|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
อะไรอยู่บนกระดาษ
เคยสงสัยบ้างไหม ว่าทำไมแป้งนึ่ง ก้อนกลมๆ สีขาวนุ่มๆ ถึงเรียกว่าซาลาเปา
เหมือนที่เราสงสัยว่าทำไมเราต้องเรียกสิ่งนั้นว่า เป็ด, กระทะ, ตู้, กล้ามเนื้อหูรูด ฯลฯ ผมสงสัยถึงกระทั่งตัวเอง ว่าจะสงสัยไปทำไมวะ.....ไอ้บ้า
และซาลาเปาก็คือซาลาเปา เหมือนกับเป็ดก็คือเป็ด
แม้ซาลาเปากับเป็ดจะไม่เกี่ยวกัน แต่ก็ไม่แน่ หากอนาคตมีซาลาเปาไส้เป็ด แต่ที่เชื่อได้เลยนั้นคือ เป็ดมันกินซาลาเปาแน่นอน
ซาลาเปาทุกก้อนเป็นรูปทรงธรรมชาติ อิสระ คือจะออกกลมๆ มันก็ไม่กลมเกลี้ยง เสมือนโลกที่ยังกลมแป้น
ไส้ในของซาลาเปานั้นมีหลากหลาย ทั้ง ไส้เค็ม ถั่ว สังขยา ครีม หมูแดง และอีกหลายไส้ บานตะไท ตามความครีเอทีฟของคนทำ ไม่เหมือนโลกที่กลมและมีเพียงไส้เดียว และคิดว่าไส้โลกไม่น่าอร่อยเท่าไหร่
เนื้อซาลาเปาทำมาจากแป้งสาลี มีสีขาวที่ดูบริสุทธิ์สะอาด ยิ่งตอนที่เขาเอาออกมาจากที่นึ่งใหม่ๆควันยังฉุย บิเนื้อออกมาจะเจอไส้ข้างใน ถ้าไส้เยอะอย่าบิแรง เดี๋ยวจะหล่น แล้วหมาจะรู้สึกดีกับคุณ จะทำตาหวานแล้วเดินตาม ให้ระวัง
ซาลาเปาหากกินคู่กับน้ำชา ดูจะเข้ากันมาก รสของน้ำชาที่เฝื่อนๆ ดื่มแล้วรู้สึกกระชุ่มกระชวย ล้างคอจากการกินซาลาเปาได้ดี
ถ้วยน้ำชา แนะนำว่าควรจะเป็นของใครของมัน อย่าดื่มน้ำชาถ้วยเดียวกันทั้งโต๊ะ ไม่งั้นเพื่อนร่วมโต๊ะที่ไม่ได้กินซาลาเปา อาจจะได้รับรสชาติเนื้อซาลาเปาไส้หมูที่เราเพิ่งกิน ผ่านน้ำชาในถ้วยก็ได้
ขณะเดียวกันเราก็อาจได้ชิมซาลาเปาของแต่ละคน ผ่านถ้วยน้ำชาได้เช่นกัน ..สยอง
ซาลาเปาเกิดขึ้นเมื่อไหร่นั้น ไม่ทราบ เพราะถ้าทราบคงจะเอามาเขียนบอกกันแล้ว เอาเป็นว่าซาลาเปาจะอร่อยตามความเห็นของผู้เขียนนั้นเป็นอย่างไร ก็เลยเอามาเล่าสู่กันฟัง
1.แป้งต้องนุ่ม ไม่ร่วน กัดแล้วเป็นคำ ไม่มีเศษแป้งร่วง แป้งต้องหอมหวาน
2.ไส้อร่อย ถ้าวัดไม่ถูกว่าอร่อยตรงไหน เพราะความชอบของแต่ละคนไม่เท่ากัน ให้เอาความเยอะของไส้เป็นเกณฑ์ (ผมเคยซื้อซาลาเปาในโรงพยาบาล ศิริราช ลูกเท่าหัวเด็กทารก ลูกละ13 บาท อร่อยมากไส้เยอะจนดูเหมือนทำประชดคนกิน)
3.กระดาษที่อยู่ใต้ซาลาเปา ถ้าเป็นแบบแกะแล้วลุ้นโชค หรือลุ้นแลกฟรีอีกอัน จะทำให้น่ากินขึ้น
4.จุดสีที่อยู่บนซาลาเปา อันนี้ทำให้สับสนมาก ไม่รู้ว่าซาลาเปามันเป็นของคนจีน หรือคนอินเดียกันแน่ เพราะบางที่ เห็นหน้าผากคนอินเดียมีจุดสี เหมือนกับซาลาเปา ดังนั้นหากซาลาเปาจะดูน่ากินและแสดงออกถึงความเป็นจีนมากที่สุด ให้ทำจุดให้ดูคล้ายโจวเหวินฟะ (ถ้าทำลำบาก อนุญาติให้ทำจุดเป็นหน้าเหมาเจ๋อตุงก็ได้)
...............................................
วันนี้กินซาลาเปา และกำลังคิดว่าจะเขียนอะไรลงในblog ดี
ผมก็เลยมั่วเขียนมาให้อ่าน เพื่อบางทีคุณอาจจะรู้สึกอยากกินซาลาเปาดูบ้าง
Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2548 |
|
6 comments |
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2548 22:09:59 น. |
Counter : 1081 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: . . . (WhaT iT'S W๐l2tH ) 1 กุมภาพันธ์ 2548 23:31:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: prncess 2 กุมภาพันธ์ 2548 8:43:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: โอริโอ้จ้า IP: 202.80.225.70 2 กุมภาพันธ์ 2548 10:37:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: สมตู้ฯ IP: 203.156.99.175 2 กุมภาพันธ์ 2548 12:51:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: ซีบวก 4 กุมภาพันธ์ 2548 9:49:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: prncess 7 กุมภาพันธ์ 2548 8:44:24 น. |
|
|
|
| |
|
|
ชอบกินแบบไม่มีไส้ ที่เรียกว่า หมั่นโถว
มากกว่า แป้งนุ่มๆ อร่อย--อร่อย ค่ะ
แต่ เอ...สงสัยจัง
ทำไมไม่เรียก หมั่นโถว ว่า ซาลาเปาไม่มีไส้