Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
6 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
ในที่สุด...ก้อเกิดปฏิหาริย์อีกครั้ง












......3กพ.52...


...เวลาผ่านไปเร็วมากนะคะ...เดือนมค.ผ่านไป1เดือนแล้ว..

ใน1เดือนที่ผ่านไป..ฉันเผชิญกับอะไรบ้าง...

ก่อนวันปีใหม่ไม่กี่วัน..ฉันกับพี่เนทะเลาะกันอย่างรุนแรง..ต่างคนต่างร้องไห้......ทำไมเรื่องเล็กนิดเดียวเราทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่..เหตุลึกๆจริงๆมาจากอะไร...สรุปว่า ..แต่ละคนกำลังอยู่ในภาวะที่เครียดมาก...กับการค้าที่ร้าน...ฉันพยายามคิดตลอดเวลาว่า "ไม่ท้อ ไม่ท้อ...ต้องไม่ท้อ..จิตห้ามตก...เราต้องได้ ..เราต้องได้..." ฉันรู้แต่ว่า จิตของตัวเองต้องไม่ตก..แต่ลืมนึกถึงพี่เนไป....จนวันนั้น.ได้ยินพี่เนพูดว่า " ไม่อยากไปร้าน...ไม่รู้จะไปทำไม ไปก้อไม่ได้ขาย..เงินลงทุนไปก้อหายหมด..." ได้ยินแค่นี้ฉันถึงกับอึ้งไปพักหนึ่ง...

พี่เนเครียดเรื่องร้านขนาดนี้เลยเหรอ..ฉันเพิ่งรู้ นึกว่าตัวเองเครียดคนเดียวซะอีก...แสดงว่า..ที่ผ่านมาเป็นเดือนที่พี่เนเงียบมาก ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยเล่น เหมือนคนกำลังทุกข์...ซึ่งฉันกับกล้วยสังเกตุมาพักหนึ่งแล้วว่าพี่เนเป็นอะไร..แต่ไม่มีใครกล้าถาม...จนวันนี้เพิ่งรู้ว่า...พี่เนก้อตกอยู่ในภาวะความเครียดเรื่องร้านอย่างหนัก...สรุปคือ..พี่เนจิตตกซะแล้วซิ....

เอาละ..เราต้องมาคุยกันใหม่...

"พี่เน...ยังไงๆเราก้อไม่มีทางเลือกแล้ว...เราเซ้งร้านที่นี่แล้ว..ถ้าพี่เนท้อจนไม่ทำอะไรเลย..ยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปเรื่อยๆ...เอาอย่างนี้มั๊ย...ที่พี่ทรายเคยแนะนำพวกเราว่าลองไปขายอาหารขายของกินที่ตลาด...แถวศรีนครินทร์ดู...เราลองดูซักตั้งก้อได้..อย่างน้อยถ้าวันนั้นขายได้มันก้อเป็นเงินสำหรับเราสองคนไว้ใช้จ่าย..เผลอๆอาจจะมีเหลือให้เก็บบ้างก้อได้นะ...ส่วนที่ร้าน..แนนก้อพยายามส่งสินค้าไปขายตามที่ต่างๆแล้ว..พอสิ้นเดือนก้อให้เค้าโอนเงินมาให้..เรายังพอมีจ่ายค่าเช่าร้านอยู่..ขาดเหลือบ้างเราก้อหามาเติม"....เวลานี้..เราต้องพยายามหาเงินมาจ่ายค่าเช่าร้านจำนวน10,200บาท ให้ได้ก่อน...ส่วนเงินเดือนน้องกล้วยก้อหาจากการที่ออกไปขายของหน้าห้าง....ส่วนเงินใช้ส่วนตัวของเราสองคน..ไม่เคยมีมานานแล้ว....ขอแค่มีค่าเช่าทุกเดือนถือว่าเรารอดแล้วละคะ....

