๋วว่างมาอ่านต่อ

อ่านเรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลาและสมองคิดตามด้วยซิ


โดย: janeko วันที่: 24 สิงหาคม 2550 เวลา:9:26:24 น.  

 
ว้าว...คุณซอร์บอนน์เขียนแนวนี้ได้ล้ำลึกมากเลยค่ะ


โดย: biebie999 IP: 124.121.45.219 วันที่: 25 สิงหาคม 2550 เวลา:18:45:57 น.  

 
สวัสดีครับทุกๆท่าน พอดีชอบอ่านเรื่องนี้ครับ อ่านไปอ่านมาก็เลยคิดว่า เออ มันมีประเด็นให้เขียนได้นะ ก็เลยลองดูหนะครับ ทำตอนว่างๆครับ


โดย: Sorbonne (ซอร์บอนน์ ) วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:4:31:31 น.  

 
ผมอ่านหมดแล้วนะครับคุณซอร์บอนน์....

บอกได้คำเดียวว่า " สุดยอด " .....

ผมว่าน้อยคนนะที่จะวิเคราะห์ออกมาได้แบบนี้...นับถือ...นับถือ.....


โดย: doctorbird วันที่: 28 สิงหาคม 2550 เวลา:16:47:48 น.  

 
ขอบคุณมากๆนะครับคุณหมอที่เข้ามาทักทายกัน คือพอดีเห็นว่าคุณหมอเข้ามาตั้งแต่แรก แต่ตอนนั้นผมอัพบล็อคไม่เป็นหนะครับ แต่พอทำได้แล้วก็เลยชวนคุณหมอมาอีกที แล้วเข้ามาทักทายกันใหม่นะครั


โดย: Sorbonne (ซอร์บอนน์ ) วันที่: 29 สิงหาคม 2550 เวลา:5:33:33 น.  

 
ทึ่งในความสามารถมากค่ะ มีประโยชน์สำหรับคนอีกหลายคนเลยค่ะ ยังไงก็จะคอยติดตามผลงานอีกนะค่ะ


โดย: care_kroocom IP: 203.113.62.5 วันที่: 29 สิงหาคม 2550 เวลา:19:55:15 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลเราหาเรื่องจะไปทำรายงานพอดี


โดย: --- IP: 203.154.82.239 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:38:24 น.  

 
ขอบคุณนะครับที่เข้ามาอ่านและทักทายกัน ไม่หวงเลยนะครับ แต่อยากบอกนิดนึงว่ากรุณาอย่านำบทความนี้ไปดัดแปลงหรือคัดลอกเป็นงานของตนเอง เพื่อทำรายงานส่งอาจารย์นะครับ มันไม่ดีเลยครับ อย่าน้อยก็ต้องให้เกียรติอาจารย์และผม ในฐานะคนเขียนนะครับ


โดย: ซอร์บอนน์ (ซอร์บอนน์ ) วันที่: 19 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:56:23 น.  

 
แวะดูห้องโน้นห้องนี้เรื่องเปื่อย เจอบทความนี้สะดุดตาเลยต้องแวะค่ะ

เจเจอ่านหนังสือเล่มนี้หลายรอบแล้ว ดูละครก็อีก 3 รอบ นอกจากประทับใจเนื้อเรื่องและสำนวนภาษาที่ใช้ เจเจยังชอบเอาเหตุการณ์และความคิดเห็นของตัวละครมาถามพ่อจ๋าด้วย (พ่อจ๋าของเจเจแก่แล้วค่ะ เลยมีอะไรมาเล่าให้ลูกๆฟังได้บ้าง)

สมัยเรียน เจเจเคย refer ถึงเหตุการณ์และค่านิยมในหนังสือเรื่องนี้ไปใส่ใน เปเปอร์ของเจเจด้วย ตอนนั้นเจเจทำเรื่อง portrayal of women คือเน้นการเปรียบเทียบภาพของสตรีในอดีตและปัจจุบัน รวมทั้งบทบาท และผลกระทบที่ได้รับจากสื่อ และมีต่อสื่อ (กว่าจะผ่านปาดเหงื่อไปหลายรอบค่ะ)

เรื่องการถ่ายภาพในสมัยนั้น เจเจเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยค่ะ เป็นเรื่องที่คุณย่าเล่าให้ฟังว่าการไปถ่ายภาพเป็นเรื่องโก้เก๋มากๆ คุณย่ามีรูปถ่ายสมัยสาวๆด้วย (คุณย่าเกิดปลายรัชกาลที่ 5 ค่ะ) ถ้าจำไม่ผิดข้างหลังภาพยังมีตัวหนังสือเขียนว่า รศ 124 หัวถนนเจริญกรุง ขนาดชาวบ้านธรรมดายังพลอยได้อิทธิพลจากในวังด้วย

