Group Blog
 
 
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
13 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 
การทดลองพลังลึกลับในปิรามิด ด้วยการใช้ซีกแอ็ปเปิ้ล



. . . . ปิรามิดที่อียิปอาจจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่โตและมหัศจรรย์อย่างหนึ่งเท่านั้น แต่สำหรับใครบางคนกลับเอามามองว่ามันอาจจะมีความลับอะไรแฝงอยู่ ในครั้งแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากกับรูปทรงนี้ ต่อมาได้อ่านหนังสือที่เขารวบรวมคำถามวิทยาศาสตร์ ถาม ด.ร.ชัยวัฒน์ คุประตะกุล มีคำถามหนึ่งจากผู้หญิงถามว่า พลังปิรามิดมีจริงหรือไม่ สามารถทำให้ของไม่เน่าได้หรือไม่ ซึ่งอาจารย์ตอบว่าพลังปิรามิดคงไม่มี แต่คงเพราะแบตทีเรียเข้าไปทำลายได้ยากมากกว่า
. . . . ซึ่งผมก็เห็นด้วยตามนั้น ลำพังรูปทรงปิรามิดก็เพียงรูปเรขาคณิตชนิดหนึ่ง จะมีพิษสงอะไรแอบแฝง แต่ต่อมาก็ได้ยินเรื่องราวทำนองนี้อีก ว่าการทำปิรามิดจำรองก็สามารถมีพลังได้เหมือนกัน เท่าที่เคยได้ยินมาก็เช่น ทำให้ใบมีดโกนคมยิ่งขึ้น ทำให้ของเน่าช้าลง ทำให้เมื่อนำอาหารหรือเครื่องดื่มอะไรที่ต้องหมักมาหมักในรูปปิรามิดจะทำให้ได้รสชาติที่ดียิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งช่วยในการรักษาโรคได้ด้วยการนำปิรามิดจำลองมาวางไว้ใต้เตียงให้ตรงอวัยวะส่วนที่มีปัญหานั้น แต่อย่างไรของที่วางอยู่ภายในปิรามิดต้องมีสูตรเล็กน้อย เช่น วางสิ่งนั้นที่ความสูง 1 ใน 4 ของความสูงปิรามิด และวางให้ตรงกับทิศทั้ง 4 เป็นต้น
. . . . เฮ้อ ว่ากันมาถึงขั้นนี้ยังกะว่าพลังปิรามิดเป็นพลังงานไสยศาสตร์เลย อานุภาพมันเหมือนจะเกินเลยไปจริงๆ แต่ก็เห็นว่า มันเป็นสิ่งที่สามารถทดลองได้ในครัวเรือน ด้วยการทำปิรามิดจำลองขึ้นมาซักอัน แต่คงจะไม่ทดลองเรื่องใบมีดโกน และอาหารหมักทั้งหลาย เพราะมันเป็นสิ่งที่ใช้ปราสาทสัมผัสของมนุษย์ในการตัดสิน ซึ้งอาจจะมีอุปาทานแฝงอยู่ เพราะเชื่อว่าพลังลึกลับทำให้มีดโกนคมขึ้น มันก็ต้องรู้สึกว่าคมขึ้นสิ ตราบใดที่ยังไม่มีเครื่องมือวัดหาความคมของมีดโกนได้ ก็ขอพักไว้ก่อนครับ เว้นแต่จะให้เอามีดโกนทื่อๆสองอัน อันหนึ่งใส่ในปิรามิด อีกอันไว้ข้างนอก แล้วให้เพื่อนเอามีดโกนมาให้เราใช้ และให้ทายว่า อันไหนคมกว่ากันโดยเพื่อนไม่บอกว่าอันไหนเอามาจากในปิรามิด และถ้าทายถูก จึงจะน่าเชื่อถือว่าครับ