หลังจากที่เราสองพี่น้องปรับความเข้าใจกันแล้ว...เราก้อต้องลุกขึ้นมาต่อสู้กับชีวิตที่โหดร้ายกันต่อ...

...อดทน...อดทน...ต่อไป...

ฉันไม่อยากคิดมากแล้ว..เพราะอย่างน้อยมีปฎิหาริย์เกิดขึ้นกับพวกเราหลายต่อหลายครั้ง...มันแสดงให้เห็นแล้วว่า...ยังไงเราก้อรอด....แต่กว่าจะรอดช่วงเวลาที่เลวร้ายไปนั้น...ต้องรอให้เราทุกข์สุดๆ ท้อสุดๆ ถึงจะมีปฎิหาริย์มาช่วยทุกที....

เดือนมค.ทั้งเดือนมีอะไรเกิดขึ้นมากมายกับฉัน..จะขอเล่าเป็นเรื่องๆไปนะคะ


















...ถ้าเจอแบบนี้..จะรู้สึกอย่างไรดีคะ.....






...
ค่ะ...ตอนแรกฉันรู้สึกว่าผู้ค้าที่นี่สามัคคีกันดี...เพราะตกอยู่ในภาวะเดียวกันคือ..ขาดทุนทุกเดือน...เรารวมตัวกันประชุมหลายต่อหลายครั้ง..แต่ก้อยังไม่ได้ข้อสรุปซักที...หลายคนให้ฉันช่วยหาทนายให้เพื่อที่จะปรึกษาเกี่ยวกับทำอย่างไรดีกับการค้าที่นี่...พ่อก้อติดต่อให้...ตอนแรกที่คุยกันไม่ใช่เป็นการฟ้องคืนห้องนินา...ทำไมพอทนายมา...ทุกคนกับพูดแต่เรื่องฟ้องคืนห้อง...ฉะนั้น..ถ้าทุกคนมีความเห็นอยากคืนห้อง...ฉันเลยขอถอนตัว...เพราะฉันยังไม่อยากฟ้องคืนห้องนินา...พ่อแม่พี่น้องญาติๆ ..รวมทั้งนายทุนของฉันคือ คุณป้ากับอาจ๋า..ต่างเชื่อใจฉันว่า ฉันจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังที่ฉันตัดสินใจมาเซ้งร้านที่นี่เพื่อเป็นที่ทำมาหากินต่อไปในวันข้างหน้า...ไม่ใช่แค่ปีเดียวก้อเลิกซะแล้ว...แถมถ้าฟ้องร้อง...จะได้เงินคืนครบล้านเก้าแสนรึป่าวละคะ...

ถ้าไม่ได้...ฉันจะมีหน้าไปมองคุณป้าอาจ๋าได้อย่างไร...ท่านไม่ได้มีเงินไว้ให้ฉันผลาญเล่นนะคะ...ท่านรักหลานอยากช่วยให้หลานมีที่ทำมาหากินของตัวเองโดยที่ไม่ต้องไปจ่ายค่าเช่าห้าหกหมื่นให้กับเจ้าของห้องที่ห้างอื่นอีกต่อไป..ท่านให้เงินพวกเรามาก้อนหนึ่ง..เพื่อเซ้งร้านเป็นของตัวเอง...แต่เราสองคนคิดเสมอค่ะว่า..ยังไงเราก้อต้องคืน..ไม่ว่าคุณป้ากับอาจ๋าจะพูดว่า..มีก้อคืนไม่มีก้อไม่ต้อง...เพราะท่านตั้งใจไว้ให้ลูกหลานอยู่แล้ว....

แต่ยังไงซะเราสองคนต้องพยายามจนถึงที่สุดค่ะ ...ยังไง เราต้องคืนเงินก้อนโตนี้ให้คุณป้ากับอาจ๋าให้ได้....

ฉะนั้นเรื่องฟ้องคืนห้องฉันขอถอนตัว...