แล้วเรื่องการขี่จักรยาน... แม้แต่ในพระราชวังต้องห้ามก็นิยมหัดขี่จักรยานกันมาก... แสดงว่า "ตะวันตกนิยม" แพร่หลายจริงๆ

แต่ตอนนี้บ้านเราโดนกระแส "เกาหลีนิยม" เข้าไป ไม่รู้ว่าอีกสิบปี หรือยี่สิบปี มันจะมีผลกระทบกับเรายังไงบ้างเนอะ น่าคิดๆๆ

วู้ๆๆ เจเจเพ้อเจ้อไปเรื่อย แหะๆๆ สุดท้ายจะบอกว่าคุณซอร์บอนน์เขียนได้กระชับ ได้ใจความดีจัง ชอบค่ะ...ชอบ


โดย: Jolly Joey วันที่: 21 ธันวาคม 2550 เวลา:8:51:11 น.  

 
ชอบเรื่องนี้มากเคยดูในละครแล้วชอบมากทั้งบทในวัง และนอกวังเคยดูเวอร์ชั่นคุณไก่ (แหม่ม จินฯ)ชอบบทมาก การเเร่องนักแสดง สื้อผ้าการแต่งกาย-แต่งหน้า แต่ของหม่อมน้อย(อุ้ม สิริฯ)ชอบในเรี่องฉากมากกว่า(อย่างเดียว)นักแสดงเล่นไม่ถูกใจ ที่ชอบคือช้อย(ปิงปอง) กับอานุ้ยอาเนียน(ณัฐาลอย) และลูซิลล์(สุนิสาบราวน์)แค่นั้นตนอื่นยังไม่ถูกใจ เออพ่อเพิ่มก็ดี(จำชื่อไม่ได้) อยากให้สี่แผ่นดินกลับมาทำเป็นละครอีกจัง ชอบ เห็นความแตกต่างของผู้จดดี อยากให้ช่อง3นำกลับมาทำ อยากให้แอฟเล่นเป็นแม่พลอย โฬมเล่นเป็นคูณเปรม เสด็จให้คุณแหม่มจินตหรา อิอิ(เปลี่ยนจากบทแม่พลอยเป็นเสด็จ) ให้เมตตารุ่งรัตน์เป็นคุณสาย ให้ชมพู่ ก่อนบ่ายเล่นเป็นช้อยให้อ๋อม สกาวใจเล่นเป็น คุณอุ่นตัวร้าย เหมาะไหมที่พูดมา อย่าลืมไปพิจารณานะ


โดย: พลอย IP: 125.25.105.104 วันที่: 25 มีนาคม 2551 เวลา:12:35:29 น.  

 
บล๊อกนี้มีประโยชน์มากเลยค่ะ

พอดีกำลังหาเรื่อง วรรณกล่อมอยู่พอดี






เขียนได้เยื่อมจริงๆๆ


โดย: ตุ้มติ้ม IP: 222.123.212.160 วันที่: 7 มิถุนายน 2551 เวลา:17:49:59 น.  

 
เป็นเรื่องที่มีประโยชน์สำหรับทุกคนจริงๆค่ะทั้งสนุกและได้ทราบถึงบรรยากาศในสมัยก่อน
ตอนนี้กำลังหาบทวิเคราะห์เรื่องนี้อยู่ด้วย(งานส่งอาจารย์ค่ะ)ขอบคุณมากๆค่ะ


โดย: คนในบ้าน IP: 202.28.35.3 วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:23:11:52 น.  

 
ชอบจังคะ เพลงเพราะจังเลย ขอบคุณนะคะสำหรับบทความและเพลงเพราะๆค่ะ


โดย: หนุงหนิง IP: 222.123.49.63 วันที่: 6 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:57:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ซอร์บอนน์
Location :
Paris Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผมเป็นคนที่รักการแต่งบ้านและทำสวนเป็นชีวิตจิตใจ เพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้เราคลายเหงาไปได้มาก ยามเมื่ออยู่ไกลบ้านและมีโอกาสได้ดูรูปภาพเหล่านี้ ก็ทำให้รู้สึกเหมือนได้อยู่บ้านอีกครั้ง ผมยังชอบเดินทางท่องเที่ยวเพื่อค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ ทำให้วิสัยทัศน์กว้างขึ้น
Friends' blogs
[Add ซอร์บอนน์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.