กรกฏาคม 2556

 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
ส่งเสริมให้ลูกรักการอ่าน(และเขียน)ค่ะ
        เป็นเรื่องราวของน้องใบตอง ซึ่งเป็นลูกสาวคนที่สองของบ้านค่ะ ตอนคลอดออกมาทีแรกน้องตองหน้าตาขี้เหร่มาก (แสดงว่าตอนนี้น่ารัก...น่ารักจ้า) ทุกคนบอกไม่เป็นไร ขอให้แข็งแรงแล้วก็เป็นเด็กดีก็พอ ผิดกับปู่ของลูกที่บอกว่า "โตขึ้นมาสวยนะเนี่ย!" เสียดายปู่ไม่ทันได้เห็นหลานสาว(คนที่จะสวย)ตอนโต แต่ว่าจะเป็นอย่างไรเราคนเป็นพ่อ,แม่รักและรับได้อยู่แล้วแหละเนาะ   พี่ตาลเองก็ดีใจที่ได้น้อง    เพราะตั้งแต่ตอนท้อง    แม่จะให้พี่ตาลคุยกับน้อง(ในท้อง)เหมือนพ่อกับแม่ด้วย   เวลาเตรียมของให้น้องก็ให้เขามีส่วนร่วมด้วยทุกเรื่อง   เหมือนเขาเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน   พี่น้องสองคนเลยรักกันมาก   มีอะไรก็คอยช่วยเหลือกันทุกอย่าง
          ตอนแม่ท้องน้องตองมีคนพูดกับพี่ตาลว่า "คอยดูนะเดี๋ยวแม่คลอดน้องแล้วตาลต้องกลายเป็นหมาหัวเน่า" ตอนนั้นเคืองมาก ไม่พอใจที่มีคนพูดกับลูกเราแบบนั้น เราต้องมาอธิบายกับลูก ดีว่าลูกเข้าใจก็เลยไม่มีปัญหาอะไร   



         ช่วงนั้นแม่ไม่ได้ทำงานก็เลยเลี้ยงน้องตองเอง ให้กินนมแม่ถึง11เดือน น้องตองเป็นเด็กที่มีพัฒนาการที่ไวมาก มากกว่าเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน อาจเป็นเพราะกินนมแม่ด้วย...หรือเปล่า...ไม่รู้? แต่ที่แน่ๆตั้งแต่รู้ว่าท้อง แม่ก็ปรับเปลี่่ยนพฤติกรรมการกินอยู่ของตัวเองใหม่ อย่างกาแฟที่กินทุกเช้าก็เลิกไปโดยปริยาย แล้วมาเพิ่มผัก,ผลไม้ สารพัดเนื้อ,นม,ไข่ เรียกว่าบำรุงกันอย่างเต็มที่ เพราะอยากให้ลูกออกมาสมบูรณ์แข็งแรง กินกันจนเลยเถิดน้ำหนักเพิ่มขึีนเกือบยี่สิบกิโลฯ ตายล่ะ!....คลอดแล้วจะลดได้ไหมเนี่ย! แต่ไม่มีปัญหาค่ะ เพราะเลี้ยงลูกเอง ไม่มีผู้ช่วย ให้กินนมตัวเองด้วย ลดได้เองโดยอัตโนมัติ ถึงแม้จะไม่ลงไปเท่าเดิม
           แม่ชอบอ่านหนังสือให้ลูกฟังตั้งแต่เด็กค่ะ ไม่ใช่สิ อ่านให้ฟังตั้งแต่เล็กๆ เล็กมากๆ ไม่รู้ลูกรู้เรื่องหรือเปล่า? แต่ดูๆแล้ว(เดาว่า)น่าจะชอบเพราะเห็นลูกนิ่งฟังเป็นอย่างดี เอ๊ะ!หรืออาจเป็นเพราะเพลิดเพลินกับการได้ฟังเสียงแม่ ที่มานั่งส่งเสียงเจื้อยแจ้วอยู่ใกล้ๆมากกว่า

        พอโตขึ้นมาหน่อยลูกก็จะเป็นคนเลือกหนังสือเตรียมไว้ให้เลย ว่าวันนี้จะให้แม่อ่านเรื่องไหนให้ฟังบ้าง(มากกว่าหนึ่งเรื่องในแต่ละวัน) เรื่องไหนชอบมากก็จะให้อ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเกือบจำได้ทุกประโยค อย่างเช่นเรื่อง ร่มยายขำ,นกไนติงเกล แล้วก็ทาร์ซาน เป็นต้น ช่วงอ่านนิทานนี้พ่อของลูกไม่ค่อยมีบทบาท เนื่องจากต้องปลีกตัวไปอ่านหนังสืออีกห้องค่ะ(เรียนต่อ)
ผ่านมาเป็นสิบปี ทุกวันนี้ถามลูกว่าจำได้หรือเปล่า? ลูกบอกว่าจำได้หมด ก็แหงล่ะฟังกันทุกวันขนาดนั้น บางทีเขาเล่าให้เพื่อนฟังว่าชอบนิทานเรื่องนั้นเรื่องนี้ เพื่อนบอกไร้สาระ ปัญญาอ่อน ตรงไหน? ไม่เข้าใจเล๊ย!
         บางครั้งแม่ก็งีวงง่วง เลยหาผู้ช่วยเป็นเทปนิทานสำหรับเด็ก ก็นำมาเปิดให้ฟังสลับกันไป ซึ่งลูกสาวยังเก็บไว้อยู่ค่ะ ส่วนหนังสือนิทานซึ่งมีเยอะก็แบ่งให้น้องๆไปบ้าง เหลือเก็บไว้เป็นบางส่วน