ค่ะ...เพื่อนๆผู้ค้าเลยขอให้ฉันแนะนำทนายคนใหม่ที่คิดค่าทนายไม่แพงมากนัก..ฉันก้อช่วยแนะนำอาให้...อาก้อขับรถมาหาถึงที่...มานั่งคุยกับผู้ค้าส่วนหนึ่ง...ตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายและจะนัดเจอกันอีกครั้ง พอคุยเสร็จตกลงกันเรียบร้อยก้อแยกย้ายกันกลับ...

หลังจากวันนั้น...ไม่มีใครพูดถึงเรื่องทนายที่เป็นอาของฉันอีกเลย...

ก่อนหน้านี้ฉันถามหลายๆคนว่า .."เป็นยังไงบ้างคะ...เรื่องไปถึงไหนกันแล้ว..."....แต่ละคนตอบเหมือนๆกันว่า..."ยังไม่รู้เลย..ก้อคิดๆกันอยู่.."....ฉันไม่ได้ถามเพื่อต้องการรู้ข้อมูลความก้าวหน้าของการดำเนินการของพวกเค้า...แต่ฉันถามเพราะความเป็นห่วงจริงๆ...ห่วงเพราะพวกเราหัวอกเดียวกัน..เพียงแต่ฉันยังไม่ต้องการคืนห้องจิงๆ...

ฉันยังต้องอาศัยที่นี่เป็นหน้าร้านเพราะลูกค้าเก่าๆหลายคนของฉันรู้ว่าฉันมีร้านอยู่ที่นี่...ฉันอาจจะได้ออเดอร์จากลูกค้าเก่าๆบ้าง...และกว่าที่ฉันจะได้ร้านนี้มามันมีเรื่องที่แปลกเกิดขึ้น..ถ้าได้อ่านมาตลอด..จะรู้ว่ามันแปลกอย่างไร....ฉะนั้น...ฉันยังเชื่อมั่นว่าที่ตรงนี้สามารถทำเงินให้ฉันได้มากในอนาคต...เพียงแค่...ขึ้นอยู่กับความอดทนเท่านั้น..ถ้าทนกับภาวะช่วงนี้ให้ผ่านไปได้...อนาคตอาจจะดีก้อได้....

และแล้ว..ฉันเพิ่งรู้ไม่นานว่าการถอนตัวไม่ร่วมฟ้องคืนห้องของฉัน...กลับกลายเป็นว่า...ฉันเป็นคนละพวกกับเพื่อนๆผู้ค้าบางกลุ่มในนั้นเสียแล้ว...

ความลับไม่มีในโลกหรอกนะคะ...ฉันไม่ได้อยากรู้ว่าพวกเค้าดำเนินการไปถึงไหนกันแล้ว....ถึงแม้บางคนจะพยายามช่วยกันปกปิดฉันก้อตาม..วันก่อน...มีคนที่ไม่ได้เข้าร่วมสมาคมจับกลุ่มคุยในห้าง...คงไม่ทราบว่า..เค้าเตรี๊ยมกันไว้แล้วว่าไม่ให้บอกฉัน...เค้าเข้ามาคุยกับฉันและบอกว่า..ดำเนินเรื่องไปถึงไหนแล้ว...แต่คนที่เข้ามาคุยทำหน้างงมาก..ที่ทำไมฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย.....ฉันก้อไม่เข้าใจเหตุผลที่พวกเค้าทำกับฉัน..เกิดอะไรขึ้นคะ..ทำไมอยู่ๆแต่ละคนถึงมีท่าทางมีลับลมคมใน..ทำเหมือนฉันเป็นคนฝ่ายตรงข้ามไปเสียแล้ว...มีคนบอกฉันว่า..พวกเค้ากำลังดำเนินการฟ้องร้องกันอยู่โดยจ้างทนายคนใหม่.....

พวกเค้าหาทนายคนใหม่โดยไม่บอกฉันซักคำ...แล้วที่ให้ฉันช่วยหาทนายให้ถึง2ครั้ง...ทำไม่ไม่มีใครบอกคะว่า..ไม่ต้องการทนายของฉัน...บอกซักนิดก้อดีนะคะ..ฉันจะได้ไปบอกอา..ไม่ใช่ให้รอแบบนี้...