. . . . ก็เข้าเรื่องครับ สมัยก่อนผมเคยทำปิรามิดจากแผ่นไม้อัดมาก่อน และเพื่อความยุติธรรม ผมได้ทำทรงลูกบาศก์ขึ้นมาด้วย โดยทรงลูกบาศก์นี้ต้องมีปริมาตรเท่ากับปิรามิดครับ เพื่อให้แบตทีเรียและก๊าซทั้งหลายตามอัตราส่วนเท่ากัน แล้วเด็ดมะกรูดลูกเท่าๆกันสองลูกมาใส่ ผลปรากฏว่าเมื่อเวลาผ่านไป เหี่ยวทั้งคู่ แต่ในปิรามิดมะกรูดดูมีขนาดใหญ่กว่า แปลกมักๆ สมัยนั้นยังไม่มีกล้องถ่ายรูปครับ

. . . . เข้าสู่ยุคนี้เห็นว่าผมมีกล้องดิจิต้อลแล้ว ผมได้ทำการทดลองอีกครั้ง โดยทำปิรามิดและลูกบาศก็จากแผ่นอะคิวหลิค ที่สำคัญต้องทำให้มีปริมาตรของลูกบาศก์เท่ากับปิรามิด ผมได้ทำการทดลองกับลูกแอ็ปเปิ้ล และเพื่อความยุติธรรมที่สุด ผมได้ใช้ลูกแอ็ปเปิ้ลลูกเดียวกัน แต่มาผ่าซีกเป็นสี่ซีกเท่าๆกัน ซีกแรกใส่ปิรามิด ซีกที่สองใส่ในลูกบาศก์ ซีกที่สามวางไว้ข้างนอกเฉยๆ ซีกที่สี่นำใส่ปากรับประทาน

ทดลอง ณ คืนวันที่ 6 ธันวาคม 2550






. . . . จัดการครอบรูปทรงปิดทั้งสอง แล้วติดเทปตามขอบเพื่อไม่ให้อากาศถ่ายเทเข้า-ออกได้เลย




-----รอเวลา-----



******************************




เข้าสู่คืนวันที่ 12 ธันวาคม 2550


. . . . ผ่านไป 6 วัน 6 คืน กับการนำแอ็ปเปิ้ลผ่าซีกใส่ไว้ในปิรามิด และทรงลูกบาศก์ และการวางไว้ข้างนอกเฉยๆ

ยังไงต้องไม่ลืมน่ะครับว่า ผมได้ทำปิรามิดและทรงลูกบาศก์ให้มีปริมาตรเท่ากัน ดังนั้นแบตทีเรียในอากาศที่มองไม่เห็นก็น่าจะเท่ากัน อัตราส่วนก๊าซต่างๆที่อาจจะส่งผลก็น่าจะเท่ากัน และเมื่อมันถูกครอบลงเวลาไล่เลี่ยกัน มันย่อมผ่านการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ความชื้น แสงสว่างมาเหมือนๆกัน เพราะมันวางอยู่ใกล้กันครับ ใช่ว่าจะอยู่อีกซีกโลกหนึ่ง ดังนั้น เมื่อทุกอย่างเหมือนกัน ก็น่าจะได้ผลการทดลองออกมาเหมือนๆกัน ต่างกันเพียงรูปทรงปิรามิดจะมีอะไรดีแฝงอยู่มากกว่านั้นหรือไม่ เราก็มาค่อยๆดูไปทีละซีกกัน

โดยสิ่งแรกที่เห็นก็คือซีกที่วางไว้ข้างนอกเฉยๆ มีสภาพห่อเหี่ยวดังที่เห็น




. . . . ใจหายใจคว่ำกับการเปิดรูปทรงลูกบาศก์ ผลออกมา………
ไม่เป็นอย่างที่คาดไว้เลย คิดว่ามันจะเหี่ยวไม่ต่างจากลูกที่วางไว้ข้างนอก แต่กลับเกิดปรากฏการณ์ประหลาดบางอย่าง แต่ก็เชื่อว่าปรากฏการณ์นี้คงไม่เกินความสามารถนักวิทเฉพาะด้านจะอธิบายได้ นั่นคือการมีเส้นใยสีขาวปรากฏอยู่ ยังกับราเลย ใจก็ฝ่อลงไปแล้ว คิดว่าสภาพซีกแอ็ปเปิ้ลในปิรามิดคงไม่ต่างจากในลูกบาศก์นี้




