Better Late Than Never

Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
20 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
น้ำมันโบราจ - Borage Oil

ช่วงนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเก็บรวบรวมข้อมูลของน้ำมันต่างๆเพื่อนำมาใช้ในการทำโลชั่นและการทำสบู่ ก็เลยเขียนบล็อคนี้ขึ้นเพื่อเป็นการเก็บและแชร์ข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมจากเวปไซด์ต่างๆ ถ้าพบข้อผิดพลาดหรือมีข้อแนะนำจะร่วมแชร์ก็ยินดีคะ

น้ำมันโบราจเป็นน้ำมันที่สีเหลืองอ่อนถึงเหลืองทอง มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์เพราะเป็นลักษณะมากเพราะกลิ่นอ่อนค่อนข้างคาว (กลิ่นคล้ายไข่) ใช้ได้ทั้งรับประทานและใช้ทา



น้ำมันโบราจได้มาจากเมล็ดของต้นโบราจ borago officinalis หรือ starflower พบทั่วไปในยุโรปแทบเมดิเตอเรเนียน แอฟริกาเหนือ และ อเมริกาเหนือ ต้นสูงประมาณ 30 ซม. ลักษณะดอกมี 5 แฉกสีน้ำเงินเข้มถึงม่วง บางครั้งก็มีสีชมพู และขาวด้วย

น้ำมันได้จากการบีบเย็นของเมล็ดที่มีลักษณะเล็กสีน้ำตาลดำ ใช้ในเครื่องสำอางค์ที่มีราคาค่อนข้างสูง เพื่อเป็นให้ความชุ่มชื้นและบำรุงผิว

กรดไขมันในน้ำมันโบราจ
Docosenoic - 2.7%
Icosenoic - 4.2%
Gamma Linolenic (GLA) - 20.7%
Linoleic - 36.5%
Oleic - 17.6%
Palmistic - 10.3%
Stearic - 4.3%


โบราจเป็นน้ำมันที่มีไขมันไม่อิ่มตัว gamma-linolenic acid (GLA) มากถึงประมาณ 21% ซึ่งมากที่สุดในน้ำมันที่มีอยู่ในท้องตลาดทั้งหมด GLA มากกว่าอีฟนิ่งพริมโรสที่มีอยู่ 9% จึงช่วยบรรเทาการอักเสบของผิวหนังและทำให้ผิวหนังแข็งแรงขึ้นด้วย กรดไลโนเลอิคช่วยลดอาการคันและผิวแห้งแต่ประสิทธิภาพน้อยกว่า GLA กรดโอเลอิคช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ ช่วยให้ผิวนุ่ม และกรดสเตียริคช่วยอุ้มน้ำและทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นที่ดี

นอกจากนี้น้ำมันโบราจยังมีวิตามินซี แทนนิน แซบโปนิน และแร่ธาตุอื่นๆอีก

น้ำมันโบราจมีส่วนผสมของ ferulic acid ซึ่งเป็นสารแอนตี้ออกซิเดนท์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าวิตามินอี ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย และซ่อมแซมผิวที่ไหม้จากการถูกแสงแดด

ในการทำน้ำมันนวดใช้ประมาณ 10%ของน้ำมันทั้งหมด หรือใช้โดยตรงเพื่อการบำรุงล้ำลึกก่อนนอน

เพื่อประสิทธภาพสูงสุดใช้ 20%ในการทำโลชั่น แต่ไม่นิยมใส่มากกว่านั้นเพราะมีราคาสูง

ในการทำแชมพูป้องกันรังแคใช้ที่ 10%

ในการทำสบู่ใช้ 10% ของน้ำมัน ไม่ทำให้เพิ่มกลิ่นหรือสีในสบู่ และไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง

*ไม่ควรใช้ในสตรีที่มีครรภ์หรือให้นมบุตร

**เปิดแล้วควรเก็บในตู้เย็นเพื่อเป็นการยืดอายุเนื่องจากน้ำมันโบราจมีอายุหลังเปิดประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี




Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2553 19:25:50 น. 2 comments
Counter : 5522 Pageviews.

 
ขอถามนิ๊ดนึงเป็นความรู้นะคะตอนนี้ทานน้ำมันพริมโรส + น้ำมันโบราจของนิวทรีไลท์อยู่ไม่ทราบว่าเรานำมาทาหน้าด้วยได้ไม๊คะขอบคุณค่ะ


โดย: jinny20 IP: 115.67.7.249 วันที่: 31 มีนาคม 2553 เวลา:11:57:56 น.  

 
ไม่ควรนะคะ เพราะเค้าสกัดมาเพื่อรับประทานเท่านั้น แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับใบหน้าโดยเฉพาะจะดีกว่าค่ะ หรือไม่ก้อทานพรีมโรสพลัสให้สม่ำเสมอ+SHN เดี๋ยวผิวก้อจะดีมีออร่าเองค่ะ


โดย: pp IP: 101.109.208.137 วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:13:58:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

song1song
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




งานอดิเรกล่าสุดคือการทำสบู่และโลชั่น ทั้งสองอย่างนี้ได้อย่างใจบ้าง ไม่ได้อย่างใจบ้าง ระหว่างนี้ก็พยายามเก็บข้อมูลและทดลองไปเรื่อยๆ

บล๊อคทำขึ้นเพื่อเป็นการเก็บข้อมูลและแชร์ประสบการณ์ในการทำสบู่และโลชั่น เผื่อจะมีใครได้ความรู้เล็กๆน้อยๆไปบ้างหรือมีใครเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นก็ได้คะ

ข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันและสบู่ที่เอามาลงนั้นอ่านและเก็บรวบรวมมาจากหนังสือทำสบู่หลายๆเล่ม และเว็ปเกี่ยวกับการทำสบู่และโลชั่น

email มาคุยกันก็ได้นะคะ
Locations of Site Visitors
Friends' blogs
[Add song1song's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.