ได้ทนายคนใหม่แล้ว...กลับปิดฉันกันหมด..กลัวอะไรกันเหรอคะ...ถ้ากลัวว่า.ฉันคิดว่าให้พวกเค้าเป็นหนูทดลอง...ถ้าฟ้องสำเร็จฉันจะฟ้องตาม...ถ้าเรื่องนี้..ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ...ถ้าฉันคิดจะฟ้องจริงๆ...ไม่ต้องรอดูคนอื่นๆก้อได้...พ่อฉันเป็นที่ปรึกษากฎหมาย...เป็นผู้พิพากษา...ถ้าฉันคิดจะฟ้องจริง..ฉันทำได้ตลอดเวลา...ไม่ต้องจ้างทนายไม่ต้องจ้างที่ปรึกษา...สามารถดำเนินการได้รวดเร็ว..ถ้าฉันจะทำ....

หรือไม่ว่าจะมีเหตุผลอย่างอื่นก้อตาม...ฉันไม่จำเป็นต้องอยากรู้ว่าทำไมพวกเค้าถึงทำกับฉันแบบนี้..

แค่..ฉันเสียความรู้สึก...เพียงแค่ฉันไม่ร่วมฟ้องคืนห้องด้วย..กลับกลายเป็นว่าฉันอยู่คนละพวก...แต่ละคนพฤติกรรมและคำพูดเปลี่ยนไป......พูดจาซุบซิบ..คุยกับฉันไม่เหมือนเดิม...มีลับลมคมใน...ไม่เป็นไรค่ะ..ฉันไม่ได้อยากรู้ว่าเพื่อนๆทำอะไรกันบ้าง...แต่..มีใครย้อนกลับไปคิดบ้างมั๊ยคะ...ตอนแรกให้พ่อช่วยหาทนายให้...พ่อก้อช่วย..โอเคคนแรกไม่ชอบกันเพราะค่าทนายแพงมาก...คนที่สองให้ฉันช่วยหาให้ใหม่เป็นอาของฉันเอง...ทนายที่มาเสียเวลามานะคะ...พอมานั่งคุยก้อตกลงกันได้ในวันนั้น....แล้วถ้าไม่ต้องการอาของฉันทำไมไม่บอกละคะ...ทำไมต้องทำเป็นมีลับลมคำในกับฉัน...ถ้าจ่ายทนายคนใหม่ก้อบอกกันตรงๆได้ค่ะ...ฉันจะได้บอกอา...แต่พอฉันถามว่าเป็นยังไงบ้าง...กลับได้คำตอบเหมือนกันว่า..."ยังไม่รู้เลย..จะเอายังไงดี"....คำตอบเดียวกันหมด...

ฉันว่า...พวกเค้าคิดผิดนะคะ..ตอนนี้เราต้องการความสามัคคี...ทุกคนกำลังเดือดร้อนเหมือนกันหมด เราควรที่จะปรึกษาหารือและรวมกันเป็นหนึ่งไม่ใช่แบ่งพรรคแบ่งพวก...ถ้าคิดว่าคนที่ไม่ร่วมฟ้องด้วยเป็นคนละพวกแล้วละก้อ..คิดผิดกันหมดนะคะ...

ในใจฉันคิดแต่ว่า...ถ้าฉันรอดทุกคนก้อต้องรอด...ถ้ารอดก้อรอดด้วยกัน...

เวลานี้ค่าเช่าลดเหลือ10,200 ถือว่าน้อยที่สุดเท่าที่ฉันเช่าร้านในประตูน้ำมา...ส่วนเงินค้าเซ้งล้านเก้าเอาไว้คิดอนาคต..เพราะเวลานี้ขอแค่หมื่นสองร้อยให้รอดซะก่อน...