. . . . ก็ใจตุ้มๆต่อมๆ คิดว่าคงได้ผลการทดลองที่น่าผิดหวัง แต่ยังไงก็ต้องเปิดปิรามิดดูแล้ว
. . . . ผลปรากฏออกมา มีสภาพไม่เหมือนกับสองซีกที่ผ่านมาเลย โอ้วววววว ไม่มีราเป็นเส้นขาวๆอย่างงั้น ส่วนนิยามคำว่า “เหี่ยว” จะใช้ได้กับซีกนี้หรือไม่ก็ไม่รู้ เพราะมันไม่เหี่ยว แต่มันก็มีสีกระดำกระด่างเกิดขึ้น





ลองจับให้ด้านเปลือกหงายขึ้นดีกว่า จะเห็นอะไรบ้าง
ลูกที่วางไว้ข้างนอกเฉยๆ ยังกะสตอบอรี่เลยแฮะ




. . . . ซีกที่อยู่ในทรงลูกบาศก์ ยังกะช้ำในเลย เพราะอะไร มีกระบวนการใดที่ผมทำไม่ยุติธรรมต่อซีกแอ็ปเปิ้ลให้ได้รับอะไรไม่เท่ากัน



ซีกที่อยู่ในปิรามิด
ขอโทษเพื่อนๆอย่างที่ซูดดดดดดดดดดด ลืมแกะตราออก เป็นเหตุแห่งความไม่ยุติธรรมเล็กน้อย แต่คุณคิดว่า ตราอันนี้ส่งผลต่อความแตกต่างทั้งหลายได้หรือไม่
เพราะมันยังกะเล่นตลก ยังกะว่าเป็นซีกที่ผ่าเมื่อวานนี้เลย ดูสีเปลือกยังสดอยู่มาก(น่ากิน) แม้จะมีรอยดำอยู่บ้าง





Before and After





สรุปผลการทดลองน่ะครับ

. . . . เชื่อว่าทรงปิดมีอิทธิพลต่อสิ่งที่อยู่ข้างในพอสมควร คุณคิดว่าถ้าผมไม่ทำทรงลูกบาศก์ขึ้นมาด้วย ผลจะเป็นอย่างไร นอกจากการเห็นว่าของในปิรามิดเน่าช้ากว่าหรือเหี่ยวช้ากว่าของที่อยู่ข้างนอกใช่ไหมครับ ได้ผลการทดลองที่ตื่นตาออกมา
. . . . ดังนั้นผมจึงทำทรงลูกบาศก์ขึ้นมาด้วยเพื่อคานอำนาจปิรามิด จะได้ดูว่าเพราะไม่มีการถ่ายเทอากาศส่งผลด้วยหรือไม่ ซึ่งสำหรับความเหี่ยวแล้ว ผมให้คะแนนซีกที่อยู่ในปิรามิดกับซีกที่อยู่ในลูกบาศก์มีคะแนนเท่ากันครับ

. . . . ซีกที่อยู่ในปิรามิด เหมือนเป็นการรวมเอาข้อดีของอีกสองซีกมาใส่ไว้ในตัวเอง
คือเอาความไม่เหี่ยวเหมือนในลูกบาศก์ และเอาความไม่มีใยขาวๆและไม่มีการช้ำน้ำอย่างซีกข้างนอก มาเป็นต้วเอง



. . . . อ่อ ทั้งหมดถ้าบีบดู มีความยืดหยุ่นพอๆกันด้วยครับ ให้ความรู้สึกว่าไม่สดไม่แข็งเหมือนของใหม่ ซีกในปิรามิดก็ยืดหยุ่นเหมือนกันครับ



Create Date : 13 ธันวาคม 2550
Last Update : 7 ธันวาคม 2551 20:12:31 น. 36 comments
Counter : 6970 Pageviews.