อีกส่วน

           เพราะเหตุนี้หรือเปล่าไม่รู้ ลูกสาวของแม่ทั้งสองคนเลยชอบอ่านหนังสือโดยเฉพาะน้องตอง จะชอบเป็นพิเศษ และอ่านได้ทุกแนว ทั้งวรรณกรรม,การ์ตูนฯลฯ วันพิเศษต่างๆ เช่น วันเด็ก หรือวันเกิด ถ้าถามว่าอยากได้อะไร ไม่ต้องรอคำตอบก็รู้ว่า ถ้าไม่ใช่ของเล่น ก็เป็นหนังสือนี่แหละที่ลูกอยากได้ เร็วๆนี้เห็นบอกว่าปิดเทอมอยากไปทำงานพิเศษที่ร้านขายหนังสือ แต่แม่ว่าจะโดนเลิกจ้างก่อนเวลา เพราะเผลออ่านหนังสือ(ในเวลางาน) เพลินไปหน่อย
          แม่เองก็ชอบอ่านหนังสือ ที่บ้านเลยมีหนังสือเยอะหน่อย ทั้งเก่าและใหม่ บางเล่มอ่านสนุกขาดแล้วก็ซ่อมและยังเก็บไว้อยู่ ไม่อยากทิ้งแม้แต่เล่มเดียวเพราะเสียดาย มีหลายเล่มที่แพงแล้วซื้อไม่ไหว ก็พึ่งพาหนังสือมือสองเอาแล้วกัน
          นอกจากชอบอ่านแล้ว ก็พยายามให้ลูกเขียนนั่นเขียนนี่ไปด้วย เป็นการบันทึกเรื่องราวไว้กันลืม แรกๆก็เขียนบ้างไม่เขียนบ้าง เหมือนแม่เลย แต่พ่อของลูกจะเขียนบันทึกก่อนนอนทุกวัน ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราคิดว่าเป็นเรื่องดีมากๆ เพราะทำให้เรารู้เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวันที่ผ่านมา ยังกะย้อนเวลาได้แน่ะ เนื่องจากพ่อเขาจะเขียนละเอียดมาก เช่น วันนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง มื้อไหนกินข้าวกับอะไรยังเขียนเลย คงกะว่าถ้าแม่ทำซ้ำซากมีสิทธิ์โดนบ่น
          มีอยู่ปีหนึ่ง(เพิ่งเข้าเนื้อตรงตามเรื่องแล้ว) ตอนนั้นน้องตองอายุสิบขวบค่ะ น้องที่แม่รู้จักเขาให้ไดอารี่ สีชมพูหวานแหววมาหนึ่งเล่ม น้องตองเลยเขียนบันทึกทุกวันจนครบหนึ่งปี(ปกติจะเขียนเป็นบางช่วง) เป็นเรื่อง
ที่พ่อกับแม่ดีใจ ที่เห็นความพยายามและความตั้งใจของลูก และแม่เองยังทำไม่ได้(ไม่เป็นตัวอย่างให้ลูกเล๊ย)
           แม่จึงมีความคิดว่าอยากนำมาลงเพื่อเก็บไว้ให้ลูกดูน่ะค่ะ แบบว่าไม่มีการตัดทอนหรือเพิ่มเติมใดๆ บางครั้งอาจมีบางคำ ที่อ่านแล้วจะงงๆไปบ้าง คือไม่สมบูรณืเท่าที่ควร ตามประสาเด็กสิบขวบน่ะค่ะ
          เยิ่นเย้อมายาวนาน หลายท่านเริ่มเบื่อ(แล้วมั๊ง) เริ่มวันแรกเลยแล้วกันเนาะ
           ห้าโมงเช้า ของวันที่31 ธันวาคม ว่าจะมากางเต๊นท์กันหนึ่งคืน พอประมาณตีสามเราก็ตื่นกัน เพื่อเตรียมไปขึ้นเขาพะเนินทุ่ง ขึ้นไปดูทะเลหมอก ทะเลหมอกก็สวยมากเลย เราเก็บภาพจากเขาพะเนินทุ่งมาด้วย ตอนขาขึ้นก็เสียว แต่ขาลงเสียวกว่า เพราะว่ารถข้างหน้าเราตอนขึ้นเนิน รถมันไหลมา พวกเราก็กลัวรถมาชนเอาล่ะ แต่ก็กลับมาถึงบ้านย่าได้ดี แล้วนี่แถมวันนี้เรายังมีงานปีใหม่ ครอบครัวเกิดดีส่งตัวแทนเราจับของขวัญ เราจับได้ของพี่โอ๊ดเป็นตุ๊กตาคริตตี้

วันนี้จบด้วยรูปน้องตองบนเขาพะเนินทุ่งนะคะ



Create Date : 03 กรกฎาคม 2556
Last Update : 5 กรกฎาคม 2556 7:28:44 น.
Counter : 1916 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

songwarin
Location :
สระบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



เป็นแม่ของลูกสาวสองคน ชอบอ่านสารพัด แต่ชอบเขียนเป็นบางเรื่อง
<*embed src=http://i946.photobucket.com/albums/ad307/dream5168/dream2010527-6.swf width=150 height=243 type=application/x-shockwave-flash wmode="transparent" ><*/EMBED>
MY VIP Friend