ฉันพอหาเงินหมื่นสองร้อยได้ค่ะ...ฉันฝากสินค้าไปขายตามโรงแรมที่พัทยา และภูเก็ต...และฝากร้านเพื่อนที่สวนลุมไนท์...สิ้นเดือนก้อโอนเงินมาให้ อย่างน้อยรวมแล้วก้อหมื่นกว่าๆ...แน่นอนทุนหายกำไรหด...แต่ก้อยังดีกว่าไม่ได้เลยซักบาท....ส่วนเงินเดือนกล้วย..ก้อหาเอาที่ร้าน...โดยการเอาสินค้าไปขายหน้าห้าง...ตอนนี้ขายขาดทุนก้อขายแล้วค่ะ...ทำมา100 ขายราคา60บ...ทำมา130-150 ขาย 99บาท...ถ้าวันไหนได้ออกไปขายก้อยังพอมีเงินเข้าบ้างบาง สองถึงห้าร้อยบาท...ก้อยังดีกว่าไม่มีเงินเข้าเลย...

อยากจะบอกถึงความรู้สึกลึกๆเลยนะคะ....ตอนที่จับฉลากออกไปขายหน้าห้าง...ถ้าร้านฉันจับได้จะชวนหลายๆร้านออกไปขายด้วยกันคะ...ทั้งๆที่พื้นที่ที่เค้าให้ขายแต่ละร้านนิดเดียว...ฉันยังแบ่งให้3ร้านมาอยู่ด้วยกัน...แต่ถ้าร้านอื่นจับได้...มีใครชวนร้านฉันออกไปร่วมขายด้วยมั๊ยคะ...

ตั้งแต่มีการขายหน้าห้าง...ไม่เคยมีวันไหนที่พื่นที่ของร้านฉันมีแค่ร้านฉันร้านเดียว....ทุกครั้งจะต้องมี2-3ร้านรวมอยู่ด้วย...และร้านที่รวมอยู่ด้วยทุกครั้ง.นั้นก้อคือร้านที่กำลังมีลับลมคมในปกปิดฉันอยู่....

ฉันคิดแต่ว่า..เราเดือนร้อนเหมือนกัน...เราอยู่ด้วยกัน..ควรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน...

เหมือนตอนที่ฉันมีร้านอยู่ที่สวนลุมใหม่ๆ...ทำเลร้านของฉันดีมาก...เปิดใหม่ๆตลาดเงียบมาก...แต่ละร้านที่อยู่ในซอยขายกันไม่ได้เลย...แต่ร้านฉันอยู่ต้นซอย อยู่ริมถนน ทำเลดีมาก ขายได้ทุกวัน....แต่ถ้าฉันขายได้ทุกวันมีความสุขคนเดียว....มองเห็นเพื่อนๆรอบข้างไม่มีความสุข เครียดกับการไม่ได้ขาย...ฉันสามารถมีความสุขอยู่คนเดียวในพื้นที่ตรงนั้นได้สบายใจอย่างไรละคะ....ฉันเสนอให้เพื่อนๆเกือบทุกร้านในซอยของฉันเอาสินค้าออกมาวางที่ร้านฉันได้เลย...จัดให้ทุกร้านมีพื่นที่วางสินค้าให้ได้หมด7ร้าน...ทำให้ช่วงนั้นทุกร้านขายได้หมด ขายจากในร้านฉันนี่แหละ...ทุกคนแฮบปี้..ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส...แต่ถ้าร้านไหนที่วางร้านฉันแล้วยังขายไม่ได้อีก...เอาไปเลยสินค้าตัวที่ขายดีที่สุดในร้านของฉันยกให้...พี่เอาไปเป็นสินค้าร้านตัวเองได้เลย...แนนยกให้...พี่จะได้มีเงินเข้าทุกวัน....