 
อย่างประหลาดใจเลยคะ


โดย: StarInDark วันที่: 13 ธันวาคม 2550 เวลา:21:19:57 น.  

 
เป็นเรื่องที่แปลกดีนะคะ อ่านแล้วชอบจัง แนวๆนี้


โดย: orn IP: 58.8.172.163 วันที่: 13 ธันวาคม 2550 เวลา:23:08:51 น.  

 
ถ้ามีโอกาสได้ลองใหม่อีกที
อยากให้คอนโทนปริมาตรความจุภายในรูปทรง การรั่วไหลของอากาศ การส่องผ่านของแสง และสภาพแวดล้อมต่างๆให้ใกล้เคียงกัน ดูว่าผลจะเป็นอย่างไร


โดย: khanasri IP: 61.7.132.83 วันที่: 14 ธันวาคม 2550 เวลา:10:18:39 น.  

 
O.o ว๊าว


โดย: เฒ่าเจ้าอุบาย วันที่: 14 ธันวาคม 2550 เวลา:10:38:19 น.  

 
เยี่ยมครับ เยี่ยม คิดได้ไงเนี่ยะ 55


โดย: หนุ่มบ้านไกล IP: 202.28.117.233 วันที่: 14 ธันวาคม 2550 เวลา:11:40:48 น.  

 
มีตัวแปลต่างๆที่อาจต้องควบคุมครับ

เรื่องของอุณหภูมิ ความชื้น หรือแสงครับ

เพราะมีผลกับการเน่าของแอบเปิลโดยตรงครับ

ภายในจะต้องเท่ากันเพื่อเป็นตัวแปรควบคุมครับ

ซึ่งควารจะมีตัวแปรตัวเดียวก็คือรูปทรงของสิ่งที่ใช้เก็บเท่าน้นครับ

เพราะหากไม่ใสในปีรมิตเลยแต่มีค่า อุณหภูมิ ความชื้น หรือแสง ต่างกันก็อาจจะมีผลทำให้เกิดดังภาพได้เล่นกันครับ

คืออยากให้ทำการทดลองใหม่อย่างน้อยอีก 3 ครั้งโดยควบควมให้มากที่สุดครับขอบคุณครับ


โดย: Ponkit IP: 222.123.156.233 วันที่: 14 ธันวาคม 2550 เวลา:11:43:51 น.  

 
น่าทึ่งมากครับ


โดย: logsrithm IP: 124.120.162.63 วันที่: 14 ธันวาคม 2550 เวลา:21:22:41 น.  

 
พยายามต่อไปค่ะ สู้ๆ


โดย: เช้านี้ยังมีเธอ วันที่: 15 ธันวาคม 2550 เวลา:3:22:19 น.  

 
20 กว่าปีที่แล้ว ผมเคยทดลองทำปิรามิดครอบหัวแล้วทำสมาธิ ปรากฎเวลาผ่านไปได้สักครู่ รู้สึกวิงเวียนศีรษะ รู้สึกเหมือนว่าพื้นบ้านที่นั่งอยู่มันโคลงเคลงยังไงชอบกล ทดลองอยู่ 2-3 ครั้ง เป็นเหมือนกัน รู้สึกกลัว ไม่เหมือนกับการทำสมาธิก่อนๆนี้เลย สักวันนึงผมจะลองทนดูให้ถึงที่สุดรู้ดีรู้ชั่วกันไปเลย ยังไงลองฝากปฏิบัตดูด้วยครับ ผมอยากรู้ว่าคนอื่นจะเป็นอย่างไร


โดย: tui IP: 124.120.226.221 วันที่: 15 ธันวาคม 2550 เวลา:13:13:25 น.  

