1 2 3 4 5 6 7
8 9 10 11 12 13 14
15 16 17 18 19 20 21
22 23 24 25 26 27 28
29 30 31
น้ำมันมะพร้าว
น้ำมันมะพร้าวมีกี่ชนิด 1. น้ำมันมะพร้าวผ่านกรรมวิธี (Refined Coconut Oil) INCI = Cocos Nucifera(Coconut)Oil สกัดได้จากเนื้อมะพร้าวแห้ง โดยการบีบ หรือสกัดด้วยตัวทำละลาย แล้วนำไปผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์เพื่อฟอกสี และกำจัดกลิ่น เพื่อให้เหมาะสมกับการบริโภค น้ำมันที่ได้จะมีสีขาวถึงเหลือง ไม่มีกลิ่นและรส น้ำมันชนิดนี้เหมาะแก่การทำอาหาร และมีจุดเกิดควันสูง เมืองไทยมักนำน้ำมันชนิดนี้มาขายโดยนำไปผสมกับน้ำมันแก่นปาล์มเรียกว่าน้ำมันบัว อัตราการผสมไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับราคาของน้ำมันมะพร้าว เคยสอบถามมีการผสมมะพร้าวตั้งแต่ 10 เปอร์เซนต์ขึ้นไปถึง 50 เปอร์เซนต์ หรือเป็นน้ำมันมะพร้าวร้อยเปอร์เซนต์ก็มีแล้วแต่โรงงาน ในการทำสบู่และโลชั่นเรานิยมนำน้ำมันชนิดนี้มาทำโลชั่นเพราะราคาถูก ช่วยทำให้สบู่แข็งและมีฟองมาก 2. น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ (Virgin Coconut Oil) INCI = Cocos Nucifera(Coconut)Oil เป็นน้ำมันที่สกัดจากกะทิหรือเนื้อมะพร้าวสดแล้วนำไปผ่านกรรมวิธีทำน้ำมันมะพร้าวซึ่งมีอยู่สองวิธี คือใช้ความร้อน และหีบเย็นวิธีหีบเย็น กะทิที่ได้จะถูกทิ้งไว้ประมาณ 20 ชั่วโมงเพื่อแยก น้ำ น้ำมัน และ โปรตีนออกจากกัน แล้วกรองแยกน้ำมันบริสุทธิ์ออกมาวิธีสกัดโดยใช้ความร้อน ซึ่งเป็นวิธีดั้งเดิมคือนำกะทิมาเคี่ยวจนได้น้ำมันมะพร้าว น้ำมันที่ได้จากทั้งสองวิธีนี้จะใสเหมือนหรือมีสีเหลืองอ่อนๆ มีกลิ่นหอมของมะพร้าวอย่างอ่อนๆถึงแรง และมีรสหวาน น้ำมันชนิดนี้ไม่นิยมนำมาใช้ในการทำสบู่เพราะราคาสูง แต่นิยมนำมาใช้ในการทำโลชั่น 3. Hydrogenated Coconut Oil ช่วยยืดอายุของน้ำมันมะพร้าวโดยการเติมไฮโดรเจนเข้าไปในน้ำมันโดยที่ความดันสูง ไม่ค่อยเป็นที่กล่าวถึงในการทำสบู่หรือโลชั่น 4. Fractionated Coconut Oil INCI = Caprylic/Capric Triglyceride เป็นการเอาโมเลกุลยาวออกโดยให้เหลือไว้แต่โมเลกุนขนาดกลาง ทำให้น้ำมันมะพร้าวชนิดนี้เก็บไว้ได้นานมากโดยไม่เหม็นหืน น้ำมันมะพร้าวที่เหมาะแก่การทำโลชั่นก็คือ Fractionated coconut oil และ virgin coconut oil เพราะมีกรดลอริค น้ำมันชนิดนี้ไม่นิยมนำมาทำสบู่เพราะสบู่ที่ได้จะไม่ค่อยแข็ง ฟองน้อย แต่นิยมใช้ทำโลชั่น หรือสามารถใช้เป็นน้ำมันนวดได้เพราะไม่ทิ้งคราบน้ำมันติดผ้าเวลาซักล้างน้ำมันมะพร้าวประกอบด้วยกรดต่างๆดังนี้ Lauric Acid 45% to 52% Myristic Acid 16% to 21% Caprylic Acid 5% to 10% Capric Acid 4% to 8% Caproic Acid 0.5% to 1% Palmitic Acid 7% to 10% Oleic Acid 5% to 8% Palmitoleic Acid น้อยมาก Linoleic Acid 1% to 3% Linolenic Acid Up to 0.2% Stearic Acid 2% to 4% น้ำมันมะพร้าวมี ferulic acid มาก ซึ่งเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ดี ช่วยในเรื่องการชะลอความแก่ของผิว ช่วยซ่อมแซมผิวที่เกิดจากแสง ซึมเข้าผิวได้ดีดังนั้นจึงช่วยป้องกันผิวแห้งจากลม และแสงแดด รวมทั้งยังลดอาการคันและอักเสบ น้ำมันมะพร้าวเป็นหนึ่งในน้ำมันที่มีการก่อให้เกิดการอุดตันของผิวและทำให้เป็นสิวได้สูง Fractionated Coconut Oil เป็นน้ำมันที่มีน้ำหนักเบา ซึมเข้าสู่ผิวและผมได้ง่าย น้ำมันตัวนี้ไม่ได้มีสารต้านอนุมูนอิสระมากเท่าน้ำมันมะพร้าวธรรมดาแต่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ดี ใช้เป็นส่วนผสมในการทำโลชั่นร่วมกับน้ำมันอื่นๆที่หนักกว่า อาจทำให้เกิดการอุดตันของผิวได้แต่น้อยกว่าน้ำมันมะพร้าวธรรมดา
Create Date : 23 สิงหาคม 2553
4 comments
Last Update : 13 ตุลาคม 2553 11:53:57 น.
Counter : 11998 Pageviews.
โดย: สดใส IP: 58.11.37.104 28 พฤศจิกายน 2555 13:21:35 น.
โดย: pitcha IP: 124.122.89.210 3 มีนาคม 2556 19:19:25 น.
โดย: pitcha IP: 124.122.89.210 3 มีนาคม 2556 19:19:33 น.
โดย: Praw IP: 1.47.228.178 3 พฤศจิกายน 2558 15:51:43 น.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [? ]
งานอดิเรกล่าสุดคือการทำสบู่และโลชั่น ทั้งสองอย่างนี้ได้อย่างใจบ้าง ไม่ได้อย่างใจบ้าง ระหว่างนี้ก็พยายามเก็บข้อมูลและทดลองไปเรื่อยๆ บล๊อคทำขึ้นเพื่อเป็นการเก็บข้อมูลและแชร์ประสบการณ์ในการทำสบู่และโลชั่น เผื่อจะมีใครได้ความรู้เล็กๆน้อยๆไปบ้างหรือมีใครเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นก็ได้คะ ข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันและสบู่ที่เอามาลงนั้นอ่านและเก็บรวบรวมมาจากหนังสือทำสบู่หลายๆเล่ม และเว็ปเกี่ยวกับการทำสบู่และโลชั่น email มาคุยกันก็ได้นะคะ