หรือสิ่งที่ฉันคิดสิ่งที่ฉันทำมันผิดคะ...กับการที่เห็นใจคนอื่น...การช่วยเหลือคนอื่น...มันติดตัวมาจนวันนี้...ปัจจุบันมีร้านใหม่...ฉันก้อยังชวนร้านอื่นออกไปขายในพื้นที่ของตัวเองอีกแล้ว...ช่วยได้ค่ะ....ช่วยคนแล้วมีความสุข....แต่ถ้ามาเจอเหตุการณ์แบบนี้....คงเสียความรู้สึกกันบ้าง....

จะว่าไป...ก้อเหมือนระบาย...แต่ตอนนี้ไม่คิดอะไรแล้วค่ะ...ใครจะปกจะปิด จะมองว่าฉันเป็นคนละพวก จะคิดอย่างไรก้อคิดไป...ตอนนี้ฉันพยายามเอาตัวรอดให้ได้...ขอแค่หาเงินมาจ่ายค่าเช่ารายเดือนให้ได้..รวมทั้งหาเงินจากที่อื่นไว้ใช้จ่ายของตัวเองได้ก้อพอแล้ว....

ใครจะคิดยังไง..ใครจะมองเรายังไงก้อไม่สนใจค่ะ...

การค้าขายนอกห้าง...ฉันยังคงชวนร้านอื่นๆออกไปขายร่วมกันอยู่ดี..

ความจริงมีเพียงคนเดียวที่คอยยุแย..คนคนเดียวที่เห็นแก่ตัวกลัวคนอื่นได้เปรียบกลัวตัวเองเสียเปรียบ...และเป็นคนคนเดียวที่ว่างมากจนเกินไป..คนคนเดียวที่เป็นคนเป่าหูคนอื่นๆให้ทำแบบนี้กับฉัน...ไม่เป็นไรค่ะ..เวลาจะพิสูจน์เองว่าใครเป็นอย่างไร...


ใครจะเอาเปรียบฉันก้อเอาไปเถอะค่ะ...ให้ได้...เพราะไม่เคยคิดว่าเป็นการเสียเปรียบเลย..ให้ช่วยอะไรก้อทำให้หมด...เพื่อความดีจะส่งผลดีมาให้บ้างนะคะ...














ในที่สุด...ก้อมีปฏิหาริย์




..ปลายเดือนธค...เราสองพี่สองเครียดสุดๆ...ไหนจะค่าเช่าร้านหมื่นสองร้อย..ไหนจะค่าซ่อมรถสองหมื่น...ไหนจะเงินเดือนน้องกล้วย...เอาจากไหนละคะ...เราไม่มีเลย...

แต่ยังไงซะ..ขอพักเรื่องร้านเรื่องเงินก้อนนี้ก่อน..เราขอทิ้งร้านช่วงปีใหม่ซักพัก..ไปเที่ยวต่างจังหวัดเพื่อชาร์ตแบตให้กับตัวเองก่อนดีกว่า...

หลังจากกลับจากเที่ยวแล้ว...จิตใจแต่ละคนผ่องใสขึ้น...เติมพลังมาแล้วนิ..กลับมาลุยเรื่องร้านกันต่อได้แล้วค่ะ...

เดือนนี้เราจะขอออกไปขายของหน้าห้างบ่อยหน่อย...เพราะส่วนใหญ่เราจะได้เงินจากการที่ได้ออกไปขายหน้าห้าง...แต่..ไม่รู้จะพูดยังไง...เราขายของขาดทุนอยู่น่ะค่ะ......ที่ขายขาดทุนเพื่อระบายสินค้าให้หมดให้เร็วที่สุด...เงินที่ได้มาแต่ละวันเอาไว้ให้พวกเราใช้จ่าย...แต่ใช่ว่าจะขายดีนะคะ...เศรษฐกิจแบบนี้..ค้าขายลำบากที่สุด...เฉลี่ยได้ 200-700 บาทต่อครั้งที่ได้ออกไปขาย...