 


แปลกดีนะค่ะ


โดย: สาวลากใจ IP: 125.26.21.89 วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:10:59:22 น.  

 
ทำยังไงกับแอปเปิ้ลต่อครับ


โดย: Jump.Jr วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:14:05:10 น.  

 
การทดลองทางวิทยาศาตร์ที่ยังไม่แน่นอน สามารถทำให้น่าเชื่อถือได้ด้วย สถิติครับ ลองทดลองหลายๆ ครั้งจนกระทั่งแน่ใจว่าได้ผลเหมือนกัน


มีกล่องแล้ว แต่ซื้อแอ๊ปเปิ้ลมาเท่านั้น

ปล. ให้สลับพวกเครื่องหมายการค้าด้วย ให้การทดลองครั้งต่อไป ใส่ไว้ในลูกบาศก์ดู


โดย: BB IP: 202.57.143.142 วันที่: 22 ธันวาคม 2550 เวลา:14:01:35 น.  

 
ช่วยบอกขนาดและอัตราส่วนของ ปิรามิดจำลองที่ใช้ด้วยครับ จะไปทดลองบ้าง


โดย: สนใจ IP: 58.9.177.236 วันที่: 17 มกราคม 2551 เวลา:1:36:39 น.  

 
อัตราส่วนปีรามิดของผมเชื่อไม่ได้หรอกน่ะครับ เพราะผมเอาขนาดของแผ่นอะคิวหลิคซึ่งมีขนาด 30*30 ซม.
จึงได้แต่ละด้านสูง 30 ซม. และฐานยาว 30 ซม. ครับ


โดย: สมภพ เจ้าเก่า วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:01:10 น.  

 
ชอบจริง ๆ ครับ นักวิทยาศาสตร์ผู้มีความอดทน


โดย: สาธิต IP: 124.121.142.124 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:44:48 น.  

 
ผมเคยลองทำงานศพปลาทองของผม โดยใส่ไว้ในปิรามิดกระดาษแข็ง วางศพปลาไว้ตรงกลาง จำไม่ได้เรื่องการคำนวณสัดส่วน แต่ต้องวางไว้จุดกึ่งกลางของปิรามิด พบว่าจากนั้นประมาณ สองอาทิตย์ มีกลิ่นเหม็นจางๆเหมือนกลิ่นจิ้งจกตายซาก กลิ่นจะอยู่ประมาณ 2-3 วัน ผมคอยจนครบ หนึ่งเดือน เปิดดูศพปลาทองแค่แห้งลง สีสันยังคงเดิม ไม่มีกลิ่น ไม่มีการติดกับที่รอง (ผมทำแท่นวางด้วย) ศพปลาทองประมาณ 4 นิ้ว


โดย: ผ่านมา IP: 58.9.180.153 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:15:51 น.  

 
ทึ่งอ่ะค่ะ


โดย: bunny2teddy วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:19:06:15 น.  

 


โดย: Nagano วันที่: 24 เมษายน 2551 เวลา:3:24:48 น.  

 
ยอดครับ


โดย: peat IP: 125.24.184.114 วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:23:29:43 น.  

 
พลังงานมีมากกว่าที่คิด


โดย: kappasik IP: 125.24.123.216 วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:14:28:50 น.  

 
น่าจะหาเรื่องทดลองต่อนะคับ..

ตื่นเต้ลๆๆๆๆ....


โดย: หมีบางกอก (Bkkbear ) วันที่: 28 กันยายน 2551 เวลา:23:54:29 น.  

 
น่าสนใจดี


โดย: ืnonamem-64 IP: 58.8.170.85 วันที่: 7 ตุลาคม 2551 เวลา:23:20:47 น.  

