sonya-c
<<
ตุลาคม 2550
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
2 ตุลาคม 2550

+++รักไวโอเลต : รักครั้งแรกของผม 2+++

กว่าที่จะยอมรับตัวเองได้ ก็ต้องผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านเรื่องราวที่ปวดร้าวมามากมาย …ทะเลทรายที่แห้งเหือด ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป เพราะอย่างน้อยยังมีโอเอซีสเล็กๆ ที่คอยหล่อเลี้ยงพืชบางชนิด ให้เติบใหญ่ท่ามกลางเปลวแดด… เมื่อมองย้อนกลับไป มันไม่ใช่สิ่งเลวร้ายเสมอไปมิใช่หรือกับความขมขื่นที่ได้รับ เพราะอย่างน้อยสิ่งที่คนในสังคมได้หยิบยื่นให้ มันก็หล่อหลอมให้ผมยืนอยู่บนโลกใบนี้ด้วยความเข้มแข็ง และก้าวผ่านช่วงชีวิตที่ทุกข์ทนมาได้

2.

“ผมมาคนเดียวครับ พอดีเพื่อนๆ เขาไปเดินห้างกันหมด” ผมเริ่มพูดกับเขาและไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจเหมือนไม่กี่นาทีที่ผ่านมา พลางขอบใจเขาที่อุตส่าห์มาช่วยถือหนังสือ

“ไม่เป็นไรหรอกครับ” เขาพูดยิ้มๆ พลางกล่าวแนะนำตัว
ผมบอกชื่อเขาไป และอดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมผู้ชายตัวโตๆ คนนี้ถึงมองเราแปลกๆ

“ ขอบคุณมากครับเอ็มที่อุตส่าห์ช่วยถือมาจนถึงที่นี่คงเมื่อยแย่”

“ก็เมื่อยเหมือนกันครับ งั้นเราหาอะไรทานกันที่โรงอาหารดีไหม” เขาชวนพร้อมยิ้มกว้าง จะว่าไปผู้ชายคนนี้ก็จัดได้ว่าเป็นคนหน้าตาดีมากคนหนึ่ง

แต่น้ำเสียงแปร่งหู พอจะสังเกตได้ว่า เขาเป็นหนุ่มปักษ์ใต้อย่างไม่ต้องสงสัย
เขาจัดแจงซื้ออาหารและ ชวนคุยอย่างอารมณ์ดี ในตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรนอกจากมิตรภาพที่กระจ่างใสอยู่ตรงหน้า ผมเริ่มรู้จักตัวตนของเอ็มมากขึ้นทีละนิดทีละนิด ผ่านการบอกเล่า

“ผมเป็นคนนคร ฯ แล้วมาเรียนที่ประจวบ มาอยู่กับป้า แต่ไม่ได้อยู่สบายๆ หรอกต้องช่วยเขาทำงานทุกๆ อย่าง แต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไรมาก”

ฉากชีวิตของเขาค่อยๆ คลี่ออกมาทีละหน้าทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ถาม แต่เขาก็เล่าเอาเล่าเอา
จนบางทีผมอดขำไม่ได้

“ไม่ต้องพูดครับ พูดผมก็ได้ สุภาพโคตร” ผมพูดติดตลกแต่ไม่ยักทำให้เขาเปลี่ยนสรรพนาม ยังคงจ้ออย่างอารมณ์ดี

“ผมตั้งใจอยากเรียนวิศวะให้ได้ อยากเรียนที่นี่แหละ” เขาหมายถึงมหาวิทยาลัยที่จัดติวเข้มเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยในครั้งนี้

“ผมจะเอาใจช่วยนะ” เอ็มอมยิ้ม

ขำอะไร ผมถามพลางหัวเราะ

ผมอิจฉาคุณจังตัวไม่ดำอย่างผม เขาพูดและยิ้มแบบเดิม ยิ้มของเขาทำให้โลกดูสดใสได้อย่างประหลาด

“ไม่หรอกก็ดูดีแล้วนี่” ผมตอบตามความรู้สึก เพราะจะว่ากันจริงๆ เขาก็ไม่ได้ดำอะไรนักหนา ตรงกันข้ามหน้าตาเขาคมเข้ม จมูกและปากได้รูป ยิ่งมองผมก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยชอบคนผิวเข้มเลย

ถ้าว่ากันตามตรงสเปคผม ต้องขาวตี๋ แบบเกาหลี ญี่ปุ่นที่เป็นเทรนด์อยู่ตอนนี้ ผมไม่คิดจริงๆ ว่าจะต้องมาหลงรักคนผิวดำ (555) แต่ตอนนั้นสาบานได้เลยว่า ผมไม่ได้คิดอะไรกับเขามากเกินไปกว่า เพื่อน หรือคนที่รู้จักกัน “ก็เท่านั้น”

ผมอดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไม เอ็มถึงพูดเพราะ พูดกับผมไม่มีมึง-กูเลย มาในตอนหลังเท่านั้น ที่เปลี่ยนจากคำว่า “ผม” มาเป็น เอ็มบ้าง “เรา” บ้าง