งานนี้อยากจะชมน้องกล้วยมากที่สุด..ที่เป็นคนเสียสละออกไปตากแดด เจอฝุ่นควันรถ...อดทนสู้จริงๆค่ะ...กล้วยเปลี่ยนไปมากแล้ว พี่ๆภูมิใจน้องมากเลย...ไม่คิดว่าน้องคนนี้จะทำได้ขนาดนี้...การที่ได้ออกไปขายของหน้าห้าง..ต้องยกราวเหล็กที่หนักมากนะคะ...ขนเสื้อผ้าออกไป ต้องไปยืมร่มคันใหญ่มากาง...บอกตรงๆว่า..การยกของหนักไม่ดีเอาซะเลย..เราปวดเมื่อยมาก ..แต่เราก้อสู้ค่ะ เราอดทนทำเพื่อหาเงินไงคะ....ไม่ทำแบบนี้แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนใช้...

แต่แล้วหลังปีใหม่ไม่นานเพียงสิบวัน...ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับพวกเราอีกแล้วค่ะ....

เราได้ออเดอร์จำนวนมากจากลูกค้าชาวอียิปต์....มันเป็นเรื่องที่แปลก...เค้าเดินมาเจอเราได้อย่างไร...และลูกค้าเจ้านี้เป็นลูกค้าเจ้าใหญ่ที่สุดตั้งแต่ทำการค้าขายส่งมา3ปีเต็ม...ออเดอร์จำนวนเยอะมากพร้อมมัดจำ40% ทันที..ไม่เรื่องมากเลย...ระยะเวลาการผลิต40วันค่ะ....

ตั้งแต่ได้ออเดอร์วันนั้น..จนวันนี้..เรา3คนงานหนักมาก...แทบไม่มีเวลาว่างเลย...กล้วยยังคงออกไปขายของหน้าห้างอาทิตย์ละ2วัน....ส่วนวันอื่นๆพวกเราก้อนั่งปักผ้ากันเองทั้งกลางวันและกลางคืน....ความจริงเราไม่ต้องปักผ้าเอง...แต่คราวนี้จำเป็นจริงๆ...กำลังคนปักไม่พอ...ยังไม่รู้เลยค่ะว่า..ถึงวันกำหนดส่งเราจะทำทันมั๊ย...ยังไงก้อต้องทำให้ทันนะคะ..นั่งปักให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลยละกัน....

ตอนนี้เราไม่เครียดแล้ว...เรามีเงินจ่ายค่าเช่าร้าน..มีเงินค่าซ่อมรถ และมีเงินเดือนน้องกล้วยแล้ว...ได้จากมัดจำ40 % นี่ล่ะค่ะ...โชคดีอะไรเช่นนี้...

เราไม่จบเพียงแต่ออเดอร์ครั้งนี้ครั้งเดียวหรอกนะคะ...เรายังคิดต่อไปว่าแล้วเดือนต่อไปละ...เราจะหาเงินจากไหนมาจ่ายค่าเช่าร้านอีก...ออเดอร์ครั้งนี้ครั้งเดียวไม่ได้ช่วยชีวิตเราได้ตลอดไปนิคะ..ช่วยได้อย่างดี2เดือน...แต่หลังจากได้ออเดอร์พวกเราทำงานหนักขึ้น..ไหนจะต้องออกไปขายของหน้าห้าง..ไหนจะต้องนั่งปักผ้าเองในจำนวนเยอะมาก...และไหนจะต้องไปขายขนมในวันเสาร์อาทิตย์ตามแผนที่เราวางไว้ตอนต้นปี...ก้อตอนต้นปี..มันไม่มีเงินเหลือใช้เลยจริงๆ...พอไปสำรวจสถานที่ที่ตลาดไกลแสนไกลจากบ้านสองครั้ง...ครั้งที่สองตัดสินใจจ่ายเงินค่าเช่าร้านเลย..ทั้งๆที่ยังไม่รู้เลยว่าจะขายอะไร...ทำอาหารก้อทำทานกันเองได้ แต่คงทำขายไม่ได้แน่ ฝีมือยังไม่ถึงขั้นทำไปขาย...จะขายขนมก้อทำไม่เป็นเลย...เราดันจ่ายเงินล่วงหน้าจองที่ไปแล้ว....ละค่ะ...


















Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2552 2:40:57 น. 4 comments
Counter : 964 Pageviews.

 

สวัสดีคะ แวะมาทักทายวันศุกร์ที่อากาศดีจัง มีความสุขมากๆ นะคะ ขอให้ขายของดีดี ลูกค้าเยอะๆ นะคะ



โดย: หน่อยอิง วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:33:24 น.  

 
--- เข้ามาอ่านเรื่อง ขอชื่นชมครับผม

ขอให้ประสบความสำเร็จครับ


โดย: เหมียวหล่อ (myth ) วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:55:22 น.  

 
ยังไม่เห็นมีเรื่องตอนไปขายอาหารที่ตลาดเลย อยากอ่าน อยากอ่าน


โดย: แม่ค้าขนมร้านเดียวกัน IP: 203.131.209.57 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:09:12 น.  

 
สู้ๆ น่ะค่ะ เอาใจช่วยค่ะ


โดย: อดีตคนข้างร้านค่ะ IP: 125.24.28.42 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:13:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ซ่อนทรายแก้ว
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
















สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตเรา...ก้อคือชีวิตเรา
สิ่งที่ มีค่าที่สุดในหัวใจเรา...ก้อคือหัวใจเรา
อย่าเอาชีวิตทั้งชีวิตไปยกให้ ใคร
อย่าเอาใจทั้งใจไปยกให้ใครคนเดียว
อย่ายกสิ่งที่มีค่าที่สุดของเรา ไปให้ใครดูแล
เพราะไม่มีใคร...ที่จะดูแลมันได้ดีไปกว่าตัวเราเอง
อย่าปิด กั้นความรู้สึกของหัวใจ
อย่าบอกว่าเราเกิดมาเพื่อจะรักคน ๆ เดียว
คนใจ แคบเท่านั้นที่เกิดมาเพื่อที่จะรักคนได้คนเดียว
เราสามารถที่จะรักใครได้มากมาย
ขอเพียงให้รู้จักหน้าที่ของความรัก
หน้าที่ที่จะปฏิบัติต่อคนที่เรารัก
รัก ต่างแบบ...ปฏิบัติในหน้าที่ต่างกัน
แล้วเมื่อวันใดวันหนึ่งคนบางคนไม่แยแสกับ ความรักที่เรามีให้
เราก็ยังคงเหลือใครต่อใครอีกมากมาย
และไม่เห็นจะต้องเจ็บเจียนตาย
ถ้าเรามั่นใจ...ว่าเราทำหน้าที่ให้กับรักนั้นสมบูรณ์และเต็มที่แล้ว
ถ้าอากาศร้อนอบอ้าว...ลองออกมายืนคุยกับแสงแดด
อากาศหนาวแทบขาดใจ...ลองออกมาหาไออุ่นลมหนาว
เราจะรู้ว่าร้อนหรือหนาวก็ต่อเมื่อเราได้ไป สัมผัสกับมัน
ก็เหมือนกับความรัก ....
ถ้าอยากรู้ว่ารสชาดเป็นอย่างไรก็ต้อง ไปสัมผัสกับมัน
แต่อย่าทรมานตัวเองโดยการออกไปยืนตากแดดนาน ๆ
หรือยืนต้านทานลมหนาว ถ้ารู้ว่าร้อนนักก็หลบหาที่ร่ม
ถ้ารู้ว่าหนาวก็ก่อเตาผิง
ความรักจะ ไม่ทำร้ายเรา ถ้าเราไม่ทำร้ายตัวเอง
...ถ้าคุณรู้จักรัก..
แสงแดดจะทำให้คุณอบอุ่น
ลมหนาวก็จะทำให้คุณหลับสบาย...















Color Codes ป้ามด



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


ธรรมะไทย



ผู้ชมทั้งหมด คน
Friends' blogs
[Add ซ่อนทรายแก้ว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.