 
ซู้ดยอดดดด
มีความพยายามสูง
สู้ๆ ต่อนะ


โดย: _NoNG_Noo_ IP: 125.24.57.57 วันที่: 31 ตุลาคม 2551 เวลา:20:07:26 น.  

 
ภายในปิรามิด พลังงานต่างไม่สลายตัวได้ง่าย อันเนื่องมาจากแต่ละด้านของปิรามิดไม่สะทอ้นกลับ ทำให้มีความคงอยู่ของพลังงานอยู่ได้นาน ไม่แปลกเลยที่ผลการทดลองออกมาเช่นนี้...คุณเป็นคนเก่ง และจะเก่งมาก ถ้าสามารถนำสิ่งที่ได้เอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับมวลมนุษย์ชาติ..


โดย: ไร้นาม IP: 125.25.216.212 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:17:00 น.  

 
คิดว่าการที่แอ๊บเปิลในลูกบาศก์ขึ้นราก็เพราะว่าลูกบาศก์ที่ใช้มีปริมาตรเล็กกว่า ปิรามิด ทำให้เกิดความชื้นจากน้ำที่ระเหยจากแอ๊บเปิลได้มากกว่า ปิรามิด ส่วนแอ๊บเปิลข้างนอก ไม่มีอะไรมาปิดจึงมีการสูญเสียน้ำได้มากกว่าแอ๊บเปิลที่อยู่ในปิรามิดและลูกบาศก์ค่ะ


โดย: กก IP: 58.9.190.62 วันที่: 10 ธันวาคม 2551 เวลา:21:43:47 น.  

 
ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยหน้าสนใจมากๆถ้าเป็นเนื้อสดๆจะเป็นไงเนาะ


โดย: แป้ง IP: 61.7.136.191 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:18:10:43 น.  

 
ดิฉันเพิ่งทดลองทำค่ะ ทำจากกระดาษแข็ง แต่ละด้านเป็นสามเหลี่ยมด้านเท่า 30 ซ.ม. ทุกมุม 60 องศา

ตัดชิ้นเนื้อหมู ไปวางไว้ตรงกลางปิรามิด วางปิรามิดให้ได้ตรงทิศเหนือ ใต้ ผ่านไป 5 วันไปเอาเนื้อหมูออกมา แห้งยิ่งกว่าหมูแดดเดียวอีกค่ะ ฉีกกินสบายเลย พลาดไปหน่อย ไม่ได้เอาอีกชิ้นวางไว้นอกปิรามิด

แต่ตอนนี้ทดลองกันนมสดอยู่ มีเพื่อนชาวแอสโทเนีย เคยทำแล้วบอกว่า นมที่อยู่ข้างนอกปิรามิด รสเป็นนมเสียกินไม่ได้ แต่ในปิรามิดเปรี้ยวแบบกินได้นะ

เพื่อนคนนี้จะเอาน้ำใส่แก้วไปวางไว้ในปิรามิด พอเช้าก็ดื่มน้ำนั้น ก็เห็นเค้าแข็งแรงดี

ก็ว่าจะทำน้ำดื่มนะค่ะ ไม่น่าจะเสียหายอะไร ลงทุนไม่กี่บาทเอง

อีกหน่อยว่าจะทำปิรามิดเพิ่มอีกเอาไว้ถนอมอาหาร ไม่ต้องโดนแมงวันตอม


โดย: ว่าน IP: 90.230.219.239 วันที่: 30 มกราคม 2553 เวลา:1:14:16 น.  

 
น่าสนใจนะเนี่ย ที่มีคนมาสนใจเกี่ยวกับพลังปิรามิด ค้นคว้าต่อไป ดีอยู่ที่หัว กลัวอยู่ที่ใจ ไข้อยู่ที่ท้อง นะท่านพี่น้อง


โดย: ตนบ้า IP: 125.24.141.227 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:16:59:06 น.  