แปลกใจที่เขาบอกผมว่าชอบอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วสายตาที่เขามองมาก็ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ ตลอด แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้เฉลียวใจอะไรสักนิ้ดด

กินข้าวอิ่มเขาก็ไปส่งถึงหน้าห้อง ตอนนั้นกลุ่มเพื่อนที่ไปเดินห้างก็ยังไม่กลับมา ผมเลยเอาของไปเก็บแล้วเดินไปอาบน้ำ

ในหอพักนิสิตชายเป็นตึกสีขาว สูงประมาณ 20 ชั้น แต่ละห้องจะมีเตียงนอน 4 เตียง และมีห้องน้ำรวม ผมรู้สึกว่ามันแปลกๆ บอกไม่ถูกเพราะห้องอาบน้ำมีเพียงม่านพลาสติกรูดปิดเท่านั้น (แต่อย่างว่าแหละผู้ชายทั่วๆ ไปเขาก็ไม่ได้อายอะไร บางทียังเห็นเดินกันเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียว ผมก็ได้แต่อดใจไม่มองเดี๋ยวนอนไม่หลับ อิอิ) เวลาอาบน้ำจึงรู้สึกกังวลเหมือนกับว่าจะมีคนเปิดเข้ามา แต่หลายวันเข้าอาการเหล่านั้นก็หายไป แหมก็ใครเขาจะมาอุตริเปิดเข้ามาล่ะ คิดมากจริง......

อาบน้ำเสร็จก็พันผ้าเช็ดตัวเดินออกมาอย่างอารมณ์ดี

แต่เรื่องมันเหมือนกับนิยายน้ำเน่าไม่มีผิด เมื่อพระเอก มาเจอกับพระเอก (เป็นงั้นไป) เพราะพอเดินออกจากห้องน้ำไม่กี่ก้าว ก็ชนเข้ากับผู้ชายตัวโตคนนั้นเต็มๆ

“โครม” ของที่เตรียมมาอาบน้ำกระจัดกระจาย ส่วนผมนะเหรอล้มลงไปนอนแผ่หรา หมดราคากันที่พื้นนั่นแหละ ดีที่ผ้าผ่อนยังไม่เปิดโล่งโจ้ง เพราะแค่นี้ก็ขายหน้าจะแย่

“โอ๊ยเจ็บจัง” ร้องออกไปอย่างลืมตัว ผมเพิ่งนึกได้เดี๋ยวนี้นี่เองว่าไปชนผู้ชายตัวดำ เอ้ยเข้มหน้าตาคม คนนั้นเข้า ก่อนที่จะหลุดคำว่า เอ้ยเดินไงว่ะ ก็เพิ่งนึกออกว่า ผมนะเดินไปชนเขาเอง

“ขอโทษนะ”

“เอ็มเองที่ผิดขอโทษครับ”

เอ็มประคองผมลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิดจริงๆ ผมยิ้มออก และขำกิ๊ก ต่อหน้าเขาเพราะไม่ได้เจ็บอะไรมากนัก เพียงแต่ตกใจนิดหน่อย เขาขอโทษผมอีกและเดินไปส่งจนถึงห้อง

“ผมไม่เป็นไรแล้วครับขอบคุณมากนะ ” พูดยิ้มๆ และขำที่ตัวเองเดินซุ่มซ่าม ทำเอาขายหน้า เอ็มยิ้มตอบแต่สายตาเขาที่มองมานี่สิ ทำเอาผมร้อนวูบวาบ เอ้ย นี่กรูคิดไรว่ะ

ผมก็งงตัวเองเหมือนกันในตอนนั้น ผมเริ่มสงสัยในตัวของเอ็มเข้าแล้วล่ะ ว่าเอ็มเป็นผู้ชาย 100% หรือเปล่า ยิ่งคิดยิ่ง งง ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเอง หรือกรูคิดมากไปเนี่ย!!!

หลังจากผ่านไปอีกหลายปีเมื่อผมกลับมาคิดเรื่องนี้ทีไรก็อดยิ้มคนเดียวไม่ได้ ยังไงนะเหรอก็ ผมไม่คิดว่า ผมจะมีความรักเหมือนคนอื่น..และรู้สึกว่า ทำไมนะตอนนั้นถึงได้อ่อนต่อโลกจริงๆ เขาเข้ามาจีบแท้ๆ ทำไมถึงไม่รู้อะไรเลย ช่างซื่อ(บื้อ) จริงๆ

แล้วเจอกันใหม่ครับ ในตอนต่อไปครับ




 

Create Date : 02 ตุลาคม 2550
1 comments
Last Update : 2 ตุลาคม 2550 17:09:14 น.
Counter : 914 Pageviews.

 

แวะมาอ่านค่ะ

 

โดย: patthanid 2 ตุลาคม 2550 17:34:09 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


junesany
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มีสติ รักตัวเองให้มาก
[Add junesany's blog to your web]