 
เท่าที่เคยอ่านพบ.กำหนด.ฐานล่างของปิรามิดทต้องทำมุม 52องศาครับ ขนาดไม่จำกัด ผมก็สนใจพลังปิรามิดแต่ไม่เคยได้ทำจริงจังสักครั้ง วันหนึ่งต้องได้ทำ


โดย: หมอผี71 IP: 125.25.142.77 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:8:42:47 น.  

 
เพี่มเติมครับ...52.606องศา วางตามแนวแม่เหล็กโลก


โดย: หมอผี71 IP: 125.25.142.77 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:9:02:24 น.  

 
พี่ๆๆบอกขนาดหน่อยดิว่าขนาดเท่าไหร่อะลบกวน

ขอแบบระเอียดนะ

ถ้าได้ก็ส่งมาในเมล์หรือเฟรตบุกก็ได้ครับ

ผมสนใจมากถ้าไม่ลบกวนขอบคุนครับ
funny6264@hotmail.com


โดย: กิตติชัย IP: 182.52.191.2 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2553 เวลา:0:16:59 น.  

 
พี่ๆๆบอกขนาดหน่อยดิว่าขนาดเท่าไหร่อะลบกวน

ขอแบบระเอียดนะ

ถ้าได้ก็ส่งมาในเมล์หรือเฟรตบุกก็ได้ครับ

ผมสนใจมากถ้าไม่ลบกวนขอบคุนครับ
funny6264@hotmail.com


โดย: กิตติชัย IP: 182.52.191.2 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2553 เวลา:0:29:49 น.  

 
เยี่ยมเลยครับ


โดย: Freedom IP: 110.49.226.128 วันที่: 24 ธันวาคม 2554 เวลา:21:14:11 น.  

 
เยี่ยมเลยครับ เป็นการค้นพบฝาชี รูปแบบใหม่ เลยนะครับเนี่ย


โดย: อาหารเหลือเยอะ IP: 27.130.110.68 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:18:45:22 น.  

 
ยอดเยี่ยมครับ ในการพยายาม ทดลองทำ


โดย: MetalWork5 IP: 192.168.0.228, 192.168.0.228, 127.0.0.1, 118.175.5.14 วันที่: 3 เมษายน 2555 เวลา:7:19:47 น.  

 
เยี่ยมมากคะ จว่าแต่เค้าบอกกันว่า พลังจะมากสุด ถ้าวางในตำแหน่ง 1/3 ของความสูง ยังไงลองทดลองอีกทีนะ


โดย: so cool IP: 197.160.53.35 วันที่: 31 ตุลาคม 2556 เวลา:18:34:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมภพ เจ้าเก่า
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




รูปภาพทั้งหมดในนี้ สามารถนำไปใช้ได้ฟรีนะครับ แต่ไม่ควรลบสัญลักษณ์แสดงความเป็นเจ้าของในรูปออกไป รูปใดไม่มีสัญลักษณ์ อยากให้ช่วยอ้างอิง จาก sompop.bloggang.com ด้วยครับ
Blog ล่าสุด
* สัมภาษณ์เทวดาในพระแก้วมรกต 18 มิ.ย. 60
* การสำรวจหินลอยได้ที่เขาคิชฌกูฏ 3 มี.ค. 60
* บทสัมภาษณ์เจ้าพ่อหลักเมือง กทม. 16 ธ.ค. 59
เรื่องเล่าบอกต่อ
* บั้งไฟพญานาค ถ่ายจากโดรนมุมสูง
* เชิญโหลด 7 ภาพยนต์เฉลิมพระเกียรติ
* เช็คอันดับ Blog ของคุณกับ truehits
Blog แนะนำ
* บทสัมภาษณ์เจ้าพ่อหลักเมืองกรุงเทพฯ 19 ก.ย. 57
* ยานพาหนะที่แล่นตามและทวนน้ำได้โดยไม่ใช้พลังงานอื่น
* ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ปี 2012
New Comments
Friends' blogs
[Add สมภพ เจ้าเก่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.